จริง ๆ ก็มีอยู่หลายช่องทาง แต่ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่าเบอร์หนึ่งของผู้ให้บริการผ่อนโทรศัพท์โดยไม่ใช้บัตรเครดิตในเมืองไทยต้องเป็น Jaymart อย่างแน่นอน ถ้าคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ เชื่อว่าคุณกำลังศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ และน่าจะพอทราบแล้วว่า เจมาร์ทจะทำให้คุะณได้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือรุ่นที่อยากได้อยู่ง่ายขึ้น แม้ว่าราคาจะสูงเป็นหมื่นบาท ยากที่จะจ่ายเงินซื้อในครั้งเดียว แต่บริการผ่อนนี้ ทำให้คุณสามารถแบ่งจ่ายได้รายเดือน ไม่กระทบสภาพคล่องเงินในกระเป๋าที่จะเอาไปใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองและครอบครัวมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม บริการนี้มันมีรายละเอียดเชิงลึกที่ต้องทำความเข้าใจให้ดี เพราะไม่มีอะไรฟรีในโลก ถึงแม้บริการจะดียังไง แต่เค้าก็ต้องผลกำไรเพื่อหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจระดับหมื่นล้านเติบโตไปได้ ถ้าคุณกำลังชั่งใจเรื่องที่จะผ่อนโทรศัพท์กับ Jaymart ดีหรือไม่ ลองอ่านสิ่งที่ควรรู้ต่อไปนี้ด้านล่างนี้ดู เป็นการสรุปออกมาเป็นข้อ ๆ เผื่อประโยชน์สำหรับคุณใช้ประกอบการตัดสินใจ และเพื่อให้อ่านและเข้าใจง่ายขึ้น ก็เลยเขียนออกมาเป็นตาราง คำถาม-คำตอบ (Q&A) ดูง่าย ๆ ซึ่งรวม ๆ แล้วสรุปออกมาได้ 15 ข้อ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณไม่มากก็น้อย
หมายเหตุ
ข้อมูลในบทความนี้ไม่ได้มาจากทาง Jaymart โดยตรงแต่อย่างไร ข้อมูลในนี้เขียนขึ้นตามความเข้าใจและประสบการณ์ของผู้เขียนเท่านั้น อาจจะมีเนื้อหาบางส่วนที่คุณจะต้องติดต่อสอบถามจากทางเจมาร์ทโดยตรงเอง เพื่อให้ได้รับข้อมูลล่าสุดและถูกต้องที่สุด บทความนี้มีจุดประสงค์เพียงต้องการเผยแพร่ช่องทางสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนโทรศัพท์มือถือเพียงเท่านั้น หากเนื้อหาที่ปรากฏในบทความนี้ไม่ถูกต้องประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยในความผิดพลาดไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย นอกจากนั้น หากคุณพบข้อผิดพลาดและต้องการบอกกล่าวผู้เขียนให้ทำการแก้ไข ก็สามารถติดต่อผู้เขียนผ่านแบบฟอร์มติดต่อในเว็บไซต์นี้ได้
คำถาม-คำตอบ
| 1. Jaymart คืออะไร | เชื่อไหม มีคนไม่รู้จักจริง ๆ นะ ขออธิบายสั้น ๆ แบบนี้ว่า เค้าเป็นบริษัทจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่มีสาขาอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ในอีกบทบาท เค้ายังมีธุรกิจด้านการเงินประเภทปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่อนซื้อโทรศัพท์มือถือด้วย |
| 2. เป็นการผ่อนแบบดอกเบี้ย 0% ใช่ไหม | ไม่ใช่ บริการนี้มีการคิดดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นสินเชื่อผ่อนสินค้า ดังนั้น จึงมีการคิดดอกเบี้ยลักษณะคล้ายสินเชื่อบุคคลเลย (ค่อนข้างสูง แต่เป็นไปตามกฎหมาย) |
