สังคมทุกแห่งในปัจจุบันนี้ยอมรับกันทั่วไปว่าวัยรุ่น(Adolescence) เป็นช่วงระยะที่สำคัญที่สุด เป็นวัยที่เชื่อมต่อระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ เป็นระยะที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ซึ่งชีวิตบั้นปลายจะราบรื่นหรือไม่เพียงใดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการดำเนินชีวิตของระยะวัยรุ่นนี้ เพราะเหตุว่าเด็กวัยรุ่นจะต้องประสบความยุ่งยาก มีปัญหาต่าง ๆ นานา ประการ และต้องกับความลำบากในการปรับตัวจึงมักมีผู้กล่าวว่า “เป็นวัยวิกฤติ” (Critical Period) บ้าง หรือ “วัยแห่งพายุบุแคม” (Storm & Stress) บ้างทั้งนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงจากวัยเด็กเข้าสู่วัยรุ่นนั้นเป็นไปทีละน้อย ๆ ยากที่จะสังเกตได้ จนไม่ระลึกถึงวัน เดือน ปีใดที่ได้เปลี่ยนจังหวะชีวิตมาถึงวัยรุ่นได้ โดยที่พ่อแม่ที่อยู่กับลูกตลอดเวลาก็มักจะไม่ได้มองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ขึ้นในรูปของตัวเอง ตรงกันข้ามกับการที่คนอื่น ๆ ที่นาน ๆ จะได้พบเห็นสักครั้ง มักจะมองเห็นความแตกต่างที่ผิดหู ผิดตาไปมาก วัยรุ่นมีสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้แก่การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและสรีระ เช่น โครงสร้างทางร่างกาย อวัยวะต่าง ๆ เกี่ยวกับเพศรวมทั้งระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งเจริญเติบโตและพัฒนาการไปตามกระบวนการของมันจนถึงขั้นวุฒิภาวะ (Maturity) หรือเข้าสู่วัยผู้ใหญ่มีความสามารถในการทำงานได้ เด็กทุกคนจะต้องระยะแห่งความเปลี่ยนแปลงในวัยนี้ อาจช้าหรือเร็วย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล นับตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้สังเกตเห็นความละเอียดอ่อนความสับสนทางจิตใจของเด็กวัยรุ่น จึงหาทางช่วยเหลือแก้ไขประคับประคองเขาให้ผ่านพ้นช่วงวัยนี้ได้ดี ให้เข้าสู้วัยผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ สามารถรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัว และต่อสังคมได้ จึงมีตัวอย่างในอดีตกาลได้ทำพิธีฝึกฝนขัดเกลาเด็กวัยรุ่นให้แข็งแกร่ง ของชนเผ่าหนึ่งในทวีปแอฟริกาเป็นชาวป่ากล้าแข็ง มีธรรมเนียมให้ขับเด็กชายวัยรุ่นไปอยู่ป่าอย่างโดดเดี่ยว ต่อสู้ชีวิตกับภยันอันตรายด้วยตนเองเป็นเวลาหลายปีเมื่อถึงกำหนดเวลาเขาเอาตัวรอดกลับคืนมาสู่เรือนเหย้าได้ ก็จัดพิธีต้อนรับเป็นเกียรติยศ ในบางสังคมไทยสมัยก่อนมีการประกาศการย่างเข้าสู่วัยรุ่นของเด็กหญิงชายด้วยพิธีโกนจุก และพิธีอื่น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัยรุ่น และมีผลต่อทางด้านจิตวิทยาอย่างลึกซึ้ง ในแง่การปรับตัวการดำเนินชีวิต การเตรียมตัวเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นคง รวมทั้งเป็นการเชื่อมโยงระหว่างวัยรุ่นกับวัยผู้ใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง กลมกลืน จากการที่มีการยอมรับความเป็นวัยรุ่นของผู้ใหญ่ดังกล่าวยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในครอบครัวและสังคมนั้นๆ เป็นอย่างดี และหลังจากต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา นักวิทยาการหลายสาขาเช่น จิตวิทยา ศึกษาศาสตร์ อาชญาวิทยา สังคมวิทยา ฯลฯ ได้เห็นความสำคัญของระยะวัยรุ่นเป็นอย่างยิ่ง ได้ทำการศึกษาเรื่องชีวิตจิตใจของวัยรุ่นอย่างเป็นวิทยาศาสตร์หลายแง่มุม โดยมุ่งมั่นค้นให้พบสภาพธรรมชาติตามวัย เพื่อนำความรู้มาช่วยให้เด็กวัยรุ่นเข้าใจตัวของเขาเอง สามารถปรับตัวให้ทันกับวิวัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม รวมทั้งผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในด้านเสริมสร้างพัฒนาการวัยรุ่นได้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถช่วยเหลือวัยรุ่นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ความหมายของวัยรุ่น ความหมายของวัยรุ่น ตามที่นักจิตวิทยาการศึกษา และนักการศึกษาต่าง ๆ ได้ให้คำจำกัดความของวัยรุ่น ดังนี้ วัยรุ่น (Adolescence) มาจากภาษละติน คือ Adolescere ซึ่งแปลว่า การเจริญเติบโตไปสู่วุฒิภาวะ นั่นคือ เป็นวัยย่างเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่นั่นเอง โดยถือเอาจากความพร้อมทางร่างการหรือภาวะสูงสุดของร่างการเป็นเครื่องตัดสิน ซึ่งในระยะนี้เป็นระยะที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตของระบบอวัยวะเพศและสามารถทำงานได้เต็มที่ คือ เพศหญิงมีประจำเดือนครั้งแรกและเพศชายจะมีการผลิตเซลล์สืบพันธุ์ได้ วัยรุ่น หมายถึง วัยที่อยู่ระหว่างความเป็นเด็กและความเป็นผู้ใหญ่ เป็นระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก วัยรุ่น หมายถึง วัยที่มีการพัฒนาการจากความเป็นเด็ก ค่อย ๆ สู่ความเป็นผู้ใหญ่ ทั้งทางด้านจิตใจและอารมณ์ ร่างกายและสังคม วัยรุ่น หมายถึง วัยที่เข้าสู่วุฒิภาวะทางเพศอย่างสมบูรณ์ สามารถเป็นพ่อคนแม่คนได้ มีอารมณ์รุนแรง แสดงความรู้สึกอย่างเปิดเผย และตรงไปตรงมา จากความหมายดังกล่าว สามารถสรุปได้ว่า วัยรุ่น หมายถึง วัยที่มีการพัฒนาการจากความเป็นเด็กไปสู่วัยผู้ใหญ่ เป็นวัยที่เข้าสู่วุฒิภาวะทางเพศอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคมเป็นอย่างมาก การแบ่งระยะของวัยรุ่น การแบ่งระยะเวลาของวัยรุ่น นักจิตวิทยาการศึกษา ได้แบ่งช่วงเวลาของวัยรุ่นไว้ ดังลักษณะต่อไปนี้ ศรีเรือน แก้วกังวาน ได้กล่าวเกี่ยวกับการแบ่งช่วงของวัยรุ่นออกเป็น 3 ระยะโดยใช้เกณฑ์ความเป็นเด็ก กับผู้ใหญ่ตัดสินคือ ช่วงอายุประมาณ 12-15 ปี เป็นช่วงวัยแรกรุ่น ซึ่งยังมีพฤติกรรมค่อนไปทางเด็กอยู่มาก ช่วงอายุประมาณ 