ข้อสำคัญ: หัวข้อนี้ใช้ได้เฉพาะกับเครื่อง และ/หรือ ระบบปฎิบัติการที่ระบุเท่านั้น. ตรวจเช็คดูที่ส่วนของ Applicable Products and Categories ของหัวข้อนี้ก่อนที่จะเริ่มในขั้นตอนเหล่านี้.
หมายเหตุ:
- การใช้อุปกรณ์ออดิโอ Bluetooth ของท่านสำหรับการเล่นเพลงหรือการโทรผ่าน USB จะทำไม่ได้
- ถ้าหากท่านมองหาเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ออดิโอ Bluetooth ของท่าน กรุณาไปที่ส่วนของ ดาวน์โหลด (Downloads)
ของหน้าสนับสนุนรุ่นเครื่องของท่าน ถ้าหากไม่มีตัวอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้ในส่วนของดาวน์โหลด แสดงว่าในขณะนั้น Sony ยังไม่มีการออกเฟิร์มแวร์ตัวใหม่มาให้
ตัวอย่างของ WF-1000XM3
ดูวีดีโอต่อไปนี้จากซีรีส์ Sony Bluetooth เพื่อศึกษาวิธีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ออดิโอ Bluetooth ของท่านเข้ากับคอมพิวเตอร์ Windows หรือ Mac
คำแนะนำ: เรียนรู้วิธีการเปิดหรือปิด คำบรรยายใต้ภาพ เมื่อรับชมวิดีโอจากอินเทอร์เน็ตจาก YouTube
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมแบบละเอียด ให้ทำตามสี่ขั้นตอนด้านล่างนี้
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปทอป / เดสก์ท็อปของท่านมีโมดูล Bluetooth
ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือต้องแน่ใจว่าเครื่องแล็ปทอป / เดสก์ท็อปนั้นมีโมดูล Bluetooth อยู่ เครื่องแล็ปทอป / เดสก์ท็อป บางเครื่องอาจจะไม่มีฮาร์ดแวร์ตัวนี้มาด้วย ตรวจเช็คดูคู่มือของเครื่องแล็ปทอป / เดสก์ท็อปของท่านว่ามีโมดูล Bluetooth ให้หรือไม่
ถ้าหากเครื่องแล็ปทอป / เดสก์ท็อป ของท่านไม่มีโมดูล Bluetooth มาด้วย ท่านสามารถซื้อโมดูล Bluetooth แบบภายนอก เพื่อช่วยให้ท่านสามารถเปิดใช้ฟังก์ชัน Bluetooth ในเครื่องแล็ปทอป / เดสก์ท็อปของท่านได้
ขั้นตอนที่ 2: ทำให้อุปกรณ์ที่ท่านต้องการจะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของท่านเข้าสู่โหมดการจับคู่
หมายเหตุ: ไดรเวอร์ที่จำเป็นต้องใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ของท่านกับเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีอยู่ในระบบปฏิบัติการนั้นแล้ว
- ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านถามหาไดรเวอร์ Bluetooth ให้ติดต่อกับผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน
- ถ้าหากท่านใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ VAIO จะมีไดรเวอร์ Bluetooth ให้ออนไลน์ ดาวน์โหลดจะมีโพสต์ไว้ในหน้าสนับสนุนรุ่นเครื่องของท่านแล้ว
จาก การเข้าสู่โหมดการจับคู่ จะเป็นการที่ท่านกำหนดให้อุปกรณ์ที่ท่านต้องการจะเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป หรือเดสก์ท็อปของท่าน สามารถจะค้นพบได้ (Discoverable)
ขั้นตอนที่จะเข้าสู่โหมดการจับคู่ อาจจะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ที่ท่านต้องการจะเชื่อมต่อ (หูฟัง ลำโพง สมาร์ทโฟน ฯลฯ)
- ตัวอย่าง หูฟังไร้สาย WH-1000XM4 จะเข้าสู่ โหมดการจับคู่ ทันทีในครั้งแรก
- แต่ในครั้งที่สองที่ท่านจับคู่ ท่านจะต้อง กดค้างปุ่มโหมดการจับคู่ไว้นาน 7 วินาที
ฉันจะทำให้อุปกรณ์ออดิโอ Bluetooth ของฉันเข้าสู่โหมดการจับคู่ได้อย่างไร?
ขั้นตอนที่ 3: เปิด Bluetooth ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป / เดสก์ท็อปของท่าน
Windows 11
Windows 10 & 8
Windows 7
macOS
ขั้นตอนที่ 4: การจับคู่และตั้งค่าอุปกรณ์ของท่าน
Windows 11
Windows 10 & 8
Windows 7
macOS
ข้อแนะนำการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม
ทำการปิดและเปิด Bluetooth ใหม่อีกครั้ง
ตรวจเช็คดูไดรเวอร์ของ Bluetooth ของท่าน
การปิดโหมดใช้งานบนเครื่องบิน (Airplane mode) (Windows 10)
Bluetooth ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหูฟังบลูทูธที่เป็นอุปกรณ์ไร้สายทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนได้คล่องตัว แต่ก่อนที่เราจะเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธกับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าอุปกรณ์ของเรามี Bluetooth แล้วหรือยัง หากไม่มีสามารถเสียบอะแดปเตอร์ USB Bluetooth เข้ากับโน๊ตบุ๊คได้ ถ้าอุปกรณ์พร้อมแล้วเราไปดูวิธีการเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธกับคอมกันเลย
การเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธกับคอมระบบปฏิบัติการ Windows
การเชื่อมต่อและวิธีใช้หูฟังไร้สายใน Windows 7
- เปิดอุปกรณ์หูฟังบลูทูธ ของคุณและทำให้ระบบสามารถมองเห็นอุปกรณ์ดังกล่าวได้ (วิธีที่ทำให้สามารถมองเห็นได้จะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ ตรวจสอบอุปกรณ์หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ผลิตเพื่อเรียนรู้วิธีการ)
- เลือกปุ่ม เริ่มต้น > อุปกรณ์และเครื่องพิมพ์
- เลือก เพิ่มอุปกรณ์ > เลือกอุปกรณ์ > ถัดไป
- ทำตามคำแนะนำอื่น ๆ ที่อาจแสดงขึ้น หากไม่มี แสดงว่าคุณทำทุกอย่างเสร็จแล้วและเชื่อมต่อแล้ว
โดยปกติหูฟังบลูทูธและโน๊ตบุ๊คของคุณจะเชื่อมต่ออัตโนมัติทุกครั้งที่อุปกรณ์ทั้งสองอยู่ในระยะที่สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยเปิด Bluetooth ไว้
วิธีใช้หูฟังไร้สาย การเชื่อมต่อใน Windows 8.1
- เปิดอุปกรณ์ Bluetooth ของคุณและทำให้ระบบสามารถมองเห็นอุปกรณ์ดังกล่าวได้ (วิธีที่ทำให้สามารถมองเห็นได้จะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ ตรวจสอบอุปกรณ์หรือไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตเพื่อเรียนรู้วิธีการ)
- เลือกปุ่ม เริ่มต้น > พิมพ์ Bluetooth > เลือก การตั้งค่า Bluetooth จากรายการ
- เปิด Bluetooth > เลือกอุปกรณ์ > จับคู่
- ทำตามคำแนะนำที่อาจแสดงขึ้น หากไม่มี แสดงว่าคุณทำทุกอย่างเสร็จแล้วและเชื่อมต่อแล้ว
โดยปกติหูฟังบลูทูธและโน๊ตบุ๊คจะเชื่อมต่ออัตโนมัติทุกครั้งที่อุปกรณ์ทั้งสองอยู่ในระยะที่สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยเปิด Bluetooth ไว้