| 3. ไม่มีบัตรเครดิต จะผ่อนได้ไหม | ได้ จริง ๆ บริการผ่อนของ Jaymart ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตอยู่แล้ว เพราะลักษณะเป็นการปล่อยสินเชื่อเพื่อผ่อนจ่ายโทรศัพท์มือถือ ถ้าคุณสมบัติของคุณผ่านเกณฑ์และได้รับการอนุมัติ ก็จะได้วงเงินเท่ากับรุ่นโทรศัพท์ที่เลือกไว้ วางเงินดาวน์นิดหน่อย แล้วเอาเครื่องไปใช้ได้เลย ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือบัตรอื่นใดทั้งสิน |
| 4. คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นอย่างไร | ต้องเป็นคนสัญชาติไทย อายุ 20-55 ปี มีงานประจำทำ เงินเดือน 8,000 บาทขึ้นไป มี Statement หลักฐานการรับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคาร (ย้อนหลัง 6 เดือน) |
| 5. ถ้าไม่ได้เป็นพนักงานประจำ เป็นพนักงานแบบสัญญาจ้าง จะผ่านกับ Jaymart ได้มั้ย | น่าจะได้เช่นกัน เพราะไม่เกี่ยวกับว่าทำงานแบบไหน ขอให้มีเงินเดือนตามเกณฑ์ที่เค้ากำหนดเพียงเท่านั้น |
| 6. ตกงานอยู่จะผ่อนโทรศัพท์ได้ไหม | ไม่ได้ เพราะ Jaymart กำหนดว่า คุณสมบัติของมีงานทำประจำ มีเงินเดือน |
| 7. เป็นนักศึกษาสามารถผ่อนโทรศัพท์ได้ไหม | ถ้าเป็นนักศึกษาเรียนเต็มเวลาไม่น่าจะได้ แต่ถ้าเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย มีเงินเดือนประจำที่แน่นอน (8,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป) ก็น่าจะเข้าเกณฑ์ของ Jaymart ที่กำหนดไว้ |
| 8. เห็นบอกว่ามีบัตรประชาชนใบเดียวก็ผ่อนได้ จริงไหม | จริงครึ่ง ไม่จริงครึ่ง เพราะตอนสมัครจะต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของคุณ แต่ทาง Jaymart จะอนุมัติหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลักฐานแสดงการรับเงินเดือน อย่าง Statement บัญชีธนาคารแสดงรายได้ย้อนหลัง 6 เดือน |
| 9. ต้องวางเงินดาวน์ก่อนหรือไม่ | ถ้าคุณสมบัติผ่าน และได้รับการอนุมิตร ก็จ่ายเงิน 5% ของราคาเครื่องก่อน แล้วก็เอาเครื่องไปใช้ได้เลย |
| 10. รับเครื่องได้เลยไหม | หลายคนคงเคยเจอประสบการณ์การผ่อนโทรศัพท์กับร้านค้าบางร้านที่เราต้องผ่อนไปสักระยะ หลายเดือนอยู่แล้วร้านถึงค่อยให้เราโทรศัพท์เราเอาไปใช้ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเจมาร์ท เพราะหลังจากได้รับการอนุมัติ (สินเชื่อ) คุณก็เพียงวางเงินดาวน์ 5% ของราคาเต็มของโทรศัพท์ เท่านี้ คุณก็สามารถเอาเครื่องไปใช้ได้เลย แล้วก็ค่อย ๆ ผ่อนจ่ายรายเดือนที่หลัง (ประมาณเดือนละ 1,000 บาท แล้วแต่รุ่น) |
| 11. ต้องผ่อนจ่ายเดือนละประมาณเท่าไร | แล้วแต่รุ่นของโทรศัพท์มือถือที่คุณได้ผ่อน แต่โดยทั่วไปประมาณ 1,000 บาท++ ต่อเดือน ยาวประมาณ 6-10 เดือนขึ้นไปสำหรับโทรศัพท์ Android แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์ iPhone อาจจะต้องผ่อนแพงและยาวนานกว่านั้น |
