- คำบรรยายสินค้า
รายละเอียด
ชื่อหนังสือ : ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิด การงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้แต่ง : ฝ่ายพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้
สำนักพิมพ์ : บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด
ขนาดรูปเล่ม : B5 (18.2 x 25.5 ซม.)
จำนวนหน้า : 152 หน้า
ราคา : 75 บาท
รหัสสินค้า : 885-4515-69-888-5
จุดเด่น/เนื้อหา
จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยการจัดทำชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดในแต่ละหน่วยการเรียนรู้
ได้นำแนวคิดสำคัญที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มาเป็นฐานในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้
1. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ได้พัฒนาทักษะทุกด้าน
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดเล่มนี้
ใช้กระบวนการ GPAS 5 Steps ที่กระตุ้นการทำงานของสมองตามหลัก
Brain Based Learning เพื่อหล่อหลอมการคิดทุกมิติให้ผู้เรียน
3. การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระตุ้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ตามความถนัดและความสนใจ
ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง
- Views: 3528
- รหัสสินค้า: 885-4515-69-888-5
- สถานะสต๊อก: มีสินค้าในสต๊อก
- 75.00฿
ถามตัวเองว่า "เราทำอะไรได้บ้าง"
รู้จักตัวเองให้มากขึ้นโดยการ สำรวจตัวเองก่อนออกตามหาอาชีพที่ใช่ ขอให้อยู่กับตัวเองก่อน ลองถามตัวเองดู ลองฟังเสียงของตัวเอง มันอาจเป็นเสียงที่เบาที่สุด เงียบที่สุด แต่มันคือกุญแจไขความลับว่า "มันไม่มีอาชีพเดียวในชีวิตเรา" ปริญญาตรีคืออาชีพแรก แต่เมื่อค้นพบตัวเองแล้ว เราจะพบว่า เราทำอะไรได้อีกเยอะเลย:
ภาษาไทยภาษาอังกฤษแนะแนวการงานอาชีพกิจกรรมเสริมเกมและกิจกรรม
Advertisement
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มุ่งหวังให้
ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ และได้รับประสบการณ์เบื้องต้นกับการทำงานในชีวิตประจำวัน และ
งานที่เป็นพื้นฐานอาชีพ มีทักษะในการทำงาน ทำงานอย่างมีกระบวนการ มีนิสัยรักการทำงานเห็น
คุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่องาน การจัดการเรียนในปัจจุบันมีวิธีสอนหลายวิธี การเรียนรู้แบบโครงงาน
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง จาก
การสำรวจ ค้นคว้า ทดลอง สามารถสรุปองค์ความรู้ใหม่ และสามารถนำประสบการณ์ที่ได้ไปใช้
ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ การศึกษาครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้
แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมาสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผน
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบ
โครงงาน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 จำนวน 47 คน โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก
สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน จำนวน 15 แผน
ใช้เวลาสอน 18 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน
20 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.21 ถึง 0.92 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.94 และ
แบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยโครงงานซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.31 ถึง
0.57 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 แบบประเมินโครงงานสถิติที่ใช้ในการศึกษาในการวิเคราะห์
ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า แผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมา
สร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้น
มีประสิทธิภาพ 91.43/87.45 มีค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเท่ากับ
0.7659 หมายความว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 77 และนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมา
สร้างสรรค์ โดยรวมและเป็นรายข้อ 4 ด้าน คือ 1) ด้านเนื้อหา/สาระการเรียนรู้ 2) ด้านการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ 3) ด้านสื่อและแหล่งเรียนรู้ 4) ด้านตัวครู อยู่ในระดับมาก โดยสรุปแผนการจัด
การเรียนรู้แบบโครงงานที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม ครูผู้สอนในกลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้
แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมาสร้างสรรค์ ไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน
และพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ในเรื่องอื่น ๆ ที่มีคุณภาพต่อไปอีก
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การพัฒนาแผนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมาสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สรุปผล
การศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังนี้
1. ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
2. สรุปผล
3. อภิปรายผล
4. ข้อเสนอแนะ
ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อพัฒนาแผนนวัตกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมาสร้างสรรค์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์
80 / 80
2. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนนวัตกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหม
มีค่านำมาสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมาสร้างสรรค์
สรุปผล
1. การพัฒนาแผนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมา
สร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 91.43 / 87.45 เป็นไปตามเกณฑ์ 80 / 80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหม
มีค่านำมาสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่า
เท่ากับ 0.7659 หมายความว่า หลังจากที่นักเรียนเรียนด้วยแผนการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง เศษผ้าไหม
มีค่านำมาสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เศษผ้าไหมมีค่านำมา
สร้างสรรค์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 77
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแผนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง
เศษผ้าไหมมีค่านำมาสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.81 หมายความว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแผนการจัดการเรียนรู้
แบบโครงงานอยู่ในระดับมาก