แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดีราคา

คนที่ใช้งานรถยนต์ในการเดินทางบ่อย ๆ การดูแลรักษาตัวเครื่องยนต์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดที่ควรจะตรวจเช็คในทุก ๆ เดือน นั่นก็คือแบตเตอรี่ของรถยนต์ จุดสังเกตง่าย ๆ เมื่อเริ่มรู้สึกว่ารถสตาร์ทไม่ค่อยจะติด ระบบไฟในรถเริ่มผิดปกติ หรือมีไฟเตือนขึ้นที่หน้าปัดของรถยนต์ นั่นแปลว่าตัวแบตรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพ อาจจะต้องนำเข้าศูนย์ สำหรับคนที่อยากจะซื้อแบตเตอรี่รถยนต์มาเปลี่ยนเองเพราะไม่มีเวลา ไม่สะดวกเอารถเข้าศูนย์และต้องทิ้งรถยนต์ไว้ซึ่งใช้เวลาครึ่งค่อนวัน กำลังมองหาแต่ไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหน ทางเราก็ได้รวบรวม “แบตเตอรี่รถยนต์” ยี่ห้อไหนดี มาถึง 10 ยี่ห้อ เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ จะมียี่ห้อไหนบ้าง มาดูกันเลยครับ

  • วิธีเลือกแบตเตอรี่รถยนต์
  • ตารางเปรียบเทียบรีวิว “แบตเตอรี่รถยนต์” ยี่ห้อไหนดี
    • 1. POWER ZONE แบตเตอรี่ รุ่น 50B24L
    • 2. AMARON 55B24L/R HI LIFE
    • 3. GS BATTERY MFX80L/R
    • 4. FB BATTERY PREMIUM HYBRID F-135
    • 5. 3K BATTERY PMF50
    • 6. MCHANIX BATTERY 95D31L
    • 7. Energizer Q-85/115D23L
    • 8. ยัวซ่าแบตเตอรี่ 50B24L-SMF
    • 9. BOSCH ST  Hightec EFB
    • 10. Panasonic Maintenance Free Car Battery

วิธีเลือกแบตเตอรี่รถยนต์

เลือกขนาดและความจุแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับรถยนต์ สามารถเช็คได้จากแบตเตอรี่ลูกเดิมได้เลย แต่หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อหรือประเภทของแบตเตอรี่ ก็สามารถเช็คได้จากศูนย์ หรือคู่มือได้เช่นกัน ทางผู้ผลิตได้คำนวนความจุของแบตเตอรี่ที่เหมาะสมเอาไว้ให้แล้ว ดังนั้นไม่ควรลดขนาดหรือเพิ่มขนาดความจุแอมป์หรือ Ah ของแบตเตอรี่ ซึ่งอาจส่งผลให้รถยนต์ของคุณมีปัญหาภายหลังได้ รถยนต์ทั่ว ๆ ไป จะมีการใช้ขนาดแบตเตอรี่ ดังนี้

  • รถเก๋งขนาดเล็ก ขนาดเครื่อง 1,000-1,500cc ใช้ความจุแบตเตอรี่ประมาณ 45-60 Ah
  • รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่ ขนาดเครื่อง 1,500 -3,000cc ใช้ความจุแบตเตอรี่ประมาณ 60-75 Ah
  • รถกระบะ, รถเอสยูวี ขนาดเครื่อง 2,000-3,000cc ใช้ความจุแบตเตอรี่ประมาณ 70-90 Ah

เลือกประเภทแบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์ จะแบ่งเป็น 4 ปรเภท ตามสถานะของตัวทำปฏิกิริยาเคมี ดังนี้

แบตเตอรี่แบบไฮบริด (Hybrid Battery) พัฒนามาจากแบตเตอรี่แบบน้ำ โดยแก้ไขให้มีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่า ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 3 เดือน หรือ 15,000 กม. ต่อการเติมน้ำกลั่น 1 ครั้ง มีอายุการใช้งานที่นานกว่าและทนทานกว่า แต่มีราคาค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับรถโดยสาร รถรับจ้าง หรือรถบรรทุกครับ

