ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้หากโทรศัพท์มีปัญหาใดก็ตามต่อไปนี้
แก้ปัญหาที่โทรศัพท์
ตรวจหาอัปเดต Android
สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- ที่บริเวณด้านล่าง ให้แตะระบบ การอัปเดตระบบ อาจต้องแตะเกี่ยวกับโทรศัพท์หรือเกี่ยวกับแท็บเล็ตก่อน
- สถานะการอัปเดตจะปรากฏขึ้น ทำตามขั้นตอนในหน้าจอ
ตรวจสอบพื้นที่เก็บข้อมูลและเพิ่มพื้นที่ว่าง
ในโทรศัพท์ส่วนใหญ่ คุณจะตรวจสอบปริมาณพื้นที่เก็บข้อมูลที่เหลืออยู่ได้ในแอปการตั้งค่า แต่การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์อาจเริ่มมีปัญหาเมื่อพื้นที่เก็บข้อมูลเหลือไม่ถึง 10% หากคุณมีพื้นที่เก็บข้อมูลเหลือน้อย โปรดดูวิธีเพิ่มพื้นที่ว่าง
แก้ปัญหาแอปในโทรศัพท์
ตรวจหาอัปเดตแอป
- เปิดแอป Google Play Store
- แตะไอคอนโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
- แตะจัดการแอปและอุปกรณ์
- ในส่วน "มีอัปเดต" ให้เลือกอัปเดตแอปทั้งหมดหรือแอปที่ต้องการ
ปิดแอปที่คุณไม่ใช้
โดยปกติแล้ว คุณบังคับให้แอปหยุดได้โดยใช้แอปการตั้งค่าของโทรศัพท์ การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์.
เคล็ดลับ: จดรายชื่อแอปที่คุณบังคับให้หยุด ซึ่งจะช่วยให้ระบุได้ว่าแอปใดก่อให้เกิดปัญหา
ดูว่าแอปทำให้เกิดปัญหาหรือไม่
รีสตาร์ทในโหมดปลอดภัย
สำคัญ: โหมดปลอดภัยจะปิดแอปทั้งหมดที่ดาวน์โหลดมาไว้ชั่วคราว
การรีสตาร์ทในโหมดปลอดภัยจะแตกต่างกันไปในโทรศัพท์แต่ละรุ่น หากต้องการดูวิธีรีสตาร์ทโทรศัพท์ในโหมดปลอดภัย ไปที่เว็บไซต์การสนับสนุนของผู้ผลิต.
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจดูว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่
ตรวจดูว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่ หากไม่มีปัญหาแล้ว แสดงว่าแอปใดแอปหนึ่งอาจเป็นสาเหตุของปัญหา ไปที่ขั้นตอนต่อไป หากปัญหายังคงอยู่ ให้ข้ามไปที่การแก้ปัญหาขั้นสูง
ขั้นตอนที่ 3: รีสตาร์ทโทรศัพท์ตามปกติและตรวจสอบแอป
- รีสตาร์ทโทรศัพท์
- นำแอปที่ดาวน์โหลดมาล่าสุดออกทีละแอป ดูวิธีลบแอป
- หลังจากที่นำแอปออกในแต่ละครั้ง ให้รีสตาร์ทโทรศัพท์ตามปกติ ดูว่าการนำแอปนั้นออกช่วยแก้ปัญหาหรือไม่
- หลังจากนำแอปที่ก่อให้เกิดปัญหาออกไปแล้ว คุณเพิ่มแอปอื่นๆ ที่นำออกไปกลับเข้ามาใหม่ได้ ดูวิธีติดตั้งแอปอีกครั้ง
การแก้ปัญหาขั้นสูง
นำเคสและแบตเตอรี่สำรองออก
หากคุณใส่เคส ชุดแบตเตอรี่สำรอง หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ กับโทรศัพท์ ให้ลองถอดอุปกรณ์เหล่านั้นออกในระหว่างการแก้ปัญหา
ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสริมภายนอกไม่ได้บังเซ็นเซอร์หรือสัมผัสโดนปุ่มของโทรศัพท์
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- แก้ไขโทรศัพท์ที่ค้างหรือไม่ตอบสนอง
- เพิ่มความเร็วให้โทรศัพท์ที่ช้า
- เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลและหน่วยความจำ
ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม
เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ที่มีหน้าจอเต็มตั้งแต่ iPhone X ขึ้นไป Apple จะมีวิธีการกดปิดเครื่องแบบใหม่ไม่ใช่แค่กดปุ่ม Power ค้างไว้แล้ว เพราะการกดปุ่ม Power ค้างไว้จะเป็นการเรียก Siri ขึ้นมาแทน การปิดเครื่องจริง ๆ จึงต้องใช้การกดปุ่มเพิ่มเสียงค้าง + ปุ่ม Power แทนนั่นเองครับ
สำหรับผู้ใช้ iPhone รุ่นก่อนที่มีปุ่มโฮมอยู่หรือผู้ใช้จากฝั่ง Android ย้ายมาก็อาจจะไม่ชินเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ครับว่าเราสามารถกดปิดเครื่อง iPhone ทุกรุ่นรวมถึง iPad โดยไม่ต้องกดที่ปุ่ม Power ได้ด้วย อะ…ทำตามนี้ได้เลยครับ
วิธีปิดเครื่อง iPhone | iPad โดยไม่ต้องกดปุ่ม Power
- เข้าแอป การตั้งค่า (Settings)
- เลือก ทั่วไป (General)
- จากนั้นเลื่อนลงมาล่างสุดเลือก ปิดเครื่อง (Shut Down)
- เลื่อนเพื่อปิดเครื่องได้เลย
เท่านี้เราก็สามารถปิดเครื่องโดยไม่ต้องกดปุ่ม Power หรือเพิ่มเสียง + Power แล้วครับ ง่ายสำหรับใครที่อยากถนอมปุ่มด้วยครับ
หรือถ้าอยากรีสตาร์ทตัวเครื่องใหม่ ปกติ iPhone จะไม่มีคำสั่งนี้ให้ใช้เราต้องปิดเครื่องก่อนแล้วค่อยเปิดใหม่แทน แต่..ถ้าเราเปิดการใช้งาน AssistiveTouch ไว้จะมีตัวนี้ให้เลือกด้วยครับ ทำตามได้ดังนี้เลย
วิธีเปิด AssistiveTouch บน iPhone | iPad
- เข้าแอป การตั้งค่า (Settings)
- เลือก การช่วยการเข้าถึง (Accessibility)
- เลือก สัมผัส (Touch)
- เลือก AssistiveTouch
- ติ๊กเปิดการใช้งาน AssistiveTouch
- เป็นอันเรียบร้อย
ทีนี้เราก็จะได้ปุ่มผู้ช่วย AssistiveTouch ลอย ๆ บนหน้าจอแล้วครับ ซึ่งในปุ่มนี้จะมีตัวเลือกรีสตาร์ทตัวเครื่องมาให้เราใช้งานด้วย กดใช้งานได้ดังนี้
วิธีรีสตาร์ทเครื่อง iPhone | iPad ผ่านปุ่ม AssistiveTouch
- แตะที่ปุ่ม AssistiveTouch
- เลือก อุปกรณ์ (Device)
- เลือก อื่นๆ (More)
- เลือก เริ่มการทำงานใหม่ (Restart)
เป็นอันเรียบร้อย ทีนี้เราก็สามารถรีสตาร์ทตัวเครื่องได้แบบไม่ต้องกดปิดเครื่องและกดเปิดเองใหม่แล้วครับ
สำหรับใครที่หาวิธีปิดเครื่องหรือรีสตาร์ทบน iPhone และ iPad อยู่ก็ลองทำตามวิธีนี้ดูครับ ใช้งานได้ทั้ง iPhone | iPad รุ่นที่มีปุ่มโฮมและไม่มีเลยด้วย
อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดี ๆ ด้วยนะครับ