นาทีนี้แทบจะไม่มีใคร ไม่ใช้ “Mobile Banking” เพราะทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น แลทำธุรกรรมการเงินได้อย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วของแอปโอนเงินนี่แหละ ที่มักจะทำให้หลายคนอาจจะเผลอ “โอนเงินผิดบัญชี” โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่โอนเงินผิดบัญชีสามารถทวงคืนได้ และหากผู้รับโอนไม่ยอมคืนเงิน มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
วันนี้ TrueID จึงจะมาแนะนำวิธีแก้ไขหากเราเผลอ “โอนเงินผิดบัญชี” จะขอเงินคืนอย่างไร และธนาคารสามารถเอาเงินคืนเราก่อนได้ไหม ไปดูกัน
โอนเงินผิดบัญชี ต้องทำยังไง
1.เก็บ e-Slip เป็นหลักฐาน
2.แจ้งปัญหาไปยังธนาคารต้นทาง
3.ส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ธนาคารร้องขอ
4.ธนาคารดำเนินการตรวจสอบ
- กรณีโอนผิดแต่ธนาคารเดียวกัน ธนาคารจะติดต่อผู้รับโอนผิดโดยตรง
- กรณีโอนผิดต่างธนาคาร ธนาคารจะประสานงานกับธนาคารของผู้รับโอนผิด
5.หากผู้รับโอนยินดีคืนเงิน ธนาคารก็จะดำเนินการโอนเงินจำนวนนั้นคืน
6.หากผู้รับโอนไม่ยอมคืน ผู้โอนจะต้องแจ้งความดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งมีโทษจำคุกตามกฎหมายต่อไป
แจ้งตำรวจได้ เมื่อโอนเงินผิดบัญชี
1.นำเอกสาร ทำรายการ เช่น สลิปการโอน/ใบบันทึกรายการ หรือภาพถ่ายหน้าจอของข้อความแจ้งผลการโอนเงิน , สำเนาบัตรประชาชน (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง) ให้ขีดฆ่า / ปิดทับ , สำเนาเอกสาร บริเวณข้อมูลกรุ๊ปเลือด และ/หรือ ศาสนา
2.แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตำรวจเพื่อขอออก ใบแจ้งความ/บันทึกประจำวันที่ระบุเหตุการณ์
3.กรณีผู้รับโอนไม่ยินยอมคืนเงิน/ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้โอนต้องแจ้งความ ณ สถานีตำรวจ ขอออกเอกสารตราครุฑที่เรียกว่า “หมายเรียกพยานเอกสาร/พยานวัตถุ” (คลิกเพื่อดูตัวอย่าง) เพื่อออกคำสั่งทางกฎหมายให้ธนาคารของผู้รับโอนเงินดำเนินการอายัดบัญชี หรือให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีปลายทางให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
การโอนเงินสามารถทำได้โดยง่าย ผ่านแอปฯ ธนาคาร แต่หากเกิดโอนเงินผิดบัญชีขึ้นมา และผู้รับโอนเพิกเฉย
อีกทั้งนำเงินที่ได้ไปใช้โดยไม่ส่งคืนเจ้าของ ถือว่ามีความผิดความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และธนาคารจะไม่สามารถดึงเงินจากบัญชีผู้รับโอนโดยพลการได้ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้รับโอนปลายทางก่อน
โอนเงินผิดบัญชีแล้วไม่คืน มีความผิด
ปัจจุบันกาวโอนเงินสามารถทำได้ง่าย ผ่านแอปของธนาคารที่เราเป็นลูกค้า การโอนเงินผิดบัญชีจึงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่มีการโอนเงินผิดบัญชีแล้วได้มีการติดต่อให้ผู้ที่รับโอนคืนเงินแล้ว แต่ทางเจ้าของบัญชีผู้รับโอนกลับเพิกเฉย และนำเงินที่ได้มาไปใช้เอง โดยไม่ส่งคืนเจ้าของ ถือว่ามีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตามประมาลกฎหมายอาญา มาตวา 352 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดครอบครองทรัพย์ ซึ่งเป็นของผู้อื่นหรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ..." ความผิดฐานนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เช็กก่อนโอนเงิน
1.จากบัญชีไหน ใช่บัญชีที่จโอนเงินไปรึเปล่า
2.ถึงใคร ใช่คนที่เราจะโอนให้ไหม ถ้าโอนผิดคนวุ่นวายอีกนานกว่าจะได้คืน
3.เท่าไหร่ ใช่จำนวนที่เราจะโอนหรือไม่ อย่าลืมเช๋กว่ามี "0" กี่ตัว เกินหรือขาดไหม
4.มีค่าธรรมเนียมหรือไม่