16-17 ปี เป็นช่วงระยะรุ่นตอนกลางจะมีพฤติกรรมก้ำกึ่งระหว่างความเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ ช่วงอายุประมาณ 18-25 ปี เป็นระยะวัยรุ่นตอนปลายกระบวนการพฤติกรรมค่อนไปทางเป็นผู้ใหญ่ ช่วงระยะเวลาความสำคัญของวัยรุ่นดังกล่าวนั้น วัยแรกรุ่น แปลจากศัพท์อังกฤษ คือ Puberty มาจากภาษาลาติน คือ Puberta ซึ่งแปลว่า การเติบโตเป็นหนุ่มสาวเปลี่ยนสภาวะทางร่างกายจากความเป็นเด็กชายเด็กหญิง ร่างกายเติบโตเป็นผู้ใหญ่เกือบเต็มที่ทุกส่วน ลักษณะทุติยภูมิทางเพศยังไม่โตเต็มที่ผ่านมา ก็เจริญสมบูรณ์และทำหน้าที่ของมันได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จึงกล่าวได้ว่าลักษณะเช่นนี้ เป็นช่วงเปลี่ยนวัยของชีวิตทางด้านร่างกาย การเปลี่ยนแปลงทางกายของเด็กวัยรุ่นเป็นต้นเหตุ ให้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอื่น ๆ ตามมา เช่น ด้านอารมณ์ ลักษณะสัมพันธ์ภาพกับผู้อื่นสมรรถภาพทางสมอง ค่านิยม ทัศนคติ ความนึกคิดเกี่ยวกับตนเอง ฯลฯ เป็นต้น ส่วนในช่วงวัยรุ่นที่แท้จริง (Adolescence) อายุประมาณ 15-18,19-25 ปีนั้น เด็กเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ทางร่างกายเติมที่เป็นช่วงเปลี่ยนทางด้านสังคม อารมณ์ จิตใจ ค่านิยม อุดมคติ ฯลฯ เด็กกำลังเลียนแบบและทดสอบบทบาทเพื่อจะเป็นผู้ใหญ่ในแง่ต่าง ๆ เช่น อารมณ์ สังคม จิตใจ ความใฝ่ฝัน ปรารถนา ฯลฯ ความเปลี่ยนแปลงและความเป็นไปต่าง ๆ ในลักษณะนี้ล้วนเป็นรากฐานของความสนใจ ความมุ่งหมายในชีวิต อาชีพ ลักษณะของเพื่อน ลักษณะของคู่ครอง ฯลฯ ในวัยผู้ใหญ่ต่อไป อุบลรัตน์ เพ็งสถิต ได้กล่าวถึงการศึกษาเรื่องราวของวัยรุ่นนั้น เพื่อการศึกษาอย่างละเอียดลึกซึ้งแล้วได้แบ่งระยะวัยรุ่นออกเป็น 3 ช่วงวัย ดังต่อไปนี้ “วัยแรกรุ่น” (Puberty) เป็นช่วงที่คาบเกี่ยวระหว่างวัยเด็กตอนปลายและวัยรุ่นตอนต้น ลักษณะของวัยนี้ก็จะมีลักษณะของวัยที่แตกต่างกับวัยอื่น “วัยรุ่นตอนต้น” (Preadolescence and Adolescence) เป็นช่วงที่รวมเอาวัยแรกรุ่นเข้าไว้ด้วยกันจนถึงอายุได้ประมาณ 17 ปี “วัยรุ่นตอนปลาย” (Late Adolescence or Youth) จะมีอายุโดยประมาณ 17-21 ปี สุภัททา ปิณฑะแพทย์ ได้แบ่งวัยรุ่นตามความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยแบงออกเป็น 2 ระยะ คือ1. ระยะวัยรุ่นตอนต้น เริ่มตั้งแต่อายุ 13 หรือ 14 ปี จนถึงอายุ 17 ปี2. ระยะวัยรุ่นตอนปลาย ตั้งแต่อายุ 17 ปี จนถึง 21 ปีสุชา จันทน์เอม ได้กล่าวถึงการแบ่งระยะและลักษณะระยะต่าง ๆ ในช่วงของวัยรุ่นได้ว่า.....