แบตเตอรี่แบบน้ำ (Conventional Battery) ภายนอกตัวแบตเตอรี่มีปุ่มฝานูนจำนวนมากสามารถหมุนคลายเกลียวเปิดออกได้เพื่อเติมน้ำกลั่น แบตเตอรี่ประเภทนี้ต้องคอยตรวจเช็คและเติมน้ำกลั่นตลอดเวลา ข้อดีคือมีราคาถูก แต่มีค่ากำลังการสตาร์ทก็ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ประเภทอื่น

ตัวอย่างคลายเกลียวเปิดออกได้เพื่อเติมน้ำกลั่น แบตเตอรี่แบบน้ำ

แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง MF (Maintenance Free) ใช้น้ำกรดเป็นตัวทำปฏิกิริยาและมีตัวควบคุมความเสถียรภายใน ช่วยให้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย หรือหากอยู่ในประเทศหรือช่วงระยะเวลาที่มีอุณหภูมิต่ำไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น สามารถตรวจเช็คความจุกระแสไฟฟ้าโดยสังเกตผ่านตาแมวหรือช่องดูลูกลอยครับ

แบตเตอรี่แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free) เป็นการใช้สารละลายแบบเจล มาทำปฏิกิริยาเคมีกับแผ่นโลหะ จะช่วยลดการระเหยของสารเคมีเป็นอย่างดี ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดการใช้งาน มีค่ากำลังการสตาร์ทสูง ตัวแบตเตอรี่ปิดสนิททำให้ของเหลวหรือสารเคมีไม่สามารถรั่วไหลออกมาได้ มีความปลอดภัยแต่มีราคาค่อนข้างสูงครับ

* หากใครที่ไม่มีเวลาดูแลรถยนต์ แนะนำว่าให้เลือกใช้แบตเตอรีแบบแห้ง เพราะไม่ต้องคอยตรวจเช็คและเติมน้ำกลั่นบ่อย ๆ ครับ

ตารางเปรียบเทียบรีวิว “แบตเตอรี่รถยนต์” ยี่ห้อไหนดี

หากคนไหนไม่มีเวลาที่จะอ่านแบบละเอียด ทางเราก็ได้ทำตารางเปรียบเทียบรีวิว “แบตเตอรี่รถยนต์” ยี่ห้อไหนดี สรุปให้แบบสั้น ๆ ทั้ง ราคา ประเภท ขนาดแอมป์ กำลังสตาร์ท ขั้ว และใช้กับขนาดเครื่องยนต์ขนาดกี่ซีซี มาให้แล้ว สามารถคลิกปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลยครับ

1. POWER ZONE แบตเตอรี่ รุ่น 50B24L

ราคาโดยประมาณ 1,499 – 1,568 บาท

ใช้งานน้อย เน้นจอด ไม่เน้นขับ มีรถไว้ประดับบารมี แนะนำแบตกึ่งแห้ง รุ่น 50B24L ยี่ห้อ POWER ZONE ตัวนี้เป็นแบตเตอรี่พร้อมใช้ เติมน้ำ อัดไฟ มาให้เรียบร้อยจากโรงงาน เปิดกล่องแล้วติดตั้งก็พร้อมใช้งานได้ทันที ซึ่งแบตแบบ Maintenance Free หรือ MF ถูกออกแบบมาให้มีอัตราการสูญเสียน้ำที่น้อยมาก จึงไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่นบ่อย ๆ เรียกว่าแทบจะไม่ต้องดูแลเลยทีเดียว นาน ๆ ส่องตาแมวที่บริเวณด้านบนดูสักทีก็เพียงพอแล้วครับ

