Botox 2 สัปดาห์ขึ้นไปถึงเห็นผล อยู่ได้ประมาณครึ่งปี แต่ร้อยไหมบางคนประมาณ 1 สัปดาห์ก็เห็นผล อยู่ได้เกือบปี บางคนปีกว่า แล้วแต่ผลลัพธ์ของแต่ละคน แต่สำหรับเรา มันแก้ไขปัญหาไม่เหมือนกัน ถ้าจะเน้นวีเชปเราว่า ฉีดโบท็อกซ์+Nefertiti Lift เหมาะกว่า เราพึ่งทำมาที่ dr.tony หมอแนะนำให้ฉีด Nefertiti Lift เพิ่มเพื่อช่วยยกกระชับอีกทาง เพราะหมอบอกว่าเราหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อยที่ผิวละ เวลาฉีดโบท็อกซ์จะได้ทั้งหน้าเล็กและหน้ายกกระชับไปเลยทีเดียว
หน้าใหญ่ หน้าบาน กรามใหญ่ คงเป็นปัญหาสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ก็มักจะขาดความมั่นใจในตัวเอง แต่ว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ค่ะแม้จะมีมาตั้งแต่เด็กหรือเพิ่งมามีตอนหนุ่มสาว และวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ก็มีมากมาย แต่ในบทความนี้ ฟิออร่า คลินิก จะพาไปดู 2 วิธีที่แก้หน้าบานกันค่ะ นั่นก็คือการฉีดโบท็อกหน้าเรียว และการร้อยไหมหน้าเรียว ไปดูกันค่ะว่าแต่ละวิธีนั้นแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง
โบท็อกหน้าเรียว vs ร้อยไหมหน้าเรียว คืออะไร ?
โบท็อก หรือ Botulinum toxin A (Botox) เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium Botulinum) ซึ่งเริ่มแรกนั้นได้มีการใช้แบคทีเรียชนิดนี้ในวงการแพทย์ เพื่อใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข และได้มีการพัฒนาเป็นนวัตกรรมเพื่อใช้ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเสริมความงามในปัจจุบัน โดยเฉพาะการฉีดโบท็อกหน้าเรียว ที่ช่วยทำให้ใบหน้าเล็กเรียวลงอย่างเห็นได้ชัด
การร้อยไหม คือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ด้วยไหมละลายโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี เส้นไหมที่ใช้เป็นเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงสอดลงในชั้นผิวหนัง โดยไหมจะละลายไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไป 6-18 เดือน
โบท็อกหน้าเรียว vs ร้อยไหมหน้าเรียว ทำงานอย่างไร ?
ฉีดโบท็อกหน้าเรียว หรือสาร Botox จะทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกหน้าเรียวเกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ และเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่ได้ถูกใช้งานไปนาน ๆ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมขนาดกรามจึงเล็กลงและหน้าเรียวลงได้หลังการฉีดโบท็อกหน้าเรียว เพราะกล้ามเนื้อกรามจะถูกใช้งานน้อยลง และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเห็นผลชัดเจนว่าขนาดกรามเล็กลง และหน้าเรียวขึ้น
หลักการของการร้อยไหม คือ การร้อยไหมเส้นเล็กจำนวนมากเป็นเครือข่ายเข้าใต้ผิวหนัง และบริเวณใต้ผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไปจะถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้สร้างคอลลาเจนใหม่มาพันรอบแนวเส้นไหม มีผลให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย
โบท็อกหน้าเรียว vs ร้อยไหมหน้าเรียว เหมาะกับใคร ?
โบท็อกหน้าเรียว เหมาะกับผู้ที่มีกรามใหญ่เพราะกล้ามเนื้อเท่านั้น สามารถทดสอบได้โดยการลองกัดฟันแล้วลองจับบริเวณกรามของคุณก็จะรู้ว่าคุณมีกล้ามเนื้อกรามหรือไม่ และมัดใหญ่แค่ไหน สาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากการใช้กล้ามเนื้อบริเวณกรามมากเกินไป เช่น เคี้ยวหมากฝรั่ง เคี้ยวอาหารอย่างปลาหมึกหรือเนื้อเป็นประจำ หรือมักนอนกัดฟัน สบฟันไม่สนิท เหล่านี้ก็คือเป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
การร้อยไหม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเป็นหลัก และผู้ที่มีปัญหาการบกพร่องของผิวโดยที่ไม่มีเนื้อเยื่อยุบตัวมากเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 40 – 50 ปี เพราะช่วยยกกระชับผิวได้ สำหรับผู้ที่มีอายุน้อย ยังไม่พบปัญหาผิวหย่อนคล้อยจะได้ผลในแง่ของการปรับรูปหน้ามากกว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้หน้าของเรียวเล็กขึ้นมาได้ แต่จะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่อายุต่ำกว่า 25 ปีลงไป หากต้องการปรับรูปหน้าเรียวเล็ก การฉีดโบท็อกหน้าเรียวจะให้ผลที่เหมาะสมกว่าค่ะ
ได้รู้จักโบท็อกหน้าเรียว และการร้อยไหมหน้าเรียวกันแล้ว คงจะตัดสินใจกันได้แล้วนะคะว่าจะจัดการปัญหากรามใหญ่ และควรเลือกวิธีทำให้มีหน้าเรียวด้วยวิธีไหนให้เหมาะสมกับตัวเอง