วัยรุ่นถือว่าเป็นระยะของช่วงชีวิตที่คั่นกลางระหว่างความเป็นเด็กกับความเป็นผู้ใหญ่ซึงไม่สามารถแบ่งขีดขั้นได้อย่างแน่นอนว่าควรกำหนดเมื่ออายุเท่าไหร่ ตามปกติเรามักถือว่าวัยรุ่น คือ ผู้ที่มีอายุระหว่าง 13-20 ปี แต่ทั้งนี้อาจไม่แน่นอนเพราะบางคนอายุเพียง 17-18 ปี ก็แสดงพฤติกรรมว่าเขามีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะพ้นจากสภาพของวัยรุ่นได้ ซึ่งเอลล่า โคลี (Luella Cole) นักจิตวิทยาชาวอเมริกันได้แบ่งวัยรุ่นออกเป็น 3 ระยะ คือ1. วัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence)เด็กหญิงจะมีอายุระหว่าง 13-15 ปีเด็กชายจะมีอายุระหว่าง 15-17 ปี2. วัยรุ่นตอนกลาง (Middle Adolescence)เด็กหญิงจะมีอายุระหว่าง 15-18 ปีเด็กชายจะมีอายุระหว่าง 17-19 ปี3. วัยรุ่นตอนปลาย (Late Adolescence)เด็กหญิงจะมีอายุระหว่าง 18-21 ปีเด็กชายจะมีอายุระหว่าง 19-21 ปีจากการศึกษาพบข้อสังเกตว่าก. เด็กชายจะเจริญเติบโตเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นช้ากว่าเด็กหญิงประมาณ 2 ปีข. อายุเฉลี่ยทั้งชายและหญิง ในด้านความพร้อมของต่อมเพศที่จะเริ่มผลิตเซลล์สืบพันธุ์ได้นั้น เมื่อหญิงมีอายุประมาณ 11-13 ปี และชายอายุประมาณ 13-15 ปี ลักษณะต่าง ๆ ของการเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นแต่ละช่วง สุชา จันทน์เอม ได้กล่าวถึง ลักษณะต่าง ๆ ที่แสดงถึงการเข้าสู่วัยรุ่น และระยะของวัยรุ่น ดังนี้ 1. วัยแรกรุ่น(Puberty) หญิงอายุ 11-13 ปี และชาย 13-15 ปี เป็นระยะที่ร่างกายเริ่มการเจริญเติบโตทางเพศอย่างสมบูรณ์ทั้งในเด็กหญิงและเด็กชาย สำหรับเด็กหญิงนั้นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญของร่างกายเต็มที่ ก็คือการมีประจำเดือนครั้งแรก ส่วนเด็กชายนั้นไม่มีลักษณะบ่งแน่ชัดเช่นเด็กหญิง แต่เราอาจจะสังเกตได้จากสิ่งเหล่านี้ คือ การหลั่งอสุจิในครั้งแรก การมีขนตามอวัยวะเพศ นอกจากนี้ น้ำเสียงที่พูดยังเปลี่ยนไปจากเดิม คือ ห้าวขึ้น และมีลักษณะที่เรียกว่าแตกพาน เด็กหญิงนอกจากมีประจำเดือนครั้งแรกแล้ว ปรากฏว่าสัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายยังเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางด้านอวัยวะเพศ และการเจริญเติบโตของทรวงอก เนื่องจากผลของฮอร์โมนไปบำรุงมากขึ้น ในระยะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นนี้ เป็นระยะที่เตือนให้เราเห็นว่าระยะของวัยรุ่นได้ใกล้เข้ามาแล้ว 2. วัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence) จะเป็นช่วงเวลาพอสมควร โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านร่างกาย จิตใจและความนึกคิด การเจริญเติบโตในระยะวัยรุ่นนี้ ปรากฏว่ามีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ในด้านร่างกายนั้นมีการเปลี่ยนแปลงมากมายและสิ้นสุดลงเมื่อได้ถึง “วุฒิภาวะของวัยรุ่น” ส่วนในด้านจิตใจนั้นส่วนใหญ่เป็นผลพลอยได้มาจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แม้ว่าลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายจะเป็นสิ่งผิดปกติของเด็กทุกคนเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นก็ตาม