การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ คือ

ECB (European Central Bank)

ธนาคารกลางสหภาพยุโรป

Emerging Market (EM)

ระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ เดิมเรียกว่าตลาดกำลังพัฒนา แบ่งออกตามภูมิภาค 3 โซนด้วยกัน 1. ประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ไทย, เกาหลีใต้, จีน, อินเดีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย และปากีสถาน 2. ประเทศแถบละตินอเมริกา ได้แก่ อาร์เจนตินา, บราซิล, ชิลี, โคลัมเบีย, เม็กซิโก, เปรู และเวนาซูเอลา 3. ประเทศแถบยุโรปตะวันออกและตะวันออกกลาง ได้แก่ สาธารณรัฐเชก, ฮังการี, โปแลนด์, รัสเซีย, อิสราเอล, จอร์แดน, โมร็อคโค, อียิปต์, แอฟริกาใต้ และตุรกี

Equity

หุ้นสามัญของบริษัทต่าง ๆ หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เป็นต้น

Equtiy Fund

กองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งตราสารแห่งทุนหมายความถึงหุ้นสามัญของบริษัทต่าง ๆ หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เป็นต้น

ETF (Exhange Traded Fund)

เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีอ้างอิง โดยดัชนีอ้างอิงมีทั้งที่เป็นดัชนีราคาหลักทรัพย์ (SET INDEX) , ดัชนีตราสารหนี้ รวมถึงดัชนีอ้างอิงราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน ทั้งนี้ บลจ. จะนำหน่วยลงทุนไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านโบรกเกอร์ เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น ที่ราคาซื้อขายปัจจุบัน (Real time) ในตลาด ณ ขณะนั้น และบลจ. จะทำการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกับผู้ลงทุนรายใหญ่ เรียก ว่า Participating Dealer (PD) ซึ่งอาจเป็นบริษัทหลักทรัพย์หรือธนาคารพาณิชย์ โดยตรง โดย PD จะนำหลักทรัพย์หรือหุ้นที่อยู่ในกลุ่มดัชนีอ้างอิงมาแลกเปลี่ยนกับหน่วยลงทุน และจะมีผู้ลงทุนรายใหญ่อย่างน้อย 1 ราย ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (market maker) เพื่อให้ราคาซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดรองสะท้อนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมได้อย่างใกล้เคียง

    • เลือกกองทุน
      ตามจุดประสงค์

    • กองทุนติดดาว จาก Morningstar
    • กองทุนที่น่าสนใจ
    • เพิ่มค่าเงินลงทุน สร้างผลตอบแทนระยะยาว
    • ผันผวนต่ำ รักษาเงินลงทุน
    • กระจายการลงทุน หลายสินทรัพย์
    • รับเงินปันผล
    • รับเงินคืนระหว่างการลงทุน
    • ลดหย่อนภาษี (SSF)
    • ลดหย่อนภาษี (RMF)
    • เลือกกองทุน
      ตามนโยบายการลงทุน

    • กองทุนรวมตลาดเงิน
    • กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้
    • กองทุนรวมดัชนี
    • กองทุนรวมตราสารแห่งทุน
    • กองทุนรวมผสม
    • กองทุนรวมเพื่อการออม
    • กองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก
    • กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
    • กองทุนรวมหุ้นระยะยาว
    • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
    • กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ / โครงสร้างพื้นฐาน
    • กองทุนที่มีกำหนดอายุโครงการ
    • กองทุนรวมอื่นๆ
    • Get NAV

    • มูลค่าหน่วยลงทุน

    • ผลการดำเนินงาน

    • มูลค่าหน่วยลงทุนย้อนหลัง

    • เปรียบเทียบกองทุน

    • ปฏิทินวันหยุดต่างประเทศ

    • ปฏิทินการลงทุน

    • ประวัติการจ่ายเงินปันผล &
      การรับซื้อคืนอัตโนมัติ

    • ดาวน์โหลด
      เอกสารกองทุนรวม

    • รายงานกองทุนรวม

    • แบบประเมินความเสี่ยง

    • เปิดบัญชีกองทุนผ่าน
      SCBAM FUND CLICK

    • เปิดบัญชีกองทุน
      ผ่าน SCB EASY

  • หุ้น และประเภทของหุ้น

    หุ้น หรือ Stock เป็นตราสารที่กิจการออกให้แก่ผู้ถือ (Holder) เพื่อระดมเงินทุนไปใช้ในกิจการ โดยผู้ถือตราสารทุนจะมีฐานะเป็น "เจ้าของกิจการ" ซึ่งจะมีส่วนได้ส่วนเสีย หรือมีสิทธิในทรัพย์สิน และรายได้กิจการ รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล (Dividend) ซึ่งอยู่กับผลกำไร และข้อตกลงของกิจการนั้นๆ

    โดยทั่วไปหุ้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

    1. หุ้นสามัญ (Common Stock) เป็นตราสารที่ออกโดยบริษัทมหาชนจำกัด (บมจ.) ที่ต้องการระดมเงินทุนจากประชาชน โดยผู้ถือหุ้นสามัญจะมีสิทธิร่วมเป็นเจ้าของบริษัท  มีสิทธิในการออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนของหุ้นที่ถือครองอยู่ กล่าวคือ ร่วมเป็นผู้ตัดสินใจในปัญหาสำคัญในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เช่น การเพิ่มทุน การจ่ายปันผล การควบรวมกิจการ ฯลฯ

    นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นสามัญยังมีสิทธิได้รับเงินปันผลเมื่อบริษัทมีผลกำไร และมีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคาเมื่อราคาหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นตามศักยภาพของบริษัท รวมถึงมีโอกาสได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นออกใหม่ เมื่อบริษัทเพิ่มทุนหรือจัดสารใบสำคัญแสดงสิทธิต่างๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้น

    2. หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) เป็นตราสารที่ผู้ถือมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการเช่นเดียวกับหุ้นสามัญ แม้จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้น แต่เมื่อกิจการมีกำไรจากการดำเนินงาน ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับเงินปันผลในอัตราคงที่ ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยกว่าผู้ถือหุ้นสามัญก็ได้ ขณะเดียวกัน หากกิจการนั้นต้องเลิกกิจการ และมีการชำระบัญชีโดยการขายทรัพย์สิน ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์ก็จะได้รับเงินคืนทุนก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ

    (ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

    Toplist

    โพสต์ล่าสุด

    แท็ก