จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ดาวพฤหัสบดี
จุดเริ่มยุค J2000 | |||
816,081,455 กม. (5.45516759 หน่วยดาราศาสตร์) | |||
740,742,598 กม. (4.95155843 หน่วยดาราศาสตร์) | |||
778,412,027 กม. (5.20336301 หน่วยดาราศาสตร์) | |||
4.888 เทระเมตร 32.675 หน่วยดาราศาสตร์ | |||
0.04839266 | |||
4,335.3545 วัน (11.87 ปีจูเลียน) | |||
398.86 วัน | |||
13.050 กม./วินาที | |||
13.705 กม./วินาที | |||
12.440 กม./วินาที | |||
1.30530° (6.09° กับศูนย์สูตรดวงอาทิตย์) | |||
100.55615° | |||
274.19770° | |||
79 | |||
142,984 กม. (11.209×โลก) | |||
133,709 กม. (10.517×โลก) | |||
0.06487 | |||
6.14×1010
กม.² (120.5×โลก) | |||
1.338×1015 กม.³ (1235.6×โลก) | |||
1.899×1027กก. (317.8×โลก) | |||
1.326 กรัม/ซม.³ | |||
23.12 เมตร/วินาที² (2.358 จี) | |||
59.54 กม./วินาที | |||
0.413538021 วัน (9 ชม. 55 นาที 29.685 วินาที) | |||
12.6 กม./วินาที (45,300 กม./ชม.) | |||
3.13° | |||
268.05° (17 ชม. 52 นาที 12 วินาที) | |||
64.49° | |||
0.52 | |||
| |||
70 กิโลปาสกาล | |||
~86% ไฮโดรเจน ~14% ฮีเลียม 0.1% มีเทน 0.1% ไอน้ำ 0.02% แอมโมเนีย 0.0002% อีเทน 0.0001% ไฮโดรเจนฟอสไฟด์ <0.0001% ไฮโดรเจนซัลไฟด์ |
ดาวพฤหัสบดี เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 5 ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ นอกจากดาวพฤหัสบดี ดาวเคราะห์แก๊สดวงอื่นๆ ในระบบสุริยะได้แก่ ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ชื่อละตินของดาวพฤหัสบดี (Jupiter) มาจากเทพเจ้าโรมัน สัญลักษณ์แทนดาวพฤหัสบดี คือ ♃ เป็นสายฟ้าของเทพเจ้าซุส หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ดาวยักษ์
ดาวพฤหัสบดีมีมวลสูงกว่ามวลของดาวเคราะห์อื่นรวมกันราว 2.5 เท่า ทำให้ศูนย์ระบบมวลระหว่างดาวพฤหัสบดีกับดวงอาทิตย์ อยู่เหนือผิวดวงอาทิตย์ (1.068 เท่าของรัศมีดวงอาทิตย์ เมื่อวัดจากศูนย์กลางดวงอาทิตย์) ดาวพฤหัสบดีหนักว่าโลก 318 เท่า เส้นผ่านศูนย์กลางยาวกว่าโลก 11 เท่า และมีปริมาตรคิดเป็น 1,300 เท่าของโลก เชื่อกันว่าหากดาวพฤหัสบดีมีมวลมากกว่านี้สัก 60-70 เท่า อาจเพียงพอที่จะให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์จนกลายเป็นดาวฤกษ์ได้
ดาวพฤหัสบดีหมุนรอบตัวเองด้วยอัตราเร็วสูงที่สุด เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะ ทำให้มีรูปร่างแป้นเมื่อดูผ่านกล้องโทรทรรศน์ นอกจากชั้นเมฆที่ห่อหุ้มดาวพฤหัสบดี ร่องรอยที่เด่นชัดที่สุดบนดาวพฤหัสบดี คือ จุดแดงใหญ่ ซึ่งเป็นพายุหมุนที่มีขนาดใหญ่กว่าโลก
โดยทั่วไป ดาวพฤหัสบดีเป็นวัตถุที่สว่างที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในท้องฟ้า (รองจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวศุกร์ อย่างไรก็ตาม บางครั้งดาวอังคารก็ปรากฏสว่างกว่าดาวพฤหัสบดี) จึงเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ การค้นพบดาวบริวารขนาดใหญ่ 4 ดวง ได้แก่ ไอโอ, ยูโรปา, แกนีมีด และคัลลิสโต โดยกาลิเลโอ กาลิเลอี เมื่อ ค.ศ. 1610 เป็นการค้นพบวัตถุที่ไม่ได้โคจรรอบโลกเป็นครั้งแรก นับเป็นจุดที่สนับสนุนทฤษฎีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางที่เสนอโดยโคเปอร์นิคัส การออกมาสนับสนุนทฤษฎีนี้ทำให้กาลิเลโอต้องเผชิญกับการไต่สวน ดาวพฤหัสบดี หมุนรอบตัวเองใช้เวลา 10 ชั่วโมง
วงแหวนของดาวพฤหัสบดี[แก้]
องค์ประกอบของวงแหวนดาวพฤหัสบดี
ดาวพฤหัสบดีมีวงแหวนเช่นเดียวกับดาวเสาร์ แต่มีความเลือนลางและขนาดเล็กกว่า สามารถเห็นได้ในรังสีอินฟราเรดทั้งจากกล้องโทรทรรศน์ที่พื้นโลกและจากยานกาลิเลโอ วงแหวนของดาวพฤหัสค่อนข้างมืด ซึ่งอาจประกอบด้วยเศษหินขนาดเล็ก และไม่พบน้ำแข็ง เหมือนที่พบในวงแหวนของดาวเสาร์ วัตถุที่อยู่ในวงแหวนของดาวพฤหัสอาจไม่อยู่ในวงแหวนนาน เนื่องจากแรงเหวี่ยงที่เกิดจากบรรยากาศและสนามแม่เหล็ก มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าวงแหวนได้วัตถุเพิ่มเติมจากฝุ่นที่เกิดจากอุกกาบาตตกชนดาวบริวารวงใน ซึ่งเนื่องจากพลังงานมหาศาลจากแรงดึงดูดขนาดใหญ่ของดาวพฤหัสบดี