และแม้จะจอดไว้นานก็ยังสตาร์ทติดง่าย เพราะนอกจากจะออกแบบมาให้สามารถเก็บประจุไฟได้ยาวนานแม้ในที่อากาศเย็นแล้ว ก็ยังมีค่ากำลังสตาร์ท หรือ CCA อยู่ที่ 360 พร้อมรูปแบบการจ่ายไฟสูงอย่างต่อเนื่อง ตัวโครงสร้างเป็นฝา 2 ชั้น ซีลแบบพิเศษปิดสนิท 100 เปอร์เซ็นต์ ป้องกันการระเหยของน้ำกลั่นภายใน ไร้ไอระเหยจากกรดแบตเตอรี่ เป็นแบตขั้ว L ใช้ได้กับรถยนต์หลากรุ่นหลายยี่ห้อ อย่างโตโยต้าก็ ALTIS, VIOS, YARIS หรือจะค่ายคู่แข่งอย่างฮอนด้าก็ ACCORD, CIVIC, CR-V และ HR-V ได้หมดเลยครับ

ประเภท MF (แบตกึ่งแห้ง)
ขนาดแอมป์ 45 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 360
ขั้ว L
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ ไม่เกิน 2,400 CC

2. AMARON 55B24L/R HI LIFE

ราคาโดยประมาณ 2,149 – 2,167 บาท

ทุก ๆ คนที่ใช้รถยนต์ก็น่าจะมีประสบการณ์เดียวกันคือแทบจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก ๆ 2 ปี แต่เราไปรู้มาว่ามียี่ห้อหนึ่งที่สถิติการใช้งานนานสูงสุดของเขาคือ 6 ปี ชื่อว่า AMARON (อมารอน) เป็นแบตเตอรี่จาก Amara Raja Batteries Limited (ARBL) มีโรงงานผลิตแบบครบวงจรมาตรฐานระดับโลกอยู่ที่เมืองติรูปาตี รัฐอานธรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย โดยเน้นไปที่การพัฒนาให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปครับ

โดยในรุ่น 55B24L/R HI LIFE นี้มีแรงดันไฟฟ้า 12 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 45 แอมป์ ใช้ได้กับรถยนต์หลากรุ่นหลายยี่ห้อ มีให้เลือกทั้งแบบขั้ว L อย่างมาสด้าหรือซูบารุ และขั้ว R อย่างฮุนได กำลังสตาร์ทสูง CCA 380 พร้อมการจ่ายกระแสไฟที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง จึงสตาร์ทติดง่ายแม้จอดทิ้งไว้นาน ๆ ทั้งยังสามารถเก็บประจุไฟได้ยาวนาน ใช้งานน้อยก็ไม่ต้องกลัวแบตตายครับ

ประเภท SMF (แบตแห้ง)
ขนาดแอมป์ 45 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 380
ขั้ว L / R
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ ไม่เกิน 2,400 CC

3. GS BATTERY MFX80L/R

ราคาโดยประมาณ 2,169 – 2,187 บาท

สำหรับรถกระบะหรือรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เช่น อัลฟาร์ด (ALPHARD) เครื่องยนต์ใหญ่ จึงต้องการแบตลูกใหญ่ตามไปด้วย GS BATTERY MFX80L/R รุ่นนี้คือคำตอบ ด้วยความจุไฟฟ้า 75 แอมป์ กำลังไฟสตาร์ทสูง CCA 590 มีแผ่นธาตุแคลเซียม 14 แผ่น/ช่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่สูง ทั้งยังเก็บประจุไฟได้ยาวนาน รถจึงสตาร์ทติดได้ง่ายแม้จอดทิ้งไว้นาน ๆ หรือมีการใช้งานที่น้อยก็ตามครับ

