ข้อมูลดี ๆ ของน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่คนมีรถควรรู้!
ใครที่มีรถยนต์ต่างก็รู้ดีว่าการมีรถสักคันอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่ต้องทำเป็นประจำขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้รถบ่อยก็ควรจะเปลี่ยนเร็วและบ่อยกว่าคนที่ใช้รถไม่บ่อย ซึ่งถ้าไม่เปลี่ยนตามกำหนดก็อาจส่งผลให้การทำงานของเครื่องยนต์ อาจจะต้องจ่ายค่าซ่อมรถมากกว่าค่าเปลี่ยนน้ำมันก็เป็นได้ วันนี้ iPrice Thailand มีข้อมูลดี ๆ ของน้ำมันเครื่องรถยนต์มาฝากกัน จะมีอะไรบ้างไปอ่านพร้อมกันเลย
น้ำมันเครื่องรถยนต์ดีอย่างไร ?
รักษาเครื่องยนต์ให้สะอาดอยู่เสมอ
ในขณะที่สารหล่อลื่นไหลเวียนผ่านเครื่องยนต์ของรถ จะสามารถดักจับกับสิ่งสกปรกได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปน้ำมันแบบธรรมดาอาจก่อให้เกิดตะกอน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานนั้นไม่เหมือนเดิม น้ำมันที่เกิดการตกตะกอนก็จะส่งผลให้รถทำงานช้าลง ดังนั้นควรเปลี่ยนน้ำมันตามเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบสกปรกในเครื่องยนต์ของรถนั่นเอง
ไหลลื่นได้ดีในอุณหภูมิต่ำ
เมื่อรถของคุณจอดสนิทเป็นเวลานาน เช่น การจอดข้ามคืน ระดับน้ำมันก็จะตกลงอยู่ที่ถังพัก แต่เมื่อคุณสตาร์ทรถอีกครั้งในตอนเช้า น้ำมันเครื่องก็จะเริ่มถูกนำมาใช้โดยการไหลผ่านชิ้นส่วนเครื่องยนต์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันแรงเสียดทาน
ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่าในอุณหภูมิที่สูง
เมื่อคุณขับรถ แน่นอนว่าความร้อนของเครื่องยนต์จะสูงขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไปอุณหภูมิที่สูงนี้อาจจะทำให้ของเหลวที่เติมเข้าไประเหยได้ ทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอในที่สุด น้ำมันเครื่องจึงถูกผลิตขึ้นมาเพื่อต้านทานอุณหภูมิสูงเหล่านี้
ป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น
เพราะชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จะทำงานสัมผัสกันอยู่เสมอ รวมไปถึงการเสียดสีกันด้วยความเร็วสูง เพราะฉะนั้น การทำงานของเครื่องยนต์ทำให้ส่วนประกอบต่าง ๆ สามารถสึกหรอ และแตกหักได้ น้ำมันเครื่องนี้ก็จะช่วยเคลือบเป็นเกราะป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่าง ๆ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกน้ำมันเครื่องอย่างไรให้ตอบโจทย์ที่สุด ?