5.กดยืนยัน หลังจากเช็กข้อ 1-4 ดีแล้ว อย่าลืมเก็บสลิปไว้เป็นหลักฐานด้วย
ข้อมูลจาก ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (ศคง.) , กระทรวงยุติธรรม , SCB
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
หลายคนคงเจอกับโอนเงินผิดบัญชี โอนไปให้ใครไปที่ไหนไม่รู้ การโอนเงินผิดบัญชี ที่พบบ่อยคือ ใส่เลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง เช่น ตัวเลขสลับกัน ตัวเลขใกล้เคียงกัน หรืออาจเกิดจากการใส่เลขบัญชีผิดช่องระหว่างช่องโอนเงินผ่านเลขบัญชีกับช่องโอนเงินผ่านหมายเลขพร้อมเพย์ หรือใส่เลขที่บัญชีถูก แต่เลือกธนาคารที่จะโอนผิด รวมถึงความรีบร้อนในการทำรายการจนลืมตรวจสอบชื่อบัญชีปลายทางก่อนกดโอน
เมื่อโอนเงินผิดบัญชี หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ติดต่อใครดี ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ธนาคารจะไม่สามารถโอนเงินคืนให้แก่ผู้โอนเงินผิด หากเจ้าของบัญชีปลายทางไม่ยินยอม เพราะธนาคารไม่มีสิทธิ์ในการดึงเงินออกจากบัญชีโดยพลการ แต่ธนาคารจะเป็นตัวกลางช่วยประสานงานขอคืนเงินให้เท่านั้น
อ้างอิงจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)มีขั้นตอนการดำเนินการเมื่อโอนเงินผิด ไว้ดังนี้
1.นำเอกสารดังต่อไปนี้ไปติดต่อสถานีตำรวจ
-เอกสารการทำรายการ เช่น สลิปการโอน/ใบบันทึกรายการ หรือภาพถ่ายหน้าจอของข้อความแจ้งผลการโอนเงิน
-สำเนาบัตรประชาชน (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
ให้ขีดฆ่า / ปิดทับ สำเนาเอกสาร บริเวณข้อมูลกรุ๊ปเลือด และ/หรือ ศาสนา
2.แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตำรวจเพื่อขอออก ใบแจ้งความ/บันทึกประจำวันที่ระบุเหตุการณ์ โดยระบุข้อมูลในเอกสารดังนี้
-ชื่อธนาคารที่ทำรายการ ทั้งฝั่งต้นทางและปลายทาง
-วันที่และเวลาที่ทำรายการ
-จำนวนเงินที่โอน
-ช่องทางการโอนเงิน เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (ATM / CDM / VTM), Mobile Banking, Internet Banking
-ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี ของผู้ทำรายการโอน (บัญชีต้นทาง)
-ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี ของผู้ที่ได้รับเงินผิด (บัญชีปลายทางที่โอนผิด)
-ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี / หมายเลขพร้อมเพย์ ของปลายทางที่ต้องการโอนที่ถูกต้อง
3.นำส่งหลักฐานให้แก่ธนาคารที่ใช้ในการโอนเงิน
4.เมื่อธนาคารได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว ธนาคารจะช่วยประสานงานกับปลายทางที่เป็นผู้รับโอนเงินผิด/ธนาคารปลายทางที่รับโอนเงินผิด
5.ธนาคารแจ้งผลการดำเนินการ
-กรณีผู้รับโอนยินยอมคืนเงิน : ธนาคารจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีผู้โอนให้
-กรณีผู้รับโอนไม่ยินยอมคืนเงิน/ไม่สามารถติดต่อได้ : ผู้โอนต้องแจ้งความ ณ สถานีตำรวจ ขอออกเอกสารตราครุฑที่เรียกว่า “หมายเรียกพยานเอกสาร/พยานวัตถุ” เพื่อออกคำสั่งทางกฎหมายให้ธนาคารของผู้รับโอนเงินดำเนินการอายัดบัญชี หรือให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีปลายทางให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
สุดท้ายต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่า ก่อนกดยืนยันโอนเงินทุกครั้งจะต้องมีสติ โดยต้องสังเกตเวลาก่อนกดยืนยันการโอน ต้องตรวจสอบหมายเลขบัญชีหรือหมายเลขพร้อมเพย์ ชื่อบัญชี ชื่อธนาคาร และจำนวนเงินที่ต้องการโอนให้ถูกต้องทุกครั้ง ก่อนกดยืนยันเพื่อทำรายการทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด จะได้ไม่เสียเวลา วุ่นวาย ยุ่งยาก!
Business Today//businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)