เป็นแบตเตอรี่พร้อมใช้ ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน แต่หากใช้งานหนัก สมบุกสมบันก็ต้องหมั่นเช็คทุก ๆ 1 เดือน มีให้เลือกทั้งแบบขั้ว L ที่ใช้กับรถหรูอย่างเลกซัสหรืออัลฟาร์ด รวมไปถึงอีกหลาย ๆ รุ่นของหลาย ๆ ยี่ห้อที่เป็นแบบขั้ว R ด้วย ทั้งยังสามารถเพิ่มเงินอีกไม่ถึง 20 บาท หากต้องการแหวนรองกันขี้เกลือ เพื่อป้องกันสาเหตุทำให้ไฟจากแบตเตอรี่ไหลผ่านไม่สะดวก รถสตาร์ทติดยาก ไดชาร์จชาร์จไฟเข้าได้น้อย และแบตเตอรี่จ่ายไฟได้ไม่สม่ำเสมอด้วยครับ

ประเภท MF (แบตกึ่งแห้ง)
ขนาดแอมป์ 75 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 590
ขั้ว L / R
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ 1,800 – 2,500 CC

4. FB BATTERY PREMIUM HYBRID F-135

ราคาโดยประมาณ 2,650 บาท

หากกำลังมองหาแบตเตอรี่รถใหญ่ อย่างรถบรรทุก ออฟโรด กระบะแต่งเครื่องเสียง หรือพวกรถตู้รถรับจ้างที่ใช้งานสมบุกสมบัน ต้องลองตัวนี้เลย PREMIUM HYBRID F-135 จาก FB BATTERY ที่มีแรงดันไฟฟ้า 12 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 85 แอมป์ กำลังไฟสตาร์ทสูงมากถึง CCA 630 มีแผ่นธาตุแคลเซียม 15 แผ่น/ช่อง โดยเป็นโลหะผสมระหว่างแคลเซียมกับตะกั่วเฉพาะธาตุลบเท่านั้น เพื่อแก้ไขข้อเสียของแบตเตอรี่น้ำที่มีการระเหยของน้ำกลั่นสูงนั่นเองครับ

และเพราะไฮบริดแบตเตอรี่มีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่านี่ล่ะจึงสามารถใช้งานได้นานประมาณ 3 เดือน เทียบเป็นระยะทางก็ไปได้ไกลมากถึง 15,000 กิโลเมตร เช็คระยะไป 1 รอบครึ่งถึงเพิ่งต้องเติมน้ำกลั่นสักที สะดวกดี๊ดี แถมยังไม่ต้องกลัวขี้เกลือจะเกาะขั้วแบตให้เกิดปัญหา เพราะทุกลูกจะมาพร้อมแหวนรองกันขี้เกลือ และไม่ว่ารถของคุณจะเป็นแบบขั้ว L หรือ R รุ่นนี้ก็มีให้เลือกใช้ทั้ง 2 แบบ หายห่วงได้เลยครับ

ประเภท Hybrid
ขนาดแอมป์ 85 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 630
ขั้ว L / R
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ 2,500 – 3,000 CC

5. 3K BATTERY PMF50

ราคาโดยประมาณ 1,349 – 1,387 บาท

เมื่อพูดถึงแบตเตอรี่รถยนต์แล้วจะไม่เอ่ยถึง 3K BATTERY ก็คงไม่ได้จริง ๆ เพราะยี่ห้อนี้การันตีคุณภาพด้วยยอดขายอันดับ 1 คิดดูสิว่าสินค้าประเภทที่คนนิยมขับเข้าไปเปลี่ยนตามร้านหรือที่ศูนย์บริการอย่างแบตเตอรี่ กลับมียอดจำหน่ายออนไลน์ได้หลายพันลูกก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เล่น ๆ จริง ๆ โดยในรุ่นยอดนิยมอย่าง PMF50 เองก็ขายไปแล้วเกือบ ๆ 3,000 ลูก ด้วยความที่รถยนต์ส่วนใหญ่ขนาดไม่เกิน 1,800 cc และรุ่นนี้ก็มีให้เลือกทั้งแบบขั้ว L และ R แบรนด์ดังไว้ใจได้ แถมราคายังถูกกว่าด้วย ใครจะไม่เลือกใช้ล่ะจริงไหมครับ

