แผนการสอนการอ่านบทร้อยกรอง

แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๒

ชนั้ มัธยมศึกษาปี ๒

ผสู้ อน

นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์
ตาแหน่ง ครผู ้ชู ่วย

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 การอ่านออกเสียง

รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๒ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปี ๒ เวลาเรยี น 7 ชัว่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ัด

ท 1.1 ม.2/1 อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง

ม.2/8 มีมารยาทในการอ่าน

สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง มีหลักในการอ่านที่ต้องนาไปฝึกปฏิบัติ และตอ้ งมี
มารยาทในการอา่ น

สาระการเรยี นรู้

1.สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

1) การอา่ นออกเสยี ง ประกอบด้วย
- บทร้อยแกว้ ทเี่ ป็นบทบรรยายและบทพรรณนา

- บทร้อยกรอง เชน่ กลอนบทละคร กลอนนทิ าน กลอนเพลงยาว และกาพย์ห่อโคลง
2) มารยาทในการอา่ น

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4. ทักษะการตัง้ เกณฑ์
5. ทักษะการประเมนิ
1.ความสามารถในการสื่อสาร 6. ทักษะการนาความรไู้ ปใช้
2.ความสามารถในการคิด

1. ทักษะการเปรยี บเทียบ
2. ทกั ษะการวิเคราะห์
3. ทักษะการจาแนกประเภท
3.ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน
4. รกั ความเป็นไทย
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้

ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

Audio CD บันทกึ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง

การวดั และการประเมนิ ผล

1. การประเมินกอ่ นเรียน
- ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การอ่านออกเสยี ง

2. การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ตรวจใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ความรพู้ ืน้ ฐานในการอา่ น
2. ตรวจใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง หลักการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้
3. ตรวจใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง หลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
4. ประเมินการอา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว
5. ประเมนิ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
6. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน
7. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล
8. สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่
9. สังเกตคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

3. การประเมนิ หลงั เรียน

- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียง

4. การประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ตรวจ Audio CD บนั ทกึ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรอง

กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1

เรื่องที่ 1 ความรพู้ นื้ ฐานในการอ่าน เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1. ครูสนทนากับนักเรยี นเร่อื งความสาคัญของการอา่ น

2. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับการอา่ นของคนในสมยั ปัจจบุ ันว่า คนไทยเปน็ นักอ่าน

หรือไม่ เพราะเหตุใด

3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขน้ั พฒั นาผเู้ รียน

1.ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปานกลาง

ค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน

2.นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ความรพู้ นื้ ฐานในการอา่ น จากหนังสือเรยี น

3.นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ทาใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง ความรพู้ น้ื ฐานในการอา่ น โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลุ่มหา

คาตอบด้วยตนเองจนครบทุกขอ้ จากน้ันจบั คูก่ ับเพอ่ื นในกล่มุ ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบให้ค่ขู องตนเองฟัง (สมาชิกกลุ่มอีกคู่

หน่ึงก็ปฏิบตั กิ ิจกรรมเชน่ เดียวกนั )

4.นกั เรยี นรวมกลมุ่ 4 คน ให้แต่ละคผู่ ลดั กันอธบิ ายคาตอบให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งในกลุ่มฟัง เพ่ือช่วยกันตรวจสอบ

ความถูกต้อง

5.ครูสุ่มตัวแทนนักเรียน 1-2 กลุ่ม ออกมานาเสนอคาตอบใน ใบงานท่ี 1.1 หน้าช้ันเรียน ครูและเพื่อน

นักเรียนกลุ่มอน่ื รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

6.นักเรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ

ขนั้ รวบยอด

1.นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสรุปองคค์ วามรูพ้ ื้นฐานในการอ่าน

เรอ่ื งที่ 2 หลักการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง

ข้นั นาเข้าส่บู ทเรียน
1.ครูใหน้ ักเรียนฟังซดี กี ารอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วท่ีอ่านได้ไพเราะ ถูกต้องตามหลักการอ่าน หรือครูอ่านให้

นกั เรยี นฟงั
2.นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ จากสอ่ื ทีฟ่ งั
3.นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขั้นพัฒนาผเู้ รียน

1.ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ (กลุ่มเดมิ จากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1) ร่วมกนั ศึกษาความรู้เรื่อง หลักการอ่านออก
เสียง บทรอ้ ยแกว้ จากหนงั สอื เรียน

2.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทาใบงานท่ี 1.2 เร่ือง หลักการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว โดยให้สมาชิกจับคู่กับ
เพ่ือนในกลุ่ม แล้วให้นักเรียนคนหนึ่งยกตัวอย่างวิธีอ่านท่ี 1 ในข้อท่ี 1 และนักเรียนอีกคนหนึ่งเป็นฝ่ายสังเกต

(สมาชิกอีกค่หู นงึ่ ที่อยใู่ นกลุม่ เดยี วกันกป็ ฏบิ ตั ิกิจกรรมในทานองเดียวกนั )
3.นักเรียนท่ีทาหน้าที่เป็นฝ่ายสังเกต จะทาหน้าท่ีตรวจสอบ และแสดงความคิดเห็นด้วย เม่ือตรวจสอบว่าเป็ น
ตัวอย่างทีถ่ ูกต้องพร้อมแสดงความยนิ ดี

4.นักเรียนแต่ละคู่เปล่ียนบทบาทกันในวิธีอ่านเดียวกันในข้อ 2 และวิธีอ่านต่อไปจนครบทุกวิธี โดยสลับหน้าที่
จากผทู้ ่ียกตวั อย่างวิธีอ่านเปน็ ผูส้ ังเกต และจากผูส้ ังเกตเปน็ ผูย้ กตวั อย่างวธิ อี ่าน

5.เมื่อจบการยกตวั อย่างวิธอี ่านทกุ วธิ ีแลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคูร่ วมกล่มุ กันตามเดมิ แล้วนาตัวอยา่ งวิธอี า่ น
มาเปรยี บเทยี บกันและชว่ ยกันอธบิ ายแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติมเพอ่ื ความกระจา่ งชัดเจนสรปุ เปน็ ตวั อยา่ งของกลมุ่
6.ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอตัวอย่างวิธีอ่านในใบงาน ท่ี 1.2 หน้าช้ันเรียน ครูตรวจสอบความถูกต้อง

จากนน้ั ใหต้ ัวแทนนักเรียนเก็บรวบรวมใบงานสง่ ครู
7.นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

ขน้ั รวบยอด
1.นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปหลกั การอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว

เรอื่ งที่ 3 การอา่ นบทบรรยายและบทพรรณนา เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง

ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น

1.ครซู ักถามนักเรยี นเพอ่ื ทบทวนหลักการอ่านออกเสียงบท รอ้ ยแก้ว
2.นักเรยี นฟงั ตวั อยา่ งการอา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ จากซดี ี หรอื จากที่ครูอ่านใหฟ้ งั เปน็ ตวั อย่าง

3.นักเรยี นเปรียบเทยี บตวั อยา่ งการอา่ นกับหลักการอา่ น ออกเสียงบทรอ้ ยแก้วตามทไี่ ดศ้ กึ ษามา
4.นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขัน้ พฒั นาผู้เรียน
1.ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 1) ร่วมกันค้นคว้าบทบรรยายและบท

พรรณนา จากหอ้ งสมดุ โดยเลอื กมากลุม่ ละ 1 ตอน มาเป็นบทอ่านของกลมุ่

2.นักเรียนแต่ละกลุ่มสังเกตการใช้ถ้อยคา สานวน จากนั้นฝึกอ่านออกเสียง การเว้นวรรค จังหวะการหายใจ
จบั ใจความสาคัญของเรื่อง ฝกึ ใสล่ ลี าอารมณใ์ ห้ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั เนื้อเรอ่ื ง

3.นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
4.ครแู จกบทอ่านรอ้ ยแกว้ ท่ี 1 ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มอา่ นใหถ้ กู ตอ้ งตามหลักการอา่ นไดอ้ ยา่ งถกู ต้องสมบรู ณ์
5.นกั เรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคิด

6.นกั เรียนอ่านบทอ่านร้อยแกว้ ที่ 2 ให้ถูกต้องสมบูรณ์แบบอย่าง คล่องแคล่ว รวดเร็ว ราบรื่น และด้วยความ
มั่นใจ

7.นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด
8.นักเรยี นเลือกอ่านบทอ่านร้อยแก้วที่ 1 หรอื ท่ี 2 ตามความสนใจกับครูเปน็ รายกลุ่ม เพอื่ ให้ครูประเมนิ ผล
9.นักเรียนแต่ละคนทาแบบวัดฯ ตอนที่ 1 (การอ่านออกเสียง) กิจกรรมตามตัวช้ีวัด : กิจกรรมท่ี 1.3 เป็น