ปัจจุบันมีน้ำมันเครื่องรถยนต์หลากหลายมาก ดังนั้นเราต้องมีหลักการในการเลือกดังต่อไปนี้
การเลือกใช้ตามประเภทให้ถูกต้อง
อันดับแรกคุณต้องรู้จักประเภทเครื่องยนต์ของรถตัวเองก่อนเป็นอย่างแรก และเลือกใช้ให้ถูกประเภท โดยทั่วไปแล้วจะมีอยู่สองประเภทคือ น้ำมันเครื่องเบนซิน และน้ำมันเครื่องดีเซล รถเบนซินควรใช้น้ำมันเครื่องเบนซิน หรือรถดีเซลควรใช้น้ำมันเครื่องดีเซล
เลือกประเภทหรือเกรดของน้ำมันเครื่อง
แต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ซึ่งมี 3 แบบ ดังนี้
- น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม โดยทั่วไปจะใช้งานได้ประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับชนิดสังเคราะห์ ใช้งานได้ประมาณ 5,000-7,000 กิโลเมตร
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์จากน้ำมันปิโตรเลียม ค่อนข้างเป็นที่นิยม เพราะใช้งานได้ประมาณ 7,000-10,000 กิโลเมตร
เลือกจากค่าความหนืด (ค่า SAE) หรือเบอร์
โดยทั่วไปแล้วบนฉลากน้ำมันเครื่องจะแสดงค่า SEA ที่ย่อมาจาก Society of Automotive Engineers หมายถึง มาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ที่เอาไว้แสดงค่าความหนืดหรือความข้นใสของน้ำมันนั่นเอง ทั้งที่อุณหภูมิต่ำและสูง ที่วางขายทั่วไปส่วนใหญ่จะระบุไว้ดังต่อไปนี้
- ตัวเลขชุดแรก หมายถึง ค่าการทนความเย็นของน้ำมัน หรือค่าความต้านทานการเป็นไขของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ ซึ่งมีตั้งแต่ 0-20W
- ตัวเลขชุดหลัง หมายถึง ค่าความหนืดของน้ำมันที่อุณหภูมิสูง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวเลข มีตั้งแต่ 5, 10, 20, 30, 40, 50 และ 60 ตามลำดับ โดยความหนืดที่เหมาะสมสำหรับเครื่องยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 20-40
สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ได้แล้ว
- อย่างแรกเลยคือ คุณจะรู้สึกเร่งไม่ค่อยขึ้น เพราะน้ำมันเครื่องรถยนต์เป็นตัวหล่อลื่นในเครื่องยนต์ หากน้ำมันเสื่อมสภาพและมีการสะสมสิ่งสกปรกในเครื่องยนต์ที่มากเกินก็จะทำให้น้ำมันหล่อลื่นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เครื่องอืด เร่งไม่ขึ้น จากที่เหยียบนิดเดียวก็พุ่ง กลับกลายเป็นเร่งไม่ขึ้นเอาง่าย ๆ
- เสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ โดยทั่วไปคนที่ขับรถเป็นประจำตะสามารถสังเกตความผิดปกติได้ เสียงจะดังออกมาจากห้องเครื่องเมื่อสตาร์ทรถ เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้ทราบว่าควรตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้แล้ว หากปล่อยไว้นาน ๆ ย่อมไม่เป็นผลดีแน่ ๆ
- กินน้ำมัน เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์มากขึ้นก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น และส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้น จากเดิมที่เติมเท่านี้ก็ขับได้นาน แต่ช่วงหลัง ๆ น้ำมันหมดเร็วผิดปกติ ทำให้ขับได้ในระยะที่สั้นลง เปลืองน้ำมันมากขึ้น
- ระบบไฟมีปัญหา เพราะน้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพส่งผลให้ระบบไฟรถยนต์มีปัญหาได้ เช่น ไฟไม่ค่อยสว่าง, ไฟกระพริบ หรือแม้กระทั้งไฟติด ๆ ดับ ๆ เป็นต้น
- เครื่องยนต์เกิดการโอเวอร์ฮีท บอกเลยว่าค่อนข้างอันตรายสำหรับเครื่องยนต์ เพราะถ้าเครื่องยนต์มีความร้อนมากเกินไปก็จะทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถใช้งานได้หรือพังเอาง่าย ๆ คราวนี้ต้องซ่อมกันยาว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลจัดเต็มเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องรถยนต์ในวันนี้ จะเห็นว่า น้ำมันเครื่องนั้นมีความสำคัญกับรถของเรามาก เพราะฉะนั้นควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามระยะอยู่เสมอ และหมั่นตรวจเช็คสภาพว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนหรือยัง เพราะสามารถเปลี่ยนก่อนเวลาได้ ทั้งนี้ยังรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเบรค และน้ำมันต่าง ๆ ตามระยะด้วย ลองมาเช็คราคา เปรียบเทียบราคากันก่อนตัดสินใจซื้อได้ง่าย ๆ เพราะเราได้รวบรวมราคาน้ำมันเครื่องสุดพิเศษจากร้านค้าออนไลน์ชั้นนำจากทั่วประเทศไทยมาให้คุณเลือกกันแบบจุใจที่ iPrice Thailand แถมมีส่วนลดและโปรโมชั่นดี ๆ รอคุณอยู่อีกเพียบ!