รวมคำถามยอดฮิต! สำหรับวิธีการลงทะเบียนร้านอาหารในโครงการคนละครึ่ง & ยิ่งใช้ยิ่งได้ คลายข้อสงสัยทุกประเด็น ได้ที่นี่ที่เดียว!
Q1: ลงทะเบียนคนละครึ่งกับรัฐฯ ทางออนไลน์แล้วร้านต้องทำอย่างไรต่อ?
A1: รอเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยติดต่อกลับ อาจมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หรือให้ร้านถ่ายรูปร้านส่งให้ตรวจสอบ ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารกรุงไทยในแต่ละพื้นที่
Q2: ร้านที่เคยเข้าร่วมคนละครึ่ง, เราชนะ, ม33 เรารักกัน ต้องลงทะเบียนใหม่หรือไม่?
A2: ร้านอาหารที่เคยเข้าร่วมโครงการรัฐครั้งก่อนๆ สามารถกดยืนยันสิทธิ์คนละครึ่งบนแอปฯถุงเงินได้เลย และต้องอัปเดตแอปฯให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
Q3: ร้านที่ไม่มีหน้าร้านสามารถสมัครคนละครึ่งกับรัฐฯได้ไหม?
A3: สามารถสมัครได้โดยเตรียมเอกสาร เช่น รูปถ่ายพื้นที่ทำครัว รวมถึงเมนูอาหาร เพื่อไปแสดงต่อสำนักงานเขต และนำไปยื่นที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อดำเนินการต่อ
Q4: ต้องการเข้าร่วมคนละครึ่งกับ LINE MAN ต้องทำอย่างไรบ้าง?
A4: ร้านต้องลงทะเบียนคนละครึ่งกับรัฐฯให้สำเร็จ และมีแอปฯถุงเงินแล้ว จึงจะสามารถสมัครคนละครึ่งกับ LINE MAN ได้ (สำหรับร้านที่เข้าร่วม LINE MAN GP) ลงทะเบียนได้เลย : //bit.ly/3ynoS9x
Q5: เข้าร่วมคนละครึ่งกับ LINE MAN ลูกค้าแสกนจ่ายแล้วร้านได้รับเงินอย่างไร?
A5: ร้านจะได้รับเงินเข้าบัญชีกรุงไทยในยอดเต็มจำนวนในวันถัดไป แต่ลูกค้าแสกนจ่ายเพียงครึ่งเดียว บวกกับรัฐฯสมทบให้อีกครึ่งหนึ่ง
Q6: ร้านอาหารแบบไหนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ได้บ้าง?
A6: เป็นร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ของบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) เท่านั้น
Q7: ถ้าร้านยังไม่เคยจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ต้องทำอย่างไร?
A7: เจ้าของร้านจะต้องจดทะเบียนกับกรมสรรพากรให้เรียบร้อยก่อนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ อย่างน้อย 7 วันทำการ
ยอดค้างชำระเกิดจากการที่ร้านของคุณมียอดขายจากออเดอร์ปกติ น้อยกว่ายอดค่าคอมมิชชันจากออเดอร์คนละครึ่ง ทำให้ระบบไม่สามารถทำการหักเงินได้ จึงทำให้เกิดยอดค้างชำระ
ตัวอย่าง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ร้านค้ามียอดขายหลังหักค่าคอมมิชชันจากออเดอร์ปกติ 500 บาท และมียอดขายจากออเดอร์คนละครึ่ง 3 ออเดอร์ เป็นจำนวน 3,000 บาท
การหักค่าคอมมิชชันจะเกิดขึ้นดังนี้
ออเดอร์คนละครึ่ง GF-123 = 1,000 บาท
คำนวณค่าคอมมิชชัน 1,000 x 20% = 200 บาท
คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม = 200 x 7% = 14 บาท
ค่าคอมมิชชันสุทธิ = 214 บาท
ออเดอร์คนละครึ่ง GF-124 = 700 บาท
คำนวณค่าคอมมิชชัน 700 x 20% = 140 บาท
คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม = 140 x 7% = 9.80 บาท
ค่าคอมมิชชันสุทธิ = 149.80 บาท
** ตัวอย่างเป็นการคิดค่าคอมมิชชัน 20% ค่าคอมมิชชันในโครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ออเดอร์คนละครึ่ง GF-125 = 1,300 บาท
คำนวณค่าคอมมิชชัน 1,300 x 20% = 260 บาท
คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม = 260 x 7% = 18.2 บาท
ค่าคอมมิชชันสุทธิ = 278.20 บาท
ร้านค้าจะถูกหักค่าคอมมิชชันจากออเดอร์คนละครึ่งทั้ง 3 ออเดอร์เป็นจำนวนเงิน 642 บาท จากยอดขายหลังหักค่าคอมมิชชันจากออเดอร์ปกติ 500 บาท ซึ่งยอดขายจากออเดอร์ปกติไม่เพียงพอสำหรับการหักค่าคอมมิชชันจากออเดอร์คนละครึ่ง ทำให้เกิดยอดค่าบริการค้างชำระเป็นจำนวน 142 บาท
ทั้งนี้ คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดของยอดค้างชำระได้จากรายงานธุรกิจรายวันที่คุณได้รับจากบริษัทฯ โดยในรายงานจะมีการแจกแจงยอดค้างชำระที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน พร้อมทั้งรายละเอียดของยอดค้างชำระในส่วนของการปรับรายได้ด้านล่างของรายงาน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง และการใช้งานเป๋าตัง – ถุงเงิน
สำหรับประชาชน
เริ่มลงทะเบียน
16 ต.ค. 63 เป็นต้นไป
ตั้งแต่เวลา 6:00-23:00 น.
เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน
- มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ*
- จำนวน 10 ล้านคน หรือจนกว่าสิทธิจะหมด
* ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th
ผู้ที่ได้รับสิทธิและใช้สิทธิในโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิมาตรการช้อปดีมีคืน
สำหรับร้านค้า
เริ่มลงทะเบียน
1 ต.ค. 63 เป็นต้นไป
ผ่านเว็บไซต์ และสาขาธนาคารกรุงไทย
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการสำหรับร้านค้า
- เป็นกิจการประเภท ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม/สินค้าทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อย
- ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล
- ไม่เป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์
การลงทะเบียนสำหรับประชาชน
- สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือซ้ำกันในการลงทะเบียนได้หรือไม่
เบอร์มือถือที่ใช้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ลงทะเบียนซ้ำได้
- การลงทะเบียนภาคประชาชนจะแจ้งผลผ่านช่องทางใดบ้าง
ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com จะได้ผลลงทะเบียนทาง SMS ตามเบอร์มือถือที่แจ้งไว้
- หลังจากลงทะเบียนแล้ว ประชาชนจะทราบผลภายในกี่วัน
ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com จะได้ผลลงทะเบียนทาง SMS ตามเบอร์มือถือที่แจ้งไว้ ภายใน 3 วัน
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถลงทะเบียนได้หรือไม่
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถลงทะเบียนบนเวปไซต์ได้ ระบบจะล็อคให้ไม่สามารถลงทะเบียนได้
- ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้ารับสิทธิโครงการคนละครึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงเบอร์มือถือระหว่างรับสิทธิโครงการได้หรือไม่
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเบอร์มือถือระหว่างรับสิทธิโครงการคนละครึ่งได้
การลงทะเบียนสำหรับร้านค้า
- ร้านค้าเดิมที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้หรือร้านธงฟ้าที่ใช้แอปฯถุงเงินแล้ว จำเป็นต้องมาแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการที่ www.คนละครึ่ง.com อีกหรือไม่
ร้านค้าถุงเงินเดิมที่ผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการภาครัฐแล้ว และมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขโครงการคนละครึ่ง โครงการจะส่ง sms ไปยังเบอร์มือถือที่ท่านลงทะเบียนสมัครแอปถุงเงินไว้ ท่านสามารถกดปุ่มเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ที่แอปฯถุงเงินของท่านได้โดยไม่ต้องมาลงทะเบียน บนเวปไซต์
