ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ของปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 5.7 โดยเฉพาะกลุ่มสาขาพืชขยายตัวกว่าร้อยละ 9นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงอัตราการเจริญเติบโตของภาวะเศรษฐกิจการเกษตร หรือ GDP ภาคเกษตรช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ว่า ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ของปี 2565 ระหว่างเดือนเมษายน–มิถุนายน ขยายตัวร้อยละ 5.7 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งเป็นการเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ขยายตัวร้อยละ 4.1 โดยเฉพาะในกลุ่มสาขาพืช ขยายตัวร้อยละ 9.3 แสดงให้เห็นว่าภาคการเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อเกษตรกรที่มีอยู่กว่า 30 ล้านคน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายขับเคลื่อนให้ภาคเกษตรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการขับเคลื่อนภาคการเกษตร นำเทคโนโลยีนวัตกรรมระบบ Big Data มาช่วยลดต้นทุน รวมถึงแนวทางตลาดนำการผลิต พร้อมสนับสนุนเกษตรกรโดยเฉพาะมีปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรให้มากขึ้น ทำเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ รวมถึงความร่วมมือกับภาคเอกชนให้เกษตรกรมีการจำหน่ายสินค้าราคาได้เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากสุขอนามัยความปลอดภัยแล้วยัง ต้องให้ความสำคัญนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อผลดีต่อภาคการค้า เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ยังได้แนะนำให้เกษตรกรดำเนินการตามนโยบายเศรษกิจชีวภาพ หรือ BCG โมเดล เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น ข้อมูลข่าวและที่มา ผู้สื่อข่าว : นภสร แก้วคำ(2) / สวท. ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา แหล่งที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จำนวนเกษตรกร มีเท่าไร ? พร้อมวิเคราะห์เชิงลึกเกษตรกรไทยทำอะไรกันบ้าง ! ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ในปีที่ผ่าน GPD ภาคเกษตรประเทศไทยเติบโตเฉลี่ย 0.5% จากปี 2561อ้างอิงสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนปี 2563 สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ว่าในปีนี้ GDP ภาคการเกษตรอาจติดลบ 5%จากภัยแล้งที่เกิดขึ้น ในปัจจุบันข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อัปเดต 21 เมษายน 2563 พบว่า ประเทศไทย มีเกษตรกรทั้งสิ้น 8,094,954 ครัวเรือน 9,368,245 ราย มีเกษตรกรมากถึง4,900,875 ราย เป็นเกษตรกรที่หาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกพืช เป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังพบว่าในวันนี้เกษตรกรในประเทศไทย มีการทำเกษตรแบบผสมผสานปลูกพืช-เลี้ยงสัตว์ หรือไร่นาสวนผสมมากกว่า 37% ของเกษตรกรทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงจากการทำเกษตรเป็นอย่างเดียว จำนวนเกษตรกร8,094,954 ครัวเรือน 9,368,245 ราย ปลูกพืช 4,809,026 ครัวเรือน (59.41%) 4,900,875 ราย (52.31%) เลี้ยงสัตว์ 835,485 ครัวเรือน (10.32%) 853,381 ราย (9.11%) เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 63,033 ครัวเรือน (0.78%) 66,636 ราย (0.71%) ปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ 1,897,439 ครัวเรือน (23.44%) 2,901,546 ราย (30.97%) ปลูกพืช และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 279,400 ครัวเรือน (3.45%) 339,160 ราย (3.62%) เลี้ยงสัตว์ และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 16,825 ครัวเรือน (0.21%) 22,379 ราย (0.24%) ไร่นาสวนผสม 193,746 ครัวเรือน (2.39%) 284,268 ราย (3.03%) ที่มา :กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 21 เมษายน 2563 ที่ผ่านมาเกษตรกรไทยมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าในปี 2557 มีเกษตรกรไทย 6,047,824 ครัวเรือน เพิ่มเป็น 7,271,759 ครัวเรือน ในปี 2561 เกษตรกรในประเทศไทย 2557 6,047,824 ครัวเรือน 2558 6,516,347 ครัวเรือน 2559 6,813,995 ครัวเรือน 2560 7,010,191 ครัวเรือน 2561 7,271,759 ครัวเรือน ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังเป็นภาคที่มีเกษตรกรไทยมาที่สุดถึง 46.6% เนื่องจากเป็นภาคที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เหมาะกับการเกษตร โดยอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีเกษตรไทยมากที่สุด จำนวน 311,630 ครัวเรือน และภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีเกษตรกรน้อยที่สุด เพียง 9,247 ครัวเรือน เกษตรไทยอยู่ที่ไหนกัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 46.6% ภาคเหนือ 22.2% ภาคใต้ 17.1% ภาคกลาง 14.1% ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ 5 จังหวัดเกษตรกรสูงสุด อุบลราชธานี 311,630 ครัวเรือน นครราชสีมา 307,510 ครัวเรือน ขอนแก่น 244,060 ครัวเรือน ศรีสะเกษ 244,002 ครัวเรือน ร้อยเอ็ด 235,092 ครัวเรือน ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีเกษตรกรน้อยที่สุด เพียง 9,247ครัวเรือน ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำหรับพื้นที่ถือครองการเกษตรในประเทศไทยในปี 2561 มี ประมาณ 112.8 ล้านไร่ แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 52.4 ล้านไร่ ภาคเหนือ 26.7 ล้านไร่ ภาคกลาง19.1 ล้านไร่ ภาคใต้ 14.6 ล้านไร่ ผู้ถือครองที่การเกษตร มีเนื้อที่ถือครองขนาด 10 – 39 ไร่ 50.9% ต่ำกว่า 6 ไร่ 23.6% มากกว่า 140 ไร่ ขึ้นไป 0.7% อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
|