Apple Watch Series 5 มาพร้อมตัวเลือกที่หลากหลายมากกว่าเดิม ซึ่งมีทั้งวัสดุอะลูมิเนียม สแตนเลสสตีล เซรามิก และ ไทเทเนียม อย่างไรก็ตาม Apple Watch เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสวมใส่ไว้ตลอดทั้งวัน น้ำหนักที่แตกต่างกันเพียงไม่กี่กรัม จึงมีผลอย่างมากต่อความสบาย ดังนั้น เราจะไปดูกันว่าวัสดุตัวเรือนแต่ละชิด จะมีน้ำหนักแตกต่างกันอย่างไร
น้ำหนัก Apple Watch Series 5 ขนาด 40 มม.
- ตัวเรือนอะลูมิเนียม 30.8 กรัม
- ตัวเรือนไทเทเนียม 35.1 กรัม
- ตัวเรือนเซรามิก 39.7 กรัม
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีล 40.6 กรัม
น้ำหนัก Apple Watch Series 5 ขนาด 44 มม.
- ตัวเรือนอะลูมิเนียม 36.5 กรัม
- ตัวเรือนไทเทเนียม 41.7 กรัม
- ตัวเรือนเซรามิก 46.7 กรัม
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีล 47.8 กรัม
Apple บอกว่าวัสดุตัวเรือนแบบใหม่ที่ทำจากไทเทเนียม เป็นวัสดุราคาแพงในวงการนาฬิกาที่มีอัตราส่วนความแข็งแกร่งต่อน้ำหนักในระดับยอดเยี่ยม และเบากว่าสแตนเลสสตีล ตัวเรือนไทเทเนียมมาในสองสีสวยงาม ได้แก่ ไทเทเนียมสีธรรมชาติ ซึ่งได้รับการปรับพื้นผิวในเชิงวิศวกรรมแบบเฉพาะ เพื่อให้คงสีตามธรรมชาติและคงความแข็งแกร่งของวัสดุเอาไว้ ส่วนไทเทเนียมสีดำสเปซแบล็ค ได้สีสวยงามน่าทึ่งมาจากวิธีการเคลือบคาร์บอนคล้ายเพชร หรือ Diamond-Like Coating (DLC)
ทั้งนี้ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS) มีราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท และ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS + Cellular) ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท ซึ่งเป็นรุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียม เปิดให้รับจองแล้วเฉพาะในสหรัฐอเมริกา, เปอร์โตริโก, หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 38 ประเทศและภูมิภาค ก่อนจะเริ่มจัดส่งและวางจำหน่าย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2019 เป็นต้นไป
ที่มา
– 9to5Mac
//www.flashfly.net/wp/267400
3,953
ADVERTISEMENT
เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ยิ่งเข้าสู่ฤดูร้อนก็เรียกว่าแทบจะที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ทำให้การใส่นาฬิกาข้อมือในสภาพที่เหงื่อออกแทบทั้งวัน เป็นเรื่องเล็กที่ไม่เล็กไปเสียแล้ว ครั้นจะใส่นาฬิกาสายหนังแบบฝรั่งเมืองหนาวก็คงไม่เหมาะ เราลองมาดูกันดีกว่า ว่านาฬิกาแบบไหนที่เหมาะกับฤดูร้อนของไทยกันบ้าง
นาฬิกาสายเซรามิก
วัสดุชนิดใหม่ล่าสุดที่มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อรอยขีดข่วน ทนต่อการกัดกร่อนของเหงื่อสามารถใส่ได้ทั้งวัน ล้างทำความสะอาดง่าย
แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่มีความเปราะกว่าโลหะ ถ้าใส่ทำกิจกรรมที่ต้องเสี่ยงต่อการกระแทกรุนแรงมากอาจจะทำให้เกิดการแตกหักเสียหายได้ แถมยังมีตัวเลือกแบรนด์, รูปแบบตัวเรือนและฟังก์ชั่นน้อยมากเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ
นาฬิกาสายไทเทเนียม
นาฬิกาสายไทยเทเนียมน้ำหนักเบาใส่สบาย
แถมวัสดุก็ยังทนการกัดกร่อนจากเหงื่อได้เป็นอย่างดี ซึ่งไทเทเนี่ยมตัดปัญหาเรื่องสนิมไปได้เลย และยังไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวหนังอีกด้วย แต่ไทเทเนี่ยมก็ยังราคาสูง เกิดริ้วรอยได้ง่ายและแก้ไขยากอีกด้วย
ADVERTISEMENT
นาฬิกาสายสเตนเลสสตีล
วัสดุยอดนิยมตลอดกาล สามารถใส่ได้กับทุกสภาวะอากาศ สามารถทนเหงื่อได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดได้ง่าย อายุการใช้งานยาวนาน แต่มีข้อด้อยตรงที่มีโอกาสเกิดสนิมตามซอกมุมที่ทำความสะอาดไม่ทั่วถึง และน้ำหนักมากกว่าสายไทเทเนียมหรือเซรามิก แต่ราคาที่ถูกกว่า มีตัวเลือกแบรนด์, รูปแบบตัวเรือน และฟังก์ชั่นให้เลือกหลากหลายมากกว่า
นาฬิกาสายยาง
เหมาะสมมากที่สุดสำหรับฤดูร้อนของเมืองไทย เพราะสามารถทนทานต่อเหงื่อได้เป็นอย่างดี และไม่มีกลิ่นเหม็น ล้างทำความสะอาดได้ง่าย แต่อาจจะต้องเลือกชนิดของสายยางสักหน่อย เพราะมีหลายชนิด ตั้งแต่ยางแท้, ซิลิโคน หรือเรซิน ซึ่งบางคนอาจจะมีอาการแพ้ยางแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน และสายยางก็มีอายุการใช้งานที่จำกัดเมื่อเทียบกับสายโลหะทั้ง 3 ชนิดที่กล่าวมา
นอกจากเลือกใส่นาฬิกาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพให้พร้อม ด้วยการดื่มน้ำสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการออกแดด หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องทาครีมกันแดดหรือกางร่ม และเลือกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับฤดูร้อนกันด้วย
ADVERTISEMENT
Related
2019-04-24