การบ้าน แล้วนาส่งครใู นชวั่ โมงตอ่ ไป
ขัน้ รวบยอด

1.นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ การอ่านบทบรรยายและบทพรรณนา

เรื่องท่ี 4 หลักการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง เวลาเรียน 1 ชั่วโมง

ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1.ครูให้นกั เรียนสืบค้นข้อมูลตัวอย่างการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศ
2.ครสู ุ่มเลขที่นักเรยี น 1-2 คน นาเสนอตวั อยา่ งการอ่าน ออกเสยี งบทร้อยกรอง
3. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองของเพือ่ น
4. นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคิด

ขน้ั พัฒนาผูเ้ รียน

1.นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม (กลมุ่ เดิมจากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1) ร่วมกันศกึ ษาความรู้เรื่อง หลักการอา่ นออกเสยี งบท
ร้อยกรอง จากหนงั สอื เรยี น

2.ครูและนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเรื่อง หลกั การฝกึ อา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง จนมคี วามเขา้ ใจกระจา่ งชดั
3.นักเรยี นแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ทาใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง หลักการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง โดยใหส้ มาชิกแตล่ ะคน

ปฏบิ ัติกิจกรรม ดงั น้ี
1) สมาชกิ คนท่ี 1 เขยี นคาตอบในข้อ 1 แลว้ ส่งให้สมาชกิ คนที่ 2
2) สมาชิกคนท่ี 2 ตรวจสอบคาตอบในขอ้ 1 แลว้ เขียนคาตอบในขอ้ 2 จากนั้นสง่ ใหส้ มาชกิ คนท่ี 3

3) สมาชกิ คนท่ี 3 ตรวจสอบคาตอบในข้อ 2 แล้วเขียนคาตอบในข้อ 3 จากนั้นส่งให้สมาชิกคนท่ี 4
4) สมาชิกคนท่ี 4 ตรวจสอบคาตอบในข้อ 3 แล้วเขียนคาตอบในขอ้ 4 สมาชิกแต่ละคนที่ตรวจสอบคาตอบ ถ้า

เห็นวา่ คาตอบยังไม่ถกู ต้องสมบรู ณ์ก็ใหเ้ ขียนคาตอบเพมิ่ เติม
4. สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มจะได้มีโอกาสอ่านและเขยี นคาตอบหมุนเวียนกนั ไปเรอ่ื ยๆ จนเสร็จ กล่าวคอื สามารถตอบ

คาถามไดช้ ัดเจนครบถว้ นทกุ คาถาม

5. ตัวแทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอคาตอบในใบงานท่ี 1.3 หนา้ ช้นั เรียน ครตู รวจสอบความถูกต้อง
จากนั้นกลา่ วชมเชยตวั แทนกลุ่มทนี่ าเสนอคาตอบไดถ้ ูกต้องทกุ ขอ้ เพอื่ เสริมสรา้ งกาลงั ใจ

6. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
ข้ันรวบยอด

1.นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ องคค์ วามรเู้ รื่อง หลกั การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง และแนวทางในการนาความรู้ไป

ใช้

เรอื่ งที่ 5 การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกลอน เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน

1.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ทบทวนเรื่อง หลกั การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง
2.ครูให้นกั เรยี นฟังตวั อย่างการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนจากซีดี หรอื ครูอา่ นใหฟ้ งั แลว้ ให้

นักเรียนสังเกตวา่ การอ่านท่ถี กู ตอ้ งไพเราะน่าฟงั มลี ลี าตามเน้อื หาอารมณน์ ั้นทาอย่างไร
3.นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขน้ั พัฒนาผูเ้ รยี น
1.นกั เรียนแต่ละกลมุ่ (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1) ร่วมกนั ฝกึ อ่านบทร้อยกรองประเภทกลอน ชดุ ท่ี

1 ตามตัวอย่างจากซดี ี หรือจากท่ีครอู ่านใหฟ้ ังทีละวรรค จนสามารถอ่านไดถ้ ูกต้องคล่องแคลว่ และชดั เจน

2.นกั เรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ
3.สมาชิกแต่ละคนในกล่มุ ฝึกอา่ นบทร้อยกรองประเภทกลอน ชุดท่ี 2 โดยไมม่ ีแบบ เป็นการฝกึ ให้ทาเองต้งั แต่

ต้นจนจบ
4.นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด
5.สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ ฝึกอา่ นบทรอ้ ยกรองประเภทกลอน ชุดท่ี 3 ให้เกดิ ความชานาญ

6.นกั เรียนทดสอบการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกลอนนอกเวลาเรยี นกับครูเป็นรายบคุ คล เพือ่ ให้ครู
ประเมินผล

ขั้นรวบยอด
1.นักเรียนร่วมกันอภปิ รายสรปุ องค์ความรู้เรื่อง การอา่ นออกเสียง บทร้อยกรองประเภทกลอน

เรอ่ื งท่ี 6 การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยห์ อ่ โคลง เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1.ครูใหน้ ักเรยี นดขู บวนเสด็จทางชลมารคและฟังการเห่เรือ จากแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
2.นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเร่อื ง การเหเ่ รือ

3.นักเรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด
ข้นั พฒั นาผเู้ รียน

1.นักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม (กล่มุ เดิมจากแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1) รว่ มกนั ศึกษาความรู้เร่ือง หลกั การ
อา่ นกาพย์ห่อโคลง จากหนงั สือเรยี น
2.ครูใหน้ ักเรยี นฟงั ซดี กี ารอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยห์ ่อโคลง

3.สมาชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกันอภปิ รายหลักการอา่ นกาพย์หอ่ โคลง แล้วเปรียบเทียบกับการอ่านตามซีดีท่ฟี ัง
4.สมาชกิ แต่ละกลุม่ ร่วมกันสรปุ วธิ กี ารอา่ นว่า การอา่ นที่ถกู ต้องไพเราะน่าฟงั มลี ีลาตามเน้อื หาอารมณน์ ั้นทา

อย่างไร
5.นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ฝกึ อา่ นกาพยห์ ่อโคลงจากเร่ือง กาพย์ หอ่ โคลงประพาสธารทองแดง จากหนงั สอื เรียน
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.2 จนสามารถอ่านได้ถกู ตอ้ ง และคลอ่ งแคลว่

6.นกั เรยี นทดสอบการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกาพยห์ อ่ โคลง นอกเวลาเรยี นกบั ครูเป็นรายบุคคล
เพื่อให้ครูประเมินผล

ข้ันรวบยอด
1.นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรปุ องค์ความรู้เรอ่ื งการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพย์หอ่ โคลง

 ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันจัดทา Audio CD บนั ทกึ การอา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ย
กรอง โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามทก่ี าหนด

นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

1.ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.2
2) หนงั สือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.2
3) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.2
4) บทอ่านร้อยแกว้ ท่ี 1 และ 2 และบทอ่านรอ้ ยกรองประเภทกลอน ชุดที่ 1-3
5) ซีดีการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกลอน และการอา่ น
ออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยห์ อ่ โคลง
6) ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง ความรูพ้ นื้ ฐานในการอ่าน
7) ใบงานที่ 1.2 เร่อื ง หลกั การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว
8) ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง หลกั การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง

2.แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ
- //www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=65265
- //news.bugaboo.tv/watch/36128/ประวัติขบวนเรือพยหุ ยาตราทางชลมารค.html

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมิน Audio CD บันทึกการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง

รายการประเมนิ ดีมาก (4) คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรบั ปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การอา่ นออกเสยี งบท อา่ นออกเสียงบท รอ้ ย อา่ นออกเสียงบท อ่านออกเสียงบท อา่ นออกเสียงบท

รอ้ ยแกว้ ประเภท แกว้ ประเภทบทบรรยาย ร้อยแกว้ ประเภทบท รอ้ ยแก้วประเภทบท ร้อยแก้วประเภทบท

บทบรรยาย ไดถ้ กู ต้องตามอกั ขรวิธี บรรยายไดถ้ กู ต้องตาม บรรยายได้ถกู ตอ้ งตาม บรรยายได้ถกู ตอ้ งตาม

การเว้น วรรคตอน อักขรวธิ ี การเว้น อกั ขรวิธี การเว้น อักขรวธิ ี การเว้น

การสอดแทรกอารมณ์ วรรคตอน การสอดแทรก วรรคตอน การสอดแทรก วรรคตอน แต่ไม่

ความรู้สึก อารมณ์ความรู้สกึ เปน็ สว่ น อารมณ์ความรสู้ กึ เป็น สอดแทรกอารมณ์

ใหญ่ บางส่วน ความรสู้ ึก

2. การอ่านออกเสียงบท อา่ นออกเสียงบท อา่ นออกเสียงบท ร้อย อ่านออกเสียงบท อ่านออกเสยี งบท

ร้อยแกว้ ประเภท ร้อยแกว้ ประเภทบท แกว้ ประเภทบทพรรณนา รอ้ ยแกว้ ประเภทบท รอ้ ยแกว้ ประเภทบท

บทพรรณนา พรรณนาได้ถกู ต้องตาม ไดถ้ กู ตอ้ งตามอักขรวธิ ี พรรณนาได้ถกู ต้องตาม พรรณนาได้ถกู ตอ้ งตาม

อักขรวิธี การเว้น การเวน้ วรรคตอน อักขรวิธี การเว้น วรรค อกั ขรวิธี การเว้น

วรรคตอน การสอดแทรก การสอดแทรกอารมณ์ ตอน การสอดแทรก วรรคตอน แต่ไม่

อารมณค์ วามร้สู กึ ความรสู้ กึ เป็นส่วนใหญ่ อารมณ์ความร้สู กึ เปน็ สอดแทรกอารมณ์

บางสว่ น ความรสู้ ึก

3. การอา่ นออกเสียงบท อ่านออกเสียงบท อ่านออกเสียงบท อา่ นออกเสียงบท อา่ นออกเสียงบท

ร้อยกรองประเภท ร้อยกรองประเภทกลอน รอ้ ยกรองประเภทกลอน ร้อยกรองประเภทกลอน รอ้ ยกรองประเภทกลอน

กลอน ได้ถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี ไดถ้ กู ต้องตามอักขรวธิ ี ได้ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ได้ถูกต้องตามอักขรวิธี

การเวน้ จงั หวะ การเวน้ จงั หวะ การเวน้ จงั หวะ การเว้นจงั หวะ

ทว่ งทานองการอ่าน และ ทว่ งทานองการอา่ น และ ทว่ งทานองการอ่าน และ ทว่ งทานองการอา่ น

การทอดเสยี ง การทอดเสียง เป็น การทอดเสยี ง เป็น แตไ่ มท่ อดเสยี ง

สว่ นใหญ่ บางสว่ น

4. การอ่านออกเสียงบท อ่านออกเสียงบท อ่านออกเสียงบท อา่ นออกเสียงบท รอ้ ย อา่ นออกเสียงบท

รอ้ ยกรองประเภท รอ้ ยกรองประเภทกาพย์ ร้อยกรองประเภทกาพย์ กรองประเภทกาพย์ห่อ รอ้ ยกรองประเภทกาพย์

กาพย์ หอ่ โคลงได้ถูกต้องตาม หอ่ โคลงได้ถูกต้องตาม โคลงไดถ้ ูกต้องตาม ห่อโคลงได้ถกู ตอ้ งตาม

หอ่ โคลง อักขรวธิ ี การเว้นจังหวะ อักขรวธิ ี การเว้นจังหวะ อักขรวธิ ี การเว้นจังหวะ อักขรวธิ ี การเว้นจงั หวะ

ท่วงทานองการอ่าน และ ทว่ งทานองการอา่ น และ ท่วงทานองการอ่าน ท่วงทานองการอ่าน

การทอดเสียง การทอดเสยี ง เปน็ และการทอดเสยี ง แต่ไม่ทอดเสยี ง

ส่วนใหญ่ เปน็ บางสว่ น

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ตา่ กวา่ 8
ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1

คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. การอ่านออกเสยี งใหไ้ พเราะ มีกลวธิ อี ยา่ งไร 6. “อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการเขยี นภาพระบายสี ประกอบด้วย
ก. อา่ นออกเสียงให้ถูกต้องตามอักขรวธิ ี กระดาษ 100 ปอนด์ สไี ม้ ดินสอ ยางลบ ฯลฯ”
ข. อา่ นออกเสียงให้ถูกต้องตามลกั ษณะของงานเขยี น เครื่องหมาย ฯลฯ ให้อา่ นออกเสยี งว่าอย่างไร
ค. อ่านออกเสยี งโดยเน้นอารมณ์ความร้สู ึกเพื่อสอื่ ก. ละ
ไปยงั ผูฟ้ งั ข. ละ-ถงึ
ง. อา่ นออกเสียงถูกต้องชัดเจน สอดแทรกอารมณ์ ค. และ-อ่ืน-อ่นื
ตามลกั ษณะของเร่อื งท่ีอา่ น ง. ไป-ยาน-น้อย

2. การกวาดสายตาในขณะที่อา่ นเป็นผลดีอย่างไร 7. คาใดอา่ นแบบเรยี งพยางค์
ก. เข้าใจเรอ่ื งท่อี า่ น ก. สมาคม อา่ นว่า สะ-มา-คม
ข. อ่านหนงั สอื ได้รวดเรว็ ข. โจรสลดั อา่ นวา่ โจน-สะ-หลัด
ค. โบราณคดี อา่ นว่า โบ-ราน-นะ-คะ-ดี
ค. จับใจความสาคัญไดถ้ ูกตอ้ ง ง. พุทธศาสนา อ่านว่า พุด-ทะ-สาด-สะ-หนา
ง. คาดเดาเหตกุ ารณ์ในเร่อื งทีอ่ า่ นล่วงหนา้ ได้
3. ถ้านกั เรียนต้องการฝกึ ใช้เสียงในการอา่ นออกเสียง จะต้องฝึก 8. การฝึกอ่านบทร้อยกรองเรอ่ื งใดมคี วามสาคัญมากท่สี ุด
อย่างไร ก. อักขรวธิ ี
ก. ฝกึ ใช้เสียงใหม้ ีพลงั มีน้าหนกั ข. วรรคตอน
ข. ฝกึ ใช้เสียงแบบตา่ งๆ ใหน้ า่ สนใจ ค. การเออ้ื นเสียง
ค. ฝกึ ใช้เสียงให้มคี วามนุม่ นวล ไพเราะ ง. ทานองลลี า ลักษณะคาประพนั ธ์
ง. ฝึกใช้เสียงใหส้ ามารถกระต้นุ อารมณ์ความรู้สกึ ผ้ฟู งั
4. การกระทาใดเปน็ การละเมดิ สทิ ธิสว่ นบุคคลในการอา่ น 9. การปรับระดบั เสยี งทส่ี ูงหรือต่าเกินไปให้พอดกี ับระดับเสียง
ก. การสง่ เสียงดงั ในห้องสมุด ของตน เรียกว่าอย่างไร
ก. การรวบคา
ข. การไมเ่ ก็บหนังสือทีอ่ ่านแล้วในจดุ ที่กาหนด ข. การครัน่ เสียง
ค. การอา่ นหนังสือของผอู้ ่ืนโดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต ค. การหลบเสียง
ง. การคัดลอกขอ้ ความจากหนังสือในรา้ นขายหนงั สอื ง. การทอดเสียง
5. การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ ตอ้ งใชน้ ้าเสียงและจังหวะ
ในการอา่ นอย่างไร 10. การอ่านทา้ ยบทโคลงสส่ี ภุ าพใหท้ าอยา่ งไร
ก. เน้นเสียงสูงต่าให้น่าสนใจ ก. ให้รวบคา
ข. ให้เป็นไปเหมอื นกบั การพูดตามปกติ ข. ให้ครน่ั เสยี ง
ค. ให้มคี วามถูกตอ้ งตามแบบแผนไวยากรณ์ ค. ให้หลบเสยี ง
ง. ให้มคี วามแตกต่างไปตามอารมณข์ องผู้อ่าน ง. ให้ทอดเสียง

มฐ. ท 1.1 ม.2/1,8

ได้คะแนน คะแนนเตม็

10

เฉลย

1. ง 2. ข 3. ก 4. ค 5. ข 6. ค 7. ก 8. ง 9. ค 10. ง

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1

คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ ต้องใชน้ า้ เสยี งและจงั หวะ 6. การอ่านทา้ ยบทโคลงสี่สภุ าพใหท้ าอย่างไร
ในการอา่ นอย่างไร ก. ใหห้ ลบเสียง
ก. ให้มีความแตกต่างไปตามอารมณ์ของผู้อ่าน ข. ให้ครน่ั เสยี ง
ข. ให้มีความถูกต้องตามแบบแผนไวยากรณ์ ค. ใหท้ อดเสยี ง
ค. ใหเ้ ป็นไปเหมอื นกบั การพูดตามปกติ ง. ให้รวบคา
ง. เน้นเสียงสงู ต่าใหน้ ่าสนใจ
7. การกระทาใดเป็นการละเมดิ สทิ ธสิ ่วนบุคคลในการอา่ น
2. ถ้านกั เรยี นตอ้ งการฝกึ ใชเ้ สยี งในการอ่านออกเสยี ง จะตอ้ งฝึก ก. การคดั ลอกข้อความจากหนังสอื ในรา้ นขายหนงั สือ
อยา่ งไร ข. การอา่ นหนังสอื ของผู้อ่นื โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต
ก. ฝึกใช้เสยี งใหส้ ามารถกระตุ้นอารมณค์ วามรู้สึกผฟู้ งั ค. การไมเ่ กบ็ หนังสอื ทอ่ี ่านแลว้ ในจุดที่กาหนด
ข. ฝึกใช้เสยี งให้มคี วามนมุ่ นวล ไพเราะ ง. การส่งเสียงดังในหอ้ งสมุด

