18,038 views
"เคล็ดไม่ลับ! วิธีการรักษา Power Bank ให้มีอายุยืน" | |
วันนี้เรามาดูวิธีการทำให้ Power Bank สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่เสื่อมเร็วหรือพังไวกว่ากำหนด 1. เนื่องจากปัจจุบันแบตเตอรี่ภายใน Power Bank เป็น Li-on จึงไม่ควรใช้ให้แบตเตอรี่หมดแล้วค่อยชาร์จ เพราะว่า การที่มีแรงดันเหลือน้อย จะทำให้สารในแบตเตอรี่ที่มีฤทธิ์เป็นกรดทำงาน ซึ่งจะทำให้แบตเตอรรี่มีอายุการใช้งานที่สั้นลง ควรให้เหลือไม่น้อยกว่า 20% (Power Bank ไฟแสดงสถานะ 1 -2 ดวง) ก็สามารถเริ่มนำไปรีชาร์ตไฟบ้านได้แล้วครับ 2. หากเหลือเยอะ แล้วไปชาร์จแบตเสื่อมไหม สามารถชาร์จได้เลยครับ แต่หากเต็มแล้วควรถอดออก เพราะใน อุปกรณ์ทั่วๆ ไป ไม่มีรุ่นไหนที่ตัดไฟเวลาแบตเต็มจริงๆ ซึ่งระบบส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เพียงแค่หยุดชาร์จ พอเวลาผ่านไปแบตก็จะถูกใช้ไปเองเพราะเมื่อเรายังเปิดเครื่องอยู่ตลอดเวลาก็จะเหมือนกับว่าเราใช้งานเครื่องเราอยู่ ซึ่งจะทำให้เหมือนกับเป็นการชาร์จอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น 3. ไม่ควรเสียชาร์จไฟไป เล่นไปด้วย เพราะการคุยไป ชาร์จไป จะเกิดความร้อนสูงกว่าการคุยปกติอย่างเดียว ความร้อนก็เป็นเหตุให้แบตเสื่อมได้โดยง่าย 4.ใช้ที่ชาร์จให้เหมาะสมหรือใช้ตัวที่มีกำลังโวลท์/แอมป์ที่เหมาะสมกับ Power Bank (ใช้ตัวที่แถมมากับเครื่องนั่นแหละ อย่าไปซื้อของก๊อบของปลอมมาใช้ ถ้าไม่จำเป็นจริง) 5. ไม่ควรเก็บ แบตสำรองไว้ในที่ร้อน เช่น การเก็บไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดด เพราะความร้อนจะทำให้แบตเสื่อมเร็วครับซึ่งทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น 6. ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บแบตไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ได้ใช้งาน ให้ชาร์ตไฟไว้ที่ประมาณ 40% ของความจุ แล้วเก็บไว้ในที่เย็นๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ 7. ไม่ควรทำแบตตก หรือ กระทบกระแทกแรงๆ นะครับ เพราะภายในอาจเสียหาย และอาจมีผลทำให้สารประกอบภายในรั่วไหล ทำให้ไม่ปลอดภัยกับการใช้งาน | |
สอบถามรายละเอียดที่ | |
คุณอาจสนใจ
เวลาไปไหนมาไหนแล้วพกพาวเวอร์แบงค์ ก็สะดวกสุดๆ ไปเลย โดยเฉพาะตอนต้องอยู่ข้างนอกนานๆ หาปลั๊กเสียบชาร์จมือถือและอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ได้ ถ้ามีพาวเวอร์แบงค์อยู่ ก็แน่ใจได้ว่าแบตไม่หมดกลางคันแน่นอน แต่จะชาร์จแบตอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ตอนอยู่นอกบ้านได้ ตัวพาวเวอร์แบงค์ก็ต้องชาร์จให้เต็มซะก่อน คุณชาร์จพาวเวอร์แบงค์ได้ง่ายๆ โดยเสียบกับแล็ปท็อปหรือปลั๊กไฟที่ผนัง พอชาร์จพาวเวอร์แบงค์เต็มแล้ว ก็ถอดไปใช้งานได้เลย
-
1
เช็คไฟ LED ว่าพาวเวอร์แบงค์ต้องชาร์จหรือเปล่า. ถึงคุณจะชาร์จพาวเวอร์แบงค์ได้ตลอดเวลา แต่ถ้าชาร์จพร่ำเพรื่อ ก็อาจทำให้พาวเวอร์แบงค์อายุการใช้งานสั้นลงได้ โดยพาวเวอร์แบงค์ส่วนใหญ่จะมีไฟ LED 4 ดวงที่ด้านข้าง ถ้าแบตใกล้หมด ไฟจะดับไป ให้รอจนไฟ LED ข้างๆ เหลือ 1 - 2 ดวงค่อยชาร์จ[1]
-
2
ถ้าเป็นไปได้ให้ชาร์จพาวเวอร์แบงค์โดยเสียบปลั๊กไฟที่ผนัง. ปกติพาวเวอร์แบงค์จะมาพร้อมสาย USB และ adapter เสียบปลั๊ก ให้เสียบสาย USB ด้านที่หัวใหญ่ กับ adapter ที่ต้องเอาไปเสียบปลั๊ก จากนั้นเสียบหัวเล็กที่พาวเวอร์แบงค์ แล้วชาร์จทิ้งไว้
-
3
เสียบชาร์จพาวเวอร์แบงค์ที่คอมหรือแล็ปท็อปแทนก็ได้. คอมหรือแล็ปท็อปก็ใช้ชาร์จพาวเวอร์แบงค์ได้ โดยเสียบสาย USB ที่พาวเวอร์แบงค์ แล้วเสียบหัวที่ใหญ่กว่าของสาย USB ที่พอร์ท USB ของคอมหรือแล็ปท็อป
- แต่ข้อเสียคือเวลาเสียบชาร์จกับกับคอม จะเต็มช้ากว่าเสียบปลั๊กไฟที่ผนัง
โฆษณา
-
1
อ่านคู่มือของยี่ห้อพาวเวอร์แบงค์ ว่าต้องชาร์จนานแค่ไหน. อย่าเสียบชาร์จพาวเวอร์แบงค์ทิ้งไว้นานเกินไป ปกติในคู่มือของพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อและรุ่นที่ใช้ จะมีบอกไว้ว่าให้ชาร์จไว้นานแค่ไหนโดยประมาณ โดยพาวเวอร์แบงค์ส่วนใหญ่จะชาร์จเสร็จใน 1 - 2 ชั่วโมง[2]
-
2
ชาร์จเสร็จให้ถอดสายชาร์จทันที. เช็คเรื่อยๆ ว่าชาร์จเสร็จหรือยัง พอไฟ LED กลับมาติดครบเหมือนเดิม ก็ให้ถอดสายชาร์จได้เลย ระหว่างชาร์จ ไฟที่พาวเวอร์แบงค์จะติดๆ ดับๆ จนกว่าจะชาร์จเสร็จ หลังจากนั้นไฟจะติดค้าง[3]
- ถ้าไฟ LED เสีย ให้ถอดสายชาร์จหลังชาร์จครบตามเวลาที่ยี่ห้อแนะนำ
-
3
เช็คว่าเสียบชาร์จพาวเวอร์แบงค์ถูกต้องแล้ว. พอชาร์จพาวเวอร์แบงค์แล้ว ให้เสียบต่อหนึ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ากับพาวเวอร์แบงค์ด้วยสาย USB ถ้าชาร์จพาวเวอร์แบงค์ถูกวิธีแล้ว ก็จะเริ่มชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นได้ทันที[4]
- ถ้าชาร์จไม่เข้า ลองเสียบปลั๊กอื่นแทน ถ้ายังชาร์จพาวเวอร์แบงค์ไม่ได้อีก แสดงว่าพาวเวอร์แบงค์น่าจะเสีย ให้ติดต่อผู้ผลิต ว่าจะแก้ไขยังไงได้บ้าง
โฆษณา
-
1
แนะนำว่าเวลาชาร์จให้เสียบปลั๊กไฟที่ผนัง. พูดง่ายๆ คือไฟของปลั๊กที่ผนังจะแรงกว่าจากคอมหรือแล็ปท็อป เสียบชาร์จแล้วเลยเต็มเร็วกว่า ถ้าทำได้ก็ให้เสียบชาร์จที่ปลั๊ก เว้นแต่ต้องเสียบผ่านคอมหรือแล็ปท็อปเท่านั้นจริงๆ[5]
-
2
ใช้สายชาร์จที่ติดมากับพาวเวอร์แบงค์เท่านั้น. ปกติซื้อพาวเวอร์แบงค์แล้วจะมีสายชาร์จมาด้วยกัน โดยมีพอร์ท USB และ adapter ไว้เสียบปลั๊กไฟ อย่าพยายามใช้สายชาร์จอื่นที่ไม่ได้เอาไว้ใช้ชาร์จพาวเวอร์แบงค์นั้นโดยเฉพาะ
-
3
ระวังอย่าชาร์จพาวเวอร์แบงค์นานเกินไป. อย่าเสียบชาร์จพาวเวอร์แบงค์ทิ้งไว้นานเกินไป การชาร์จพาวเวอร์แบงค์ทิ้งไว้หลายชั่วโมง จะทำให้พาวเวอร์แบงค์เสื่อมเร็วขึ้น ให้ชาร์จพาวเวอร์แบงค์ไว้จนไฟ LED ติดนิ่งเท่านั้น หลังจากนั้นก็ถอดออกได้เลย[6]
-
4
ชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กับพาวเวอร์แบงค์พร้อมกัน. ระหว่างชาร์จพาวเวอร์แบงค์ ให้เสียบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ที่ปกติจะเสียบชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์) ไว้กับปลั๊กไฟที่ผนังแทน เพราะเวลาเสียบชาร์จ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะไปดึงไฟจากพาวเวอร์แบงค์ ถ้าชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน พาวเวอร์แบงค์จะได้ไม่ต้องถูกดึงไฟไปทันทีหลังชาร์จเสร็จ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- พาวเวอร์แบงค์มีหลายแบบให้เลือก แล้วแต่ว่าจะใช้ชาร์จอะไร ให้เลือกพาวเวอร์แบงค์ที่ตรงตามการใช้งานที่สุด
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,491 ครั้ง