บทลงโทษ 27,408 views โดย ผศ. ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำวิชากฎหมายภาษีอากร มาตรา 22 ประมวลรัษฎากร, ข้อ 4 คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 81/2542 มาตรา 27 ประมวลรัษฎากร มาตรา 35 ประมวลรัษฎากร มาตรา 26 ประมวลรัษฎากร, ข้อ 4 คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 81/2542 มาตรา 27 ประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ทวิ ประมวลรัษฎากร มาตรา 26 ประมวลรัษฎากร มาตรา 27 ประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ประมวลรัษฎากร มาตรา 26 ประมวลรัษฎากรContents
ยื่นแบบภาษีทันกำหนด แต่เสียภาษีไม่ครบ
ไม่ได้ยื่นแบบภาษีภายในกำหนด
เจตนาละเลยไม่ยื่นแบบภาษีภายในกำหนดเพื่อเลี่ยงภาษี
หนีภาษี
อ้างอิง
มาตรา 27 ประมวลรัษฎากร
Line
เมื่อฤดูกาลยื่นภาษีมาถึง ในฐานะพลเมืองที่ดีต่างก็วุ่นวายหาเอกสารประกอบการยื่นภาษีกันมือเป็นระวิง สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งจะมีโอกาสยื่นภาษีเป็นครั้งแรกในปีนี้ หรือบางคนที่อาจไม่เคยยื่นภาษีมาก่อนเลย ต้องระมัดระวังให้ดีทีเดียว ยิ่งถ้าใครได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองก็คงเคยผ่านตามาบ้างกับกรณีผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นทองคำมูลค่า 10 ล้านบาท แต่โดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นล้าน! ด้วยความไม่รู้ว่ารางวัลก็นับเป็นรายได้อย่างหนึ่ง เห็นมั้ยว่าเรื่องใกล้ตัวขนาดนี้ แต่หลายคนก็ยังพลาดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เชื่อว่าไม่มีใครอยากเจอภาษีย้อนหลังแน่ ๆ
เราซึ่งเป็นบุคคลผู้มีรายได้ จึงไม่ควรหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีในแต่ละปี เพื่อจะได้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์โดนค่าปรับจากการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ฉะนั้นมาทำความรู้จักกับคำว่า การเก็บภาษีย้อนหลัง (Retroactive tax) ซึ่งเป็นการตรวจสอบการยื่นภาษีเพื่อป้องกันและปราบปรามทางภาษีอากร โดยมี 3 หน่วยงานรับผิดชอบคือ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต แต่ที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรงคือ กรมสรรพากร ที่มีกลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีธุรกิจ
โดยที่คุณจะเข้าข่ายโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง หากคุณไม่จ่ายภาษี และจ่ายภาษีไม่ถูกต้อง หรือเลี่ยงภาษี จ่ายภาษีไม่ครบตามที่ระบุ เป็นต้น แล้วกรมสรรพากรจะทราบได้อย่างไร? เขามีวิธีการตรวจสอบ ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนด้วยกัน ขั้นตอนแรกคือ การตรวจแนะนำด้านภาษี ขั้นตอนต่อมาคือ การเตือนให้ยื่นแบบ ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์และการตรวจสอบแบบแสดงรายการภาษี ขั้นตอนที่ 4 การตรวจปฏิบัติการ และขั้นตอนสุดท้ายคือ การออกหมายเรียก ซึ่งลำดับขั้นความรุนแรงก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับไป แต่เรามีวิธีง่าย ๆ มาแนะนำ เพื่อที่คุณจะไม่โดนภาษีย้อนหลังอย่างแน่นอน
หลาย ๆ คนที่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน คิดว่าตัวเองเงินเดือนไม่ถึงจึงไม่ต้องยื่นภาษี แต่จริง ๆ แล้ว เรามีรายได้เท่าไหร่ก็ต้องยื่นภาษี เพื่อความปลอดภัยเราควรยื่นภาษีทุกปี และต้องตรวจสอบเอกสารรายรับของเราให้ถูกต้องและครบถ้วนก่อนยื่นภาษี ที่สำคัญต้องดูว่ารายรับของเราอยู่ในเงินได้ประเภทไหน และอย่าลืมใช้สิทธิ์การลดหย่อนภาษียิ่งถ้าคุณลงทุนโดยการซื้อกองทุน หน่วยลงทุนต่าง ๆ ไว้ คุณอาจได้เงินคืนภาษีด้วย ถ้ายังไม่แน่ใจลองคำนวณภาษีเบื้องต้น Calculator Tax ก่อนได้ที่นี่
การทำบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน นอกจากช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายของเราแล้ว ยังทำให้เรามีหลักฐานการมีรายได้เพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษีในแต่ละปีได้อีกด้วย บางคนมีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือน ก็ต้องนำมายื่นภาษีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถวางแผนลดหย่อนภาษีแบบเฉลี่ยเป็นรายเดือนได้โดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงปลายปี เป็นการจัดการและบริหารบัญชีแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
3. ติดตามข่าวสารเรื่องภาษี
คุณควรที่จะติดตามข่าวสารเรื่องการยื่นภาษี เพราะแต่ละปีจะมีกฎหมาย หรือเงื่อนไขใหม่ๆ ออกมา ที่อาจเป็นผลประโยชน์ต่อเราในการลดหย่อยภาษี ถ้ามีข้อสงสัยแนะนำให้สอบถามไปยังกรมสรรพากร สามารถเช็กยอดภาษี วิธีการตรวจภาษี การขอลดค่าปรับ หรือการขอเงินเพิ่ม ถ้าจะให้ดีเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรเพื่อความถูกต้องกันเลย //www.rd.go.th/publish/272.0.html
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่า ถ้าเราบังเอิญลืมยื่นภาษีหรือยื่นภาษีล่าช้า จะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง ซึ่งบทลงโทษและค่าปรับจะลดหลั่นกันไปตามความผิด ดังต่อไปนี้
1. ยื่นแบบภาษีทันกำหนด แต่เสียภาษีไม่ครบ มีค่าปรับดังนี้
- เสียเบี้ยปรับ 0.5 - 1 เท่า ของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
2. ไม่ได้ยื่นแบบภาษีภายในกำหนด มีค่าปรับดังนี้
- มีโทษปรับทางอาญาสูงสุด 2,000 บาท
- เสียเบี้ยปรับ 1 - 2 เท่า ของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
3. เจตนาละเลยไม่ยื่นแบบภาษีภายในกำหนดเพื่อเลี่ยงภาษี มีค่าปรับดังนี้
- มีโทษปรับทางอาญาสูงสุด 5,000 บาท จำคุกสูงสุด 6 เดือน
- เสียเบี้ยปรับ 2 เท่าของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
4. หนีภาษี มีค่าปรับดังนี้
- มีโทษปรับทางอาญาตั้งแต่ 2,000 - 200,000 บาท จำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี
- เสียเบี้ยปรับ 2 เท่าของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
เห็นบทลงโทษแล้วก็มีหนาวๆ ร้อนๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะกรณีของการหนีภาษีแบบจงใจ ทั้ง ๆ ที่เรื่องภาษีเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทย แต่พบว่ายังมีคนจำนวนหนึ่งเพิกเฉยและขาดความรู้เรื่องนี้ จึงเป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจและหมั่นศึกษาไปพร้อม ๆ กับการวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำการยื่นภาษีอย่างถูกต้องทุกปี เพราะการโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังคงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอแน่นอน