ค. ฝกึ ใชเ้ สยี งแบบต่างๆ ใหน้ ่าสนใจ 8. คาใดอา่ นแบบเรยี งพยางค์
ง. ฝกึ ใชเ้ สยี งให้มพี ลงั มนี ้าหนัก ก. พุทธศาสนา อ่านวา่ พุด-ทะ-สาด-สะ-หนา
3. การอา่ นออกเสียงให้ไพเราะ มีกลวิธอี ยา่ งไร ข. โบราณคดี อ่านวา่ โบ-ราน-นะ-คะ-ดี
ก. อา่ นออกเสียงถกู ตอ้ งชดั เจน สอดแทรกอารมณ์ ค. โจรสลัด อา่ นวา่ โจน-สะ-หลัด
ง. สมาคม อา่ นวา่ สะ-มา-คม
ตามลักษณะของเร่ืองทอ่ี ่าน
ข. อ่านออกเสยี งโดยเน้นอารมณ์ความรู้สกึ เพ่ือสื่อ 9. “อุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นการเขียนภาพระบายสี ประกอบดว้ ย
กระดาษ 100 ปอนด์ สีไม้ ดินสอ ยางลบ ฯลฯ”
ไปยังผฟู้ ัง เครื่องหมาย ฯลฯ ใหอ้ ่านออกเสียงว่าอยา่ งไร
ค. อา่ นออกเสยี งให้ถกู ตอ้ งตามลกั ษณะของงานเขียน ก. ไป-ยาน-นอ้ ย
ง. อ่านออกเสยี งให้ถกู ต้องตามอักขรวธิ ี ข. และ-อน่ื -อ่ืน
4. การฝกึ อา่ นบทรอ้ ยกรองเร่ืองใดมคี วามสาคัญมากทส่ี ดุ ค. ละ-ถึง
ง. ละ
ก. ทานองลลี า ลกั ษณะคาประพนั ธ์
ข. การเอือ้ นเสยี ง 10. การปรบั ระดับเสียงทส่ี ูงหรือตา่ เกินไปใหพ้ อดีกับระดบั เสียง
ค. วรรคตอน ของตน เรียกว่าอยา่ งไร
ง. อักขรวิธี ก. การหลบเสียง
5. การกวาดสายตาในขณะทอี่ ่านเป็นผลดีอย่างไร ข. การครั่นเสียง
ก. คาดเดาเหตุการณ์ในเร่อื งทอ่ี า่ นลว่ งหน้าได้ ค. การทอดเสยี ง
ข. จบั ใจความสาคัญได้ถกู ต้อง ง. การรวบคา
ค. อ่านหนงั สือได้รวดเร็ว
ง. เขา้ ใจเรอ่ื งท่อี ่าน มฐ. ท 1.1 ม.2/1,8

ได้คะแนน คะแนนเตม็

10

เฉลย

1. ค 2. ง 3. ก 4. ก 5. ค 6. ค 7. ข 8. ง 9. ข 10. ก

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1

กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๒ ชั้นมัธยมศกึ ษาปี ๒หน่วย

การเรียนรทู้ ี่ ๑ การอา่ นออกเสียง เรื่อง ความรพู้ น้ื ฐานในการอ่านเวลา ๑

ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์

…………………………………………………………………...................................…………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนิน
ชีวิตและมีนสิ ยั รักการอา่ น

ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
ม.2/1 อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง

ม.2/8 มมี ารยาทในการอ่าน

สาระสาคัญ

การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง มีหลักในการอ่านท่ีตอ้ งนาไปฝึกปฏิบัติ และต้องมีมารยาท
ในการอ่าน

สาระการเรยี นรู้

ความรู้ (K)

การอ่านออกเสียง ประกอบด้วย บทรอ้ ยแก้ว บทร้อยกรอง

ทักษะ/กระบวนการ (P)

1. ทักษะการเปรียบเทียบ 4. ทักษะการตง้ั เกณฑ์

2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 5. ทักษะการประเมิน

3. ทักษะการจาแนกประเภท 6. ทักษะการนาความรู้ไปใช้

คณุ ลกั ษณะ (A)
1. มีวนิ ัย

2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทางาน
สมรรถนะสาคัญ

1. ความสามารถในการสือ่ สาร ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้
2. ความสามารถในการคิด รูจ้ ักวิเคราะห์ เพอื่ นาไปสู้การสร้างองค์ความรู้

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครสู นทนากบั นกั เรียนเรอ่ื งความสาคัญของการอา่ น
2. ครใู ห้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั การอ่านของคนในสมัยปัจจุบนั วา่ คนไทยเปน็ นักอ่าน

หรอื ไม่ เพราะเหตุใด
3. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขน้ั พฒั นาผู้เรยี น
1.ครแู บง่ นกั เรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปานกลาง

ค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น
2.นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เร่ือง ความรพู้ ้ืนฐานในการอ่าน จากหนงั สอื เรยี น
3.นักเรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกันทาใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความรู้พนื้ ฐานในการอา่ น โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลุ่มหา

คาตอบดว้ ยตนเองจนครบทุกขอ้ จากน้นั จบั คกู่ ับเพอ่ื นในกลมุ่ ผลดั กันอธบิ ายคาตอบใหค้ ู่ของตนเองฟัง (สมาชิกกลุ่มอีกคู่
หน่งึ ก็ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเช่นเดยี วกัน)

4.นักเรียนรวมกลุม่ 4 คน ใหแ้ ตล่ ะคู่ผลัดกันอธบิ ายคาตอบให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งในกลุ่มฟัง เพ่ือช่วยกันตรวจสอบ
ความถกู ต้อง

5.ครูสุ่มตัวแทนนักเรียน 1-2 กลุ่ม ออกมานาเสนอคาตอบใน ใบงานที่ 1.1 หน้าช้ันเรียน ครูและเพื่อน
นักเรียนกล่มุ อ่นื รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง

6.นักเรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ
ขั้นรวบยอด

1.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สรปุ องคค์ วามรพู้ ืน้ ฐานในการอา่ น

ส่ือ/อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
1)หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.2
2)ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ความรู้พนื้ ฐานในการอ่าน

การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วธิ ีการ

ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 (ประเมินตามสภาพจรงิ )

ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สังเกตความมวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงานท่ี

1.1 ความรู้พ้ืนฐานในการอา่ น

คาช้แี จง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1. การอ่านในใจแตกต่างจากการอ่านออกเสียงอย่างไร
2. การอา่ นมีความสาคญั อยา่ งไร

3. การอ่านหนงั สือในห้องสมดุ ต้องปฏิบัติอย่างไร จึงจะถกู ตอ้ งตามมารยาทในการอา่ น

4. การอา่ นที่มปี ระสิทธภิ าพ มปี ัจจยั พื้นฐานอย่างไร

ใบงานที่

1.1 ความรู้พน้ื ฐานในการอา่ น

คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี
1. การอา่ นในใจแตกต่างจากการอา่ นออกเสยี งอยา่ งไร

การอา่ นในใจเป็นการอ่านเพื่อทาความเข้าใจข้อความตัวอกั ษรและสัญลกั ษณต์ ่างๆ สว่ นการอ่านออกเสยี งเป็น
การเปล่งเสียงตามตัวอกั ษรและสัญลกั ษณ์ตา่ งๆ เพือ่ ให้ผฟู้ ังเขา้ ใจความหมายซ่งึ อาจมจี ดุ มุ่งหมายต่างกัน

2. การอ่านมคี วามสาคัญอย่างไร

1) การอา่ นหนังสือทาให้ผอู้ ่านได้รับสาระความรตู้ า่ งๆ ซง่ึ จะทาใหผ้ อู้ ่านเปน็ ผู้ที่ทันตอ่ เหตุการณ์ ทันความคดิ
2) หนังสอื เป็นสอ่ื ท่ดี ที ส่ี ุด ใช้งา่ ยและมรี าคาถูก บุคคลทัว่ ไปสามารถใชเ้ พอื่ การศกึ ษาหาความรู้และเพลดิ เพลิน
3) การอา่ นหนังสือเป็นการฝึกกระบวนการคดิ ผา่ นทางสมอง ทาใหเ้ กิดสมาธิ ถา้ มีการฝึกฝนอยา่ งสม่าเสมอ