เป็นแบตเตอรี่แบบ Maintenance Free เรียกย่อ ๆ ว่า MF หรือก็คือแบตกึ่งแห้ง สะดวก ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน แต่ถ้าขับเยอะ ใช้งานหนัก ก็ควรเช็คทุก ๆ 3 – 6 เดือน ซึ่งก็ไม่ได้ยากเลยเพราะเขามีช่องตาแมวด้านบนไว้ให้ส่องดู โดยจะมีการแสดงสถานะอยู่ 3 แบบ คือ ไฟเต็มปกติ / ไฟอ่อนต้องชาร์จเพิ่ม / น้ำแห้งต้องเติมน้ำกลั่น สะดวกมากไม่ต้องมีสกิลงานช่างเทคนิคก็ดูแลเองได้ แรงดันไฟฟ้า 12 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 50 แอมป์ กำลังไฟสตาร์ท CCA 400 จ่ายไฟลื่น เครื่องยนต์เดินเรียบ ยืน 1 ในใจสาย C-segment (รถเก๋งขนาดกลาง) ก็ต้องยกให้รุ่นนี้ล่ะครับ

ประเภท MF (แบตกึ่งแห้ง)
ขนาดแอมป์ 50 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 400
ขั้ว L / R
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ ไม่เกิน 1,800 CC

6. MCHANIX BATTERY 95D31L

ราคาโดยประมาณ 3,300 บาท

ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูกันมากนัก แต่ MCHANIX ก็เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอะไหล่รถยนต์มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งยังมีการผลิตส่งออกไปจำหน่ายกว่า 30 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย ตัวบริษัทเองก็ได้รับรองมาตรฐาน ISO9001 จัดว่าเชื่อถือได้ในคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย สำหรับแบตเตอรี่รุ่น 95D31L นี้เป็นชนิดกึ่งแห้ง (Maintenance Free) แบบที่เราไม่ต้องคอยดูแลน้ำกลั่นบ่อย ๆ ใครขี้หลงขี้ลืม นาน ๆ จะมีเวลาดูสักที เหมาะกับแบบนี้เลยครับ

ส่วนของขนาดแอมป์อยู่ที่ 80 แอมป์ เหมาะสำหรับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ประมาณ 2,000 ถึง 3,000 CC พวกรถ SUV หรือรถกระบะอย่าง D-Max, Triton, Pajero, Colorado หรือ GrandCanival นี่ได้เลย ค่า CCA หรือกำลังสตาร์ทอยู่ที่ 620 ถือว่าแรงใช้ได้ทีเดียว ขั้วแบตเป็นชนิดขั้ว L ลองตรวจเช็ครถของเราเองก่อนว่าเป็นขั้วฝั่งไหนจะได้ซื้อไม่พลาดครับ

ประเภท MF (แบตกึ่งแห้ง)
ขนาดแอมป์ 80 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 620
ขั้ว L
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ 2,000 – 3,000 CC

7. Energizer Q-85/115D23L

ราคาโดยประมาณ 3,550 บาท

ยี่ห้อนี้เขามีตั้งแต่แบตเตอรี่เล็ก ๆ อย่างถ่านไฟฉายที่เราใช้กันเป็นประจำ ไปจนถึงแบตเตอรี่รถยนต์กันเลย สำหรับ Energizer ตัวนี้เป็นรุ่น Q-85/115D23L แบตเตอรี่ชนิด EFB (Enhanced Flooded Battery) ซึ่งเป็นชนิดที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับรถยนต์ระบบ Start-Stop ได้ดีกว่าแบตธรรมดาทั่วไป แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุด 10 เปอร์เซ็นต์ ช่วงไหนน้ำมันแพง ๆ นี่บอกเลยว่าถูกใจแน่นอน นอกจากนี้แล้วยังมีอายุการใช้งานนานกว่าแบตทั่วไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย ยืดเวลาการเปลี่ยนแบตออกไปได้มากขึ้น เป็นใครก็อยากได้นะครับ

