เชื่อมต่อหูฟังบลูทูธไม่ได้ทำไงดี?
หลาย ๆ คนน่าจะยังคงมีปัญหานี้อยู่ใช่มั้ย หูฟังเสียรึป่าว เพราะเท่าที่จำได้ตั้งแต่เริ่มทำงานที่เกี่ยวกับหูฟังบลูทูธมาตลอด 11 ปี ก็ต้องเจอกับคำถามนี้มาโดยตลอดว่าหูฟังบลูทูธมันมีวิธีการเชื่อมต่อยังไง เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ใช้กับหูฟังบลูทูธตัวเดิมไม่ได้ ไปร้านโทรศัพท์เค้าก็ให้ซื้อหูฟังใหม่ไปเลย อะไรแบบนี้ วันนี้เราจะมาแนะนำการเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธไว้ใช้งานซึ่งเป็นหลักการที่สามารถนำไปใช้ได้ในทุกรุ่น ที่แบรนด์กันไปเลยครับ
หูฟังบลูทูธมีหลากหลายเวอร์ชั่นแตกต่างกันออกไปซึ่งแต่ละเวอร์ชั่นก็มีจุดเด่นในการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น V.2.1 ประหยัดพลังงาน, V.4.2 ความเร็ว 1Mbps หรือ V.5.0 ส่งข้อมูลได้รวดเร็ว รองรับ IOT แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามบลูทูธทุกเวอร์ชั่นก็จะสามารถเชื่อมต่อใช้งานร่วมกันได้เสมอครับ โดยปกติหูฟังบลูทูธจะมีโหมดอยู่หนึ่งโหมดที่มักจะไม่ค่อยรู้กันเลยทำให้ค้นหาอุปกรณ์ไม่พบ แล้วทำให้ทไการเชื่อมต่อหูฟังไม่ได้นั้นคือ โหมดแพร์ริ่ง หรือ โหมดในการค้นหาอุปกรณ์ นั้นเอง
ซึ่งเจ้าโหมดนี้ในปัจจุบันก็จะมีวิธีการกดอยู่ประมาณ 3 วิธี ด้วยกันที่ครอบคลุมในหลาย ๆ รุ่น
1.กดปุ่มรับสายค้างไว้ 5 วินาที
สำหรับหูฟังที่ใช้ปุ่มรับสาย-วางสาย เป็นปุ่มสำหรับเปิด-ปิดการใช้งานด้วยในปุ่มเดียวกัน โดยอุปกรณ์ลักษณะจะสามารถกดโหมดในการค้นหาอุปกรณ์ได้นั้น ตัวหูฟังจะต้องอยู่ในสถานะเครื่องที่ปิดอยู่ จากนั้นให้ทำการกดปุ่มรับสายค้างไว้ประมาณ 5 วินาที สังเกตุไฟจะเป็นสถานะไฟสีน้ำเงินกระพริบ (ในรุ่น หรือแบรนด์ที่ต่างกันออกไปอาจจะเป็นไฟสีน้ำเงินแดงกระพริบสลับกันไป หรือไฟสีขาวกระพริบ) เมื่อได้สถานะไฟแบบนี้แล้วก็นำโทรศัพท์ทำการค้นหาอุปกรณ์เพื่อเชื่อมต่อใช้งานได้เลย
2.มีสวิทต์เปิด-ปิด
สำหรับหูฟังที่มีสวิทต์เปิด-ปิด ให้ทำการเปิดสวิทต์ตัวหูฟังขึ้นมาก่อน
จากนั้นให้ทำการกดปุ่มรับสายค้างไว้ประมาณ 5 วินาที สังเกตุไฟจะเป็นสถานะไฟสีน้ำเงินกระพริบ (ในรุ่น หรือแบรนด์ที่ต่างกันออกไปอาจจะเป็นไฟสีน้ำเงินแดงกระพริบสลับกันไป หรือไฟสีขาวกระพริบ) เมื่อได้สถานะไฟแบบนี้แล้วก็นำโทรศัพท์ทำการค้นหาอุปกรณ์เพื่อเชื่อมต่อใช้งานได้เลยเช่นกัน
3.แบบสัมผัส
ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเจอกับกลุ่มหูฟังที่เป็น True wireless นะครับทำได้โดยให้สัมผัสที่หูฟังค้างไว้ประมาณ 5 วินาที เช่นเดิม (บางรุ่นอาจจะแตะที่หูฟังทั้ง 2 ข้าง)
สังเกตุไฟจะเป็นสถานะไฟสีน้ำเงินกระพริบ (ในรุ่น หรือแบรนด์ที่ต่างกันออกไปอาจจะเป็นไฟสีน้ำเงินแดงกระพริบสลับกันไป หรือไฟสีขาวกระพริบ) เมื่อได้สถานะไฟแบบนี้แล้วก็นำโทรศัพท์ทำการค้นหาอุปกรณ์เพื่อเชื่อมต่อใช้งานได้เลยเช่นกัน
จากวิธีทั้ง 3 แบบนี้ จะทำให้เราสามรถทำการเชื่อมต่อหูฟังฟังบลูทูธเพื่อใช้งาน กับโทรศัพท์เครื่องเดิมหรือโทรศัพท์ใหม่ได้อย่างสบายแล้วล่ะครับ
หากรถหรืออุปกรณ์เสริมบลูทูธไม่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ ให้ลองทำตามวิธีแก้ปัญหาด้านล่างแก้ปัญหาเกี่ยวกับบลูทูธ
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบปัญหาทั่วไปของบลูทูธ
ขั้นตอนที่ 2: แก้ปัญหาตามประเภทปัญหา
จับคู่อุปกรณ์กับรถยนต์ไม่ได้
ขั้นตอนที่ 1: ล้างอุปกรณ์ออกจากหน่วยความจำของโทรศัพท์
ขั้นตอนที่ 2: ล้างโทรศัพท์จากหน่วยความจำของรถ
หากต้องการล้างโทรศัพท์ที่จับคู่กับรถ ให้ทำตามคู่มือการใช้งานของรถ
- ล้างโทรศัพท์ที่คุณไม่ได้ใช้
- หากคุณเคยจับคู่โทรศัพท์กับรถมาก่อน ให้ล้างโทรศัพท์เครื่องนั้น
ขั้นตอนที่ 3: รีเฟรชรายชื่ออุปกรณ์ จากนั้นค่อยจับคู่
หากต้องการทราบว่าจะจับคู่จากโทรศัพท์หรือจากรถ ให้อ่านคู่มือการใช้งานของรถ
- จับคู่จากโทรศัพท์
- ตรวจสอบว่ารถของคุณค้นพบได้และพร้อมจับคู่
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- แตะจับคู่อุปกรณ์ใหม่ ชื่อของรถ
- จับคู่จากรถ
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- โปรดเปิดหน้าจอนี้เอาไว้
- ในรายชื่ออุปกรณ์ของรถ ให้เลือกชื่อของโทรศัพท์
- หากระบบถาม ให้ตรวจสอบว่า PIN ที่แสดงในโทรศัพท์และหน้าจอของรถนั้นตรงกัน
- แตะให้สิทธิ์เข้าถึงรายชื่อติดต่อและประวัติการโทร
- แตะจับคู่อุปกรณ์ ยอมรับ หรือ ยืนยัน
จับคู่กับอุปกรณ์เสริมไม่ได้
จับคู่กับ Wear OS ไม่ได้
- หากคุณจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โปรดลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาเหล่านี้
- หากการเชื่อมต่อนาฬิกากับโทรศัพท์ไม่เสถียร ให้ลองทำตามขั้นตอนการเชื่อมต่อเหล่านี้อีกครั้ง
จับคู่กับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่ได้
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสริมของคุณค้นพบได้และพร้อมจับคู่ ทำตามคำแนะนำที่มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม
- คุณมักจะเห็นแสงสีน้ำเงินบนอุปกรณ์เสริมเมื่ออุปกรณ์พร้อมจับคู่
- คุณจะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมบางอย่าง เช่น แป้นพิมพ์ฝาพับ กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณก่อนจึงจะจับคู่กับอุปกรณ์เสริมอื่นได้
- รีเฟรชรายชื่ออุปกรณ์เสริม
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- แตะจับคู่อุปกรณ์ใหม่ ชื่อของอุปกรณ์เสริม
- หากต้องกรอกรหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์เสริมและคุณไม่ทราบรหัส ให้ลองกรอก 0000 หรือ 1234 (รหัสผ่านที่พบบ่อยที่สุด)
ฟังเพลงไม่ได้
สำคัญ: รถยนต์บางรุ่นเล่นเพลงผ่านบลูทูธไม่ได้ หากปัญหาเกิดจากรถยนต์ โปรดอ่านคู่มือการใช้งานของรถ
- ตรวจสอบว่าระดับเสียงดังพอแล้วในโทรศัพท์และรถ หรืออุปกรณ์เสริม
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ ที่จับคู่กับโทรศัพท์ไม่ได้เล่นเพลงอยู่
- ตรวจสอบว่าเปิดเสียงสื่อแล้ว
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- หากเห็นอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ ให้แตะตัวเลือกนี้
- ข้างชื่อรถหรืออุปกรณ์เสริม ให้แตะ "การตั้งค่า"
- เปิดเสียงสื่อ
โทรออกหรือรับสายเรียกเข้าไม่ได้
สำคัญ: รถยนต์บางรุ่นโทรออกหรือรับสายเรียกเข้าผ่านบลูทูธไม่ได้ หากปัญหาเกิดจากรถยนต์ โปรดอ่านคู่มือการใช้งานของรถ
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เครื่องอื่นที่จับคู่กับโทรศัพท์ของคุณไม่ได้รับสายเรียกเข้าอยู่
- เปิดเสียงโทรศัพท์โดยทำดังนี้
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้แตะตัวเลือกนี้
- หากเห็นอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ ให้แตะตัวเลือกนี้
- ข้างชื่อรถหรืออุปกรณ์เสริม ให้แตะ "การตั้งค่า"
- เปิดเสียงโทรศัพท์
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ
- แชร์การเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ
ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม
เราจะปรับปรุงได้อย่างไร