แม้ว่าประเทศสหรัฐจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่าง ๆ มากที่สุดในโลก แต่อเมริกาก็เป็นศูนย์กลางในหลาย ๆ ด้านของโลกเช่นกัน ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า และการศึกษา อเมริกา จัด เป็นประเทศที่เหมาะแก่การศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติประเทศหนึ่ง เนื่องจากมีทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ, อาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก, เนื้อหาการเรียนที่ทันสมัย และนักเรียนต่างชาติทั่วโลก รูปภาพจาก EC English New York ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกามีหลายสาขาวิชาให้นักศึกษาชาวต่างชาติเลือก นักศึกษาจะต้องทำการตัดสินใจเลือกตั้งแต่ประเภทของโรงเรียน หลักสูตรวิชาเรียน และสถานที่ตั้งของโรงเรียน ซึ่งมีตัวเลือกให้เลือกมากมาย ดังนั้น นักเรียนควรจะทำความเข้าใจระบบการศึกษาของประเทศนี้ก่อน เพื่อช่วยให้เลือกโรงเรียนและวางแผนการศึกษาได้อย่างมีประสิธิภาพ โครงสร้างการศึกษาของอเมริกาได้แบ่งระดับในการเรียน ดังนี้
การศึกษาระดับอนุบาล ( Kindergarten) การศึกษาระดับนี้ไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับของเด็กประเทศอมเริกา แต่ผุ้ปกครองก็สามารเอานักเรียนเข้าโรงเรียนเพื่อปรับพื้นฐานในช่วงอายุ 3-6 ปี ก่อนที่จะเริ่มเรียนอย่างจริงจังในระดับประถมศึกษาได้ ระดับประถมศึกษา (Elementary School) การศึกษาระดับประถมศึกษา สำหรับเด็กอายุ 6 ปี มีระยะการศึกษา 6 ปี คือ เข้าเรียนในชั้น Grade 1 ถึง Grade 6 ซึ่งตรงกับประเทศไทย คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 นั่นเอง ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) ก่อนที่นักศึกษาจะสามารถเข้าทำการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นสูง (Higher education) ได้นั้น นักศึกษาจะต้องสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาก่อน ซึ่งจะใช้เวลาทั้งหมด 6 ปี โรงเรียนมัธยมศึกษาหรือ Secondary school มีสองหลักสูตรด้วยกัน หลักสูตรแรกคือ หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น หรือที่เรียกกันว่า “Middle school” หรือ “Junior high school” หลักสูตรที่สองคือหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือ High school และนักศึกษาจะได้รับใบประกาศนียบัตรก็ต่อเมื่อนักศึกษาสำเร็จการศึกษาใน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หลังจากนั้นนักศึกษาจึงสามารถสมัครเข้าทำการศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยหรือ มหาวิทยาลัยได้ ซึ่งเรียกกันว่า “Higher education” ระดับอุดมศึกษา (Higher education) 1. วิทยาลัยชุมชน (Community Colleges) การศึกษาในระดับนี้ มี 2 ลักษณะ คือ
2. วิทยาลัย (Colleges) เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่เปิดสอนในสาขาวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรปริญญาตรี (4 ปี) และปริญญาโท ซึ่งหลังจากที่เรียนจบหลักสูตรแล้ว วุฒิบัตรที่ได้รับจะมีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่าปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยทุก ประการ ไม่ว่าสถาบันนั้นจะเป็นของรัฐหรือเอกชนก็ตาม 3. มหาวิทยาลัย (University) เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่เปิดสอนระดับปริญญาตรีขึ้นไป มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ จะเปิดสอนจนถึงระดับปริญญาโท และเอกใน สาขาต่าง ๆ 4. สถาบันเทคโนโลยี (Institute of Technology) โดยส่วนใหญ่ มักจะมุ่งเน้น ที่การเรียนการสอนในสาขา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี จนถึง ระดับปริญญาโท และเอก การศึกษาในสหรัฐอเมริกานั้นแต่ละรัฐจะควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนและวางแผน การศึกษาของตนเองโดยไม่ขึ้นกับรัฐบาลกลาง ทุกรัฐจะมีหน่วยงานการศึกษาคล้ายกับกระทรวงศึกษาธิการคอยกำหนดมาตรฐานต่างๆ แนะนำเงินงบประมาณอุดหนุนให้โรงเรียน วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย จากเงินภาษีที่เก็บได้จากประชาชนในแต่ละรัฐ |