ส่วนของขนาดแอมป์อยู่ที่ 70 แอมป์ และมีกำลังสตาร์ท 660 แน่นอนว่าเป็นแบตระบบปิด ทำให้ไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่นให้วุ่นวาย เปลี่ยนเสร็จก็อยู่ไปเลยยาว ๆ ถึงเวลาไฟหมดค่อยเปลี่ยนใหม่ก็พอ ส่วนของขั้วแบตก็มีทั้ง L และ R สามารถแจ้งกับทางผู้ขายก่อนได้เลยว่าต้องการขั้วไหน ใครใช้รถรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็น Start-Stop ซึ่งมีการใช้ระบบไฟฟ้าค่อนข้างมาก ลองดูแบตรุ่นนี้เป็นตัวเลือกก็น่าสนใจดีทีเดียวครับ

ประเภท EFB
ขนาดแอมป์ 70 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 660
ขั้ว L / R
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ N/A

8. ยัวซ่าแบตเตอรี่ 50B24L-SMF

ราคาโดยประมาณ 3,250 บาท

อีกหนึ่งแบรนด์แบตเตอรี่รถยนต์ที่เรารู้จักกันมานาน สำหรับ YUASA Battery แนะนำรุ่น 50B24L ตัวนี้เหมาะกับใครที่ใช้รถเล็กขนาดเครื่องยนต์ไม่มาก เพราะมีขนาดแอมป์ 45 แอมป์เท่านั้น ส่วนของขั้วแบตนั้นจริง ๆ ก็มีทั้ง L และ R เลย สามารถเลือกซื้อจากในออนไลน์กันได้ กำลังสตาร์ทหรือค่า CCA 400 พอเหมาะพอสมกับขนาดแอมป์ ถึงค่าจะไม่ได้สูงแต่ก็เหมาะกับรถเล็ก ซึ่งช่วยให้รถสตาร์ทติดเร็ว บางช่วงหากไม่ได้ใช้รถแล้วจอดทิ้งไว้ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะสตาร์ทไม่ติดครับ

ชนิดแบตเป็นแบตแห้งระบบปิด SMF ใครไม่ชอบต้องมาดูแลเติมน้ำกลั่นบ่อย ๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ชีวิตมาก ได้ลูกใหม่มาก็เปลี่ยนใช้ได้เลยง่าย ๆ ฝาด้านบนออกแบบพิเศษ 2 ชั้น ป้องกันการระเหยของน้ำกรด ไม่ต้องคอยเติมน้ำ ไม่ต้องทำอะไรอีกจนหมดอายุการใช้งาน ราคาเองก็ไม่แพง เป็นอีกรุ่นที่น่าคบหาดูใจเลยล่ะครับ

ประเภท SMF (แบตแห้ง)
ขนาดแอมป์ 45 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 400
ขั้ว L
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ 1,300 – 2,000 CC

9. BOSCH ST  Hightec EFB

ราคาโดยประมาณ 4,000 บาท

จะเห็นว่ารถยนต์รุ่นใหม่ ๆ สมัยนี้เป็นระบบ Start-Stop กันมากขึ้น ใครที่ชอบหรือเลือกใช้รถระบบนี้ ก็จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ที่พัฒนามาให้เหมาะกับระบบโดยเฉพาะ อย่าง BOSCH รุ่น ST Hightec EFB ที่มีการเพิ่มขีดจำกัดในส่วนของการชาร์จพลังงานและความทนทานขึ้นเป็นสองเท่า เพื่อให้รองรับกับการสตาร์ทได้บ่อยครั้งมากยิ่งขึ้น และยังมีอายุการใช้งานที่นานกว่าแบตทั่วไป มีประสิทธิภาพและความทนทานสูง ผลิตจากวัสดุคุณภาพ และเหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงขึ้นกว่าสมัยก่อนครับ

ส่วนของขนาดแอมป์คือ 55 แอมป์ และมีค่า CCA หรือกำลังสตาร์ท 510 สตาร์ทติดเร็ว ไม่มีปัญหาหากจอดรถทิ้งไว้นาน ซึ่งแบตชนิดนี้สามารถใช้กับเครื่องยนต์ทั่วไปได้ โดยจะยิ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และรองรับรถยนต์หลายยี่ห้อหลายรุ่น หากไม่แน่ใจก็สามารถสอบถามผู้ขายก่อนตัดสินใจซื้อได้ โดยหากเลือกซื้อกับช็อปของแบรนด์ก็มาพร้อมบริการติดตั้งให้ด้วย สามารถชำระเงินแล้วเข้าไปรับบริการได้สะดวกมาก ๆ ไม่ต้องห่วงว่าซื้อมาแล้วจะติดตั้งเองผิด ๆ ถูก ๆ ครับ

ประเภท EFB
ขนาดแอมป์ 55 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 510
ขั้ว L
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ N/A

10. Panasonic Maintenance Free Car Battery

ราคาโดยประมาณ 2,510 – 3,660 บาท

จัดมาให้เลือกกันจุใจไปเลย สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ของ Panasonic แบรนด์นี้ไว้ใจในคุณภาพได้อยู่แล้ว ไม่ต้องสาธยายกันเยอะ มีแบตให้เลือกใช้มากมายหลายรุ่น ที่แนะนำนี้จะเป็นแบตกึ่งแห้ง (MF) ไม่ต้องคอยดูแลกันมากนัก นาน ๆ มาส่องทีก็โอเคแล้ว มีขนาดแอมป์ตั้งแต่ 70, 80, 90 และ 100 แอมป์ ซึ่งขนาดค่อนข้างสูง เหมาะกับรถใหญ่ รถตู้ หรือรถกระบะก็ได้ ลองดูขนาดเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกันได้เลยครับ

ตัวแบตเตอรี่มีคุณภาพให้กำลังไฟสูง รวมถึงทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ยิ่งอากาศร้อน ๆ บ้านเราก็ยิ่งมั่นใจได้ แถมยังผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของประเทศญี่ปุ่น มีค่ากำลังสตาร์ทซึ่งวัดจากการทดสอบตั้งแต่ 570 ไปจนถึง 780 เลยทีเดียว เรียกว่าแรงสตาร์ทดีไม่ต้องห่วงแม้จะจอดทิ้งไว้นาน ๆ ขั้วแบตก็มีทั้งแบบ L และ R รถใครใช้ขั้วไหนก็มีให้เลือกได้เลย ที่สำคัญราคาไม่แพง สูงต่ำไปตามขนาดแอมป์ที่ใช้เลยครับ

ประเภท MF (แบตกึ่งแห้ง)
ขนาดแอมป์ 70 – 100 Ah
กำลังสตาร์ท (CCA) 570 – 870
ขั้ว L / R
ใช้กับขนาดเครื่องยนต์ คละขนาด

อ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่าหลาย ๆ ท่าน ที่กำลังจะเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เอง หรือจะซื้อไปให้ร้านเปลี่ยนให้ คงจะได้ยี่ห้อแบตเตอรี่ที่ถูกใจ เหมาะสมกับรถยนต์ของตัวเองกันบ้างแล้ว ถ้าอย่างงั้นอย่ารอช้า กดเข้าไปซื้อกันได้เลยครับ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้แบตรถยนต์ของท่าน ถูกใช้งานจนหมดหรือเสื่อมสภาพ ยิ่งถ้าต้องจั้มสตาร์ทด้วยรถคันอื่นแล้ว ก็อาจจะเสี่ยงทำให้ระบบอิเล็คทรอนิกส์ของรถรุ่นใหม่ ๆ เสียหายได้อีกด้วย แนะนำให้รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่หน่อยจะดีกว่า สุดท้ายนี้ก็ขอขับรถให้สนุก ปลอดภัย ไม่มีปัญหาเรื่องการสตาร์ทรถกันด้วยครับ

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก