เพ่ๆ ยาแก้อักเสบแผงดิ เอาที่เป็นแคปซูล เขียว ฟ้า อะเพ่ ประโยคนี้มักเป็นประโยคคุ้นหู สำหรับเภสัชกรหรือคนที่ทำงานร้านขายยา และพอเมื่อได้ยินก็จะเกิดต่อมเซงทำงานทันที และหลายๆครั้งพอเภสัชกรไม่ขายยาให้ ก็พยายามไปหาซื้อยาตาม website ตาม ร้านขายยาออนไลน์ กันอีก 1.ยาฆ่าเชื้อต่างจากยาแก้อักเสบอย่างไร 2.เวลาเราเจ็บคอเราต้องกินยาฆ่าเชื้อเม็ดเขียว – ฟ้า ทุกครั้งหรือป้าว 3.แล้วยาฆ่าเชื้อเราจะกินเมื่อไหร่ 4.ถ้าเราทานยาฆ่าเชื้อพร่ำเพรื่อ หรือทานแบบไม่ระมัดระวังจะเกิดอะไรขึ้น 5.สรุป
เพราะเจ้ายาที่ว่านี้เขารณรงค์หรือป่าวประกาศโครมๆกันมานานแล้วว่า
ยาพวกนี้เขาเรียกว่ายาฆ่าเชื้อ ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ เพราะ ยาแก้อักเสบตัวจริง ในทางการแพทย์ มันก็คือยาที่เราทานเวลาปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดฟัน หรือ อีกจำพวกหนึ่งคือ ยาแก้อักเสบปลายประสาทอย่าง กาบาเพนติน (Gabapentin) ต่างหากสารบัญ (ยาวไปเลือกอ่านคลิกหัวข้อ)
ยาฆ่าเชื้อ ต่างจาก ยาแก้อักเสบยังไง
ชื่อก็น่าจะพอบอกได้คราวๆแล้วว่า แตกต่างกัน โดย ยาฆ่าเชื้อก็คือ ทานเพื่อฆ่าเชื้อโรค สำหรับโรคที่มีการติดเชื้อเกิดขึ้นแล้ว ย้ำว่าติดเชื้อแล้วนะ คือ เราจะไม่กินยาฆ่าเชื้อเพื่อเป็นการดัก หรือ ป้องกันก่อนการติดเชื้อ แต่เราจะกินเมื่อเกิดการติดเชื้อเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น แล้วยาแก้อักเสบหล่ะ
ยาแก้อักเสบ หรือ ยาต้านการอักเสบ ทางการแพทย์เรามักจะหมายถึงยาที่ใช้ในการรักษาอาการปวด ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เช่น ปวดประจำเดือน ปวดฟัน กล้ามเนื้อ โดยเราจะเรียกชื่อยาเหล่านี้ว่าเป็นยา NSAIDs (Non-steroidal Anti-inflammatory drugs) ซึ่งยากลุ่มนี้ ไม่ได้ฆ่าเชื้ออะไรเลย
กลับสู่สารบัญ
เวลาเจ็บคอ เราต้องกินยาฆ่าเชื้อ เม็ด เขียว – ฟ้า ทุกครั้งหรือป้าว
เมื่อไหร่ที่เราเจ็บคอ มันไม่ได้เท่ากับว่าเราเกิดการติดเชื้อ เพราะการเจ็บคอนั้นเกิดได้หลายสาเหตุมาก เช่น อาการคอแห้ง การตะโกนหรือใช้เสียงมากเกินไป การเจ็บคอจากการไอที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ เจ็บคอจากโรคหวัด(เกิดจากเชื้อไวรัส ที่ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียฆ่าไม่ได้)
โดยสาเหตุที่เราเจ็บคอต่างๆเหล่านี้จะเห็นได้ว่าไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเลย และอาการเจ็บคอเหล่านี้ก็สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องพึ่งยาฆ่าเชื้อ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราทานยาฆ่าเชื้อแล้วหาย อาจจะหายโดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยากลุ่มนี้เลย แต่เราเรียกว่า เหตุการณ์ประจวบเหมาะ ทำให้เราเข้าใจผิดว่าอาการที่เป็นนั้นหายจากการใช้ยานี้
ถ้าเราทานยาฆ่าเชื้อเป็นพร่ำเพรื่อ หรือ ทานแบบไม่ระมัดระวังจะเกิดอะไรขึ้น
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ายาฆ่าเชื้อ เม็ดเขียว ฟ้า ที่เรากินหากให้คนที่แพ้ยา penicillin ทาน ก็อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ และหากคนรับประทานมีอาการแพ้ที่ไวต่อยามาก ก็อาจทำให้เกิดการแพ้รุนแรงภายในไม่กี่นาทีอาจถึงขั้นหายใจไม่ทันจนทำให้เสียชีวิตได้ เราเรียกอาการแพ้ขั้นรุนแรงนี้ว่า Anaphylaxis
โดยการแพ้นี้เกิดได้ทั้งจากยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ยาปฏิชีวนะ) และ ยาแก้อักเสบ (แก้ปวดอักเสบ) เพราะฉะนั้นเราไม่ควรแบ่งยาเหล่านี้ให้คนอื่นๆ ซึ่งเราไม่รู้แน่ชัดว่าเขาอาจจะแพ้ยาต่างๆเหล่านี้หรือมั้ยเพราะแทนที่เราจะให้ยาเพื่อให้คนที่เรารักหายป่วย การเป็นหยิบยื่นยาพิษให้เขาแทน
กลับสู่สารบัญ
แล้วยาฆ่าเชื้อแคปซูลสีเขียว ฟ้า เราจะกินเมื่อไหร่
เราจะทานยานี้ต่อเมื่อเกิดการติดเชื้อแล้วเท่านั้นและต้องเป็นเชื้อแบคทีเรียด้วยน่ะ เชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้ออย่างอื่นมันก็ฆ่าไม่ได้คำถามตามมาคือเมื่อไหร่เราถึงรู้ว่าเราติดเชื้อแบคทีเรีย สิ่งที่เราสังเกตได้เองเลยก่อนที่บ้านคือ ถ้าหากเรามีไข้ขึ้นร่วม โดยเฉพาะไข้สูงจะบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย
โดยอาการไข้นี้ก็อาจมาพร้อมอาการเจ็บคอ หากเป็นการติดเชื้อที่ลำคอ (Pharyngitis) หากเจ็บบริเวณด้านข้างลำคอและมีก้อนบวมๆร่วมก็อาจจะเกิดจากต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) หรือถ้าหากเป็นอาการไข้ ร่วมกับมีน้ำมูกเขียวเหลืองเยอะในโพรงจมูก ก็มีโอกาสติดเชื้อที่โพรงจมูก เรียก ไซนัสอักเสบ (Sinusitis) จากอาการข้างต้นเราถึงค่อยหายาฆ่าเชื้อมาทานถึงจะเป็นการใช้ยาที่สมเหตุสมผลมากกว่า
กลับสู่สารบัญ
สรุป
จากที่กล่าวไปข้างต้นเราจะเห็นแล้วว่ายาฆ่าเชื้อกับยาแก้อักเสบนั้นมันเป็นยาคนละแบบกันเลย เพราะฉะนั้นทุกครั้งเวลาที่เราหาซื้อยาถ้าเรายังเรียกผิด ก็มีโอกาสที่เราจะได้ยาผิดเช่นกัน และการใช้ยาทั้ง 2 ตัวนี้ก็มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ยาแก้อักเสบหรือยาใดๆก็ตามสามารถทำแคปซูลสีอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้อง เขียว-ฟ้า ดำ-แดง ฟ้า-ขาว เสมอไป การใช้ยาที่พร่ำเพรื่อขาดความระมัดระวังและนำยาไปแจกจ่ายให้กับคนอื่นๆก็อาจนำมาซึ่งอันตรายถึงชีวิต เพราะฉะนั้นเวลาก่อนจะหยิบยากลุ่มเหล่านี้มาใช้ทุกครั้งควรถามตัวเองว่าเราจำเป็นต้องกินยานี้จริงๆแล้วหรือยัง หรือถ้าให้แน่ใจควรถือยาไปสอบถามเภสัชกรที่ร้านขายยาใกล้บ้านทานหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ทานรู้จักก่อนนำมาทานแบบพร่ำเพรื่อเวลามีอาการ แล้วมาพบกับบทความดีๆใหม่ในบทความถัดๆไป บะบาย
ทำการลงทะเบียนเพื่อที่เราจะต้องทำการตรวจสอบเลขที่ใบประกอบโรคศิลปะ และ ใบอนุญาตขายยา ว่าเป็นการซื้อยาของผู้รับอนุญาต ที่มีร้านขายยาถูกต้องตามกฏหมาย