การบันทึกเอกสารมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร บันทึกเวิร์ดยังไง การบันทึกข้อมูลทำได้อย่างไร การบันทึกเอกสารเว็บไซต์มีขั้นตอนอย่างไร การบันทึกเอกสารแบบสําเนา มีขั้นตอนอย่างไร การบันทึกข้อมูลมีกี่วิธี การบันทึกเอกสาร word 2013

การบันทึกเอกสาร ทําอย่างไร

บทความแนะนำวิธีบันทึก Word เป็นไฟล์ PDF เพื่อให้รับไม่สามารถแก้ไขข้อมูลเอกสาร เพราะการทำงานเอกสารต่างๆ ไม่ว่าใช้ในการทำงาน หรือใช้ในการเรียนการศึกษา หลังจากที่เราได้สร้างไฟล์เอกสาร word แบบ .docx หรือ .doc แล้วแต่จะเลือกใช้งาน แล้วต้องการส่งไฟล์ให้เพื่อหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา อาจจะเป็นตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แต่เราก็ไม่อยากให้เขาแก้ไขเอกสาร ดังนั้นทางเลือกที่ดีคือทำให้เป็นไฟล์ PDF

บันทึก (Save As) ไฟล์ Microsoft Word เป็น pdf

การทำเป็นไฟล์ pdf หลายคนอาจจะใช้โปรแกรมช่วย แต่ใน Microsoft Word 2010, 2013, 2016 ก็สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริมต่างๆให้ยุ่งยาก ซึ่งขั้นตอนนั้นก็ดูตามด้านล่างนี้ได้เลยครับ

  1. ที่หน้า microsoft word คลิกที่ File (ไฟล์)

  1. ให้เลือก Save As (บันทึกเป็น) แล้วคลิกที่ This PC (พีซีนี้) เพื่อบันทึกในเครื่อง ตามด้วยคลิก Browse (เรียกดู)

  1. ที่หน้าต่าง Save As ที่ช่อง File name (ชื่อไฟล์) ให้กำหนดชื่อไฟล์ และ ช่อง Save as type (บันทึกเป็นชนิด) ให้เลือก PDF ส่วนที่ปุ่ม Options (ตัวเลือก) จะเป็นการตั้งค่าเพิ่มเติมในการบันทึก คลิกที่ปุ่ม Options เพิ่มดูเพิ่มเติมได้ครับ

  1. ที่หน้าต่าง Options จะเห็นส่วนของการกำหนดช่วงหน้า (Page range) ที่ต้องการบันทึกเช่น 1 – 3 หรือ 2-2 เป็นต้น เลือกได้ตามที่ต้องการ
    และส่วน PDF Options (ตัวเลือก PDF) สามารถที่จะกำหนด password ให้กับไฟล์ pdf ได้ด้วย โดยจะถามรหัสก่อนเปิดไฟล์นั้นเอง เลือกตั้งค่าได้ตามที่ต้องการครับ

  1. ก่อนที่จะกดปุ่มบันทึก จะเห็นตัวเลือกว่า หลังจากที่บันทึกจะให้เปิดไฟล์ด้วยไหม หากไม่ต้องการก็เอาเครื่องหมายถูกออก หรือต้องการเปิดไฟล์ก็เอาไว้ตามเดิม แล้วก็คลิกปุ่ม Save ได้เลยครับ

  1. เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยครับ

  • เสร็จสิ้นครับ ลองนำไปใช้งานกันดูครับ

การบันทึกไฟล์งานเป็นส่วนสำคัญสำหรับการทำงานไม่ว่าจะเป็นเอกสาร รูปภาพ วิดีโอหรืองานอื่นๆ บนคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถมาทำต่อทีหลังได้และยังแชร์งานให้คนอื่น รวมทั้งป้องกันการผิดพลาดต่างๆ ด้วย เพราะฉะนั้นมาดูขั้นตอนแรกของการบันทึกงานกันเลยดีกว่า

  1. 1

    บันทึกบ่อยๆ . เพราะโปรแกรมรวนได้บ่อยและจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทีหลัง ถ้ากำลังจะเปลี่ยนข้อมูลของงานแต่ไม่อยากทำทับไฟล์เดิม ให้ใช้คำว่า “บันทึกเป็น (Save as)” เพื่อจะได้คัดลอกออกมาเป็นชื่อใหม่

    • หลายๆ โปรแกรมจะมีการบันทึกโดยอัตโนมัติอยู่แล้วหลังจากผ่านไปช่วงหนึ่ง ถึงมันจะช่วยได้ในสถานการณ์คับขันแต่ก็แทนการบันทึกเองบ่อยๆ ไม่ได้หรอก

  2. 2

    บันทึกไฟล์ด้วยชื่อที่เป็นประโยชน์. เมื่อบันทึกงานครั้งแรกจะมีการให้ตั้งชื่อไฟล์ ให้ใช้ชื่อที่จำได้ง่ายและใส่ข้อมูลที่สำคัญอย่างวันที่หรือผู้เขียน มันจะช่วยในการหาไฟล์ที่เฉพาะเจาะจงบนคอมพิวเตอร์ได้นะ

  3. 3

    ตรวจดูรูปแบบของไฟล์ด้วย. เมื่อบันทึกครั้งแรกหรือใช้คำสั่ง “บันทึกเป็น (Save as)” โปรแกรมหลายๆ ตัวจะสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ โดยการกดเมนูข้างล่างชื่อไฟล์งาน[1]

    • มันสำคัญมากตอนที่จะส่งไฟล์ให้ใครที่อาจจะไม่มีโปรแกรมในเวอร์ชั่นเดียวกันกับคุณ

  4. 4

    จัดการแฟ้มเอกสาร. เครื่องที่มีระบบจัดการดีจะมีแฟ้มเอกสาร (Document) อยู่แล้วและเมื่อบันทึกก็จะเข้าไปในแฟ้มโดยอัตโนมัติ และใช้เวลากับการสร้างแฟ้มงานหน่อย จะช่วยได้เยอะเลย

    • ใช้แฟ้มงานแยกประเภทไฟล์ งาน วันที่หรืออะไรก็ได้ที่ต้องการ
    • เวอร์ชั่นใหม่เกือบทั้งหมดของวินโดวส์ใช้ห้องสมุด (Libraries) ที่จะเก็บไฟล์ที่เป็นประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน มันจะไม่ที่อยู่ที่แน่นอนแต่จะเป็นแหล่งเก็บไฟล์จากหลายๆ ที่

  5. 5

    เรียนรู้ทางลัดของปุ่มบนคีย์บอร์ด. ช่วยย่นเวลาในการบันทึกงาน โดยเฉพาะเมื่อต้องทำเยอะๆ ให้กด Ctrl+S หรือ ⌘ Cmd+S บนแม็คบุ๊ค ใช้ได้เกือบทุกโปรแกรมเลย

    • หลายโปรแกรมยังมีการ “บันทึกเป็น (Save as)” แต่จะแตกต่างกันไป อย่างเวิร์ดจะใช้ F12 ส่วนโฟโต้ชอปจะใช้ ⇧ Shift+Ctrl+S

  6. 6

    สำรองข้อมูลไฟล์งาน. เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายเมื่อเครื่องรวน ดังนั้นต้องดูสำรองข้อมูลไฟล์บ่อยๆ โดยการบันทึกงานจากแฟ้มเอกสาร (Document) ใส่ในที่เก็บข้อมูลภายนอกหรืออัพโหลดมันลงเว็บฝากข้อมูล

    • ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสำรองไฟล์ข้อมูล

    โฆษณา

  1. 1

    บันทึกไฟล์ในเวิร์ด. เป็นโปรแกรมที่มีคนใช้มากที่สุดทั่วโลก และการรู้วิธีบันทึกงานมันก็จำเป็นมาก

  2. 2

    บันทึกไฟล์เป็นนามสกุล PSD ในโฟโต้ชอป. การรู้วิธีการเปลี่ยนรูปแบบไฟล์เป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการใช้คอมพิวเตอร์เลย ลองหาบทความที่จะสอนวิธีการบันทึกรูปเป็น PSD ในโฟโต้ชอปแต่ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้กับโปรแกรมอื่นๆ ด้วย

  3. 3

    บันทึกรูปภาพจากเว็บไซต์. ในอินเตอร์เน็ตมีอะไรเยอะแยะเลย มีรูปอาจจะอยากได้มาเป็นของตัวเองซักรูปสองรูป และทุกเว็บไซต์ก็อนุญาตให้บันทึกได้อย่างง่ายดายและใช้วิธีคล้ายๆ กันหมด

  4. 4

    บันทึกเอกสารของกูเกิ้ล.การบันทึกไฟล์ลงเว็บฝากข้อมูลกำลังเป็นที่นิยม และยังสามารถทำงานด้วยกูเกิ้ลไดร์ฟ รวมทั้งดาวน์โหลดและบันทึกมันลงบนคอมพิวเตอร์ได้ เพื่อจะไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต

    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • บันทึกบ่อยๆ แล้วจะไม่เสียใจทีหลัง

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 46,820 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

การบันทึกเอกสารมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร

การบันทึกเอกสารแบบสาเนา เป็นการบันทึกไฟล์เอกสารเพื่อป้องกันกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเปิดไฟล์เอกสาร หรือไฟล์สุญหาย เป็นต้น ซึ่งการบันทึกไฟล์ลักษณะนี้ทาได้โดย 1. คลิกปุ่ม แฟ้ม (File) > บันทึกเป็น (Save As) 2. เลือกสถานที่จัดเก็บไฟล์เอกสาร 3. กาหนดชื่อไฟล์เอกสาร 4. คลิกปุ่ม บันทึก (Save)

บันทึกเวิร์ดยังไง

บันทึกเอกสาร.
ไปที่ ไฟล์ >บันทึกเป็น( หรือ บันทึกสําเนา).
เลือก OneDrive เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงเอกสารของคุณได้จากทุกที่ ... .
ใส่ชื่อ แล้วเลือก บันทึก.

การบันทึกข้อมูลทำได้อย่างไร

1. เราสามารถทำการบันทึกไฟล์โดยใช้การกดปุ่ม Ctrl + s ที่คีย์บอร์ดก็ได้ หรือ เลือกปุ่ม Save ที่อยู่ใน Quick Access Toolbar ก็ได้ หรือจะเลือกแท็บ FILE (ไฟล์) ตามด้วยคำสั่ง Save (บันทึก) หรือ Save as (บันทึกเป็น) ก็ได้

การบันทึกเอกสารเว็บไซต์มีขั้นตอนอย่างไร

บันทึกเอกสารเป็นเว็บเพจ.
คลิกไฟล์>บันทึกเป็นแล้วเลือกตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการบันทึกเอกสารของคุณ.
ตั้งชื่อไฟล์ของคุณ.
ในรายการบันทึกเป็นชนิดให้เลือกเว็บเพจถูกกรอง.

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก