การจองห้องพักโดยตรงคือ การที่ลูกค้าทำการจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรมโดยไม่ผ่านตัวกลางหรือเอเจนซี่ ซึ่งลูกค้าอาจทำการจองผ่านช่องทางต่างๆที่โรงแรมมีเช่น การโทรศัพท์จอง การจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม การจองทางอีเมล การจองผ่าน social media ต่างๆเช่น facebook / instagram และ line official แน่นอนว่าช่องทางการจองต่างๆเหล่านี้เป็นช่องทางที่โรงแรมเป็นเจ้าของสามารถจัดการเองได้ทุกอย่างและที่สำคัญคือไม่มีค่าคอมมิชชั่น
ทำไมการจองโดยตรงจึงมีความสำคัญสำหรับโรงแรม?
ข้อได้เปรียบของการจองห้องพักโดยตรงก็คือโรงแรมจะได้รับราคาห้องพักในอัตราที่สูงโดยไม่ต้องแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้กับคนกลาง นอกจากนี้โรงแรมยังได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า รับรู้ความรู้สึกของลูกค้าและมีโอกาสที่จะเปลี่ยนลูกค้าให้กลายมาเป็นลูกค้าที่ภักดีได้ในอนาคต
จะเพิ่มการจองโดยตรงได้อย่างไร?
หากต้องการเพิ่มการจองห้องพักโดยตรงและเพิ่มรายได้ให้สูงสุด โรงแรมต้องเน้นที่กลยุทธ์เหล่านี้:
1. ต้องเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ขั้นตอนแรกที่ต้องทำคือ การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าลูกค้าที่จะจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรมนั้นคือใคร มีความต้องการแบบไหน และมีพฤติกรรมการจองห้องพักยังไง เพื่อที่เราจะได้กำหนดแคมเปญการตลาด โปรโมชั่น และราคาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
2. เว็บไซต์โรงแรมต้องเป็น mobile-friendly
ในปัจจุบันลูกค้าค้นหาข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะโรงแรมและที่พักผ่านโทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น ดังนั้นการที่เว็บไซต์ของโรงแรมสามารถรองรับการใช้งานบนมือถือได้ก็จะทำให้มีโอกาสในการที่ลูกค้าจะหาเจอในหน้าแรกได้มากขึ้น และยิ่งถ้าสามารถให้ข้อมูลที่พักได้อย่างครบถ้วนและสวยงามก็จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจจองได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มระบบการจองห้องพักเข้ากับเว็บไซต์ของโรงแรม
เว็บไซต์โรงแรมนอกจากจะสามารถแสดงผลผ่านโทรศัพท์มือถือได้แล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญก็คือ ระบบการจองห้องพักออนไลน์ ต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการจองของลูกค้าได้ทันที สามารถใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน
4. เพิ่ม Call to action หรือการกระตุ้นให้เกิดการจอง
เมื่อคุณสามารถนำลูกค้าให้เข้ามาสู่เว็บไซต์ได้แล้ว ลูกค้าเห็นรายละเอียดห้องพัก ดูรูปภาพที่สวยงาม แต่ไม่มีการกระตุ้นให้เกิดการจองก็จะทำให้ลูกค้าออกจากเว็บไซต์ไป และจองกับที่อื่นแทน ดังนั้นในเว็บไซต์ควรมีการกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจในทันที เช่นการเพิ่มปุ่ม “จองห้องพัก” เพื่อให้ลูกค้าได้กดจองได้ในทันที
5. เพิ่มรายชื่อโรงแรมของคุณลงบนระบบเมตาเสิร์ชเอนจิ้น
จากข้อมูลของ Trivago พบว่าเกือบ 50% ของผู้จองห้องพักออนไลน์ทั้งหมดใช้เมตาเสิร์ชเพื่อค้นหาโรงแรมที่ต้องการเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลและราคาก่อนตัดสินใจจอง เมตาเสิร์ชเอนจิ้นคือเครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลราคาและห้องว่างของโรงแรมต่างๆ จากเว็บไซต์อื่น ๆ และแสดงในที่เดียว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องเพิ่มชื่อโรงแรมของคุณบนระบบเมตาเสิร์ชเอนจิ้นเพื่อทำให้โรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดออนไลน์ รับการจองออนไลน์มากขึ้น และเพิ่มมูลค่าแบรนด์ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำแคมเปญโฆษณาบนโปรแกรมค้นหาเมตาเสิร์ชเอนจิ้นได้เช่น Trivago, TripAdvisor และ Google เพื่อกระตุ้นการจองห้องพักโดยตรง
6. เพิ่มรีวิวเชิงบวกของโรงแรมบนช่องทางออนไลน์
รีวิวมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจจองห้องพัก ลูกค้าเกือบ 80% ตัดสินใจทำการจองขั้นสุดท้ายหลังจากพิจารณารีวิวของโรงแรม ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องโปรโมทรีวิวเชิงบวกของแขกบนเว็บไซต์ของคุณและบนแพลตฟอร์ม Social Media
7. ทำการตลาดบน Social Media
การตลาดบน Social Media เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างการรับรู้ เพิ่มการค้นหาและสามารถดึงลูกค้าให้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ ในปัจจุบันลูกค้าใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม Social Media มากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นจึงควรเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าสามารถติดต่อและจองห้องพักกับโรงแรมได้โดยตรงผ่าน Social Media
8. สร้างโปรแกรมความภักดี หรือ Loyalty Programs
สร้างความภักดีให้เกิดขึ้นกับแบรนด์ ทำให้ลูกค้าที่เคยจองผ่านตัวแทนกลายมาเป็นลูกค้าประจำที่จองห้องพักโดยตรงกับโรงแรม โดยการให้ข้อเสนอพิเศษ เช่นส่วนลดค่าห้องพัก ส่วนลดค่าอาหาร ฟรีอาหารเช้า หรือฟรีอัพเกรดห้องพัก
ก้าวไปข้างหน้าและใช้กลยุทธ์เหล่านี้เพื่อประหยัดเงินค่าคอมมิชชั่นจาก OTA ด้วยความช่วยเหลือจาก ระบบบริหารงานโรงแรม All-in-One Cloud PMS ของเรา สร้างเว็บไซต์เพียงคลิกเดียว รวมระบบการจองโรงแรมของคุณและเพลิดเพลินกับการจองโดยตรงที่ทำกำไรได้ ทดลองใช้ฟรีทันที!
บริษัทวิจัยข้อมูลพฤติกรรมนักท่องเที่ยว Trustyou ร่วมกับวิทยาลัยการโรงแรมของมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ออกงานวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกจองโรงแรมแบบออนไลน์ โดยวิธีตรวจจับการมองของสายตา (heat-map) เวลาผู้ใช้เข้าเว็บจองโรงแรมต่างๆ เพื่อดูว่าผู้ใช้มองข้อมูลอะไรบนหน้าจอบ้าง และนำประเด็นอะไรมาพิจารณา
การทดลองใช้กลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันจำนวน 568 ราย ใช้โรงแรมราคาเดียวกัน โดยมีปัจจัยผันแปร (variable) คือ รูปแบบห้อง (rooms), อาหารเช้า (breakfast), อุปกรณ์ภายในห้อง (amenities), บริการ (service), อาหาร (food), ความสะอาด (cleanliness), ความสะดวกสบาย (comfort), ความเป็นอยู่ที่ดี (wellness)
TrustYou พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 95% อ่านรีวิวโรงแรมก่อนตัดสินใจจองห้อง ส่วนผลสรุปเรื่องปัจจัยอื่นๆ สามารถแยกตามกลุ่มผู้เข้าพักออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มที่เน้นการพักผ่อน (leisure) และนักธุรกิจ (business)
