- วิธีวัดขนาดหน้าอกกับชุดว่ายน้ำที่ถูกต้อง
- วิธีการดูแลรักษา และ การทำความสะอาดชุดว่ายน้ำ
- เทคนิคเลือกชุดว่ายน้ำสำหรับสาวอวบ
เทคนิคเลือก ชุดว่ายน้ำ สำหรับสาวอวบ
เทคนิคง่ายๆ “เน้นสีเข้ม ลายเล็ก อวดจุดเด่น พรางจุดด้อย”
นั่นก็คือ ควรพรางความอวบช่วงคอ และความอิ่มของลำตัวให้เพรียวบางลง เบี่ยงเบนไปสร้างมุมมองของร่างกายส่วนบนให้ดูเพรียวและยาวขึ้น โดยล่อสายตาของฝ่ายตรงข้ามให้ไปหยุดอยู่ที่ช่วงเรียวขาที่สะท้านใจคู่นั้นให้ได้ เน้นสีเข้มเป็นหลักเพื่อลวงสายตา หรือไม่ก็เน้นลายผ้าแบบเล็กๆ สะกดจิตให้ต้องมนต์ ในความเซ็กซี่
ชุดว่ายน้ำที่เหมาะกับสาวอ้วน ตุ้ยนุ้ย
ควรจะเป็นชุดวันพีช ที่ต้องรัดกุมสักหน่อย เพราะส่วนเกินของร่างกายโดยเฉพาะช่วงกลางลำตัว การเลือกคอวี จะช่วยให้ความรู้สึกว่าช่วงบนเรียวขึ้นและเลือกชุดที่มีลวดลายแนวยาวหรือทะแยง จะช่วยทำให้ลำตัวดูบางลง หรือจะเป็นแบบกระโปรงคลุมทับตัวนอก จะให้เหมาะควรเลือกชุดที่มีเสริมยางยืดเพื่อกระชับบริเวณหน้าท้อง
Big Zommer ขอแนะนำำเพียงบางส่วนนะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้ชุดว่ายน้ำสำหรับคนอ้วนมีแบบให้เลือกเยอะมากมาย
1. สาวสะโพกดินระเบิด
คือกลุ่มผู้หญิงอ้วนที่มีสะโพกใหญ่เด่นมาแต่ไกล รูปร่างคุณจะดูเหมือนช่วงบนเล็ก ช่วงท่อนล่างใหญ่ แนะนำให้เลือกชุดว่ายน้ำที่เน้นสีสันและรายละเอียดบริเวณอกมากหน่อย
ส่วนท่อนล่างของชุดว่ายน้ำก็ปล่อยให้เป็นสีโทนเข้มไป
จะได้ดึงความสนใจไปที่ช่วงบนมากกว่าท่อนล่าง หรือจะเลือกเป็น ชุดคอวี ลายทาง หรือจะเป็นชุดแบบเกาะอก
ก็ช่วยทำให้ท่อนบนกับท่อนล่างได้สมดุลดี แต่หากเจอสาวมั่น อยากใส่แบบสองชิ้น หรือชุดว่ายน้ำแบบทูพีซ ก็ควรเลือกกางเกงเอวสูงและขาเว้า คุณจะดูเพรียวยาวขึ้นมาเลยทีเดียว
2. สาวอกโต
คนอ้วนที่มีหน้าอกใหญ่ ควรเลือกชุดว่ายน้ำไซส์พิเศษที่มีโครงรองรับทรวงอก หรือชุดว่ายน้ำที่มีสายคล้องคอจะช่วยพรางหน้าอกของคุณให้เล็กลง อาจจะเสริมระบายต่อใต้อก
เพื่อดึงความสนใจไปที่ส่วนอื่น หรือจะเลือกชุดว่ายน้ำแบบคอเหลี่ยมหรือชุดว่ายน้ำแบบสายไขว้หรือไม่ก็เลือกชุดว่ายน้ำที่มีท่อนบนเป็นสีเข้ม
ส่วนท่อนล่างสีสว่าง ข้อควรจำ พยายามหลีกเลี่ยงชุดมีเข็มขัด เพราะอาจจะทำให้คุณดูทึบตัน
3. สาวที่มีช่วงไหล่กว้าง
ควรเลือกชุดว่ายน้ำคอวี หรือประเภทคอกว้านลึก พยายามเลือกลายทาง ลายทแยง หรือลายซิกแซก
เพื่อให้ช่วงตัวดูยาวขึ้น ส่วนสายของชุดว่ายน้ำก็ควรเลือกแบบที่เป็นแถบซึ่งมีความหนาหน่อย ไม่ใช่สายเดี่ยว ไหล่ของคุณจะได้แคบเข้า แค่นี้ก็พรางช่วงบนได้แล้วค่ะ
4. คนอ้วนที่มีหน้าท้องใหญ่
ส่วนใหญ่เรื่องหน้าท้องเป็นปัญหาร้อยทั้งร้อยของคนอ้วน คนที่มีหน้าท้อง คุณควรเลือกชุดว่ายน้ำคอวี
จะกระชับรับกับรูปร่างดี พยายามเลือกชุดว่ายน้ำลายทาง หรือชุดลายซิกแซก เพิ่มรายละเอียดที่ท่อนบนเสียหน่อย เพื่อดึงดูดความสนใจไปช่วงบนมากกว่า
ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำแบบวันพีซก็อาจเลือกแบบที่ท่อนบนเป็นสีอ่อนแล้วค่อยๆเพิ่มความเข้มตรงท่อนล่าง หรืออาจจะเลือกแบบชุดว่ายน้ำมีลายทั้งตัว ก็ช่วยพรางสายตาได้ดี
5. สาว ๆ
ที่มีช่วงตัวยาวหรือสั้นเกินไป
ควรเลือกใส่ชุดว่ายน้ำแบบสองชิ้น ที่ชิ้นบนเป็นเหมือนเสื้อสายเดี่ยว รอยต่อที่พอเหมาะระหว่างเสื้อกับกางเกงจะช่วยให้รูปร่างคุณได้สัดส่วนขึ้น
สำหรับสาวที่มีช่วงตัวยาวเกิน ให้เลี่ยงชุดว่ายน้ำที่จะทำให้ช่วงขายาวเสมอกัน ไม่เว้าเพราะจะยิ่งทำให้ตัวคุณดูยาวขึ้นอีก
ส่วนสาวตัวสั้น ก็จงพยายามเลี่ยงกางเกงบิกินี่เอวสูงเพราะจะยิ่งเน้นให้เห็นว่าคุณตัวสั้น
6. เลือกชุดว่ายน้ำคนอ้วน ที่มีซับเต้า
จำเป็นมากเลยนะคะ สำหรับสาวไซส์ใหญ่อย่างเรา เพราะซับเต้าจะช่วยพรางส่วนที่ไม่ควรเห็นในเวลาเปียกน้ำได้เป็นอย่างดีจ้า
7. ชุดว่ายน้ำคนอ้วนสีเข้ม
สีเข้มช่วยได้มากในการพรางตาให้ดูตัวเล็กลง และพรางสัดส่วนที่เราไม่อยากให้ใครเห็นได้เป็นอย่างดี โดยสามารถเลือกสีเข้มที่มีแต่งลวดลายสีสดบางส่วน เพื่อให้ดูสดใสได้จ๊ะ
8. ชุดว่ายน้ำคนอ้วนแบบกระโปรง
ชุดว่ายน้ำคนอ้วนที่เป็นทรงกระโปรง จะช่วยพรางสะโพกและต้นขาของคุณได้เป็นอย่างดี ดีกว่าชุดว่ายน้ำแบบกางเกงที่จะเน้นให้เห็นสัดส่วนของคุณชัดเจน แต่เลือกแบบกระโปรงแล้วอย่าลืมเลือกให้มีซับกางเกงข้างในด้วยนะคะ จะได้ไม่โป๊จ้า
9. ชุดว่ายน้ำคนอ้วนแยกชิ้น
ชุดว่ายน้ำคนอ้วนเก๋ ๆ แบบที่แยกเป็น 2 ชิ้นก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะการ
แบ่งส่วนออกเป็น 2 ท่อนนั้นจะทำให้เราดูมีช่วงตัวที่บางลงได้ และช่วยพรางหน้า
ท้องได้ด้วยค่ะ
วิธีำวัดขนาดหน้าอกกับชุดว่ายน้ำที่ถูกต้อง
1. วัดรอบตัว การวัดรอบตัวทำได้ 2 วิธี ซึ่งควรจะวัดทั้ง 2 แบบแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน ถ้าวัดถูกต้อง จะได้ค่าที่เท่ากัน
แบบที่ 1 ใช้สายวัด วัดรอบตัวเหนือหน้าอกของเรา รอดใต้แขนวัดเป็นนิ้ว หากได้เลขคี่ ให้ปัดขึ้นเป็นเลขคู่ค่ะ เช่น 31 นิ้ว ปัดเป็น 32 นิ้ว หากได้เลขที่คู่ ก็ใช้เลขนั้นได้เลยค่ะ เช่น วัดได้ 32 ลำตัวของเราก็คือ 32 ค่ะ
แบบที่ 2 ใช้สายวัด วัดรอบลำตัว ใต้หน้าอก วัดได้เท่าไหร่ บวกเพิ่มเข้าไปอีก 5 นิ้วนะคะ เช่น หากวัดได้ 27 นิ้ว บวกเพิ่มอีก 5 ค่าลำตัวของเราก้อคือ 32 ถ้าบวกออกได้เลขคี่ ให้ปัดขึ้นเป็นเลขคู่นะคะ
*การวัดค่าลำตัว ควรวัดแบบแนบๆ แน่นๆ ติดลำตัว ไม่ต้องหายใจเข้าให้พองๆ แล้ววัดเดียวจะค่าผิดไปนะคะ
2. วัดรอบอก การวัดรอบอกนะคะ ให้เราใช้สายวัดวัดรอบจุดที่ยื่นออกมามากที่สุดของหน้าอก แต่คราวนี้ให้วัดหลามๆ หายใจปกติ วัดเป็นนิ้วค่ะ
3. วัดขนาดเต้า หรือ Cup ด้วยการนำ รอบอก(นิ้ว) - รอบลำตัว(นิ้ว) หรือนำผลที่ได้จากข้อ 2 หักลบด้วยผลที่ได้จากข้อ 1 ผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็นค่า CUP ของเสื้อใน A B C D ตามตารางค่ะ
ผลต่าง (นิ้ว / inch) CUP
1. นิ้ว หรือน้อยกว่า A
2. นิ้ว B
3. นิ้ว C
4. นิ้ว D
ตัวอย่าง รอบอก 33 นิ้ว นะคะ เอามาลบ 32 นิ้ว ขนาดคัพ A เวลาไปซื้อชุดชั้นใน = 32/A เสื้อชั้นในบางยี่ห้อ ใช้เลขลำตัวหน่วยเป็นเซ็นติเมตร ลองเทียบค่าลำตัวจากนิ้วเป็น ซ.ม. ได้จากตารางด้านล่างนี้เลยค่ะ
นิ้ว เซ็นติเมตร
30 65
32 70
34 75
36 80
38 85
ไซส์ B70 รอบอกจะอยู่ที่ 70-83 cm. ไซส์ B75 รอบอกจะอยู่ที่ 75-88 cm. ไซส์ C70 รอบอกจะอยู่ที่ 70-85 cm. ไซส์ C75 รอบอกจะอยู่ที่ 75-90 cm. ไซส์ D70 รอบอกจะอยู่ที่ 70-88 cm. ไซส์ D75 รอบอกจะอยู่ที่ 75-93 cm. ไซส์ E70 รอบอกจะอยู่ที่ 70-90 cm. ไซส์ E75 รอบอกจะอยู่ที่ 75-95 cm.
วิธีการวัดนี้เป็นวิธีแบบสากลนะคะ เขาใช้วัดขนาดของชุดชั้นในกัน แต่ก้อพบว่ามีผู้หญิงหลายคนวัดแล้วไม่ค่าคัพตรงกับไซส์ชุดชั้นในที่ตนเองใส่อยู่จริงๆ เช่นปกติใส่คัพ C แต่พอลองวัดกับวิธีนี้ ต้องกลายเป็นใส่ คัพ A สัดส่วนของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง และเสื้อชั้นในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Push-Up Bra หรือ บราดันทรงที่มีโครงลวด มีแผ่นฟองน้ำเสริมทรง มีแผ่นดันทรงวางไว้ใต้หน้าอกอีกที ทำให้ผู้หญิงมักจะต้องใส่เสื้อชันในขนาดคัพใหญ่กว่าปกติ 1 ไซส์ เนื่องจากมีอุปกรณ์Support เหล่านี้เข้ามาช่วยเสริมให้อกดูอวบอิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ ฉะนั้นถ้าหากขนาดคัพที่ได้ไม่กับที่ใส่อยู่จริง เราก้อควรใช้ค่าลำตัว ไปใช้ซื้อชุดชั้นในหรือชุดว่ายส่วนจะใส่ไซส์ใด หรือ คัพใด ก้อคงต้องไปลองกันเองนะคะ
4. ขนาดคัพเท่ากัน ขนาดลำตัวแตกต่างกัน ควรเลือกใส่ตามความเหมาะสม และสามารถยืดหยุ่นได้ค่ะ
ส่วนใหญ่ชุดชั้นในหรือ ชุดว่ายน้ำ มีขายหลากหลายยี่ห้อนะคะ แต่ละยี่ห้อ ก้อมีรูปแบบ และสไตส์ที่แตกต่างกันไป จึงไม่แปลกถ้าเราใส่ชุดยี่ห้อหนึ่งขนาด 34/75 แต่เมื่อไปซื้ออีกยี่ห้อ กลับใส่ 36/80 A แล้วพอดีกว่า เพราะขนาดเต้า/ cup ของเสื้อในขนาด 36/80 A ใหญ่เท่ากับชุดชั้นในขนาด 34/75B และยังเท่ากัน 32/70 C อีกด้วย ขนาดคัพเท่ากัน แต่ขนาดลำตัวต่างกันขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของตัวเนื้อผ้า และรูปทรงการตัดเย็บของแต่ละยี่ห้อ ดังนั้นการซื้อเสื้อผ้าชุดชั้นใน หรือชุดว่ายน้ำ อย่าไปยึดติดกับไซส์เดิมๆ สำคัญที่ใส่คัพของเสื้อในต้องแนบสนิทกับเนื้อหน้าอกของเรา ไม่เหลือช่องว่าง ถ้าเหลือแสดงว่าคัพใหญ่ไป แต่ก้อไม่เล็กแน่นจนล้น (ยกเว้นจงใจนะคะ) ส่วนขนาดลำตัวสามแล้วควรพอดี ไม่แน่นจนรู้สึกอึดอัด และถ้าลองยกแขนทั้งสองขึ้นบิดซ้ายบิดขวา แถบลำตัวชุดว่ายน้ำต้องไม่ถลนขึ้นมา
ตารางเปรียบเทียบขนาดคัพ (ปริมาตร) ที่เท่ากัน แต่ลำตัวต่างกัน
(ดูตามแนวดิ่ง)
32/70A 34/75A 36/80A 38/85A 38/85B
30/65B 32/70B 34/75B 36/80B 36/80C
30/65C 32/70C 34/75C 34/75D
5. ขนาดหน้าอกเราเปลี่ยนแปลงได้ ตามน้ำหนัก และฮอร์โมน เช่น ถ้าหากน้ำหนักขึ้น หน้าอกก้อใหญ่ขึน เช่นเดียวกับน้ำหนักลง หน้าอกก้อเล็กลงไปด้วยเช่นกัน จะมากหรือน้อยแล้วแต่คน นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงก้มีผลต่อขนาดของหน้าอกด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ผู้หญิงหลายๆ คน จะตึงคัดเต้านม หรือเจ็บหน้าอกและขนาดหน้าอกขยายขึ้นเล็กน้อยช่วงก่อนมีประจำเดือน ช่วงมีประจำเดือน รวมถึงช่วงตั้งครรภ์ด้วย สำหรับกรณีที่เจ็บและคัดหน้าอกมาก และหน้าอกขยายค่อนข้างมากในช่วงเวลาดังกล่าว อาจหาซื้อชุดว่ายน้ำ ในขนาดที่คัพใหญ่ขึ้น เพื่อใส่ในช่วงวันนั้นๆ เพื่อความสบายตัว ไม่จำเป็นต้องยึดติดว่าคุณจะต้องใส่ชุดว่ายน้ำในขนาดเดิมหรือขนาดเดียวไปตลอดค่ะ
6. ควรมีการวัดขนาดหน้าอกตนเอง ทุกๆ 1-2 ปี และ/หรือ คอยเฝ้าสังเกตว่ารู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวเวลาสวมใส่ชุดชั้นในหรือชุดว่ายน้ำหรือไม่ เพราะอาจเป็นสัญญาณบอกให้น้องๆ ต้องเปลี่ยนขนาด เปลี่ยนแบบ หรือจำเป็นต้องซื้อชิ้นใหม่ซะแล้วค่ะ
****************************
วิธีการดูแลรักษา และ การทำความสะอาดชุดว่ายน้ำ
วิธีการดูแลรักษาชุดว่ายน้ำ ที่เราอยากจะแนะนำจริงๆ ก็คือ
การซักมือด้วยน้ำเปล่าธรรมดา ๆ ก็พอค่ะ
ไม่ต้องขยี้ ไม่ต้องลงแปรง ไม่ต้องบิดแห้ง ไม่ต้องถอด pad หรือฟองน้ำเสริมออก
จากนั้น แขวนตากไว้ในที่ร่ม ก็เพียงพอแล้วค่ะ
ไม่แนะนำให้ใช้เครื่องซักผ้า เพราะดูจะรุนแรงเกินไปสำหรับชุดว่ายน้ำของเรานะคะ
ส่วนผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาซักแห้ง หรือ " bleach" ชนิดต่างๆ ล้วนไม่จำเป็น
ไม่เป็นผลดีกับยางยืดด้านใน ของชุดว่ายน้ำเลยค่ะ
ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ใช้สบู่แทนนะคะ ล้างน้ำเยอะ ๆ ตากในที่ร่มที่มีลมโกรก
แห้งเรียบร้อยแล้ว ก็เก็บพับใส่ถุงไว้ พร้อมใช้งานได้ในครั้งต่อไป
ถ้าดูแลอย่างนี้ อายุการใช้งานของชุดว่ายน้ำจะยาวนานมาก
จนลืมไปเลยแหล่ะว่า ซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่