| 12. ผ่อนอะไรได้บ้าง | หลัก ๆ คือ สามารถผ่อนโทรศัพท์มือถือ โดยเป็นได้ทั้งเครื่องที่เป็นระบบ Android ยี่ห้อยอดฮิตอย่าง OPPO, VIVO, Xiaomi, Samsung, Huawei, Realme, OnePlus เป็นต้น และระบบ iOS อย่าง iPhone รุ่นล่าสุด และเนื่องจาก Jaymart เป็นร้านขายอุปกรณ์ไอทีอยู่แล้ว ดังนั้่น นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว ก็ยังมีสินค้าไอทีอื่น ๆ ให้เลือกผ่อนด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ แท็บเล็ต, สมาร์ทวอทช์, ลำโพง ไปจนถึงหูฟังบลูทูธ ก็มีให้เลือกหลายอย่าง |
| 13. ผ่อนแท็บเล็ตได้ไหม | ได้แน่นอน เท่าที่เห็นมีแท็บเล็ตยอดฮิตของ Huawei อย่างตระกูล MatePad มีให้ผ่อนด้วย รวมถึงของยี่ห้ออื่นก็มี |
| 14. ได้ข่าวว่าสามารถผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วย จริงไหม | จริง อันนี้น่าสนใจ นอกจากโทรศัพท์มือถือแล้ว บริการของ Jaymart ยังสามารถผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย อาทิเช่น สมาร์ททีวี เครื่องฟอกอากาศ หม้อทอดไร้น้ำมัน ตู้เย็น เป็นต้น |
| 15. สมัครผ่อนได้ที่ไหน | แต่เดิมคุณต้องไปที่สาขาของ Jaymart ที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้าที่กระจายอยู่ทั่วประเทศเพื่อสมัครและยื่นเอกสาร แต่ปัจจุบันเค้ามีอีกช่องทางในการสมัครผ่อนโทรศัพท์ ก็คือผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Jaymart ซึ่งคุณสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายโดย Google เมื่องเข้าไปในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเค้าแล้ว (jaymartstore.com) ก็เพียงเข้าไปกรอกแบบฟอร์ม ระบุข้อมูลส่วนตัว ระบุเบอร์โทรที่สามารถติดต่อได้ และอัพโหลดเอกสาร แล้วก็รอการติดต่อกลับได้เลย |
รู้หรือไม่ !?
แม้ว่าคุณสามารถผ่อนโทรศัพท์กับเจมาร์ทแบบใช้เพียงแค่บัตรประชาชน+ Statement ธนาคารแสดงเงินเดือนย้อนหลังก็ได้แล้ว แต่อย่าลืมว่าไม่ได้ 0% นะ คือคุณต้องเสียดอกเบี้ยด้วย และต้องยอมรับว่าต้องจ่ายเงินสำหรับโทรศัพท์เครื่องหนึ่งแพงกว่าราคาปกติที่ขายตามท้องตลาดอยู่พอสมควรเลย ด้วยเหตุนี้ ยังไงบัตรเครดิตก็ยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการผ่อนโทรศัพท์อยู่ดี เพราะมันเป็นการผ่อนแบบ 0% อย่างแท้จริง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว ดังนั้น ถ้าคุณมีรายได้เพียงพอ แนะนำให้มีบัตรสักใบเป็นของตัวเองจะดีกว่า คุณจะพบว่าทุกอย่างจะง่ายและสะดวกกว่าเดิมเยอะเลย ขอแนะนำ บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ (
) (บัตรยอดฮิตที่สุดของคนกรุง - ต้องมีฐานรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนและอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลนะจึงจะสมัครได้)
แต่ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล อาจจะลองใบนี้ก็ได้ บัตรเครดิตเคทีซี (
) (บัตรยอดฮิตเบอร์หนึ่งของคนไทย - ต้องมีฐานรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนจึงจะสมัครได้ อาศัยอยู่ได้ทุกจังหวัดทั่วไทย)
ขอบคุณภาพจาก instore.jaymartstore.com
ขอบคุณภาพจาก instore.jaymartstore.com