คา ร์ ซี ท ใช้ กับ รถ อะไร ได้ บ้าง

          คาร์ซีท อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กในขณะที่เดินทาง สิ่งจำเป็นที่ในทุกครั้งที่พาลูกเดินทางด้วยรถยนต์ แต่คาร์ซีทแต่ละตัวก็มีราคาค่อนข้างสูง พ่อแม่หลายๆคน ก็อยากจะให้คาร์ซีทที่เลือกมาสามารถปกป้องลูกได้อย่างปลอดภัย นั่งสบาย เหมาะสมกับลูก และที่สำคัญซื้อไปแล้วลูกยอมนั่ง โดยเฉพาะคาร์ซีทแรกเกิดที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายของเด็กบอบบางที่สุด ซึ่งการจะซื้อคาร์ซีทให้ปลอดภัยอย่างแรก คือ ต้องเลือกให้ถูกประเภทกับการใช้งานของลูก เหมาะกับวัย ส่วนสูง และน้ำหนักของลูก วันนี้ Baygift จึงจะพาพ่อแม่ทุกคน มารู้จักกันว่าคาร์ซีทมีทั้งหมดกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง 

          ในท้องตลาดมีคาร์ซีทมากมายหลายประเภท และแบ่งการใช้งานตามอายุและน้ำหนัก แต่หลักๆ เราสามารถแบ่งคาร์ซีททออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต ซึ่งในแต่ละประเภทสามารถแยกย่อยได้อีกอีกเป็นอย่างละ 2 ประเภท รวมแล้วเราจะสามารถแบ่งคาร์ซีทออกได้ทั้งหมดเป็น 4 ประเภท เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด 2 ประเภท และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต 2 ประเภท ซึ่งจะมีประเภทไหนกันบ้าง เราไปดูกันเลยค่า

คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด 

  1. คาร์ซีทแบบ New Born Only คาร์ซีทแบบกระเช้า คา์ซีทประเภทนี้เป็นคาร์ซีทที่มีมานานแล้ว ลักษณะจะเหมือนกับกระเช้าขนาดเล็ก สามารถวางไว้ในรถได้เลย บางรุ่นสามารถปรับใช้ได้กับรถเข็น สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงเด็กอายุประมาณ 18 เดือน คาร์ซีทแบบนี้จะเป็นการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ ซึ่งเป็นการนั่งที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด 

ข้อดี

  • มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย สามารถถอดคาร์ซีทออกมาเดินถือได้เลย เวลาที่ลูกนอนหลับไม่ต้องปลุกลูก หรืออุ้มลูกออกจากคาร์ซีท ทำให้ลูกนอนหลับได้อย่างเต็มที่ และบางรุ่นสามารถปรับใช้งานได้หลายอย่าง เช่น สามารถปรับใช้งานกับรถเข็นทำให้สะดวกมากขึ้น หรือบางรุ่นสามารถปรับเป็นเปลนอนได้

ข้อเสีย

  • จากน้ำหนักที่เบา และมีลักษณะที่เล็ก ทำให้โครงสร้างมีความบอบบาง กว่าคาร์ซีทประเภทอื่นๆ เบาะ Support ก็จะมีชิ้นที่เล็กและบอบบาง 
  • ระยะเวลาการใช้งานสั้น ถึงแม้คาร์ซีทจะระบุไว้ว่าสามารถใช้ได้ถึงเด็กอายุ 18 เดือน แต่จากขนาดที่เล็ก โครงสร้างที่บอบบาง ทำให้คาร์ซีทสามารถใช้งานได้จริงกับเด็กอายุไม่เกิน 1 ปี เพราะเด็กจะเริ่มตัวโตขึ้น มีความสูงเพิ่มขึ้น ทำให้การนั่งในคาร์ซีทแบบกระเช้าจะรู้สึกอึดอัด และการถือคาร์ซีทกระเช้าจะเริ่มเป็นภาระของพ่อแม่ จากน้ำหนักตัวเด็กที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมองหาคาร์ซีทตัวใหม่มาทดแทนคาร์ซีทตัวเดิม

(คาร์ซีทแบบกระเช้า)

  1. คาร์ซีทแบบ Convertible คาร์ซีทเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโต สามารถปรับใช้ 2 รูปแบบ คือ หันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) จึงสามารถใช้งานกับเด็กได้หลากหลายช่วงอายุ บางรุ่นสามารถใช้ได้ถึง 4 ปี,7 ปี ไปจนถึง 12 ปี คาร์ซีทประเภทนี้เป็นคาร์ซีทที่พ่อแม่ส่วนใหญ่นิยมใช้ คาร์ซีทจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมากว่าตัวคาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทประเภท Convertible นี้จะเป็นประเภทที่ใช้กันอย่างหลากหลาย เพราะมีฟังก์ชั่นเยอะ และสะดวกต่อการใช้งาน 

ข้อดี

  • อายุการใช้งานยาวนานกว่าแบบกระเช้า ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนคาร์ซีทให้ลูกบ่อย ประหยัดค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ลงไปได้เยอะ
  • มีโครงสร้งที่ใหญ่ ตัวเบาะกว้าง ทำให้ตัวคาร์ซีทสามารถใส่วัสดุรองรับแรงกระแทกให้มากกว่าแบบกระเช้า 
  • วัสดุภายในมีความแข็งแรง มีหลายชิ้น ทำให้มีความปลอดภัยสูง
  • มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ทั้งฟังก์ชั่นความปลอดภัย ฟังก์ชั่นที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูก เช่น มีขาค้ำยัน มีที่พักเท้า รวมกถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยต่างๆ ที่ใส่เข้ามา

ข้อเสีย 

  • คาร์ซีทมีโครงสร้างที่ใหญ่ น้ำหนักมาก ทำให้คาร์ซีทต้องมีพื้นที่ในการติดตั้ง และตอนติดตั้งอาจจะมีกระบวนการมากกว่าคาร์ซีทแบบอื่นๆ 
  • คาร์ซีทไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หรือถือออกจากรถได้เหมือนกับคาร์ซีทแบบกระเช้า

(คาร์ซีทแบบ Convertible)

สำหรับคาร์ซีทแบบ Convertible สามารถแบ่งย่อยออกมาได้อีก 3 ประเภท คือ

          2.1 คาร์ซีทแบบที่หมุนได้ คือคาร์ซีทที่สามารถปรับหมุนได้ 360 องศา ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น ติดตั้งครั้งเดียว การสามารถปรับใช้งานได้ทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) และทำให้อุ้มลูกขึ้นลงรถได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าหัวของลูกจะชนเข้ากับขอบประตูของรถ นอกจากนี้ยังทำให้พ่อแม่ใกล้ชิดกับลูกมากขึ้นในขณะที่เดินทาง เพราะในขณะที่รถติดก็สามารถปรับหันลูกมาเล่น มาพูดคุย เพื่อสร้างความใกล้ชิดได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นตัวช่วยเพิ่มความสะดวกในการเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือป้อนนมให้กับลูกบนรถ

(คาร์ซีท Convertible แบบหมุนได้)

          2.2 คาร์ซีทแบบที่หมุนไม่ได้ คาร์ซีทประเภทนี้จะไม่มีฟังก์ชั่นการหมุน 360 องศาติดมาให้ ทำให้ต้องติดตั้งใหม่ในการสลับการติดตั้งจากการนั่งหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) ไปเป็นการนั่งหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) แต่คาร์ซีทแบบนี้จะมีอายุการใช้งานที่มากขึ้นกว่าแบบที่หมุนได้ บางรุ่นสามารถใช้ได้ถึง 12 ปี และเป็นคาร์ซีทแรกเกิดที่มีเบาะกว้าง โครงสร้างใหญ่กว่าแบบอื่นๆ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตตามวัยของลูก

(คาร์ซีท Convertible แบบหมุนไม่ได้)

          2.3 คาร์ซีทแบบที่หมุนได้ และนอนราบได้ คาร์ซีทประเภทนี้จะมีความพิเศษกว่าแบบอื่นๆ เพราะนอกจากปรับหมุนได้ 360 องศาแล้ว ยังสามารถปรับนอนราบได้ บางรุ่นนอนได้ถึง 170 องศา ซึ่งการนอนราบจะช่วยทำให้เด็กได้รับการพักผ่อนที่ดี ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีตามวัย เพราะเด็กแรกเกิดจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนหลับ ซึ่งการนอนหลับของเด็กจะส่งผลโดยตรงต่อการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆของทางร่างกาย โดยเฉพาะพัฒนาการทางสมอง 

(คาร์ซีท Convertible แบบนอนราบได้)

คาร์ซีทสำหรับเด็กโต

1.คาร์ซีทแบบ Forward facing หรือ Combination seat คาร์ซีทสำหรับเด็กโต คาร์ซีทที่มีพนักพิงหลังใช้สำหรับเป็นคาร์ซีทตัวที่ 2 ให้กับเด็ก เหมาะกับเด็กที่นั่งชันหลังได้อย่างแข็งแรง ซึ่งส่วนมากคาร์ซีทจะใช้ได้ตั้งแต่ 4 ปี ไปจนถึง 12 ปี หรือบางรุ่นพิเศษหน่อยก็สามารถใช้ได้ตั้งแต่ 9 เดือน ขึ้นไป ตัวคาร์ซีทจะมีลักษณะที่เบาะกว้าง พนักพิงใหญ่และสูง เพื่อทำให้เด็กนั่งได้สบายที่สุด และเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเด็ก

ข้อดี

  • โครงสร้างใหญ่ เบาะกว้าง ทำให้รองรับการเจริญเติบโตของลูกได้ตามวัย ลูกนั่งสบาย ไม่อึดอัด
  • วัสดุรองรับแรงกระแทกภายในมีความแข็งแรงสูง ทำให้คาร์ซีทมีความปลอดภัยสูง

ข้อเสีย

  • คาร์ซีทแบบนี้บางรุ่นไม่สามารถปรับพนักพิงเอนนอนได้ อาจทำให้เด็กนอนหลับไม่สบาย ควรเลือกแบบปรับเอนได้

(คาร์ซีทแบบ Forward facing หรือ Combination seat)

  1. คาร์ซีทแบบ Booster seat คาร์ซีทสำหรับเด็กโตเหมือนกับ Forward facing หรือ Combination seat แต่แตกต่างกันที่ ตัวคาร์ซีทแบบ Booster seat จะไม่มีพนักพิงหลัง ไม่มีฟังก์ชั่นมากเท่ากับคาร์ซีทแบบอื่นๆ แต่มีน้ำหนักเบา เหมาะกับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ที่นั่งชันหลังได้อย่างแข็งแรงและการเดินใกล้ๆ ไม่ต้องใช้ระยะเวลานาน

 ข้อดี

  • น้ำหนักเบาะ พกพาสะดวก สามาถพกเดินทางไปต่างประเทศได้ง่าย

ข้อเสีย

  • วัสดุรองรับแรงกระแทกบอบบางกว่า Forward facing
  • คาร์ซีทไม่มีพนักพิงที่ช่วยประคองหลัง ทำให้นอนหลับในรถลำบากเพราะไม่สามารถพิงหลับได้
  • หากไม่มีตัวปรับสายเข็มขัดอาจทำให้เข็มขัดนิรภัยของรถพาดที่หน้าหรือคอของเด็กได้
  • คาร์ซีทประเภทนี้หากใช้ก่อน 7 ปี อาจปกป้องได้ไม่ดีพอ ควรเริ่มใช้เมื่ออายุครบ 7 ปีขึ้นไป

(คาร์ซีทแบบ Booster seat)

คาร์ซีท มีกี่แบบ แบบไหนดี รับชมได้ที่นี่

สอบถามหรือสั่งซื้อ

 
Babygiftretail

Login

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก