เสื้อผ้า
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สารบัญ Show
- ที่มาและประวัติศาสตร์
- การใช้งานในช่วงต้น
- ทำเสื้อผ้า
- ฟังก์ชั่น
- ทุนการศึกษา
- ฟังก์ชั่นของเสื้อผ้า
- ประวัติเสื้อผ้า
- ด้านวัฒนธรรม
- ความแตกต่างระหว่างเพศ
- ศาสนา
- เสื้อผ้าร่วมสมัย
- การแต่งกายแบบตะวันตก
- การแพร่กระจายของรูปแบบตะวันตก
- มรดกทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม
- กีฬาและกิจกรรม
- แฟชั่น
- ประเด็นทางการเมือง
- สภาพการทำงานในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม
- วงจรชีวิต
- การดูแลรักษาเสื้อผ้า
- ซักรีดรีดผ้าเก็บของ
- ไม่ใช่เหล็ก
- การซ่อม
- รีไซเคิล
- การค้าระดับโลก
- เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมีความหมายว่าอย่างไร
- เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมีความสำคัญอย่างไร
- การแต่งกายเป็นอะไร
- เครื่องประกอบการแต่งกาย มีอะไรบ้าง
เสื้อผ้า หรือ เครื่องแต่งกาย หรือ เครื่องนุ่งห่ม เป็นสิ่งที่มนุษย์สวมใส่เพื่อปกป้องร่างกายจากสภาวะอากาศ สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ความสุภาพ และเพื่อสะท้อนถึง สังคม ศาสนา วัฒนธรรม รวมถึง รสนิยมเฉพาะตัวบุคคลด้วย เสื้อผ้าบางชนิดอาจออกแบบให้สวมใส่เฉพาะเพศ แต่ไม่นับกรณีการแต่งตัวข้ามเพศ
เสื้อผ้าที่ใส่เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐาน ใส่ไว้เพื่อป้องกันร่างกายไม่ให้ได้รับความอันตรายจากสิ่งแวดล้อมอย่างอากาศ แสงแดดที่รุนแรง ความหนาวสุดขั้ว ฝน กันแมลง สารเคมี อาวุธ และอันตรายอย่างอื่น
มนุษย์ยังประดิษฐ์เสื้อผ้าเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ต่าง ๆ การใช้ทำงาน เช่น
ชุดอวกาศ สำหรับใส่ไปในอวกาศ
ชุดเกราะสำหรับปกป้องร่างกายในสงคราม
ชุดว่ายน้ำเพื่อความคล่องตัวและสะดวกในการว่ายน้ำ
ชุดดำน้ำสำหรับดำน้ำ
ชุดกันผึ้งสำหรับเก็บน้ำผึ้งและป้องกันผึ้งต่อย
เสื้อแจ็คเก็ตหนังขับมอเตอร์ไซค์สำหรับป้องกันลมและเพิ่มความเท่อีกด้วย
เป็นต้น คนเรายังประดิษฐ์ ประดับสิ่งต่าง ๆ ในร่างกาย อย่าง หมวก ก็อาจจะเรียกว่าเครื่องแต่งกาย
แฟชั่น
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รสนิยมการแต่งกายในอดีต
แฟชั่นหรือสมัยนิยม (อังกฤษ: fashion) ราชบัณฑิตยสถาน นิยามว่า "สมัยนิยม, แบบหรือวิธีการที่นิยมกันทั่วไปในชั่วระยะเวลาหนึ่ง." เป็นการยอมรับจนเกิดเป็นค่านิยม มีกระบวนการเกิดภาษาใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
ประวัติความเป็นมาของแฟชั่น
เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่มุนษย์ต้องการในการดำรงชีวิตเพื่อปกปิดร่างกายและให้ความอบอุ่น ความเจริญของมนุษย์ทำให้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เสื้อผ้ายังบ่งบอกถึงลักษณะของผู้สวมใส่ได้ด้วย เช่น ฐานะ, เชื้อชาติ, ฯลฯ
การพัฒนาของแฟชั่นในแต่ละยุคสมัยแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น การเมือง เศรษฐกิจ ภูมิอากาศ ฯลฯ ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 แฟชั่นโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะปี ค.ศ. 1920 - 1930 หรือเรียกว่ายุค แฟลปเปอร์ (Flapper) ผู้หญิงสวมกระโปรงสั้นเป็นครั้งแรก
และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้หญิงต้องออกจากบ้านเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพ ดังนั้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ย่อมเปลี่ยนไปเพื่อเอื้อประโยชน์ในผู้สวมใส่มากขึ้น กางเกงจึงเป็นที่นิยม ตั้งแต่ยุคแฟลปเปอร์เป็นต้นมา แฟชั่นของโลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล เพราะการติดต่อสื่อสารของโลกตะวันตกและตะวันออกเป็นได้เปิดกว้างมากขึ้น มีการไปมาหาสู่กัน แฟชั่นของโลกตะวันตกจึงเข้ามามีบทบาทกับโลกตะวันออก เช่น คนไทยรณรงค์ให้สวมหมวก หรือ ผู้หญิงไทยเลิกสวมโจงกะเบน เพื่อความเป็นสากล
ลักษณะหรือแบบแผนของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแต่ละยุคสมัย เรียกว่า สไตล์ (Style) แต่ละคนมีสไตล์การแต่งตัวไม่เหมือนกัน เช่น บางคนชอบแต่งตัวสไตล์ พั้งค์ (Punk) หรือเด็กสาวๆชอบสไตล์เซ็กซี่ ที่ฝรั่งเรียกว่า ราซี่ (Racy or Provocative) ส่วนคำว่า เทรนด์ (Trend) คือ แฟชั่นล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยม
สไตล์การแต่งตัวสามารถจำแนกได้เป็นประเภทนับไม่ถ้วน ต่อไปนี้เป็นสไตล์เด่นๆ หลักๆ ที่เป็นที่นิยมในอดีตจนปัจจุบัน บางสไตล์ถือว่าล้าสมัยไปแล้วในปัจจุบัน บางสไตล์ถือว่าเป็นคลาสสิก เพราะแต่งเมื่อไร ก็ไม่ถูกมองว่าเชยหรือตกรุ่น อย่างไรก็ตามยังมีบางสไตล์ที่เคยล้าสมัยไปแล้วอาจเวียนกลับมาเทรนด์อีกครั้ง
เครื่องแต่งกาย (หรือเรียกว่าเสื้อผ้า , เครื่องแต่งกายและเครื่องแต่งกาย ) เป็นรายการที่สวมใส่บนร่างกาย โดยทั่วไปเสื้อผ้าจะทำจากผ้าหรือสิ่งทอแต่เมื่อเวลาผ่านไปได้รวมเอาเสื้อผ้าที่ทำจากหนังสัตว์หรือวัสดุแผ่นบาง ๆ มารวมกัน การสวมเสื้อผ้าส่วนใหญ่จะ จำกัด ให้มนุษย์และเป็นคุณลักษณะของมนุษย์ทุกสังคม จำนวนและประเภทของเสื้อผ้าที่สวมใส่ขึ้นอยู่กับเพศประเภทของร่างกายสังคมและภูมิศาสตร์
เครื่องแต่งกายให้บริการเพื่อวัตถุประสงค์หลายมันสามารถทำหน้าที่เป็นการป้องกันจากองค์ประกอบพื้นผิวหยาบพืชผื่นก่อให้เกิดแมลงกัดต่อย , เศษ , หนามและเหน็บโดยการให้กั้นระหว่างผิวและสภาพแวดล้อม เสื้อผ้าสามารถป้องกันสภาพอากาศหนาวเย็นหรือร้อนจัดและสามารถเป็นเกราะป้องกันด้านสุขอนามัยทำให้วัสดุที่ติดเชื้อและเป็นพิษอยู่ห่างจากร่างกาย เครื่องแต่งกายยังให้การปกป้องจากรังสีอัลตราไวโอเลต
สวมใส่เสื้อผ้ายังเป็นบรรทัดฐานทางสังคมและความหมายเจียมเนื้อเจียมตัว ถูกลิดรอนของเสื้อผ้าในด้านหน้าของคนอื่น ๆ อาจจะน่าอาย ในส่วนใหญ่ของโลกที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าในที่สาธารณะเพื่อให้อวัยวะเพศ , หน้าอกหรือก้นจะมองเห็นอาจจะถือว่ากระทำอนาจาร