หากใครสนใจโบท็อกหน้าเรียว ก็มาปรึกษาคุณหมอที่ Fiora Clinic กันได้นะคะ เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างใกล้ชิด โดย คุณหมอเพชร – นายแพทย์ ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ หมอปั้นหน้ามือหนึ่งแห่งสมุครสาคร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม จาก วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังได้รับวุฒิบัตรเฉพาะทาง การฉีดโบท็อก และฟิลเลอร์ จากประเทศ-อเมริกา ตลอดจนผ่านการฉีดโบท็อก และฟิลเลอร์ให้กับดารา เซเลป และบุคคลทั่วไปมากกว่า 8,000 เคส
สนใจปรึกษาคุณหมอและติดต่อจองคิวได้ที่
Fiora Clinic สาขามหาชัย (สมุทรสาคร)
โทร : 099-4145662
Line : @Fioraclinic หรือ //bit.ly/2KrTOha
Facebook Page : //www.facebook.com/FioraByDrPhed/
Inbox : m.me/FioraByDrPhed
Flora Clinic สาขาจันทบุรี
โทร : 062-5464664
Line : @Floraclinic หรือ //nav.cx/7JBRbnp
Facebook Page : //www.facebook.com/Floraclinic.ch/
Inbox: m.me/Floraclinic.ch
คลิปความรู้ เป็นคำถามยอดฮิต ที่ใครหลายๆคนสงสัย และยังสับสนว่า Botox หรือร้อยไหมเลือกทำแบบไหนดีกว่ากัน แล้วแบบไหนอยู่ได้นานที่สุด วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่าแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกวิธีไหนที่จะตอบโจทย์กับเรามากที่สุด
คือ โปรตีนที่ช่วยยับยั้งการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัวไม่ได้และกล้ามเนื้อจะคลายตัวลง จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายตัว เมื่อไม่ได้ใช้งานจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นมีขนาดเล็กลง ดังนั้นเมื่อนำ โบท็อกซ์ มาใช้จะช่วยปรับรูปหน้าทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง หลังจากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะรู้สึกว่าใบหน้าดูเล็กลงและเรียวขึ้นอย่างชัดเจน
ร้อยไหม
เทคนิคที่ใช้ในการช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวโดยการใช้ไหมละลายและไม่ต้องผ่าตัด ไหมตัวนี้จะละลายไปเอง การร้อยไหมจะนำไหมเส้นเล็กจำนวนมากร้อยเข้าไปเป็นเครือข่ายใต้ผิวหนัง บริเวณที่ร้อยไหมเข้าไปจะถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เพื่อสร้างเส้นเลือดใหม่ ทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน การร้อยไหมจะช่วยดึงรั้งผิวหน้าทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับ ส่วนมากการร้อยไหมจะอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี
โบท็อกซ์ VS ร้อยไหม แบบไหนดีกว่ากัน ?
หากถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน ต้องบอกว่าดีทั้งคู่ แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการและดูว่าเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากัน ควรพิจารณาจากปัญหาของแต่ละบุคคลเป็นหลัก โดยเราจะมาสรุปคร่าวๆให้ดูกัน
โบท็อกซ์เห็นผลค่อนข้างเร็ว และไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลใดๆ มีผลข้างเคียงน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดกราม อยากให้ใบหน้าดูคมชัด หรือเพื่อลดเลือนริ้วรอย เช่น รอยตีนกา แต่โบท็อกซ์จะอยู่ได้ไม่นานประมาณ 2-3 เดือน โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ฉีดและบริเวณที่ฉีด
การร้อยไหมนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่อยากยกกระชับใบหน้า แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าโบท็อกซ์ เหมาะกับผู้ที่อายุ 30-60ปี เพราะเนื้อเยื่อต้องไม่ยุบตัวและผิวหนังต้องไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี การฉีดโบท็อกซ์จะเหมาะสมกว่า การร้อยไหมจะอยู่ได้นานกว่าโดยจะคงอยู่ประมาณ1-2ปี แต่จะมีผลข้างเคียงมากกว่าคือจะมีอาการบวมช้ำและมีเลือดออกบริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปเอง
สรุปได้ว่าสำหรับปัญหาริ้วรอยต่างๆ โบท็อกซ์สามารถช่วยได้ แต่อยู่ได้ไม่นาน ส่วนร้อยไหมช่วยยกกระชับได้มากกว่าและอยู่ได้นานกว่าโบท็อกซ์ ดังนั้นไม่ว่าจะโบท็อกซ์หรือร้อยไหม ที่ โนวา คลินิก (Nova Clinic) เรามีบริการทั้งการฉีดโบท็อกซ์และร้อยไหม มีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างใกล้ชิด สามารถมาปรึกษาคุณหมอได้ที่ โนวา คลินิก (Nova Clinic) นะคะ