จะทาให้เกิดการพัฒนาและสมั ฤทธผิ ล
4) ผู้ทอี่ ่านหนังสือจะไดท้ ง้ั ความคดิ และจินตนาการ การอา่ นหนงั สือทาให้ผอู้ า่ นมีอิสระทางความคดิ ไดด้ กี ว่า

การใช้ส่ือชนดิ อืน่

3. การอา่ นหนังสอื ในหอ้ งสมดุ ต้องปฏิบัตอิ ยา่ งไร จึงจะถูกตอ้ งตามมารยาทในการอา่ น

1) ไมอ่ ่านเสียงดังสร้างความราคาญใหแ้ กผ่ ูอ้ ่ืน
2) ไม่ใช้อปุ กรณส์ ือ่ สารภายในห้องสมุด
3) ไม่นาอาหารและเครื่องดืม่ เข้าไปรับประทานขณะอ่านหนังสือในหอ้ งสมดุ
4) เม่ืออ่านหนงั สือเสรจ็ แล้วให้นาไปวางไว้ตรงจดุ ทีบ่ รรณารกั ษก์ าหนด
5) ไมฉ่ ีกหนงั สอื พบั มมุ หรอื ทาให้หนงั สือยบั ชารุด สกปรก ถา้ ตอ้ งการข้อความหรอื รูปภาพจากหนงั สือ

ควรใชว้ ธิ คี ดั ลอกหรอื ถา่ ยเอกสารดว้ ยความระมดั ระวัง
6) การใช้หนงั สือพมิ พ์ เมอ่ื อา่ นจบแลว้ ให้จัดเรยี งหนา้ ตามเดิม และเก็บใหเ้ รยี บรอ้ ย

4. การอ่านท่ีมปี ระสิทธภิ าพ มีปจั จัยพื้นฐานอยา่ งไร

1) ฝึกใชส้ ายตา โดยใช้สายตากวาดตามขอ้ ความจากจุดหนึง่ ไปยังอีกจดุ หนึง่ การกวาดสายตาจะช่วยใหอ้ า่ น
หนงั สอื ได้รวดเร็ว

2) ฝกึ ใช้เสียง การใช้เสียงต้องมพี ลงั มนี ้าหนกั มเี สยี งดงั ใหไ้ ด้ยินทั่วถึง ใช้นา้ เสียงหนกั เบาเพ่ือเน้นความสาคัญ
ของขอ้ ความใหส้ อดคล้องกับเนอ้ื เรื่อง

3) ฝกึ การใช้อารมณ์ ต้องสอดแทรกอารมณ์ใหเ้ หมาะสมกับเน้ือเร่ืองและเจตนาของผ้เู ขียน
4) ฝึกอ่านให้คล่องและถูกตอ้ งตามอักขรวิธี โดยเฉพาะ ร ล คาควบกลา้ ต้องออกเสียงให้ชัดเจน
5) ฝึกใช้อวยั วะในการออกเสียง เสยี งเกิดจากอวัยวะในชอ่ งปากและลาคอ การฝึกฝนอวยั วะต่างๆ ให้ทางานได้

ถูกตอ้ ง จะทาใหเ้ สียงท่ีเปล่งออกมาชดั เจนและถูกต้องตามอักขระ
6) ฝกึ การวางบุคลกิ ภาพ ควรวางท่าทางใหส้ ง่างามท้ังการนงั่ อา่ นและการยืนอา่ น จบั หนังสอื ให้ถกู ตอ้ ง

หา่ งจากสายตาประมาณ 1 ฟตุ

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่

คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในช่อง
ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน

ลาดับ ชื่อ-สกุล ความ การแสดง การรับฟงั ความตง้ั ใจ การแกไ้ ข รวม
ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ร่วมมือกัน ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปัญหา/หรอื
ทากิจกรรม 20
ปรับปรงุ คะแนน
ผลงานกลุม่

43214321432 143214321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ ง
ที่ตรงกับระดับคะแนน

คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ า้ น 4321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของ
กษตั ริย์ เพลงชาติ

2. ซ่ือสัตย์ สจุ รติ 1.2 ปฏิบัตติ นตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน
3. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 1.3 ใหค้ วามร่วมมือ ร่วมใจ ในการทางานกับสมาชิกในโรงเรียน
5. อย่อู ยา่ งพอเพียง
1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมและมีสว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี
ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรียนและชมุ ชน

1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตนตามหลักของศาสนา

1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมทีเ่ ก่ยี วกับสถาบนั
พระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น

2.1 ให้ขอ้ มลู ที่ถกู ต้อง และเป็นจริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ที่จะทาความผิด ทาตามสญั ญาท่ี
ตนให้ไวก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู

2.3 ปฏิบตั ติ ่อผู้อื่นด้วยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทีไ่ มถ่ กู ต้อง

3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั และ
รับผิดชอบในการทางาน

4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรตู้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ

4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล

5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง เช่น ส่งิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่
และเก็บรกั ษาดแู ลอย่างดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม

5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี
5.3 ปฏิบตั ิตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล
5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อน่ื และไม่ทาให้ผู้อืน่ เดือดรอ้ น พร้อมใหอ้ ภัยเม่ือผ้อู นื่ กระทา

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ า้ น 4321

6. มุง่ มน่ั ในการ 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใช้ชีวิตประจาวันบนพ้นื ฐานของ
ทางาน ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร

7. รักความเปน็ ไทย 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตัว
อย่รู ว่ มกบั ผู้อ่นื ได้อย่างมคี วามสุข
8. มีจติ สาธารณะ
6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่อื ให้งานสาเรจ็

7.1 มีจิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8.1 รูจ้ ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ช่วยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ ู้อ่ืน
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั ขิ องหอ้ งเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น

ลงชอ่ื .................................................... ผ้ปู ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั 191 - 108 ดมี าก

73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช้

ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

 ด้านความรู้ แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นอื่นๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมที่มีปัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ มี))

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแก้ไข

ลงช่ือ.........................................................ผ้สู อน
(นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์)
ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปี ๒หน่วย

การเรยี นรทู้ ่ี ๑ การอา่ นออกเสียง เรอื่ ง หลกั การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ เวลา ๑

ช่ัวโมง ผสู้ อน นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์

…………………………………………………………………...................................…………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวิตและมี
นิสยั รักการอ่าน

ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
ม.2/1 อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง

สาระสาคัญ
การมีความรเู้ รอื่ ง หลักการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วช่วยให้อ่านได้ถูกต้อง

สาระการเรียนรู้

ความรู้ (K) 4. ทกั ษะการตัง้ เกณฑ์
การอ่านออกเสยี ง ประกอบดว้ ยบทร้อยแกว้

ทักษะ/กระบวนการ (P)

1. ทักษะการเปรยี บเทียบ

2. ทักษะการวิเคราะห์ 5. ทกั ษะการประเมนิ

3. ทักษะการจาแนกประเภท 6. ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้

คุณลกั ษณะ (A)
1. มวี ินยั

2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ม่งุ ม่ันในการทางาน

สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการสื่อสาร ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้
2. ความสามารถในการคิด รจู้ ักวเิ คราะห์ เพือ่ นาไปสู้การสร้างองค์ความรู้

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน

1.ครใู หน้ ักเรยี นฟังซดี กี ารอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วท่ีอ่านได้ไพเราะ ถูกต้องตามหลักการอ่าน หรือครูอ่านให้
นักเรยี นฟัง

2.นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ จากส่ือท่ีฟงั

3.นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขั้นพฒั นาผู้เรยี น

1.ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ (กลุ่มเดิมจากแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1) ร่วมกันศกึ ษาความรู้เรื่อง หลักการอ่านออก
เสียง บทรอ้ ยแก้ว จากหนงั สอื เรียน

2.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทาใบงานที่ 1.2 เร่ือง หลักการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว โดยให้สมาชิกจับคู่กับ
เพ่ือนในกลุ่ม แล้วให้นักเรียนคนหนึ่งยกตัวอย่างวิธีอ่านท่ี 1 ในข้อท่ี 1 และนักเรียนอีกคนหนึ่งเป็นฝ่ายสังเกต
(สมาชิกอีกคูห่ นึ่งท่ีอยูใ่ นกลุ่มเดยี วกนั ก็ปฏิบตั กิ ิจกรรมในทานองเดยี วกัน)

