เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาของคนส่วนใหญ่ คือ ผิวไม่กระชับ แก้มและเหนียงหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หางตาตก จะทำอย่างไรให้กลับมายกตึงเปรี๊ยะเหมือนสมัยวัยรุ่น พอหาข้อมูล แนะนำให้ทำ thermage บางข้อมูลแนะนำ ulthera ซึ่งทั้ง 2 เครื่อง ช่วยยกกระชับผิว และผ่านการรับรองมาตรฐานจาก สหรัฐอเมริกา US FDA ทั้งคู่
แล้วเทคโนโลยีแบบไหนที่ดีและเหมาะกับใบหน้าเรา แตกต่างกันอย่างไร วันนี้หมอขอสรุปสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้นนะคะ
Thermage : ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง แบบขั้วเดียว (Monopolar RF)
Ulthera : ใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูง แบบเฉพาะเจาะจง (High Intensity Focused Ultrasound)
2. วิธีการทำงานของ Thermage และ Ulthera
Thermage :
คลื่นวิทยุความถี่สูง จะส่งผ่านพลังงานความร้อนลักษณะเป็น column ลงใน 3 ชั้นผิว คือ Epidermis ชั้นหนังกำพร้า , Dermis หนังแท้ และ subcutaneous fat ชั้นไขมัน ลึกถึง 4.3 มม. ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เกลียวเส้นใยคอลลาเจนแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวหน้าแน่นขึ้น(tightening) ลดvolume ของผิวหนัง และ ไขมันบนใบหน้า ชั้นไขมันบางลง กรอบหน้าชัดขึ้น
Ulthera :
คลื่นอัลตราซาวด์ มีความแม่นยำ โดยยิงลักษณะเป็นจุดเล็กๆถี่ๆ ลึก 4.5 มม. ถึงชั้น SMAS (superficial muscular aponeurotic system) ซึ่งเป็นแผ่นเนื้อเยื่อพังผืด มีความเหนียว และหนา อยู่บริเวณใต้ชั้นไขมันผิวหนัง เป็นชั้นเดียวกับที่หมอศัลยกรรมผ่าตัดใช้ดึงหน้า เกิดการบีบหดตัวของชั้น SMAS ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ยกขึ้น(lifting) กระชับขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
บทความเพิ่มเติม ทำ Thermage or Ulthera ควรเลือกอันไหนดี
3. Thermage กับ Ulthera เหมาะกับใคร รูปหน้าแบบไหน
Thermage : เหมาะกับ
คนที่มีชั้นไขมันหนาและขาดการกระชับ ผิวย้วย มีแก้มเยอะ หย่อนตามแนวขอบกราม มีไขมันบริเวณเหนียง หย่อนคล้อย คาง2ชั้น ส่วนตำแหน่งอื่น สามารถทำบริเวณ หน้าท้องที่หย่อนคล้อย ต้นขา ต้นแขน สะโพก เพื่อให้กระชับแน่นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้นได้ , thermage ราคาแพงมั้ย มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง >> //thecloverskinclinic.com/tips-thermage-flx/
Ulthera : เหมาะกับ
คนที่ไขมันน้อย มีเนื้อแก้มน้อย แต่หย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ตึงขึ้น คนที่มีปัญหา หนังตาตก หางตาตก คิ้วตก หลังทำช่วย ในการยกคิ้ว ยกหนังตาเห็นผลได้ดี , ulthera ราคาแพงมั้ย มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง >> //thecloverskinclinic.com/tips-ulthera/
4. Thermage กับ Ulthera ความรู้สึกขณะทำเป็นอย่างไร
- Thermage : จะรู้สึกอุ่นๆ จนไปถึงร้อน เพราะมีการสะสมพลังงานใต้ผิวถึง 40 องศา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลังทำสีผิวอาจอมชมพูเล็กน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- Ulthera : จะรู้สึกหน่วงๆผิว เหมือนมีอะไรดีดๆ ในผิว ความเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพลังงานที่ได้รับ และการตอบสนองของแต่ละบุคคล หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้นเช่นกันคะ
5. หลังทำเห็นผลเมื่อไหร่ อยู่ได้นานแค่ไหน
ทั้ง Thermage และ Ulthera หลังทำ เห็นผลทันทีประมาณ 20% และจะค่อยๆเห็นผลชัดขึ้น เมื่อระยะเวลาผ่านไป 2-3 เดือน และคงผลลัพธ์ไว้ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับ สภาพผิว อายุ และการดูแลผิวของแต่ละคน
โดยปกติ หมอจะแนะนำ ให้ทำต่อเนื่องปีละครั้ง เพื่อรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์ยาวนาน ถือว่าเป็นการลงทุนให้กับตัวเองอย่างคุ้มค่าเลยนะคะ
ดังนั้นทั้ง Thermage และ Ulthera ก็ มีข้อดีที่แตกต่างกัน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ตรวจวินิจฉัย และให้คำแนะนำว่าควรทำอะไรดี หรือทำทั้ง 2 อย่างเลยก็ได้ ช่วยทั้ง กระชับหน้าแน่น และผิวยกขึ้นด้วย เห็นผลชัดเจนอย่างแน่นอนคะ
บทความเพิ่มเติม ฉีดโบ / ร้อยไหม / hifu / ulthera / thermage แบบไหนถึงเหมาะกับตัวเรา