ข้อดี ข้อเสียของการ สื่อสาร ทางการ ตลาด

ในยุคปัจจุบัน สินค้าและบริการทุกชนิด มีอัตราแข่งขันทางตลาดที่สูงขึ้นมาก จึงทำให้ผู้ผลิตสินค้ารวมทั้งผู้ให้บริการหลายๆเจ้า จำเป็นต้องพยายามสร้างภาพลักษณ์อันดีงามให้แก่แบรนด์ตัวเอง เพื่อ ‘เพิ่มมูลค่าให้แก่ตัวสินค้า’ จากวิธีโฆษณารวมทั้งประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ให้สิ่งเหล่านี้เข้ามาเป็นตัวดึงดูดผู้บริโภค ให้พวกเขาเกิดความอยากได้ – อยากมี ในสินค้าหรือบริการเหล่านั้นมากจนกระทั่งหาซื้อและมาใช้บริการ โดยสิ่งเหล่านี้เรียกว่า ‘การสื่อสารทางการตลาด’ (Marketing Communication) ซึ่งนำวิชาสื่อสารมวลชน มาผสมผสานเข้ากับการสื่อสารทางการตลาดนั่นเอง

สำหรับในประเทศไทย สาขาสื่อสารมวลชน เป็นวิชาที่รู้จักกันดีมามากกว่า30 ปี จัดเป็นสาขาที่บุคคลากรซึ่งทำงานในสายงานบันเทิงส่วนใหญ่เลือกเรียน เช่น สายงานโทรทัศน์ , วิทยุ , ผู้สร้างภาพยนตร์ , นักข่าว เป็นต้น เมื่อมาดูในส่วนของขั้นตอนทำงาน คุณจะพบว่านักสื่อสารทางการตลาดกับนักสื่อสารมวลชนทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสินค้าหรือบริการต่างๆให้เป็นที่รู้จักอย่างขว้างขวาง สามารถเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงเป้า ในส่วนของวัตถุประสงค์หลักของนักการตลาด ก็คือ ต้องสร้างยอดขายให้ได้กำไรมากๆ

แต่สำหรับวัตถุประสงค์หลักของนักสื่อสารการตลาด คือเป็นผู้สร้างภาพลักษณ์ดีๆให้กับแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก ตลอดจนใส่ใจในเรื่องสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างสินค้ากับลูกค้า ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีเกิดสื่อสารทางตลาด ก็จะมีคำว่าสร้างแบรนด์เข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับหัวใจของนักสื่อสารการตลาด คือ สื่อสารข้อมูลอย่างถูกต้อง , ตรงช่องทาง , เหมาะสมแก่เวลา และถูกกลุ่มเป้าหมาย โดยให้การสื่อสารซึ่งส่งออกไปนั้น เกิดประสิทธิภาพมากสุด ส่วนกำไรก็จะตามมาถ้าการสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพจริงๆ

สำหรับในความคิดเห็นของคนทำธุรกิจ ทางสายงาน Marketing Communication หรือการสื่อสารทางตลาด ทำให้หลายๆคนมองว่า นักการตลาดธรรมดาก็สามารถเข้าไปทำงานทางด้านสื่อสารการตลาดได้ แต่สิ่งที่หลายๆคนไม่เคยรู้มาก่อน ก็คือ เนื้อหาของวิชาสื่อสารการตลาด จะมุ่งเน้นไปยังวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารเป็นหลัก ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใจถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตลอดจนเข้าใจสินค้าและบริการ ได้ตรงตามที่ผู้ผลิตต้องการจะนำเสนอให้ผู้บริโภคได้รับรู้ ไม่ว่าจะสื่อสารด้วยวิธีใดก็ตาม ทั้ง คำพูด , รูปภาพ , รส , กลิ่น , เสียง ตลอดจนภาพลักษณ์ นี่ก็เป็นหน้าที่ของนักสื่อสารการตลาด ซึ่งต้องนำไปวิเคราะห์ วางแผนพร้อมประยุกต์เครื่องมือสื่อต่างๆให้ส่งถึงลูกค้าได้อย่างถูกต้อง โดยเครื่องมือต่างๆ อันมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลพร้อมชักจูงลูกค้า โดยจะเป็นช่องทางที่นักสื่อสารมวลชนใช้