วิธีใช้หูฟังไร้สาย การเชื่อมต่อใน Windows 10
- เปิดอุปกรณ์เสียง Bluetooth ของคุณแล้วทำให้สามารถมองเห็นได้ (วิธีที่ทำให้สามารถมองเห็นได้จะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ ตรวจสอบอุปกรณ์หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ผลิตเพื่อเรียนรู้วิธีการ)
- เปิด Bluetooth บนโน๊ตบุ๊คของคุณหากยังไม่ได้เปิด หากต้องการทำเช่นนี้ ให้ไปที่แถบงานแล้วเลือก ศูนย์ปฏิบัติการ > Bluetooth
- ในศูนย์ปฏิบัติการ ให้เลือก เชื่อมต่อ > ชื่ออุปกรณ์
- ทำตามคำแนะนำเพิ่มเติมที่แสดง หากไม่มี แสดงว่าคุณทำทุกอย่างเสร็จสิ้นและเชื่อมต่อแล้ว
โดยปกติวิธีใช้หูฟังไร้สาย อุปกรณ์หูฟังบลูทูธและโน๊ตบุ๊คของคุณจะเชื่อมต่ออัตโนมัติทุกครั้งที่อุปกรณ์ทั้งสองอยู่ในระยะที่สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยเปิด Bluetooth ไว้
แก้ไขการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เสียง Bluetooth
หากกดปุ่ม เชื่อมต่อ ในศูนย์ปฏิบัติการแล้ว แต่ยังไม่พบอุปกรณ์ของคุณ ลองแก้ไขปัญหาดังนี้:
- ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์ Windows ของคุณสนับสนุน Bluetooth หรือไม่ หากสนับสนุน จะมีปุ่ม Bluetooth ในศูนย์ปฏิบัติการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดอยู่
- หากเปิด Bluetooth และมีโปรแกรมควบคุมรุ่นล่าสุดแล้ว แต่อุปกรณ์ของคุณยังไม่ทำงาน ให้ลองเอาอุปกรณ์ออก แล้วจับคู่อีกครั้ง วิธีการมีดังนี้ ไปที่ เริ่มต้น ป้อน อุปกรณ์ เลือก การตั้งค่า Bluetooth และอุปกรณ์อื่น ๆ > เลือกอุปกรณ์ > เอาอุปกรณ์ออก > ใช่ และลองจับคู่อีกครั้ง
การเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธกับคอมระบบปฏิบัติการ macOS
- โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าหูฟังบลูทูธของคุณเปิดอยู่
- ใน Mac ของคุณ ให้เลือก เมนู Apple > การตั้งค่าระบบ (System Preferences) แล้วคลิก บลูทูธ (Bluetooth) > Turn Bluetooth On ตอนนี้สามารถค้นหา Mac ของคุณได้แล้ว
- เลือกอุปกรณ์ในรายการ จากนั้นคลิก เชื่อมต่อ ถ้าระบบขอ ให้คลิก ยอมรับ ในการเอาอุปกรณ์ออก ให้กดปุ่ม Control ค้างไว้แล้วคลิกชื่ออุปกรณ์นั้น
เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้เทคโนโลยี Bluetooth เชื่อมต่อหูฟังบลูทูธและโน๊ตบุ๊คให้สื่อสารกันโดยไม่ใช้สาย หากยังพบปัญหาวิธีใช้หูฟังไร้สายในการเชื่อมต่อสามารถตรวจสอบข้อมูลที่มากับอุปกรณ์ หรือไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต เนื่องจากอาจมีวิธีการเชื่อมต่อแตกต่างกันไปตามแต่ละอุปกรณ์ได้เช่นกัน ทั้งนี้วิธีทั้งหมดสามารถนำไปปรับใช้กับอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆได้ เช่น ลำโพงพกพา นาฬิกาออกกำลังกาย เป็นต้น