- ร้านค้าใหม่ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ
ขั้นตอนการสมัครร้านค้าเข้าร่วมโครงการ
- สมัครใช้บริการแอพฯถุงเงิน ณ สาขาธนาคารกรุงไทย
- เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยลงพื้นที่เก็บข้อมูลสถานประกอบกิจการ
- รอผลการพิจารณาทาง SMS (ระยะเวลาประมาณ 5 วันทำการ)
- กรณีร้านได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ แอพฯถุงเงินจะแสดงปุ่ม “คนละครึ่ง”
- ร้านค้ากดปุ่ม “คนละครึ่ง” ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการ
*ไม่ต้องใช้เอกสารประกอบ
- เวปไซต์ลงทะเบียนร้านค้า ขั้นตอนกรอกหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ต้องเป็นหมายเลขเดียวกันกับเบอร์ที่ต้องการใช้กับถุงเงินหรือไม่
ร้านค้าที่ประสงค์ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางเวปไซต์ ควรระบุเบอร์โทรศัพท์ที่ประสงค์ใช้ลงทะเบียนแอปฯถุงเงิน
- หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยมีข้อความขึ้นว่าจะมีทางเจ้าหน้าที่โครงการติดต่อกลับถ้าไม่มีใครติดต่อกลับต้องดำเนินการอย่างไร
โปรดติดต่อ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อแจ้งสมัครแอปฯถุงเงินโครงการคนละครึ่ง
- ร้านค้าถ้าจดทะเบียนในรูปแบบบุคคลธรรมดา แต่มีการขายแบบแฟรนไชส์ เช่น ชานมไข่มุก ต่างๆ แบบนี้ เจ้าของร้านที่ไปซื้อแฟรนไชส์มาสามารถลงทะเบียนได้หรือไม่
คุณสมบัติผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการธุรกิจหลักจำหน่าย อาหาร,เครื่องดื่ม,สินค้าทั่วไป และผู้ประกอบการไม่จดทะเบียนนิติบุคคล (ธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่เป็นเฟรนไชน์และธุรกิจบริการไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้)
- ร้านค้าสามารถปฏิเสธรับสิทธิจากโครงการคนละครึ่งกับประชาชนที่มาซื้อสินค้าได้หรือไม่
ตามเงื่อนไขและข้อตกลงการเข้าร่วมโครงการร้านค้าไม่สามารถปฏิเสธการรับสิทธิจากประชาชนได้
การใช้งานเป๋าตัง
- กรณีลูกค้า ไม่สามารถถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนเพื่อใช้สิทธิโครงการ บนแอปฯเป๋าตังเพื่อผูก G-Walletหรือทำการสแกนหน้าไม่สำเร็จ จะต้องทำอย่างไร
สามารถลองใหม่ได้ โดยถ่ายบัตรประชาชนตนเองในที่ที่มีแสงสว่างพอดี และไม่มีเงาบนหน้าบัตร และการถ่ายรูปใบหน้าตนเองให้ถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มืดหรือสว่างเกินไป
แต่หากรูปถ่ายบนบัตรมีความไม่ชัดเจนหรือไม่สามารถถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนได้ แนะนำให้ไปยืนยันตัวตนที่สาขาฯเพื่อดำเนินการ หลังจากเรียบร้อยแล้วให้ประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯอีกครั้ง”
- หากลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ โดยเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ไม่ตรงกับ เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ในโครงการ คนละครึ่ง ทำให้การยืนยันตัวตน G-wallet ไม่สำเร็จ
ลูกค้านำบัตรประชาชนตัวจริงไปติดต่อเพื่อยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทย
- เวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือ ที่รองรับแอปฯเป๋าตังสำหรับประชาชนที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ โครงการนี้ ขึ้นต่ำเป็น เวอร์ชั่นใด
โทรศัพท์มือถือแบบ smartphone ซึ่งรองรับการใช้งานแอพฯ เป๋าตังและสามารถถ่ายรูปได้ และรองรับโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ver. 5.0 ขึ้นไป หรือโทรศัพท์ไอโฟน iOS ver. 9.0 ขึ้นไป
- ในกรณียืนยันตัวตนไม่สำเร็จแล้วต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา เมื่อดำเนินการเสร็จ สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีหรือไม่
สามารถเข้าใช้งานเมื่อทำการยืนยันตัวตนลังจากทางสาขาทำการยืนยันตัวตนสำเร็จ จากนั้นประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯอีกครั้ง
- กรณีประชาชนมีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ชื่อที่แสดงบน G-Wallet ในแอปฯเป๋าตัง จะแสดงเป็นชื่อเก่าหรือชื่อใหม่
การลงทะเบียนเว็ปไซด์โครงการฯ และขั้นตอนการยืนยันตัวตนลูกค้าสามารถลงทะเบียนด้วยชื่อ-นามสกุล ตามบัตรประชาชนใหม่ได้ตามปกติ อย่างไรก็ดีเนื่องจากปัจจุบันลูกค้ายังไม่สามารถเปลี่ยนชื่อในระบบได้ชื่อบน G-Wallet จะแสดงชื่อ-นามสกุลเดิม ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบกับการใช้สิทธิในโครงการฯ แต่อย่างใด
- กรณีประชาชนไม่ได้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งผ่านทางเว็บไซต์ หรือ ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปฯ เป๋าตัง (ยืนยันรหัส PIN ของ NEXT หรือผูกบัญชี กรุงไทยบนแอปฯ เป๋าตัง) สามารถทำธุรกรรมบนใดได้บ้างบนแอปฯเป๋าตัง
สามารถทำธุรกรรมได้ 2 รายการ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินเข้ำบัญชีกรุงไทยของตนเอง
- โอนเงินพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชนตนเอง (ต้องสมัครก่อน)
การใช้งานถุงเงิน
- โทรศัพท์มือถือรุ่นใดที่สามารถรองรับแอปพลิเคชั่นถุงเงินได้
สมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบัติการ Android v.5.0 ขึ้นไป และ ระบบ iOS v.10.0 ขึ้นไป
- ร้านค้าที่ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถรับสิทธิจากประชาชนได้
ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการหลังได้รับ SMS แจ้งจากโครงการฯ
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นถุงเงิน (กรณีที่ยังไม่เคยใช้งาน)
- อัพเดทแอปพลิเคชั่นถุงเงิน เวอร์ชั่น 3.0.7 ขึ้นไป (กรณีที่ยังมีการใช้งานแล้ว)
- กดปุ่ม คนละครึ่ง
- กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
- ปุ่มคนละครึ่งเป็นพื้นหลังสีฟ้า
- เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งสำเร็จ
- วิธีการรับเงินจากสิทธิคนละครึ่งทำอย่างไร
ขั้นตอนการรับเงินจากประชาชนที่ใช้สิทธิคนละครึ่ง
- เข้าใช้งานแอปฯถุงเงิน
- กดปุ่ม คนละครึ่ง
- ระบุจำนวนเงินที่ต้องการรับจากการขายสินค้า
- กด สร้าง QR เพื่อรับเงิน
- แสดง QR ที่สร้างให้ลูกค้าสแกนจากแอปฯเป๋าตัง
- รอรับ แจ้งเตือนเงินเข้า บนแอปฯถุงเงิน
- รับเงินสำเร็จ โปรดตรวจสอบรายการเงินเข้าบนแอปฯถุงเงิน”
- ร้านถุงเงินสามารถรับเงินสิทธิได้ในเวลากี่โมง
ร้านค้าถุงเงินคนละครึ่ง สามารถรับเงินจากสิทธิคนละครึ่งได้ช่วงเวลา 06.00-23.00น. ของทุกวัน จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 (สิ้นสุดโครงการ)
- ร้านค้าถุงเงินสามารถนำ QR ที่สร้างจากแอปฯถุงเงิน มาปริ้นติดไว้ที่หน้าร้านเพื่อรอรับเงินจากโครงการคนละครึ่งได้หรือไม่
ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก QR รับเงินของร้านค้ามีอายุการใช้งาน ร้านค้าต้องสร้างรายการรับเงินจากสิทธิคนละครึ่ง 1 ครั้งต่อ 1 รายการ