การดูแลสุขอนามัยทางเพศของเพศหญิง
อวัยวะสืบพันธ์แห่งเพศหญิงประกอบด้วยส่วนสำคัญคือ
-ส่วนที่ปรากฏภายนอกร่างกายมีปากช่องคลอด กลับเนื้อสองชั้น (แคมใหญ่และแคมเล็ก) รูเปิดของท่อปัสสาวะ คริสตอริส
-ส่วนที่อยู่ภายในร่างกาย เช่น ช่องคลอด มดลูก รังไข่
การดูแลรักษาความสะอาด
อวัยวะเพศหญิงมีความสลับซับซ้อนมากกว่าเพศชาย ย่อมมีสิ่งที่สกปรกต่างๆ จากเหงื่อไคล น้ำมันธรรมชาติ ปัสสาวะ และตกขาว ตลอดจนฝุ่นละอองต่างๆ มาเกาะติดได้ง่าย การรักษาความสะอาด จึงควรเอาใจใส่เป็นพิเศษ และทำความสะอาดเฉพาะภายนอกเท่านั้น
-ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกวันเช้า เย็น ด้วยน้ำและสบู่ ซับให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษอ่อนเพียงเบาๆ การถูแรงๆ อาจทำให้เกิดปริแตกเป็นแผลได้
-ควรพิถีพิถันในการทำความสะอาดตามรอยย่นรอยจีบต่างๆ ของอวัยวะเพศโดยเฉพาะบริเวณคริสตอริส แคมเล็กและปากช่องคลอด
-หลังการขับปัสสาวและอุจจาระ ควรทำความสะอาดชำระเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลังและล้างด้วยน้ำ โดยวิธีเดียวกัน
-ไม่ควรใช้กางเกงในที่รัดแน่น หรืออับเหงื่อ และไม่ควรใช้กางเกงในกับคนอื่น
-การล้างช่องคลอด เพื่อรักษาความสะอาดภายในเป็นความคิดที่ผิด เพราะเป็นการทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเกิดขึ้นแทนและบางครั้งอาจมีอาการแพ้ยาที่ใช้ด้วย
การรักษาความสะอาดช่วงมีประจำเดือน
ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษกว่าปกติในช่วงที่มีประจำเดือน
-การอาบน้ำควรเป็นน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ ไม่เย็นจัดจนทำให้หนาวสั่น ไม่ร้อนจนเกินไป
-ไม่ควรอาบน้ำในสระสาธารณะ หรืออ่างอาบน้ำ
-อวัยวะเพศควรฟอกล้างด้วยสบู่ และไม่ล้างเข้าไปในช่องคลอด
-ทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอนามัย ควรฟอกล้างอวัยวะเพศก่อนแล้วซับให้แห้ง
-เมื่อผ้าอนามัยเปียกชุ่ม ควรเปลี่ยนผ้าใหม่ การปล่อยเอาไว้โดยไม่เปลี่ยนผืนใหม่ จะทำให้อวัยวะเปียกชื้นมาก ผิวหนังจะเกิดผื่นคันหรือเปื่อยลอกได้ง่าย
-ผ้าอนามัยที่เปียกชุ่ม พอเลือดแห้งผ้าอนามัยจะแข็งทำให้กดหรือเสียดสี ทำให้ผิวหนังของอวัยวะเพศและขาหนีบอักเสบซึ่งจะเจ็บแสบมาก
ข้อควรรู้
ควรรู้จักสังเกตความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์ เช่นการตกขาวมาก มีกลิ่นหรือสีผิดปกติ อาการคันเจ็บแสบ ซึ่งบ่งว่ามีการอักเสบเกิดขึ้นเป็นแผล ปัสสาวะบ่อย ปวดแสบ ตกเลือดขณะหรือหลังการมีเพศสัมพันธ์หรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ต้องรีบไปปรึกษา
นอกจากนี้ควรสังเกตลักษณะของอวัยวะเพศตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอหากมีอาการผิดปกติเปิดขึ้นจะได้รีบรักษาได้ทัน
การดูแลสุขอนามัยทางเพศของเพศชาย
อวัยวะแห่งความเป็นเพศชาย ประกอบด้วย ส่วนสำคัญคือ
-ส่วนที่ปรากฏนอกร่างกาย มีองคชาต และอัณฑะที่อยู่ในถุงอันฑะ
-ส่วนที่อยู่ในร่างกายมีต่อมลูกหมาก ต่อมสร้างน้ำหล่อลื่น ถุงเก็บอสุจิ และท่อนำน้ำเชื้อ
การดูแลรักษาความสะอาด
-ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็นด้วยน้ำและสบู่ แล้วเช็ดให้แห้ง
-บริเวณคอหยักและใต้หนังหุ้มปลายองคชาต เป็นส่วนที่ต้องทำความสะอาดเป็นพิเศษ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีต่อมสร้างน้ำเมือก อยู่เป็นจำนวนมากจึงมักมีคราบสีขาว เรียกว่า สเม็กม่า จึงควรรูดหรือดึงหนังหุ้มปลายองคชาต เพื่อทำความสะอาด หากการทำความสะอาดไม่ดีพอจะทำให้มีกลิ่นเหม็น เป็นผื่นคันอักเสบหรือกระทั่งอาจจะทำให้เป็นมะเร็งขององคชาตได้
-ไม่ควรนุ่งกางเกงในที่รัดแน่นเกินไป หรือเปียกชื้น
-ควรเลือกกางเกงในที่ตัดเย็บด้วยเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
-ต้องเปลี่ยนกางเกงในทุกวัน โดยเฉพาะกางเกงในที่เปียกน้ำปัสสาวะไม่ควรนำกลับมาใส่ซ้ำ หากยังไม่ทำความสะอาด
-ไม่ใช้กางเกงใน กางเกง ผ้าเช็ดตัว ผ้าขาวม้าปะปนกับคนอื่น เพราะเขาอาจมีโรคติดต่อหรือโรคผิวหนังซึ่งอาจทำให้เราติดเชื้อได้
-การร่วมเพศแต่ละครั้งเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะการใช้ถุงยางอนามัยบางครั้งก็ไม่สามารถป้องกันได้
ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่?
ความผิดปกติบางอย่างต้องรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจโดยด่วน
-มีหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ
-มีผื่น แผล เนื้องอก
-มีอาการบวม
-คันบริเวณอวัยวะเพศ
-เจ็บปวดขณะร่วมเพศ
-ปัสสาวะบ่อย แสบ ขัด ขุ่น
หมายเหตุ : หากพบอาการผิดปกติดังที่กล่าวมา ห้ามซื้อยารับประทานเองเพราะอาจได้รับยาไม่ครอบคลุม และไม่เพียงพอที่จะทำให้โรคหายขาด
และเป็นเหตุให้มีอาการเรื้อรัง หรือดื้อยา
หากเป็นโรคบริเวณอวัยวะเพศ ต้องงดการมีเพศสัมพันธ์อย่างเด็ดขาด จนกว่าจะรักษาหายขาด