มารู้ความแตกต่าง ระหว่างผู้ใช้สิทธิ "บัตรทอง" กับ "ประกันสังคม" สิทธิแบบไหนได้ ค่ารักษาพยาบาล เท่าไร ต้องติดต่อช่องทางไหน เช็คที่นี่
หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าถึงความแตกต่างระหว่าง ผู้ใช้สิทธิ "บัตรทอง" กับ "ประกันสังคม" เป็นอย่างไร จริง ๆ แล้วทั้ง 2 สิทธิ มีความแตกต่างกันหลายส่วน ทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล จำนวนผู้ใช้สิทธิ รวมไปถึงช่องทางการติดต่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน และเพื่อความเข้าใจถูกต้อง ทาง คมชัดลึก ขอนำข้อมูลมาแบ่งปันให้ทุกคนได้รับรู้กัน
สิทธิ "บัตรทอง"
- สิทธิ "บัตรทอง" ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการหรือ สถานพยาบาล ประจำแล้วใช้สิทธิได้ทันที
- สิทธิ "บัตรทอง" ใช้กับ สถานพยาบาล ประจำที่ลงทะเบียนไว้ กรณีเจ็บป่วยต่างพื้นที่เข้า สถานพยาบาล ปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติเข้า สถานพยาบาล รัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้
- สิทธิ "บัตรทอง" การย้ายสิทธิ สถานพยาบาล ทำได้ 4 ครั้งต่อปี
- สิทธิ "บัตรทอง" ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและไม่มีวงเงิน
- สิทธิ "บัตรทอง" ให้บริการค่าอาหารและค่าห้องสามัญ
- สิทธิ "บัตรทอง" ได้เพียงสิทธิรักษาฟรี ไม่มีเงินชดเชยว่างงานเหมือน ประกันสังคม
สิทธิ "ประกันสังคม"
- สิทธิ "ประกันสังคม" ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน ตามเงื่อนไขถึงจะสามารถใช้สิทธิได้
- สิทธิ "ประกันสังคม" ใช้กับ โรงพยาบาล ที่เลือกสิทธิไว้กรณีฉุกเฉินเข้าที่ไหนก่อนก็ได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
- สิทธิ "ประกันสังคม" การย้ายสิทธิ สถานพยาบาล ย้ายได้ปีละครั้ง
- สิทธิ "ประกันสังคม" ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ไม่เกิน 900 บาท / ปี
- สิทธิ "ประกันสังคม" ให้บริการค่าห้องและค่าอาหารไม่เกิน 700 บาท / วัน
- สิทธิ "ประกันสังคม" ได้รับเงินชดเชย กรณีว่างงาน เกษียณ เสียชีวิต
และยังมีข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิการรักษาอื่นๆอีกมากมายของทั้ง 2 สิทธิการรักษา ทั้งนี้เพื่อความเข้าใจและเข้าถึง บริการสาธารณสุข ที่ถูกต้องแนะนำสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนของแต่ละสิทธิการรักษาดังนี้
สิทธิรักษาพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากร่างกายเสื่อมสภาพไปตามวัย จึงจำเป็นต้องได้รับสิทธิการดูแลรักษาเมื่อเจ็บป่วย เมื่อเกษียณแล้ว ยังคงใช้สิทธิประกันสังคมได้หรือไม่ หรือควรเลือกใช้สิทธิบัตรทองดีกว่า ก่อนตัดสินใจเลือกสิทธิการรักษา มาดูกันก่อนว่าสิทธิการรักษาแบบไหนเหมาะกับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุในวัยเกษียณ
สารบัญ
- สิทธิรักษาพยาบาล สำหรับผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง
- ประกันสังคม กับ บัตรทอง เลือกแบบไหนดีกว่ากัน
Link ที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม
ติดต่อ สปสช.
สิทธิรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน ในวัยเกษียณ
สิทธิขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุไม่ว่าจะเป็น สิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือ สิทธิประกันสังคม ก็เป็นสิทธิที่ผู้สูงอายุจะใช้ได้หลังเกษียณ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- สิทธิ”บัตรทอง” หรือบัตรประกันสุขภาพแห่งชาติ
คนไทยทุกคนสามารถใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้ตลอดชีวิตไม่มีวันหมดอายุ โดยครอบคลุมการรักษาโรค เช่น ให้บริการตรวจสุขภาพ ตรวจคัดกรองโรค ให้คำแนะนำด้านสุขภาพต่าง ๆ อาการเจ็บป่วยทางกาย หรือทางจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า ไปจนถึงโรคร้ายแรง โรคเรื้อรัง โดยคุ้มครองค่าใช้จ่ายตามการวินิจฉัยของแพทย์ และประกาศหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ต้องไม่เป็นผู้ถือสิทธิอื่น เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิรัฐวิสาหกิจ หรือ สิทธิข้าราชการ - สิทธิประกันสังคม
ถ้าผู้สูงอายุต้องการเลือกคงสถานภาพสมาชิกประกันสังคมไว้ เพื่อยังคงสิทธิรักษาพยาบาล จะต้องยื่นสมัครประกันสังคมมาตรา 39ต่อภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ออกจากงาน โดยจะต้องจ่ายเงินสมทบจำนวน 432 บาทต่อเดือน โดยประกันสังคม จะคุ้มครองอาการเจ็บป่วยทั่วไป หรือเมื่อประสบอุบัติเหตุ ส่วนกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเมื่อจำเป็นต้องเข้ารับการบริการในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ผู้ประกันตนสามารถสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อน แล้วจึงค่อยเบิกคืนกับทางประกันสังคมได้ในภายหลัง
ประกันสังคมหรือบัตรทอง ต่างกันอย่างไร
ลูกจ้างในระบบประกันสังคมที่เตรียมเกษียณอายุแล้ว ควรวางแผนเลือกการรักษาพยาบาลแบบไหน ระหว่างสิทธิบัตรทองและสิทธิประกันสังคม
ผู้สูงอายุที่เกษียณแล้ว ลองมาตรวจสอบรายละเอียดสิทธิประโยชน์ระหว่าง สิทธิประกันสังคม และสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ 2 ทางเลือก แล้วลองวางแผนดูว่าควรเลือกแบบไหนแล้วได้ประโยชน์มากที่สุด
เปรียบเทียบสิทธิบัตรทองและสิทธิประกันสังคม
สิทธิประโยชน์ประกันสังคม ม.39บัตรทอง
1. การใช้บริการรพ. ที่ได้เลือกไว้รพ.ในเขตพื้นที่ที่ร่วมโครงการและลงทะเบียนไว้2. สิทธิการรักษาสิทธิการรักษาประกันสังคม อ่านรายละเอียดได้ ที่นี่สิทธิการรักษาพยาบาลบัตรทอง อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ ที่นี่3. บริการทันตกรรมถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน
ไม่เกิน 900 บาท/ปีใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ไม่จำกัดวงเงิน4. การรักษาต่อเนื่องไม่มีสิทธิการรักษาต่อเนื่องการรักษาแบบพักฟื้น
การฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการรักษา5. ยาและเวชภัณฑ์ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)6. ค่าห้องและค่าอาหารไม่เกิน 700 บาท/วันฟรีค่าห้องและค่าอาหารสามัญ (รพ.รัฐบาล)7. ระยะเวลาการคุ้มครองสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน ด้วยการลาออก เกษียณอายุ หรือขาดส่งเงินสมทบเกิน 3 เดือนไม่มีวันหมดอายุใช้ได้ตลอดชีวิต
*ศึกษารายละเอียดสิทธิการรักษาเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สปสช. และ เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม
ประกันสัมคมมาตรา 39 เกษียณแล้วก็ยังใช้ต่อได้
ผู้สูงอายุที่เกษียณจากการทำงานและสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคม ที่อยากจะใช้ สิทธิรักษาพยาบบาลประกันสังคม ด้วยการจ่ายสมทบตามมาตรา 39 ยังคงสิทธิรักษาพยาบาล รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ของประกันสังคม (ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และเสียชีวิต ทั้งนี้จะได้รับเงินบำนาญชราภาพน้อยลง เพราะเมื่อลาออกจากการเป็นผู้ประกันตน ทำให้เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือน ที่จะนำมาคำนวณเงินบำนาญจะเหลือเพียง 4,800 บาท ส่งผลให้เงินบำนาญที่เราจะได้รับลดลง ในขณะที่เงินเดือนเฉลี่ยในการคำนวณเงินบำนาญของประกันสังคมมาตรา 33 อยู่ที่ 15,000 บาท
บัตรทองคุ้มครองตลอดชีพ
หากดูตารางเปรียบเทียบ จะเห็นว่า สิทธิการรักษาพยาบาลตามสิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสิทธิรักษาพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม อีกทั้งอายุการคุ้มครองของบัตรทองไม่มีวันหมดอายุ
หากเกษียณแล้วยังสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลจากประกันสังคมต่อได้ เพียงสมัครประกันสังคมมาตรา 39 เพื่อใช้สิทธิ และอีกทางเลือกหนึ่งคือสิทธิบัตรทองหรือประกันสุขภาพทั่วหน้า ก็เป็นหนึ่งสิทธิรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานสำหรับคนไทยเช่นกัน ดังนั้นหากดูรายละเอียดแล้วสามารถใช้สิทธิที่เหมาะกับตนเองได้เลย