3.นักเรียนท่ีทาหน้าที่เป็นฝ่ายสังเกต จะทาหน้าที่ตรวจสอบ และแสดงความคิดเห็นด้วย เม่ือตรวจสอบว่าเป็น
ตวั อยา่ งทถี่ กู ต้องพร้อมแสดงความยินดี

4.นักเรียนแต่ละคู่เปล่ียนบทบาทกันในวิธีอ่านเดียวกันในข้อ 2 และวิธีอ่านต่อไปจนครบทุกวิธี โดยสลับหน้าที่
จากผทู้ ่ียกตวั อย่างวิธอี ่านเป็นผูส้ งั เกต และจากผูส้ ังเกตเป็นผ้ยู กตวั อยา่ งวิธีอา่ น

5.เมื่อจบการยกตัวอย่างวิธีอา่ นทุกวธิ แี ล้วใหน้ ักเรยี นแต่ละคู่รวมกลุม่ กนั ตามเดิมแลว้ นาตัวอย่างวธิ ีอ่าน

มาเปรียบเทยี บกันและช่วยกันอธิบายแสดงความคิดเหน็ เพมิ่ เติมเพอื่ ความกระจ่างชดั เจนสรุปเป็นตัวอย่างของกลุม่

6.ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอตัวอย่างวิธีอ่านในใบงาน ท่ี 1.2 หน้าช้ันเรียน ครูตรวจสอบความถูกต้อง
จากนน้ั ใหต้ วั แทนนักเรียนเก็บรวบรวมใบงานส่งครู

7.นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขั้นรวบยอด

1.นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ หลกั การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว

สอื่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้

1.หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.2

2.ซดี กี ารอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้

3.ใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง หลกั การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว

การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์

วิธกี าร ใบงานที่ 1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนาเสนอผลงาน

สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ

สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และ
มุ่งมนั่ ในการทางาน

ใบงานที่

1.2 หลกั การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว

คาชแ้ี จง ให้นักเรียนยกตวั อย่างการอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ ตามวธิ อี ่านทีก่ าหนด

ขอ้ วิธีอา่ น ตวั อย่าง

ตัวอย่าง อ่านตามอักขรวิธี สวัสดี อ่านวา่ สะ-หวดั -ดี (อา่ นออกเสียงอักษรนา)

1 อา่ นตามอกั ขรวธิ ี 1.
2.

2 อ่านตามความนิยม 1.
2.

3 อา่ นตัวยอ่ 1.
2.

4 อ่านตัวเลขและ 1.
เครือ่ งหมายต่างๆ 2.

5 อ่านนามเฉพาะ 1.
2.

ใบงานท่ี

1.2 หลักการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้

คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ ตามวธิ ีอ่านทก่ี าหนด

ข้อ วธิ อี ่าน ตัวอย่าง

ตวั อยา่ ง อ่านตามอักขรวธิ ี สวสั ดี อา่ นวา่ สะ-หวดั -ดี (อา่ นออกเสียงอักษรนา)

1 อ่านตามอกั ขรวธิ ี 1.
2.

2 อ่านตามความนยิ ม 1.
2.

3 อ่านตวั ยอ่ 1.
2.

4 อ่านตวั เลขและ 1.
เครอ่ื งหมายตา่ งๆ 2.

5 อา่ นนามเฉพาะ 1.
2.

(พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพินจิ ของครูผู้สอน)

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน

คาชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการท่ีกาหนด แล้วขีด  ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกับระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321

1 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา
2 ความคิดสรา้ งสรรค์
3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน
4 การนาไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงตอ่ เวลา

รวม

ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม

ชอื่ กลุม่ ชน้ั
คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในช่อง

ที่ตรงกับระดบั คะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321

1 การแบง่ หนา้ ท่ีกนั อย่างเหมาะสม
2 ความรว่ มมือกนั ทางาน
3 การแสดงความคิดเห็น
4 การรบั ฟงั ความคิดเหน็
5 ความมนี า้ ใจชว่ ยเหลอื กัน

รวม

ลงช่อื .................................................... ผ้ปู ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครงั้
ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงค์ดา้ น 4321

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่ือไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมายของ
กษตั ริย์ เพลงชาติ

2. ซ่อื สตั ย์ สุจริต 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าท่ีของนักเรียน
3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ
4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.3 ให้ความรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชิกในโรงเรียน
5. อยู่อย่างพอเพียง
1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมและมสี ่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมที่สร้างความสามคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี นและชมุ ชน

1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตนตามหลักของศาสนา

1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมและมีส่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบนั
พระมหากษัตรยิ ต์ ามทีโ่ รงเรยี นและชุมชนจัดขึน้

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถี่ กู ตอ้ ง และเปน็ จริง

2.2 ปฏิบตั ิในสิง่ ที่ถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวที่จะทาความผดิ ทาตามสญั ญาท่ี
ตนให้ไว้กบั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผู้ปกครอง และครู

2.3 ปฏิบัติต่อผ้อู ่ืนด้วยความซือ่ ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางทไี่ ม่ถกู ตอ้ ง

3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว
และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจาวัน และ
รับผิดชอบในการทางาน

4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรยี นรูต้ ่างๆ

4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คุม้ คา่
และเกบ็ รักษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม

5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี

5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล

5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไม่ทาใหผ้ ้อู ่นื เดือดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เม่ือผ้อู ่ืนกระทา
ผิดพลาด

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพึงประสงคด์ า้ น 4321

6. มุง่ มน่ั ในการ 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใช้ชีวิตประจาวันบนพ้นื ฐานของ
ทางาน ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร

7. รักความเปน็ ไทย 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตัว
อย่รู ว่ มกบั ผู้อ่นื ได้อย่างมคี วามสุข
8. มีจติ สาธารณะ
6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

7.1 มีจิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8.1 รูจ้ ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ช่วยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ ู้อ่ืน
8.3 ดแู ล รักษาทรัพย์สมบตั ขิ องหอ้ งเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น

ลงชอ่ื .................................................... ผ้ปู ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั ให้ 2 คะแนน 191 - 108 ดมี าก
ให้ 1 คะแนน
73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช้

ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ด้านความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ.........................................................ผสู้ อน
(นางสาวอภิญญา ผัดวงค์)
ตาแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๒๑๐๒ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ๒หน่วย

การเรยี นรทู้ ่ี ๑ การอา่ นออกเสียง เรื่อง การอ่านบทบรรยายและบทพรรณนา

เวลา 2 ชวั่ โมง ผ้สู อน นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์

…………………………………………………………………...................................…………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชีวติ และมี
นสิ ัยรักการอ่าน

ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
ม.2/1 อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง
ม.2/8 มมี ารยาทในการอ่าน

สาระสาคญั
การอ่านบทบรรยายและบทพรรณนา ตอ้ งอ่านออกเสียงให้ถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้

และมีมารยาทในการอ่าน

สาระการเรยี นรู้

ความรู้ (K)

1.การอา่ นออกเสียง ประกอบดว้ ย บทรอ้ ยแก้วทีเ่ ปน็ บทบรรยายและบทพรรณนา

2.มารยาทในการอ่าน

ทกั ษะ/กระบวนการ (P)

1. ทักษะการเปรยี บเทียบ 4. ทักษะการต้ังเกณฑ์

2. ทักษะการวเิ คราะห์ 5. ทกั ษะการประเมิน

3. ทกั ษะการจาแนกประเภท 6. ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้

คุณลักษณะ (A)

1. มีวินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
4. รักความเปน็ ไทย

สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้
2. ความสามารถในการคิด รู้จักวิเคราะห์ เพื่อนาไปสู้การสรา้ งองคค์ วามรู้

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น

1.ครูซกั ถามนกั เรยี นเพือ่ ทบทวนหลักการอา่ นออกเสยี งบท รอ้ ยแก้ว
2.นักเรยี นฟงั ตวั อยา่ งการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ จากซดี ี หรอื จากทีค่ รอู ่านใหฟ้ ังเปน็ ตวั อยา่ ง

3.นักเรียนเปรียบเทยี บตวั อย่างการอ่านกบั หลกั การอ่าน ออกเสียงบทร้อยแก้วตามท่ไี ดศ้ กึ ษามา
4.นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
ข้นั พฒั นาผู้เรียน

1.ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 1) ร่วมกันค้นคว้าบทบรรยายและบท
พรรณนา จากหอ้ งสมุด โดยเลอื กมากลมุ่ ละ 1 ตอน มาเปน็ บทอา่ นของกล่มุ

2.นักเรียนแต่ละกลุ่มสังเกตการใช้ถ้อยคา สานวน จากนั้นฝึกอ่านออกเสียง การเว้นวรรค จังหวะการหายใจ
จับใจความสาคญั ของเรอ่ื ง ฝึกใส่ลลี าอารมณใ์ ห้ถกู ตอ้ งเหมาะสมกับเนื้อเร่ือง

3.นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

4.ครแู จกบทอา่ นรอ้ ยแก้วที่ 1 ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ อ่านให้ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่านไดอ้ ย่างถูกต้องสมบรู ณ์
5.นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

6.นกั เรียนอ่านบทอ่านรอ้ ยแก้วที่ 2 ให้ถูกต้องสมบูรณ์แบบอย่าง คล่องแคล่ว รวดเร็ว ราบรื่น และด้วยความ
มน่ั ใจ

7.นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

8.นกั เรยี นเลอื กอา่ นบทอา่ นร้อยแกว้ ท่ี 1 หรือท่ี 2 ตามความสนใจกับครเู ปน็ รายกลมุ่ เพอื่ ใหค้ รูประเมนิ ผล
9.นักเรียนแต่ละคนทาแบบวัดฯ ตอนท่ี 1 (การอ่านออกเสียง) กิจกรรมตามตัวช้ีวัด : กิจกรรมที่ 1.3 เป็น

การบ้าน แลว้ นาส่งครใู นชัว่ โมงต่อไป
ข้ันรวบยอด

1.นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปการอา่ นบทบรรยายและบทพรรณนา

สื่อ/อปุ กรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้

1.หนงั สือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.2
2.บทอ่านรอ้ ยแกว้ ที่ 1 และ 2
3.ซีดีการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว

การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์

ประเมนิ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ แบบประเมินการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ ม่นั ใน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

การทางาน และรักความเปน็ ไทย

ประเมินการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

เอกสารประกอบการสอน

บทอ่านรอ้ ยแก้วท่ี 1
บทบรรยาย

เนอ่ื งจากเมอื งปายตัง้ อยใู่ นท่รี าบในหบุ เขาทมี่ แี ม่นา้ ไหลผ่านกลาง ดงั นน้ั ในชว่ งหนา้ ฝนน้าจากเขาจึงไหลลงมารวมกันที่
แอ่งกลางหบุ อันเป็นที่ตง้ั ของเมอื งน้ี จงึ ทาให้เกิดนา้ ท่วมในฤดฝู นเกอื บทกุ ปี บา้ นและรสี อร์ทต่างๆ มักมีเวลา ทามาหากินเพียง
แคใ่ นชว่ งฤดหู นาว เพราะในช่วงทนี่ ้าหลากมา กระแสนา้ จะแรงมาก จนสามารถพดั พาบา้ นริมน้าให้หายไปได้ สาหรบั บ้านท่ี
แข็งแรงก็ตอ้ งปดิ เป็นเวลายาวเพือ่ ทาความสะอาดและซอ่ มแซมบ้านพักทเ่ี สยี หาย จงึ ไม่แปลก ที่สะพานขา้ มแม่นา้ และ
กระต๊อบรมิ น้า จงึ เปน็ บ้านทส่ี ร้างแบบไม่แข็งแรง เนอื่ งจากต้องสรา้ งใหมห่ ลงั ความเสียหายทกุ ปี
ที่มา : บกุ เด่ยี ว เทยี่ วปาย สกุลไทยรายสปั ดาห์ ฉบบั ที่ 3018

บทพรรณนา
ขณะเดนิ เขา้ ไปในสวน ฉนั รูส้ ึกเหมือนตัวเองเป็นอลซิ ในแดนมหัศจรรย์ตกอยทู่ ่ามกลางสีสนั และรูปทรงละลานตา ทัง้
ดอกเชอร์รี่สีชมพูที่ตดั กับทิวลิป แดฟโฟดิล และไฮยาซนิ ดท์ กี่ าลังเบ่งบานอย่างร่าเริง แลว้ ยงั มกี ลน่ิ อนั หอมหวานเหลา่ นั้นอกี ละ่
ทว่าสง่ิ ท่ที าให้อทุ ยานแหง่ นี้โดดเด่นอยา่ งแทจ้ รงิ คือ ทิวลิปทุกชนิด ทุกรูปร่างและทุกเฉดสี ทวิ ลปิ ขาวแตะแตม้ กลีบดว้ ยจดุ
สีแดงและเขียวสะดุดตา ทิวลปิ รูปกรวย ทิวลิปกลบี หยกั ทิวลิปทมี่ ีกลบี ราวกบั ขนนก นักท่องเที่ยวนอนราบไปกับพ้ืนเพ่ือเก็บภาพทิวลิ
ปนกแก้วสีสนั สดใสอย่างพันธ์ุมาร์กราฟ ฟาน บาเดน หรือทิวลปิ ล้อเปลวเพลงิ ขาว

ทมี่ า : เวทมนตร์แหง่ ทิวลปิ รดี เดอรไ์ ดเจสต์ สรรสาระ ฉบับสงิ หาคม 2555

บทอ่านรอ้ ยแกว้ ท่ี 2
บทบรรยาย

คราวหน่งึ เมอ่ื ขา้ พเจา้ อายุราวๆ 20 ปี เรยี นมหาวิทยาลัย เม่อื ปิดเทอมใหญไ่ ดไ้ ปค้างบ้านเพอ่ื นคนหนง่ึ ท่อี าเภอ ไชยา
จังหวัดสุราษฎรธ์ านี บังเอิญบ้านเขามีงานศพกเ็ ลยได้กินอาหารปกั ษ์ใตห้ ลายตอ่ หลายชนิดจนเปรมปรดี ์ิ ข้าพเจา้ อย่ไู ชยาคราวน้นั
ราวๆ หนง่ึ เดอื นเตม็ สังเกตว่าอาหารทุกชนิดเขาใสข่ มิ้นทั้งนน้ั แกงเหลือง แกงอะไรตอ่ แกงอะไร เช่น แกงไตปลา แมป้ ลาทะเลสด
เอามาทอดกย็ ังเอาขมน้ิ กบั เกลือป่นทาทัว่ ตวั ปลาจนเหลืองอ๋อย แรกๆ ก็ไมช่ ินค่อนข้างเหมน็ ขม้ิน กินไปนานเขา้ ก็ชินเกิดความ
อรอ่ ยข้นึ มาแทนที่ พอกลับกรงุ เทพฯ มากินอะไรตา่ งๆ ค่อนขา้ งเหม็นคาวดว้ ยไม่ใส่ขม้ิน เชน่ ปลาทะเลทอด ส้ทู เี่ ขาทาขม้ินกับ
เกลอื ทอดมาไมไ่ ด้ เอาจม้ิ น้าปลาพริกแล้ววิเศษไม่มีอะไรมาเทียม

ทมี่ า : อาหารวเิ ศษของคนโบราณ โดยประยูร อุลชุ าฎะ

บทพรรณนา

ลาน้านัน้ ไหลมาจากทศิ ตะวันตก ทอดตวั เล้ือยเล้ียวเข้าเขตหมบู่ า้ น แบ่งแผน่ ดนิ ออกเป็นสองส่วน ฟากฝ่ังสองขา้ งมี

บา้ นเรือนต้งั อยูเ่ ป็นหย่อมๆ สลบั กบั สวนยางพาราและสวนผลไม้ริมคลองดา้ นหนึง่ มีทางเดินลาดลกึ จนถงึ หาดทราย ใต้ค้งุ นา้ ที่

หักโคง้ เป็นข้อศอก ลานา้ ยามแลง้ ตน้ื เขิน แต่สายนา้ ยังคงเอ่อื ยรนิ สมา่ เสมอ หลุมพอตน้ ใหญง่ อกงา้ ชิดตลิ่ง แผ่

ก่งิ กา้ นสาขาทอดเงาปกคลุมหาดทรายและลานา้ ช่วงนั้นด้วยเงารม่ เยน็ ร่มร่ืน

วนั แล้งร้อนอยา่ งร้ายกาจ แผ่นดินระยิบระยบั ด้วยเปลวแดด สวนยางพาราสลดั ใบรว่ งโปรง่ โลง่ เปลือยกิ่งก้านอาบแดดอยู่

เครง่ ขรึม เงียบเหงา ลมสงัด ใบไม้ใบหญา้ ไม่ไหวตงิ มะพรา้ วยอดด้วนยืนตายสงบงนั อยูเ่ หนือฝงั่ สรรพสง่ิ ดูเหมอื นยอมสยบต่อ