ปัจจัยที่มีผลในการเลือกโรงแรมของกลุ่มที่เน้นการพักผ่อน
ผู้ที่มาพักผ่อน (leisure) จะให้ความสำคัญกับความสะอาดสูงถึง 61% รองลงมาคือเรื่องความสะดวกสบาย 43% และยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก ได้แก่ ลักษณะของห้อง wifi การให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร ซึ่งคะแนนค่อนข้างไล่เลี่ยกัน
- นักเดินทางแบบครอบครัว : ให้คะแนนเรื่องห้องเป็นปัจจัยหลัก 23.06% และให้ความสำคัญเรื่องความสะดวกสบาย 19.10%
- นักเดินทางที่เป็นคู่รัก : ให้คะแนนเรื่องห้องเป็นปัจจัยหลัก 35.68% ซึ่งจะเห็นว่าคะแนนค่อนข้างโด่งสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
- นักเดินทางที่เป็นเพื่อนฝูง : ให้คะแนนเรื่องอาหารเป็นหลัก สูงถึง 27.53%
ปัจจัยที่มีผลในการเลือกโรงแรมของกลุ่มนักธุรกิจ
นักธุรกิจจะให้ความสำคัญกับความสะอาด 52% รองลงมาคือ wifi 36%
- ถ้าเป็นโรงแรมแบบหรูหรา (luxury) : กลุ่มนักธุรกิจจะเลือกห้องที่หรูหราดูดี มีอาหารเช้าอลังการ และ wifi
- ถ้าเป็นโรงแรมแบบราคาประหยัด (budget) : กลุ่มนักธุรกิจจะเลือกความสะอาดและสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม wifi ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักธุรกิจไม่ว่าจะเป็นทริปแบบใดก็ตาม
บทสรุป
หากต้องการเพิ่มยอดจองให้มากขึ้น โรงแรมควรวิเคราะห์กลุ่มนักท่องเที่ยวของตัวเองก่อนว่าเป็นแบบใดและคาดหวังอะไรในการเข้าพัก เพื่อปรับปรุงการให้บริการและทำการตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายต่อไป จุดเด่นๆ ที่ควรสนใจมีดังนี้
- ถ้าต้องการจับกลุ่มนักธุรกิจ ต้องให้ความสำคัญเรื่อง wifi
- นักเดินทางที่มากันเป็นกลุ่มเพื่อน สนใจเรื่องอาหารเป็นหลัก
- นักเดินทางคู่รัก สนใจเรื่องห้องพักเป็นหลัก
- นักเดินทางที่มาเป็นครอบครัว สนใจเรื่องห้องพัก ความสะดวกสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง
งานวิจัยชิ้นนี้มาจากฝั่งอเมริกา ไม่แน่ใจว่าเข้ากับเมืองไทยหรือเปล่า แต่ที่ดูสรุปผลก็คิดว่าตรงกับตัวเองเหมือนกันนะคะ
ที่มา – Trustyou ผ่าน Tnooz
Comments
แชร์บทความนี้ให้เพื่อน
- Click to share on Facebook (Opens in new window)
- Click to share on Twitter (Opens in new window)
- Click to share on LINE (Opens in new window)
บทความที่เกี่ยวข้อง
ความเห็นนักท่องเที่ยวต้องการให้โรงแรมมี Free Wi-Fi มากที่สุด
ผลสำรวจความเห็นนักเดินทางจาก Hotels.com ระบุต้องการให้โรงแรมมี Free Wi-Fi มากที่สุด ตามด้วยอาหารเช้าฟรี ในขณะที่มินิบาร์ในห้องได้รับความนิยมน้อยที่สุด
แนวโน้มการท่องเที่ยวเอเชีย ไทยครองแชมป์ประเทศยอดนิยม คนหันมาจองทริปออนไลน์มากขึ้น
eRevMax เผยแนวโน้มการท่องเที่ยวแบบออนไลน์ในเอเชีย ไทยยังครองแชมป์อันดับหนึ่ง นักท่องเที่ยวนิยมใช้ออนไลน์กันมากขึ้น โดยเฉพาะ mobile ที่โตแบบก้าวกระโดด ทั้งการรีวิว หาข้อมูล และจองที่พัก
วิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีน เน้นช็อปปิ้ง ชอบร้านดิวตี้ฟรี
COTRI สถาบันการวิจัยท่องเที่ยวต่างประเทศของจีน เผยรายงานพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวจีน เน้นเที่ยวโซนเอเชียด้วยกันเอง เป็นนักช้อปตัวยง และนิยมช้อปปิ้งในร้านค้าปลอดภาษี