แต่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของเด็กแต่ละคนมักไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและด้วยเหตุนี้ทำให้เราเข้าใจว่าเหตุใดบางคน ถึงแม้ว่าจะมีอายุอยู่ในเกณฑ์วัยรุ่นก็ตาม ก็ยังไม่มีลักษณะ “พายุแคม” ของวัยรุ่นหรือลักษณะอื่น ๆ ที่ควรเกิดขึ้นกับวัยรุ่นปรากฏให้เห็นเลย 3. วัยรุ่นตอนกลาง (Middle Adolescence) เป็นระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อมใหม่และมีผลต่อการพัฒนาการทางสังคมของเด็ก โดยทั่วไปเด็กส่วนใหญ่จะคบเพื่อนที่มีรสนิยมคล้ายคลึงกันหรือคนที่ถูกใจกัน เด็กเริ่มรู้จักปรับปรุงบุคลิกภาพเลียนแบบผู้ที่ตนยกย่อง ชอบทำสิ่งแปลง ๆ ใหม่ ๆ เด็กที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง จะเป็นเด็กไวต่อความรู้สึก มีความกระวนกระวายใจต่อคำพูดที่กล่าวออกไป ซึ่งครูหรือผู้ปกครองควรร่วมมือกันช่วยเหลือแนะนำอย่างใกล้ชิด 4. วัยรุ่นตอนปลาย (Late Adolescence) การพัฒนาการของวัยรุ่นเริ่มเข้าสู่วุฒิภาวะอย่างสมบูรณ์แบบในช่วงระยะวัยรุ่นตอนปลาย โดยในระยะนี้มักมีการพัฒนาทางด้านจิตใจมากกว่าร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดและปรัชญาชีวิตลักษณะโดยทั่วไปของวัยแรกรุ่น ลักษณะของวัยแรกรุ่น จะเป็นช่วงชีวิตที่มีลักษณะสำคัญคือ
1. เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเด็กกับวัยรุ่น เด็กวัยนี้จะมีลักษณะทางร่างกายที่ไม่เหมือนแบบเด็ก ๆ อีกต่อไป เนื่องจากลักษณะทางร่างกายและพฤติกรรมได้เปลี่ยนแปลงไปจากวัยเด็กตอนปลาย เด็กวัยนี้จะมีพฤติกรรมแปลก ๆ ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา ซึ่งกล่าวได้ว่าเด็กได้มีการเปลี่ยนแปลงที่จะเข้าสู่วุฒิภาวะทางเพศที่สมบูรณ์ และหลังจากนั้นแล้วเด็กจะก้าวไปสู่ขั้นวัยรุ่นตอนต้น
2.
เป็นช่วงระยะเวลาสั้น วัยแรกรุ่นจะเปลี่ยนแปลงไปจากวัยเด็กไปสู่การมีวุฒิภาวะทางเพศช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ เรียกว่า พิวเบอร์ตี้ (Puberty) มีระยะเวลาประมาณ 2-4 ปี1. เป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนแปลงโดยทั่วไปแล้วเด็กหญิงจะมีวุฒิภาวะทางเพศเมื่ออายุประมาณ 13 ปี สิ่งที่แสดงชัดเจนถึงการมีวุฒิภาวะทางเพศแล้วคือ การมีประจำเดือนครั้งแรก (The First Menstruation or the Menarche) ระยะอายุ 11-14 ปี
และหลังจาการมีประจำเดือนครั้งแรกแล้วร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ความรู้สึกและการเปลี่ยนแปลงต่อบทบาทของตนในฐานะเป็นพี่เพราะวัยนี้ เด็กได้รับการเรียกจากเด็กที่มีอายุน้อยกว่าว่าพี่ผลของการเปลี่ยนแปลงที่เด็กมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว คือ เกิดความสับสน ขาดความมั่นคง ต้องพึ่งพาผู้อื่นอยู่เสมอ2.
เป็นช่วงระยะเวลาของการปฏิเสธและการต่อต้าน เป็นที่ยอมรับกันว่า เมื่อเด็กก้าวเข้าสู่วัยแรกรุ่นแล้ว มักจะเป็นช่วงระยะเวลาการต่อต้านสิ่งต่าง ๆ ชื่อ บิชเลอร์ (Charlotte Biihler. 1927) ได้เน้นว่า วัยแรกรุ่นมักจะชอบต่อต้านสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเพื่อให้ตัวของตนมีชีวิตที่ดีที่สุด
การต่อต้านในวัยนี้มีการแสดงออกต่อพฤติกรรมที่มีการแสดงออกมากกวาปกติ3. เป็นช่วงที่มีอายุได้แตกต่างกัน วัยนี้จะเป็นช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกันบางคนจะเข้าสู่วัยแรกรุ่นเมื่อ 18-19 ปี แต่โดยทั่วไปแล้วเด็กหญิงมีวุฒิภาวะทางเพศที่สมบูรณ์เมื่ออายุประมาณ 13 ปี ส่วนเด็กชายอายุประมาณ
14 ปี ฉะนั้นจึงเป็นปัญหาเฉพาะรายเด็กแต่ละคนเด็กวัยนี้ มักพยายามปรับปรุงร่างกายของตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมมากขึ้น โดยพยายามหัดตัดสินใจแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง ก่อให้เกิดความมั่นคงด้วยตนเอง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับสภาพครอบครัวด้วย คือ ในบุคคลที่อยู่ในครอบครัวใหญ่ ๆ มีฐานะมั่นคง
และพ่อแม่ไม่เข้มงวดจนเกินไปก็จะมีความมั่นใจและมั่นคงมากกว่าคนที่อยู่ในครอบครัวเล็ก ๆ และได้รับความเข้มงวดจากพ่อแม่ เมื่อประสบปัญหาในระยะนี้ วัยแรกรุ่นมักหลีกเลี่ยงการขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ ครูอาจารย์ แต่มักพยายามแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งผลที่ได้รับมักก่อให้เกิดการปรับตัวที่ดีขึ้น และอยู่ด้วยกับคนอื่นได้อย่างสบายใจ
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้มักก่อให้เกิดอารมณ์ไม่ดี ใจคออ่อนไหวง่าย แต่จะพยายามดับอารมณ์ด้วยความสุขุมเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น โดยปกติในวัยรุ่นตอนปลายมักมีความกระตือรือร้นที่จะสร้างสิ่งประทับใจต่าง ๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนมิได้เป็นเด็กวัยรุ่นอีกต่อไปแล้ว ในระยะนี้จะเริ่มมีการแต่งตัว และการแสดงออกของความเป็นผู้ใหญ่
เช่น ในเด็กหญิงจะเริ่มใช้ลิปสติก และสวมรองเท้าส้นสูง ส่วนในเด็กชายมักใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อต้องการความประทับใจว่า ขณะนี้เขาโตเต็มที่แล้ว และย่อมที่จะมีสิทธิ์เสรีภาพต่าง ๆ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ วัยรุ่นระยะนี้มักลอกเลียนแบบผู้ใหญ่ เช่น สูบบุรี่
หัดดื่มเหล้า เป็นต้น ลักษณะโดยทั่วไปของวัยรุ่น 1. เป็นวัยแห่งการเสริมสร้าง (Period of Reconstruction) ในวัยนี้ความเจริญเติบโตทางร่างกายจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และจะค่อย ๆ
ช้าลงในตอนปลาย2. เป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลง (Period of Transformation) ในวัยนี้เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับชีวิตวัยรุ่นมากมาย ทั้งในร่างกายและจิตใจ และความรู้สึกนึกคิด3.