ฤทธริ์ ้ายของตะวนั กล้าในยามเทย่ี ง

ที่มา : ก่อกองทราย โดยไพฑูรย์ ธัญญา

แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว

คาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ นออกเสียงของนกั เรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลาดับ ชื่อ-สกลุ ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี การแบ่ง ออกเสียง ชดั เจน การใชน้ ้าเสยี ง รวม
ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน วรรคตอน
16
คะแนน

4321432143214321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ัติได้ถูกตอ้ ง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติมีขอ้ บกพรอ่ งเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิมขี ้อบกพรอ่ งปานกลาง ให้ 2 คะแนน 14 - 16 ดมี าก
ปฏิบตั ิมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

11 - 13 ดี

8 - 10 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม

คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง
ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ชื่อ-สกุล การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน ความคดิ เหน็ ฟงั คนอน่ื ตามทไี่ ด้รับ สว่ นรว่ มใน 20

มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลุ่ม

43214321432 143214321

ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมิน
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั ให้ 1 คะแนน

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในช่อง
ทตี่ รงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงค์ดา้ น 4321
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่ือไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมายของ
เพลงชาติ
กษตั ริย์
1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน
2. ซ่อื สตั ย์ สุจริต 1.3 ให้ความรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชิกในโรงเรยี น
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมที่สร้างความสามคั คี
3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ
4. ใฝเ่ รียนรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน
5. อยู่อย่างพอเพียง 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตนตามหลักของศาสนา
1.6 เข้ารว่ มกจิ กรรมและมีสว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกับสถาบนั

พระมหากษัตริยต์ ามทีโ่ รงเรยี นและชมุ ชนจัดขนึ้
2.1 ให้ข้อมลู ทถี่ กู ตอ้ ง และเปน็ จริง
2.2 ปฏบิ ัติในสิง่ ที่ถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวท่จี ะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ี

ตนให้ไว้กบั เพ่อื น พ่อแม่ หรอื ผู้ปกครอง และครู
2.3 ปฏิบัติต่อผ้อู ่ืนด้วยความซ่อื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง
3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว

และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน และ
รับผิดชอบในการทางาน
4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ
4.2 มกี ารจดบนั ทึกความร้อู ยา่ งเป็นระบบ
4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล
5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินของตนเอง เช่น ส่ิงของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั ค้มุ ค่า
และเกบ็ รักษาดแู ลอย่างดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม
5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด ค้มุ ค่า และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดือดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภยั เม่ือผ้อู ่ืนกระทา
ผิดพลาด

คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใช้ชวี ติ ประจาวันบนพนื้ ฐานของ
6. ม่งุ มน่ั ในการ ความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร
ทางาน
5.6 รเู้ ท่าทันการเปลีย่ นแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตัว
7. รักความเปน็ ไทย อย่รู ่วมกบั ผอู้ น่ื ได้อย่างมคี วามสุข
8. มจี ิตสาธารณะ
6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อให้งานสาเรจ็
7.1 มีจติ สานึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8.1 ร้จู กั ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ชว่ ยทา และแบง่ ปนั ส่ิงของให้ผู้อ่ืน
8.3 ดแู ล รักษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น

ลงชือ่ .................................................... ผ้ปู ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั
ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้

73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช้

ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ด้านความรู้
 ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
 ดา้ นอื่นๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมที่มีปัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ มี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

ลงช่ือ.........................................................ผ้สู อน
(นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์)
ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศกึ ษาปี ๒หน่วย

การเรยี นรทู้ ี่ ๑ การอา่ นออกเสยี ง เรือ่ ง หลักการอา่ นออกเสียง บทร้อยกรอง

เวลา 1 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์

…………………………………………………………………...................................…………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนินชวี ิตและมี
นสิ ยั รักการอ่าน

ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
ม.2/1 อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง

สาระสาคัญ

การอ่านบทบรรยายและบทพรรณนา ตอ้ งอ่านออกเสยี งให้ถูกต้องตามหลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว
และมีมารยาทในการอ่าน

สาระการเรยี นรู้

ความรู้ (K)

1.การอ่านออกเสียง ประกอบดว้ ยบทรอ้ ยกรอง

ทกั ษะ/กระบวนการ (P)

1. ทักษะการเปรียบเทียบ 4. ทกั ษะการตง้ั เกณฑ์

2. ทักษะการวเิ คราะห์ 5. ทักษะการประเมิน

3. ทกั ษะการจาแนกประเภท 6. ทักษะการนาความรู้ไปใช้

คุณลักษณะ (A)
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้

3. มุง่ มนั่ ในการทางาน
4. รกั ความเปน็ ไทย

สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการส่อื สาร ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้

2. ความสามารถในการคิด รจู้ กั วิเคราะห์ เพ่อื นาไปสู้การสรา้ งองค์ความรู้

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1.ครใู หน้ ักเรียนสืบค้นขอ้ มูลตัวอย่างการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง จากแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ

2.ครูสมุ่ เลขท่นี ักเรียน 1-2 คน นาเสนอตัวอย่างการอา่ น ออกเสียงบทร้อยกรอง
3. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองของเพอื่ น
4. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

ขั้นพฒั นาผู้เรียน
1.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1) รว่ มกันศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง หลักการอา่ นออกเสยี งบท

ร้อยกรอง จากหนงั สอื เรยี น
2.ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเรื่อง หลักการฝึกอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง จนมคี วามเขา้ ใจกระจา่ งชดั
3.นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันทาใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง หลกั การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง โดยให้สมาชิกแต่ละคน

ปฏิบตั กิ จิ กรรม ดังนี้
1) สมาชกิ คนท่ี 1 เขยี นคาตอบในข้อ 1 แลว้ สง่ ให้สมาชกิ คนที่ 2

2) สมาชกิ คนท่ี 2 ตรวจสอบคาตอบในข้อ 1 แล้วเขียนคาตอบในข้อ 2 จากนน้ั ส่งใหส้ มาชิกคนที่ 3
3) สมาชกิ คนท่ี 3 ตรวจสอบคาตอบในขอ้ 2 แล้วเขียนคาตอบในขอ้ 3 จากนนั้ สง่ ให้สมาชิกคนที่ 4
4) สมาชกิ คนที่ 4 ตรวจสอบคาตอบในข้อ 3 แลว้ เขียนคาตอบในขอ้ 4 สมาชิกแต่ละคนท่ีตรวจสอบคาตอบ ถ้า

เห็นว่าคาตอบยงั ไมถ่ ูกต้องสมบูรณ์กใ็ หเ้ ขียนคาตอบเพ่มิ เติม
4. สมาชิกในแต่ละกลมุ่ จะได้มีโอกาสอา่ นและเขยี นคาตอบหมนุ เวียนกนั ไปเรือ่ ยๆ จนเสรจ็ กลา่ วคือ สามารถตอบ

คาถามได้ชัดเจนครบถว้ นทุกคาถาม
5. ตวั แทนนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานท่ี 1.3 หนา้ ชนั้ เรียน ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง

จากนัน้ กลา่ วชมเชยตัวแทนกล่มุ ทน่ี าเสนอคาตอบไดถ้ ูกตอ้ งทุกข้อเพื่อเสรมิ สรา้ งกาลงั ใจ

6. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ
ขน้ั รวบยอด

1.นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายสรปุ องค์ความรู้เรอ่ื ง หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง และแนวทางในการนาความรู้ไป
ใช้

สอื่ /อุปกรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้
1.หนงั สือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.2

2.ใบงานท่ี 1.3 เร่อื ง หลักการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง

การวัดและประเมินผล

วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 1.3 ใบงานท่ี 1.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ

สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

การทางาน และรักความเปน็ ไทย

ใบงานที่

1.3 หลักการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนอธบิ ายหลกั การอ่านตอ่ ไปนีม้ าส้นั ๆ พอเขา้ ใจ
1. หลักการอ่านกลอนบทละคร

2. หลักการอ่านกลอนเพลงยาว

3. หลกั การอ่านกลอนนิทาน

4. หลกั การอ่านกาพย์ห่อโคลง

ใบงานที่

1.3 หลกั การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนอธิบายหลักการอา่ นตอ่ ไปน้ีมาสั้นๆ พอเข้าใจ
1. หลักการอ่านกลอนบทละคร

2. หลักการอา่ นกลอนเพลงยาว

3. หลกั การอ่านกลอนนิทาน

4. หลักการอา่ นกาพย์ห่อโคลง

(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน

คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการทีก่ าหนด แล้วขดี  ลงในช่อง
ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321

1 เนอื้ หาละเอยี ดชัดเจน
2 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา
3 ภาษาทใี่ ช้เข้าใจงา่ ย
4 ประโยชน์ทีไ่ ดจ้ ากการนาเสนอ
5 วิธกี ารนาเสนอผลงาน

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก