ในโครงสร้างที่ 2 Subjective Complement หรือ ส่วนขยายประธาน คือ กลุ่มคำที่ตามหลัง Verb to be / Linking Verb (ตัวอย่าง linking verb คือ become, seem, turn, appear, sound, remain, feel, etc.) โดยส่วนขยายประธานเป็นได้ทั้งคำนาม (Noun) และคำคุณศัพท์ (Adjective) Show วิเคราะห์ประโยค : SVC
Doctors and nurses (Subject) + become (Linking Verb) + the hero for treating desperately ill coronavirus patients. (complement) Pronoun หรือในภาษาไทย คือ คำสรรพนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำนาม เราจะใช้คำสรรพนามเพื่อแทนคำนามที่ได้พูดถึงไปแล้ว หรือพูดถึงคน สัตว์ สิ่งของ โดยแบ่งตามลำดับของผู้พูด บุรุษที่ 1 บุรุษที่ 2 และบุรุษที่ 3 โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษประกอบไปด้วยอะไรกันบ้างเอ่ย วันนี้เราจะมาเรียนรู้โครงสร้างของประโยคกันนะครับ จะได้หายข้องใจกันเสียที โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษรูปประโยคภาษาอังกฤษ (sentence structure) หรือภาษาไหนๆก็ตาม ก็คือการนำเอาคำศัพท์มาต่อเข้าด้วยกัน โดยเอาคำชนิดต่างๆทั้ง 8 ชนิด ที่เรียกว่า Part of Spech มาต่อเข้าด้วยกัน ถ้าสื่อความหมายแล้วรู้ว่า ใคร ทำอะไร ก็แสดงว่าเป็นประโยคที่สมบูรณ์ เรียนรู้เรื่อง ⇒ Part of Spechโครงสร้างประโยคการจะเป็นประโยคสมบูรณ์ได้นั้น จะต้องประกอบไปด้วย
ภาคขยาย จะมีหรือไม่มีก็ได้ การใส่ภาคขยายเข้ามาเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ประโยคที่มีเฉพาะคำกริยาถึงแม้จะมีแค่คำกริยา ก็ถือว่าเป็นประโยคสมบูรณ์ได้เช่นกัน ประโยคชนิดนี้เรียกว่าประโยคคำสั่ง ซึ่งจะละประธานของประโยคคือคำว่า คุณ ไว้ในฐานที่เข้าใจกัน
นี่คือคำสั่งให้ คุณทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ แต่ละคำว่า You ซึ่งเป็นประธานของประโยค ส่วนประโยคต่อไปนี้ได้เพิ่มภาคขยายเข้ามา เพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ประโยคที่มีประธานและคำกริยาประโยคที่มีทั้งประธานและกริยา เป็นประโยคบอกเล่าทั่วไป ให้รู้ว่าใครทำอะไร ซึ่งคำกริยาต้องมีความหมายสมบูรณ์ ไม่ต้องมีกรรมก็สามามารถสื่อความหมายได้ชัดเจน เช่น
ประโยคด้านบน ถึงแม้จะมีแค่ประธานกับกริยา ก็สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจน สมบูรณ์ ส่วนด้านล่างนี้ได้เพิ่มภาคขยายเข้ามา เพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ประโยคที่มีประธาน กริยา และกรรมประโยคที่มีทั้งประธาน กริยา และกรรม ก็เป็นประโยคบอกเล่าทั่วไปคล้ายกันกับด้านบน แต่ถ้าไม่มีกรรมมารองรับ ประโยคแบบนี้จะไม่สามารถสื่อความหมายได้สมบูรณ์ เช่น ฉันกิน… กินอะไรล่ะ พูดให้จบ
ประโยคด้านบนนี้สื่อความหมายได้ชัดเจนแล้ว แต่ถ้าเราจะเสริมภาคขยาย ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ประโยคสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เหล่านี้คือโครงสร้างภาษาอังกฤษพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ที่เริ่มศึกษาภาษาอังกฤษได้เข้าใจในเบื้องต้น ว่าโครงสร้างของ ประโยคต่างๆ ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ในระดับสูงขึ้นไปกว่านี้นิดนึง เราจะเรียนรู้โครงสร้างภาษาอังกฤษ 5 ชนิดด้วยกัน (5 Sentence Structures) เดี๋ยวจะมาอัพเดทให้ได้ศึกษากันนะครับ เรียนรู้เรื่อง ⇒ Sentence Structureแต่ถ้าจะศึกษา structure sentence จริงๆแล้วละก็…ต้องศึกษาเรื่อง Tense ทั้ง 12 นะครับ อันนั้นคือโครงสร้างของจริงเลยแหล่ะ ค่อนข้างจะมีกฎเกณฑ์มากมายให้เราได้ศึกษากันจุใจเลย โครงสร้างภาษาอังกฤษมีกี่โครงสร้างโครงสร้างของประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ภาคประธาน (Subject) ที่เป็นคำนาม สรรพนาม หรือกลุ่มคำนาม และ ภาคแสดง (Predicate) ประกอบด้วยกริยา กรรม หรือส่วนขยาย โดยโครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษมี 5 โครงสร้างด้วยกัน ดังนี้
โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษมีกี่แบบโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ (Sentence Structures). Subject + Verb. ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ ... . Subject + Verb + Object. ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ ... . Subject + verb + Subjective Complement. ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ ... . Subject + Verb + Indirect Object + Direct Object. ... . Subject + verb + Object + Objective Complement.. โครงสร้างของประโยคมีอะไรบ้างโครงสร้างของประโยค
ประโยคจะมีความสมบูรณด้วย จะต้องประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ ภาคประธานและภาคแสดง ภาคประธาน หมายถึง ส่วนสำคัญของข้อความเป็นผู้กระทำ กำ ส่วนใหญ่เป็นคำนาม หรือสรรพนาม ภาคประธานประกอบด้วย บทประธาน และ/ หรือ บทขยายประธานหรือความเป็นไป
ประโยคสมบูรณ์คืออะไรประโยคจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีทั้งภาคประธานและภาคแสดง ประโยคยังแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ ประโยคความเดียว ที่มีประธานเดียวและภาคแสดงเดียว, ประโยคความรวม ที่รวมประโยคความเดียวตั้งแต่ 2 ประโยคเข้าด้วยกัน และ ประโยคความซ้อน ที่มีประโยคความเดียว 1 ประโยคเป็นประโยคหลัก แล้วมีประโยคความเดียวอื่นมาเสริม
|