ระเบียบความปลอดภัยของเครื่องจักรที่เผยแพร่โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากำหนดเงื่อนไขความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่จำเป็นในระหว่างการออกแบบและการผลิตของเครื่องจักรที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์และสินค้าหากมีการกำหนดไว้อย่างถูกต้อง กฎระเบียบยังควบคุมกระบวนการประเมินความสอดคล้องที่จะต้องปฏิบัติตามและเกณฑ์ขั้นต่ำที่จะต้องพิจารณาในการเลือกหน่วยงานที่ได้รับแจ้งเพื่อดำเนินการประเมินความสอดคล้อง
คำอธิบายของเครื่องจะได้รับในระเบียบนี้ ดังนั้นชิ้นส่วนที่ใช้แทนกันได้ของเครื่องจักรชิ้นส่วนความปลอดภัยอุปกรณ์เสริมการยกโซ่เชือกและสายพานอุปกรณ์ส่งกำลังทางกลที่ถอดออกได้และเครื่องที่เสร็จสมบูรณ์บางส่วนจะเรียกว่าเครื่องจักร จากคำจำกัดความนี้คำว่าเครื่องหมายถึง:
- นอกเหนือจากเครื่องจักรที่เสร็จบางส่วนแล้ว
- ติดตั้งระบบขับเคลื่อนอื่น ๆ นอกเหนือจากพลังมนุษย์และสัตว์
- คอลเลกชันของชิ้นส่วนที่ได้รับการรวบรวมสำหรับการใช้งานเฉพาะ
- อย่างน้อยหนึ่งในส่วนเหล่านี้กำลังเคลื่อนไหว
- โดยไม่จำเป็นต้องมีส่วนประกอบเพื่อเชื่อมต่อกับแหล่งพลังงานและการเคลื่อนไหว
- สามารถทำงานได้เมื่อติดตั้งในยานพาหนะขนส่งหรือติดตั้งในอาคาร
- ควบคุมและควบคุมการทำงานโดยรวม
เครื่องที่เสร็จบางส่วนคือชุดของชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับเครื่องอื่นหรือเครื่องที่เสร็จสมบูรณ์บางส่วนตามกฎระเบียบ แต่ไม่สามารถดำเนินการแอปพลิเคชันเฉพาะด้วยตนเองได้
ขึ้นอยู่กับการพัฒนาของเทคโนโลยี เครื่องจักรกล และส่วนประกอบต่างๆเริ่มทวีคูณและกระจายตัว สิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอุบัติเหตุจากการทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงานแม้ว่าจะมีการฝึกอบรม
ดังนั้นการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น ตามบทบัญญัติของกฎหมายความปลอดภัยและอาชีวอนามัยฉบับที่ 6331 ที่ใช้บังคับ ตรวจสอบเครื่องเป็นประจำได้รับการทำภาคบังคับ การตรวจสอบเหล่านี้ควรดำเนินการโดยวิศวกรเครื่องกลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตน
ในกฎระเบียบเกี่ยวกับเงื่อนไขสุขภาพและความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ที่ออกโดยกระทรวงแรงงานและประกันสังคมระยะเวลาการควบคุมเกณฑ์ที่จะต้องพิจารณาในระหว่างการตรวจสอบเป็นระยะและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องมีการอธิบายตามประเภทของเครื่องจักร
องค์กรตรวจสอบและทดสอบ ระเบียบความปลอดภัยของเครื่องจักร ภายในขอบเขตของกลุ่มเครื่องที่มีความเสี่ยงต่ำปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การควบคุมเพื่อตรวจสอบว่ามีการให้บริการหรือไม่ การควบคุมเหล่านี้ดำเนินการโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและจัดทำรายงานเป็นผลมาจากการตรวจสอบ ก่อนการตรวจสอบ บริษัท ผู้ผลิตจะต้องเก็บเอกสารทางเทคนิคและตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อตรวจสอบพร้อมสำหรับการตรวจสอบการตลาด
ในการควบคุมเครื่องจะพิจารณามาตรฐานต่อไปนี้รวมถึงเกณฑ์ของกฎความปลอดภัยของเครื่องจักร:
- TS EN ISO 12100: ความปลอดภัยในเครื่องจักร 2010 - การประเมินความเสี่ยงและการลดความเสี่ยง
- TS EN 60204-1 ความปลอดภัยในเครื่องจักร - อุปกรณ์ไฟฟ้าของเครื่องจักร
นอกจากบริการรับรองและฝึกอบรมแล้วองค์กรออกใบรับรอง T certificationRCERT ยังให้บริการด้านเทคนิคแก่ บริษัท ที่ต้องการ ในบริบทนี้ การตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องจักร และบริการตรวจสอบอื่น ๆ คุณสามารถไว้วางใจหน่วยรับรองTÜRCERTกับเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ
บทความนี้จะช่วยทำคุณเข้าใจถึงมาตรฐานตรวจสอบปั้นจั่น ตรวจเครน ถูกต้องตามกฎหมาย
ปั้นจั่น คือ เครื่องจักรที่ใช้ยกสิ่งของขึ้นลงตามแนวดิ่ง และ เคลื่อนย้ำยสิ่งของเหล่านั้นในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ ปัจจุบันนิยมนำมาไว้ใช้ยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากพวกโครงสร้างเพื่อประกอบ ติดตั้ง จัดเก็บเข้าชั้นเก็บสินค้าในคลังสินค้า เป็นต้น
- ทำไมถึงต้องตรวจเครนก่อนใช้งาน
- ใครบ้างที่ต้องตรวจเครน
- คุณสมบัติผู้ตรวจสอบเครน
- ตรวจเครนต้องตรวจอะไรบ้าง
- ความถี่ในการตรวจเครนต้องตรวจสอบบ่อยแค่ไหน
- น้ำหนักที่ใช้ในการทดสอบเครนจะต้องใช้ขนาดใด
- สรุป :
ทำไมถึงต้องตรวจเครนก่อนใช้งาน
- เพื่อให้แน่ใจว่าเครนจะสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- เพื่อเตรียมความพร้อมของเครนก่อนใช้งาน และ ป้องกันการเกิดความเสียหายระวังใช้เครน
- เพื่อให้ทราบถึงปัญหาและข้อบกพร่องต่างๆในส่วนประกอบปั้นจั่น
- เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานกับปั้นจั่น
- เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติงานกับปั้นจั่น
ใครบ้างที่ต้องตรวจเครน
ผู้ที่มีการนำปั้นจั่นมาใช้งานเราสามารถแบ่งปั้นจั่นออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- ปั้นจั่นชนิดอยู่กับที่ (ปจ1)
- ปั้นจั่นชนิดเคลื่อนที่ (ปจ2)
ผู้ที่มีการใช้งานปั้นจั่น ปจ1 ปจ2 ทั้ง 2 ชนิดนี้มาใช้งานจะต้องทำการตรวจเครนตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
คุณสมบัติผู้ตรวจสอบเครน
- ต้องเป็นวิศวกรเครื่องกล ระดับ ภาคีขึ้นไป และมีใบ กว.
- ต้องได้รับนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากกรมสวัสดิการ และ คุ้มครองแรงงาน ตามมาตรา 11
- ต้องได้รับบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากกรมสวัสดิการ และ คุ้มครองแรงงาน ตามมาตรา 9
ตามหลักเกณฑ์กฎหมายเกี่ยวกับการตรวจปั้นจั่น อ้างอิง ” กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2564 หมวดที่ 2 ส่วนที่ 1 ” นายจ้างจะต้องจัดให้มีการทดสอบเครนโดยวิศวกรฯ
ตรวจเครนต้องตรวจอะไรบ้าง
- ตรวจสอบควบคุมให้มีลวดสลิงเหลืออยู่ในม้วนลวดสลิงไม่น้อยกว่ำสองรอบตลอดเวลาที่ปั้นจั่นทำงาน
- ตรวจสอบจัดให้มีชุดล็อกป้องกันลวดสลิงหลุดจากตะขอของปั้นจั่นและทำการตรวจสอบให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบจัดให้มีที่ครอบปิดหรือกั้นส่วนที่หมุนรอบตัวเอง ส่วนที่เคลื่อนไหวได้ หรือส่วนที่อาจเป็นอันตรายของปั้นจั่น และ ให้ส่วนที่เคลื่อนที่ของปั้นจั่นหรือส่วนที่หมุนได้ของปั้นจั่นอยู่ห่างจากสิ่งก่อสร้าง หรือ วัตถุอื่นในระยะที่ปลอดภัย
- ตรวจสอบให้ลูกจ้างสวมใส่เข็มขัดนิรภัย และ สายช่วยชีวิตตลอดเวลาที่ทำงานบนแขนปั้นจั่นหรือ ชุดสะพาน
- พื้นกันลื่นราวกันตก และ แผงกันตกระดับพื้นสำหรับปั้นจั่นชนิดที่ต้องมีการจัดทำพื้น และ ทางเดิน
- ตรวจสอบการจัดให้มีเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสมและพร้อมใช้งานไว้ที่ห้องบังคับปั้นจั่น หรือ ตำแหน่งที่สามารภใช้งานได้สะดวก
- ตรวจสอบการติดตั้งปั้นจั่นบนฐานที่มั่นคงโดยวิศวกรเป็นผู้รับรอง
- ตรวจสอบการติดตั้งชุดควบคุมการทำงานเมื่อยกวัสดุขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุด (upper limit switch ) ที่ใช้งานได้ตามปกติ
- ตรวจสอบชุดควบคุมพิกัดน้ำหนักยก (overload limit switch) ที่ใช้งานได้ตามปกติ
- ตรวจสอบสัญญาญเสียง และ แสงไฟเตือนภัยตลอดเวลาที่ปั้นจั่นทำงาน โดยติดตั้งไว้ให้เห็น และ ได้ยินชัดเจน
- ตรวจสอบป้านบอกพิกัดน้ำหนักยกไว้ที่ปั้นจั่น และ รอกของตะขอพร้อมทั้งติดตั้งป้ำยเตือนให้ระวังอันตรายที่ลูกจ้างเห็นได้ชัดเจน
- ตรวจสอบคู่มือการทำงานกับปั้นจั่นเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย
การตรวจปั้นจั่นจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ของปั้นจั่น พ.ศ. 2554
นอกเหนือจากที่กล่าวมายังมีอีกหลายส่วนที่เราจะต้องทำการตรวจสอบจำพวกอุปกรณ์ช่วยยกในงานเครน Standard Lifting Equipment ยกตัวอย่างเช่น
- ลวดสลิง (Steel Wire Rope)
- สลิงผ้าเส้นใยสังเคราะห์ (Polyester Sling)
- สลิงยก (Wire Rope Slings)
- โซ่เหล็ก (Steel Chain)
- โซ่ยก (Lifting Chain Slings)
- ชุดตะขอยก (Hooks)
- สเก็น (Shackle) ตัวช่วยเคล้องเกี่ยว
- มาสเตอร์ลิงค์ (Master Link)
- อุปกรณ์เหล็กประกอบชุดยกอื่นๆ (Rigging Hardware) เป็นต้น
ความถี่ในการตรวจเครนต้องตรวจสอบบ่อยแค่ไหน
1. ปั้นจั่นที่ใช้ในงานก่อสร้างพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด
- ไม่เกิน 3 ตัน ให้ทดสอบตามวาระทุก 6 เดือนพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด
- มากกว่า 3 ตัน ให้ทดสอบตามวาระทุก 3 เดือน
2. ปั้นจั่นที่ใช้ในงานอื่น ๆพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด
- ตั้งแต่ 1 ตัน ไม่เกิน 3 ตัน ให้ทดสอบตามวาระทุก 1 ปีพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด
- มากกว่า 3 ตัน ไม่เกิน 50 ตัน ให้ทดสอบตามวาระทุก 6 เดือนพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด
- มากกว่า 50 ตัน ให้ทดสอบตามวาระทุก 3 เดือน
3.
ปั้นจั่นที่ไม่มีพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด ให้วิศวกรเป็นผู้กำหนดพิกัดยก
4. ปั้นจั่นที่หยุดการใช้งานตั้งแต่ 6 เดือนหรือซ่อมแซมที่มีผลต่อความปลอดภัย ให้ทดสอบใหม่ก่อนการใช้งาน
น้ำหนักที่ใช้ในการทดสอบเครนจะต้องใช้ขนาดใด
วิศวกรต้องทดสอบการรับน้ำหนักของปั้นจั่น ตามอายุการใช้งาน
1. ปั้นจั่นใหม่
- ขนาดไม่เกิน 20 ตัน ให้ทดสอบการรับน้ำหนักที่ 1 เท่า แต่ไม่เกิน 1.25 เท่า
- ขนาดมากกว่า 20 ตัน แต่ไม่เกิน 50 ตัน ให้ทดสอบการรับน้ำหนักเพิ่มอีก 5 ตันจากพิกัดยกอย่างปลอดภัย
2. ปั้นจั่นที่ใช้งานแล้ว
- ให้ทดสอบการรับน้ำหนักที่ 1.25 เท่าของน้ำหนักที่ใช้งานจริงสูงสุด โดยไม่เกินพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด
- กรณีที่ปั้นจั่นไม่มีพิกัดยกอย่างปลอดภัยตามที่ผู้ผลิตกำหนด ให้วิศวกรเป็นผู้กำหนดพิกัดยกในการทดสอบ
สรุป :
การตรวจเครนปกติแล้ววิศวกรเครื่องกลที่มาตรวจสอบจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนผู้ตรวจสอบเครนไม่ว่าจะเป็นแบบนิติบุคคล หรือ แบบบุคคลทั่วไปก็ตามจะต้องมีเลขทะเบียนอนุญาตตรวจเครน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย และ การตรวจเครนนั้นไม่ถูกต้อง
การตรวจเครนวิศวกรจะต้องทำการตรวจสอบตามแบบฟอร์มที่ราชการกำหนดเท่านั้นคือ แบบฟอร์ม ปจ.1 ปจ.2 วิศวกรผู้ตรวจสอบจะต้องทำการลงบันทึกรายงานในแบบฟอร์มขณะทำการตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองให้กับปั้นจั่นตัวที่ไปตรวจสอบ
ทุกครั้งที่ไปตรวจเครนจะต้องทำการทดสอบพิกัดการยกอย่างปลอดภัย (Load test) โดยมีการทดสอบโดยการยกน้ำหนักจริง และ วิศวกรจะต้องยืนถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานขณะทำการทดสอบการยก จึงจะถือได้ว่าการทดสอบเครนนั้นเป็นไปตามกฎหมาย
เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ :
* ทุกเนื้อหา และ ภาพประกอบของ Jorportoday ไม่มีการสงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใด สามารถนำไปเผยแพร่ได้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่เชิงพาณิชย์
** กรณีมีการคัดลอกบทความของเราไปส่วนใดส่วนหนึ่ง โปรดติดลิงค์กลับมาที่หน้านี้เพื่อให้เครดิตกับเรา