เป็นวัยที่มีความคิดอยากเป็นอิสระ (Period of Independence) โดยเริ่มคิดพึ่งพาตนเองอยากเรียนรู้ความผิดพลาดด้วยตนเองมากกว่าที่จะเรียนรู้จากคำสั่งสอนของคนอื่น ชอบโต้เถียงถ้าได้รับการขัดขวางอย่างรุ่นแรง มักมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และหาทางออกในทางผิด ๆ เช่น
หนีออกจากบ้าน4. เป็นวัยที่ต้องเผชิญปัญหา (Period of Problems) โดยในวัยนี้เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตซึ่งเรียกว่าวัยวิกฤติ ปัญหาต่างๆ ๆ ในการปรับตัวมักเกิดขึ้นเสมอ มีการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว วู่วาม
แสดงออกทางอารมณ์อย่างรุ่นแรงและรวดเร็ว อาจเรียกอีกดย่างหนึ่งว่า เป็นวัยพายุบุแคม และความเครียด (Storm and Stress) พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของวัยรุ่น (Adolescence Development)
พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็กวัยรุ่น เป็นเรื่องสำคัญแก่การศึกษา เพราะจะทำให้ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง และผู้ที่รับผิดชอบเด็กสามารถเข้าใจพฤติกรรมเด็กได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็กวัยนี้ มีความสำคัญและอิทธิพลต่อกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยนี้เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกะทันหันรวดเร็วไม่แน่นอน
ยากที่จะทำความเข้าใจ และมีความละเอียดซับซ้อน จึงควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการของวัยรุ่น พัฒนาการที่สำคัญ ๆ ของวัยรุ่น มีดังนี้1. พัฒนาการทางด้านร่างกาย2.
พัฒนาการทางด้านอารมณ์3. พัฒนาการทางด้านสังคม4. พัฒนาการทางด้านสติปัญญา พัฒนาการทางด้านร่างกาย
พัฒนาการทางกาย เป็นไปทางด้านการเจริญเติบโตงอกงามเพื่อทำหน้าที่อย่างเหมาะสมทั้งการเจริญเติบโตทางภายนอกได้แก่ ส่วนสูง น้ำหนัก รูปหน้า สัดส่วน ลักษณะเส้นผม ฯลฯ และการเจริญเติบโตภายใน เช่น การทำงานของต่อมบางชนิด โครงกระดูกแข็งแรงขึ้น
การผลิตเซลล์สืบพันธุ์ในเด็กชาย
การมีประจำเดือนของเด็กหญิง พบว่าช่วงวัยรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายอย่างรวดเร็ว ความสูงของเด็กในต้นปี และปลายปีมีความแตกต่างกันมาก การสะสมไขมันมีมากขึ้นโดยเฉพาะเด็กหญิง รูปร่างจะอ้วนขึ้นกว่าเดิม ในบางโอกาสจึงเรียกระยะนี้ว่า ช่วงไขมัน (Fat Period) ระบบการย่อยอาหารพัฒนาขึ้น
ทำให้สามารถไปใช้ประโยชน์ได้อย่างดีรวดเร็ว และมากกว่าเดิมเนื่องจากร่างกายเจริญเติบโต ทำให้เด็กวัยนี้หิวบ่อย รับประทานอาหารได้มากและไม่เลือกอาหารรวมทั้งมักง่วงง่าย จึงเป็นระยะที่เรียกว่า กำลังกินกำลังนอน กล้ามเนื้อขงเด็กชายเจริญมากขึ้น อวัยวะเพศเริ่มทำงาน เสียงของเด็กชายจะแตกห้าวขึ้นระยะต้น ๆ ของช่วงวัยนี้ร่างกายของเด็กยังไม่ได้สัดส่วน
เด็กรู้สึกอึดอัด เก้งก้าง รู้สึกอ่อนไหวง่ายเกี่ยวกับสัดส่วนและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อกับประสาทสัมผัสต่าง