พระรา
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ไม่มีการเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ไม่มีการเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ไม่มีการเสด็จ
ไม่มีการเสด็จ
1. การเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 1 ใน พ.ศ. 2440 นับเป็นครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ในภูมิภาคนี้ที่เสด็จประพาสยุโรป โดยมีจุดประสงค์สำคัญ คือ เพื่อทำความเข้าใจกับชาติที่คุกคามไทย เพื่อเจรจาโดยตรงกับผู้นำของฝรั่งเศสเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในกรณีที่สืบเนื่องจากวิกฤติการณ์
ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) รวมทั้งเพื่อแสวงหาชาติพันธมิตรมาช่วยส่งเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ การเสด็จประพาสยุโรปครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสร้างสัมพันธไมตรีกับรัสเซียในรัชสมัยซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งราชวงศ์โรมานอฟ
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ส่งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถไปศึกษาที่ประเทศรัสเซียด้วย
และในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งนี้ได้ทรงเจรจาและปรับความเข้าใจกับฝรั่งเศส ซึ่งคุกคามไทยอย่างหนัก รวมทั้งมีจุดประสงค์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ เพื่อทอดพระเนตรความเจริญของยุโรป จะได้นำมาเป็นแบบอย่างในการปรับปรุงบ้านเมือง
2. การเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2450 ทรงมีจุดประสงค์สำคัญ คือ เพื่อรักษาพระอาการประชวรเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและพระวักกะ (ไต)
และเพื่อเจรจาราชการบ้านเมืองกับชาติตะวันตกต่าง ๆ ทั้งเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ปัญหาเรื่องคนในบังคับฝรั่งเศส อำนาจการปกครองเหนือดินแดนเมืองหลวงพระบางบนฝั่งขวาแม่น้ำโขงและเขตปลอดทหาร (ไทย) ระยะ 25 กิโลเมตรบนฝั่งขวาของแม่น้ำโขงตลอดแนวชายแดนระหว่างราชอาณาจักรสยามกับอาณานิคมอินโดจีนของฝรั่งเศส ปัญหาภาษีร้อยชัก 3 เป็นร้อยชัก 10 และโครงการสร้างทางรถไพสายใต้ ทรงให้สัตยาบันในสนธิสัญญาสยามกับฝรั่งเศส พ.ศ. 2449
การเจรจากับปลัดกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษซึ่งส่งผลให้เกิดสนธิสัญญาแลกเปลี่ยน 4 รัฐมลายูในเวลาต่อมา และการเสด็จพระราชดำเนินทรงรับปริญญาด็อกเตอร์ออฟลอว์ (Doctor of Law) ณ บ้านของอธิการบดีมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
นอกจากนี้ทรงมีลายพระราชหัตถเลขาพระราชทานแก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดีเล่าเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่สภาพดินฟ้าอากาศ สภาพบ้านเมือง การรักษาพระองค์
สังคมและวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายของคนในประเทศที่เสด็จพระราชดำเนินเยือน พระราชภารกิจ พระราชดำริ และพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์ที่ทรงมีต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ลายพระราชหัตถเลขานี้ต่อมาพิมพ์เป็นหนังสือ "ไกลบ้าน"
ในการเสด็จประพาสหัวเมือง รัชกาลที่ 5 โปรดประพาสตามมณฑลหัวเมืองเพื่อดูสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร มีทั้งที่เสด็จไปตรวจราชการอย่างเป็นทางการและเสด็จประพาสเป็นการส่วนพระองค์
หรือ "เสด็จประพาสต้น" ทั้งเสด็จทางเรือ เสด็จทางรถไฟอย่างสามัญชน ทรงแต่งพระองค์อย่างคนธรรมดา เช่น เป็นคหบดี ทำให้ได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านโดยที่ชาวบ้านบางคนไม่รู้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแผ่นดิน บางครั้งทรงได้รับเลี้ยงอาหารจากชาวบ้าน ซึ่งการคบหาสมาคมกับราษฎรอย่างใกล้ชิด ทำให้พระองค์ทราบทุกข์สุขและความเป็นไปของราษฎรตลอดจนทางปฏิบัติงานของข้าราชการในส่วนท้องถิ่น
1) การเปิดทางรถไฟสาย คลองสาน - มหาชัย 29 ธันวาคม 2447
2) การเสด็จมณฑลพายัพ ปี 2449 ( นิราศพายัพ ) - เสด็จทรงวางศิลารากอาคารบัทเลอร์ โรง
เรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เมื่อวันที่ 2 มกราคม ค.ศ.1906
3) การประทับที่พระราชวังสนามจันทร์ เช่น ตอนช่วงก่อนพิธีบรมราชาภิเษก ปลายปี 2453 และ ปี 2461 เป็นต้น
4) การเสด็จเมืองชะอำ ปี 2464
5) การเสด็จเปิดโรงแรมรถไฟหัวหิน ปี 2466
6) การเสด็จเยือนสหรัฐมลายู ปี 2467
7) การเสด้จประทับพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ปี 2467 - 2468
ไม่มีการเสด็จ
ไม่มีการเสด็จ
ประเทศแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินอย่างเป็นทางการ คือ ประเทศเวียดนามใต้ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ และครั้งล่าสุด ในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ ๘ - ๙ เมษายน
การเสด็จเยือนต่างประเทศครั้งยิ่งใหญ่และถือเป็นปรากฏการณ์โลก คือ การเสด็จพระราชดำเนินสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ ในยุโรป รวม ๑๔ ประเทศ และ ๑ รัฐ ระหว่างวันที่ ๑๔ มิถุนายน ถึง ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๓
เมื่อเสร็จสิ้นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ แล้ว ก็ได้ทรงต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ที่เป็นประมุขของประเทศต่างๆ ที่เสด็จและเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นการตอบแทน และบรรดาพระราชอาคันตุกะทั้งหลาย ต่างก็ประทับใจในพระราชวงศ์ของไทย ตลอดจนประชาชนชาวไทยอย่างทั่วหน้า