เอเอ็ม ออดิท กรุ๊ป
บริษัท เอเอ็ม ออดิท แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด
จันทร์-ศุกร์ 8:00-17:00 น โทร 0 2277-0405 ถึง 10
เสาร์-อาทิตย์ หรือ นอกเวลาทำการ โทร 086 341 5173
อีเมล info@amauditgroup.com
สาขารัชดา (สำนักงานใหญ่) กรุงเทพฯ
129/1 อาคารรัชดาออร์คิด ซอยหัสดิเสวี
ถนนสุทธิสาร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยหวาง
กรุงเทพมหานคร 10310
สาขาบางเขน กรุงเทพฯ
อาคารเดอะแพลททินั่ม เพลส
เลขที่ 21, 21/1, 21/2 ถนนวัชรพล บางเขน
กรุงเทพมหานคร 10230
ผู้สอบบัญชี คือ ผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัทที่ต้องมีคุณสมบัติผ่านการทดสอบการเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีตามคุณสมบัติของสภาวิชาชีพบัญชี โดยพื้นฐานแล้วเงื่อนไขของ ผู้สอบบัญชี (Auditor) คือผู้ที่ต้องผ่านการทดสอบและมีชั่วโมงการทำงานครบตามที่กำหนด
นอกจากนี้ ผู้สอบบัญชี (Auditor) ยังรู้จักในอีกชื่อคือผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (Certificated Public Accountant)
สำหรับหน่วยงานที่ดูแลควบคุมผู้สอบบัญชีหรือAuditor จะไม่ได้มีเพียงแค่ด้วยหน่วยงานเดียว แต่จะประกอบด้วย:
- สภาวิชาชีพบัญชี – ควบคุมมาตรฐานการดำเนินงานของผู้สอบบัญชี
- กรมสรรพากร – ควบคุมในส่วนที่เกี่ยวกับภาษี
- ธนาคารแห่งประเทศไทย – ควบคุมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน
หน้าที่ของผู้สอบบัญชี
ในส่วนของหน้าที่หลักของ ผู้สอบบัญชี คือ การตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของบริษัทหรือตรวจสอบบัญชีนั่นเอง รวมถึงทำการรายงานความเห็นของผู้สอบบัญชี เรียกว่า ความเห็นของผู้สอบบัญชี
ความเห็นของผู้สอบบัญชีจะแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- ความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข
- ความเห็นแบบมีเงื่อนไข
- ไม่แสดงความเห็น
- งบการเงินไม่ถูกต้อง
ความเห็นของผู้สอบบัญชี
ความเห็นของผู้สอบบัญชี จะบ่งบอกถึงความถูกต้องของงบการเงินของบริษัท โดยความเห็นทั้ง 4 มีรายละเอียดดังนี้
ความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข (Unqualified Opinion) คือ งบการเงินที่ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นตามหลักบัญชีที่ได้รับการรับรอง
ความเห็นแบบมีเงื่อนไข (Qualified Opinion) คือ ผู้สอบบัญชีพบความไม่ถูกต้องหรือความไม่แน่นอนบางอย่างจากงบการเงิน
ไม่แสดงความเห็น (Disclaimer of Opinion) คือ ผู้สอบบัญชีไม่สามารถแสดงความเห็นได้ว่างบการเงินถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบบางอย่างที่ไม่สามารถตรวจสอบได้หรือตรวจสอบได้ลำบาก
งบการเงินไม่ถูกต้อง (Adverse Opinion) คือ การที่ผู้จัดทำบัญชีทำงบการเงินไม่ถูกต้องและไม่ได้รับการแก้ไขข้อมูลจากผู้ที่จัดทำบัญชี
Accountingบัญชี
แชร์บทความนี้ FacebookTwitterEmail
Kris Piroj
บรรณาธิการ GreedisGoods | อดีตที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการเงิน | นักลงทุนที่สนใจในเศรษฐศาสตร์มหภาคและอนุพันธ์เป็นพิเศษ | หากบทความเป็นประโยชน์สามารถติดตามเราได้บน Facebook และ Twitter
แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ การตรวจสอบงบการเงิน การตรวจสอบการปฏิบัติงานงานตามกฎระเบียบ การตรวจสอบการดำเนินงานและการตรวจสอบการทุจริต ซึ่งงานตรวจสอบดังกล่าวเป็นงานตรวจสอบที่ให้ความเชื่อมั่น ซึ่งแตกต่างจากการทำบัญชีพี่เป็นเพียงแค่การบันทึกรายการเท่านั้นไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นแต่อย่างใด1. การตรวจสอบงบการเงิน financial statement audit
การตรวจสอบงบการเงินเป็นการพิจารณาว่าภาพรวมของงบการเงินได้แสดงไว้ตามหลักเกณฑ์ที่ระบุหรือไม่ตรวจสอบประเภทนี้ครอบคลุมงบการเงินประกอบไปด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบกําไรขาดทุน งบกระแสเงินสด งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น และครอบคลุมถึงหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป
2. การตรวจสอบการดำเนินงาน operation audit
เป็นการตรวจสอบการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบกิจกรรม ขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานต่างๆขององค์กรอย่างเป็นระบบ เพื่อประเมินประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของการใช้ทรัพยากร จุดมุ่งหมายของการตรวจสอบการดำเนินงานก็เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและทำให้ผู้บริหารข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการดำเนินงานภายในองค์กร ตรวจสอบการดำเนินงานมีความยากในการปฏิบัติมากกว่าการตรวจสอบงบการเงินซึ่งจากมีความยากในการระบุวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์การวัดเพื่อใช้ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล
3. การปฏิบัติตามกฎระเบียบ Compliance Audits
เป็นการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบ นโยบาย ข้อบังคับขงทางราชการหรือของหน่วยงาน ผลการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบมักนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงเผยแพร่ให้บุคคลภายนอกได้รับทราบ
4. การตรวจสอบการทุจริต Forensic Audits
การตรวจสอบมีจุดมุ่งหมายในการค้นหาการกระทำผิดที่ก่อให้เกิดการทุจริตมีการทุจริตในองค์กร เป็นการตรวจสอบในเชิงลึกมักกระทำโดยผู้ตรวจสอบภายในแต่เนื่องจากผู้ตรวจสอบบัญชีนั้นมีหลายประเภท และมีหน้าที่ในการตรวจสอบต่างกัน หากเป็นกิจการเปิดใหม่เพิ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล อาจยังไม่ทราบว่า ผู้ตรวจสอบบัญชีมีกี่ประเภท แล้วรูปแบบกิจการของเราควรใช้บริการผู้ตรวจสอบบัญชีแบบไหนบ้าง
ตามหลักการแล้วผู้สอบบัญชีจะมีทั้งหมด 4 ประเภท คือ
1.ผู้สอบบัญชีภาษีอากร
2.ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไป
3.ผู้สอบบัญชีตลาดทุน
4.ผู้ตรวจสอบภายใน
และทั้งหมดทำหน้าที่ต่างกัน ซึ่งกิจการต้องเลือกใช้ผู้สอบบัญชีให้ตรงกับรูปแบบธุรกิจ และจุดประสงค์หลักของกิจการ ดังสามารถอธิบายแยกย่อยได้ดังนี้
ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA : Tax Auditor)
ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA : Tax Auditor) คือผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ขอขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพากร มีหน้าที่ตรวจสอบและออกรายงานการตรวจสอบและรับรองบัญชี สำหรับกิจการที่เป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดเล็ก มีทุนจดทะเบียนหรือทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมและรายได้รวมของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท
โดยผู้สอบบัญชีภาษีอากร จะต้องปฏิบัติงานตามแนวทางและวิธีการตรวจสอบที่กรมสรรพากรกำหนด โดยใช้วิธีการทดสอบและวิธีการตรวจสอบอื่นที่เหมาะสม ซึ่งนอกจากการตรวจสอบงบการเงินว่าตรงตามสมุดบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีและเป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปแล้ว ยังต้องตรวจสอบว่ากิจการได้ปรับปรุงกำไร(ขาดทุน)สุทธิเพื่อเสียภาษีถูกต้องตามประมวลรัษฎากรหรือไม่
ดังนั้น ผู้สอบบัญชีภาษีอากรจะต้องมีความสามารถทางการบัญชีและภาษีอากร สามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาภาษีอากรได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเสียภาษีได้ถูกต้อง และเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก (External Auditor) หรือ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไป (CPA : Certified Public Accountant)
ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก (External Auditor) หรือ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไป (CPA : Certified Public Accountant) คือผู้ตรวจสอบตามกฎหมาย Statutory Auditor ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้สอบบัญชีที่ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ.2547
ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และแสดงความเห็นไว้ในรายงานการสอบบัญชี ซึ่งจัดทำรายงานเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินของกิจการ ว่างบการเงินจัดทำขึ้นตามมาตรฐานรายงานทางการเงินหรือไม่
โดยมีอำนาจตรวจสอบ และรับรองงบการเงินสำหรับกิจการที่เป็นนิติบุคคลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดใหญ่ และห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดเล็ก ยกเว้นงบการเงินที่ต้องใช้ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจาก กลต. ซึ่งสามารถรับรองได้แค่งบการเงินเท่านั้น
ทั้งนี้ สัดส่วนของธุรกิจโดยทั่วไปสำหรับการจัดทำบัญชี งบการเงิน จะอยู่ในกลุ่ม “ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไป” เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นคือต้องใช้ผู้สอบบัญชีอิสระที่ไม่ใช่พนักงานของกิจการ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการเข้ามาตรวจสอบ
ด้วยเหตุนี้กิจการจึงต้องเลือกผู้สอบบัญชีภายนอกที่เปิดรับตรวจสอบบัญชี ซึ่งมีหลากหลายให้เลือกทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา และอยู่ในรูปแบบสำนักงานบัญชี โดยการเลือกให้คำนึงถึงความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือเป็นหลัก เพื่อให้การตรวจสอบบัญชีของกิจการมีคุณภาพที่สุด
ผู้สอบบัญชีตลาดทุน (List of Auditors Approved by the office of SEC)
ผู้สอบบัญชีตลาดทุน (List of Auditors Approved by the office of SEC) คือผู้ที่ได้รับอนุญาตความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในการรับรองงบการเงินสำหรับบริษัทที่อยู่ในตลาดทุน หรือบริษัทที่ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดทุน (IPO) ที่มีตลาดทุนคือศูนย์กลางมีการออกสินค้าเป็นหลักทรัพย์ขายให้แก่ประชาชนเพื่อถือครองไว้และถือว่าเป็นพันธะสัญญาต่อกัน
โดยมีทั้งหุ้นสามัญ หุ้นกู้ พันธบัตร กองทุนรวมต่างๆ งบการเงินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยกเว้นกองทุนที่มีสมาชิกไม่เกิน 100 คน และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งพิจารณา ณ วันสิ้นเดือนก่อนวันที่แต่งตั้งผู้สอบบัญชี และผู้สอบบัญชีนั้น (CPA) ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสมาชิกให้ใช้ผู้สอบบัญชีทั่วไปได้
ผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditors) หรือ IA
ผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditors) หรือ IA คือบุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบภายในองค์กร และประเมินประสิทธิภาพระบบการควบคุมภายในให้แก่องค์กรอย่างเป็นอิสระ รวมทั้งการประเมินประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงขององค์กร เพื่อให้เกิดการปรับปรุงการปฏิบัติงานขององค์กร และมีการควบคุมและกำกับดูแลกิจการอย่างเป็นระบบ โดยเน้นความสำคัญในการตรวจสอบการดำเนินงาน การปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กร ซึ่งไม่ใช่การตรวจสอบงบการเงินและบัญชี
โดยฝ่ายบริหารของกิจการอาจแต่งตั้งผู้ตรวจสอบภายใน จากพนักงานในหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานของกิจการ และให้ผู้ตรวจสอบภายในคอยตรวจสอบหน่วยงานต่างๆ และเสนอรายงานต่อผู้บริหารระดับสูง หรือคณะกรรมการตรวจสอบ
ที่สำคัญผู้ตรวจสอบภายในต้องมีความเป็นอิสระจากหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ เพื่อให้การรายงานผลเป็นไปอย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา ทำให้เกิดการแก้ไขที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของกิจการ
สรุป
เมื่อทราบแล้วว่าผู้ตรวจสอบบัญชีมีกี่ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีขอบเขตการทำงานและหน้าที่แตกต่างกัน แต่ทุกประเภทจะต้องผ่านการสอบใบอนุญาตก่อนทั้งสิ้น จึงจะสามารถเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีอำนาจในการตรวจสอบบัญชีในด้านต่างๆ อย่างเป็นอิสระต่อหน่วยงานที่เข้าตรวจสอบ
ดังนั้น เมื่อผู้ประกอบการต้องเลือกผู้ตรวจสอบบัญชีให้เข้ามาตรวจสอบด้านต่างๆ ของกิจการ ควรเลือกให้ตรงรูปแบบของกิจการและที่สำคัญต้องผ่านการสอบใบอนุญาตด้วย
PrevPreviousบัญชีเงินเดือน ที่เจ้าของกิจการควรรู้
Nextคุณภาพการสอบบัญชี จากนวัตกรรมตรวจสอบบัญชีของบริษัทNext
OUR STORY
เรามีชื่อในการช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจในเรื่องบัญชีและภาษีเพื่อให้เจ้าของธุรกิจมั่นใจว่าบัญชีและภาษีที่ทำออกมานั้นถูกต้องอีกทั้งเรายังให้คำแนะนำกับเจ้าของธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจที่กำลังเติบโต ซึ่งต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจต่างๆ
ไม่ว่าจะเรื่องจำนวนคนหรือเวลาที่มีน้อยกว่าบริษัทระดับ Corporate หรือความรู้ในการบริหารจัดการภาษีซึ่งเราก็มีผู้ตรวจสอบบัญชี CPA คอยให้คำแนะนำกับเจ้าของธุรกิจทุกท่าน