ตอนเช้า
การออกกำลังกายตอนเช้าเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ที่ต้องการจะฝึกวินัยให้ตัวเองให้สามารถมาออกกำลังกายได้สม่ำเสมอมากขึ้น เพราะเมื่อสามารถตื่นเช้าได้แล้ว การออกกำลังกายทุกเช้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
เคล็ดลับในการออกกำลังกาย : ในการออกกำลังกายตอนเช้าสิ่งที่สำคัญคือควรอบอุ่นร่างกายให้นานกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บค่ะ
ตอนกลางวัน
การออกกำลังกายตอนกลางวันหรือตอนบ่าย เหมาะสำหรับคนที่มีตารางการทำงานที่ไม่เคร่งครัดมากนัก หรือเป็นคนที่มีบัดดี้ในการออกกำลังกาย เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ตื่นตัวมากที่สุด อีกทั้งการออกกำลังกายกับบัดดี้จะช่วยให้มีแรงกระตุ้นที่จะออกกำลังกายมากขึ้นอีกด้วย
เคล็ดลับในการออกกำลังกาย : ในการออกกำลังกายตอนกลางวัน ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกาย เพราะจะทำให้ออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากหลังจากรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกาย เลือดที่ต้องไหลเวียนไปใช้ที่กล้ามเนื้อเวลาออกกำลังกายจะไหลเวียนไปที่กระเพาะอาหารก่อน ดังนั้นหากต้องการให้ออกกำลังกายได้มากขึ้นควรออกกำลังกายก่อนแล้วค่อยรับประทานอาหาร หรือรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกายสักประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมงจะดีที่สุดค่ะ
ตอนเย็น
การออกกำลังกายในตอนเย็นเป็นช่วงเวลายอดฮิตของหลายๆคน ทว่าไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาในการนอนหลับ เนื่องจากในช่วงเวลาก่อนนอนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายควรอยู่ในสภาวะพักผ่อน คือมีระดับการเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิร่างกายที่เป็นปกติมากที่สุด หากมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับและยิ่งออกกำลังกายจะยิ่งทำให้นอนไม่หลับไปยิ่งกว่าเดิมค่ะ
เคล็ดลับในการออกกำลังกาย : ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหลังออกกำลังกาย และไม่ควรออกกำลังกายใกล้กับเวลานอนมากเกินไป เพราะในช่วงเวลาก่อนนอนควรให้ร่างกายผ่อนคลายลง การออกกำลังกายหรือรับประทานอาหารก่อนนอนอาจยิ่งทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิร่างกายสูงจนนอนหลับยากได้
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะออกกำลังกายในช่วงเวลาไหน หากคิดจะลดน้ำหนักก็ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยควรหาเวลาที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด เพื่อที่การออกกำลังกายจะให้ผลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และการลดน้ำหนักเป็นไปได้ด้วยดี
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่อยากจะลดน้ำหนักแล้วกลับไม่มีเวลา ก็ลองหันมาให้ความสนใจกับการลดสัดส่วนแทน ซึ่งวิธีนี้น้ำหนักอาจจะลงไม่มาก แต่หุ่นดีขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดสัดส่วนแบบที่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา นั่นก็คือ CoolSculpting ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการกำจัดไขมันด้วยความเย็น ใช้เวลาเพียง 35 – 45 นาทีก็สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้ 20 – 30% ช่วยให้สัดส่วนดีขึ้นภายในเวลา 12 สัปดาห์ แถมยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำทันทีเลยล่ะค่ะ
และที่ APEX เราก็มีเทคโนโลยี CoolSculpting ที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยประสบการณ์ในการทำ CoolSculpting มากที่สุดในเอเชีย อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญอย่าง CoolSculpting Specialist ที่พร้อมให้คำปรึกษา คำแนะนำ และช่วยออกแบบรูปร่างให้คุณใหม่ด้วยการทำ CoolSculpting บอกลาการลดน้ำหนักแบบเดิมๆที่ต้องหักโหมมาหุ่นดีด้วยการกำจัดไขมันด้วยความเย็นจาก APEX ดีกว่า รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
เอาใจสาวๆ ที่ไม่มีเวลา เป็นท่าออกกำลังกายก่อนนอน ที่ไม่ได้ช่วยเรื่องลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้หลับสบายอีกด้วย พร้อมแล้วตามไปดูกันเลย!
การ์ตูน
202
Follow
202 13.9K VIEWS 29 May 2021
ดูรูปภาพทั้งหมด
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- 5 ท่าออกกำลังกายก่อนนอน ฟิตง่ายๆ หลับสบาย สลายพุง
- ท่าที่ 1 : Cobra Pose
- ท่าที่ 2 : Superman
- ท่าที่ 3 : V-Up
- ท่าที่ 4 : Russian Twist
- ท่าที่ 5 : Child Pose
5 ท่าออกกำลังกายก่อนนอน ฟิตง่ายๆ หลับสบาย สลายพุง
ท่าที่ 1 : Cobra Pose
ท่าที่ 2 : Superman
ท่าที่ 3 : V-Up
ซิสป้ายยาที่น่าสนใจ
praifah.u
รีทัชผิวง่ายๆ ด้วยรองพื้นแอบบี้ ผิวเนียนสวยฉ่ำ ฉบับสาวเอเชีย!
ผิวหน้า3
0
3.6K
peripearl
คอนแทคเลนส์ไฮยาเจ้าแรกเจ้าเดียวในไทย
ตา7
6
3.6K
ffaifai_ct
Dior Rouge Blush Color Games Collection # 431 Peach Volley🍊✨
9
5
3.2K
ท่าที่ 4 : Russian Twist
ท่าที่ 5 : Child Pose
5 ท่าออกกำลังกายก่อนนอน ทั้งลดน้ำหนัก ทั้งทำให้นอนสบาย!
- ที่มา: www.gangbeauty.com