เมื่อก่อนตลาดแบบ Niche Market ถือเป็นตลาดที่ไม่น่าสนใจมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการหรือนักการตลาดส่วนใหญ่มองว่าสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ยาก รวมถึงผลตอบแทนที่จะได้รับอาจจะไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนเนื่องจากเป็นตลาดขนาดเล็ก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยี การสื่อสาร หรือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนั้นสะดวกขึ้นมาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการในการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน แล้ว Niche Market คืออะไร ในบทความนี้จะบอกถึงลักษะณะของตลาดแบบ Niche Market ความแตกต่างระหว่าง Niche Market กับ Mass Market รวมไปถึงข้อดีและข้อเสียของตลาดให้ทราบกัน

Niche Market คืออะไร

Niche Market คือ ตลาดส่วนหนึ่งของตลาดใหญ่ (Mass Market) ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่มีรสนิยมหรือความชอบที่เฉพาะเจาะจงและแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ทั่วไป โดยกลุ่มคนดังกล่าวนี้อาจมีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการใดสามารถตอบโจทย์ได้ หรืออาจเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นตลาดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงเทคโนโลยี ซึ่ง Niche Market จะมีลักษณะเป็นตลาดขนาดเล็ก แต่ยังสามารถสร้างกำไรให้กับธุรกิจได้ ยกตัวอย่างเช่น ตลาดทั่วไป คือ รองเท้าแฟชันสำหรับผู้หญิง หากเป็น Niche Market จะเป็น ตลาดรองเท้าแฟชันสำหรับผู้หญิงที่มีขนาดเท้าใหญ่พิเศษกว่ามาตรฐาน เป็นต้น 

Niche Market และ Mass Market ต่างกันอย่างไร

ข้อดี ข้อเสียของการ สื่อสาร ทางการ ตลาด

ข้อดีและข้อเสียของตลาดแบบ Niche Market 

การเลือกเจาะตลาดแบบ Niche Market ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน ลองมาดูกันว่าข้อดีและข้อเสียของตลาดแบบ Niche Market คืออะไร เพื่อที่จะได้นำไปวิเคราะห์และประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้อย่างเหมาะสม 

  1. คู่แข่งน้อยราย - เนื่องจากตลาดแบบ Niche Market ค่อนข้างเจาะจงสำหรับกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น จึงจะทำให้ให้มีคู่แข่งน้อยราย และไม่มีคู่แข่งโดยตรง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กลยุทธ์การลดราคาเพื่อการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีกำไรสูงได้เช่นกัน
  2. มุ่งเน้นตรงจุด - Niche Market จะทำให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นเรื่องการสร้างสินค้าหรือบริการ และการสื่อสารทางการตลาดที่สามารถเข้าถึง และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
  3. สร้างสัมพันธ์ที่ดี - Niche Market สามารถสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างใกล้ชิด เมื่อสร้างสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มเป้าหมายแล้วจะทำให้เกิดการแนะนำหรือการบอกต่อไปยังบุคคลใกล้ชิดของกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเดียวกันมากขึ้น
  1. เติบโตอย่างจำกัด - หากต้องการให้ธุรกิจมีการเติบโตเร็ว การเจาะกลุ่มตลาดแบบ Niche Market คงไม่เหมาะนัก เพราะการเติบโตและขยายตัวของธุรกิจที่เจาะตลาดแบบ Niche Market นั้นสามารถขยายธุรกิจได้อย่างจำกัดและเติบโตได้ เนื่องจากสินค้าหรือบริการนั้นมีลักษณะเฉพาะเจาะจงมาก
  2. เสียโอกาสในการพัฒนา - การที่มีคู่แข่งน้อยรายจะทำให้ไม่รู้ว่าต้องปรับปรุงธุรกิจในส่วนใดบ้าง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเสียโอกาสในการพัฒนาตนเองด้วยเช่นกัน
  3. ขนาดของตลาดและการสร้างกำไร - แม้ Niche Market จะเป็นตลาดที่มีขนาดเล็ก แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเล็กจนไม่สามารถสร้างกำไรได้ ดังนั้นต้องวิเคราะห์ให้ดีว่าหากเลือกตลาดนี้แล้วสามารอยู่รอด เติบโต หรือสร้างกำไรได้มากน้อยเพียงใด

การทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า หรือบริการการเลือกกลุ่มเป้าหมาย ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก ปัจจุบันตลาดแบบ Niche Market ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ และเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบในการดำเนินธุรกิจที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีคู่แข่งน้อยราย และสามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างใกล้ชิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตลาดแบบ Niche Market ก็อาจจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างจำกัด รวมไปถึงเสียโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้ขยายเป็นวงกว้างด้วยเช่นกัน