หูฟังไร้สายที่เราใช้งานกันในปัจจุบันนี้ใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งมีชั่วโมงการทำงานตามปริมาณความจุของแบตเตอรี่ แล้วถ้าแบตหมดทำอย่างไรหละทีนี้ ก็เสียบชาร์จสิครับ
แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมผู้ผลิตบางรายต้องระบุวิธีการชาร์จอย่างชัดเจน เช่น ให้ชาร์จจาก port USB ของ computer เท่านั้น หรือใช้หัวชาร์จที่ได้มาตรฐานเท่านั้น วันนี้เรามีคำตอบ
โดยทั่วไปเราชาร์จหูฟังไร้สายแบบไหนกัน? แน่นอน หากไม่มีการระบุอย่างชัดเจน เราก็ชาร์จผ่านหัวชาร์จที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มือถือ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็จะมีการจ่ายกระแสไฟที่เหมาะสมกับอุปกรณ์มือถือ โดยทั่วไปก็จะมี Output อยู่ที่ 5V 1A หรือ 2.1A ตัวเลขเหล่านี้คืออะไร เราคงไม่ได้ลงไปที่รายละเอียด พอจะบอกคร่าวๆ ได้ว่า V คือค่าแรงดันไฟฟ้า A คือค่าของกระแสไฟ และ W คือปริมาณของพลังงานที่อุปกรณ์นั้นใช้ สิ่งที่น่าสนใจคือการเลือกใช้อุปกรณ์ ให้เราดูตัวเลขสามตัวนี้เป็นหลักและวิธีสังเกตุ ค่า Output อยู่ตรงไหน ส่วนใหญ่จะมีการเขียนระบุอยู่บนหัวชาร์จที่ผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ตามภาพตัวอย่าง ดูคำว่า output และตัวเลขที่ระบุต่อท้ายเช่น output 5V 2.1A หมายความว่า จ่ายกระแสไฟที่มีแรงดัน 5 โวล์ท์ และมีกระแสไฟส่งออกมาปริมาณ 2.1 A
Skullcandy Thailand จึงอยากให้สังเกตุหัวชาร์จหรือเลือกใช้ให้ถูกต้องโดยเช็คค่า Output ที่ระบุบนอุปกรณ์ก่อนใช้งานทุกครั้ง รวมถึงเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ไม่ใช้สาย หรือหัวชาร์จที่ชำรุดหรือไม่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือการจ่ายกระแสไฟเกินกว่าที่อุปกรณ์หูฟังเราจะรับได้ ทำให้หูฟังที่เรารักชำรุดและจากเราไปก่อนเวลาอันควร อีกอย่างการชำรุดจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟกระชาก มักไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเราบอกได้เลยว่า เสียฟรี ไม่มีเคลมแน่นอน รวมถึงปลั๊กสามตาที่มาพร้อม usb charge ติดมาด้วย ก็ต้องเลือกซื้อดีๆ เพราะหลายครั้งพบว่ามีการต่อวงจรไฟฟ้าตรงและไม่ได้มาตรฐาน ก็เลือกซื้อกันดีๆ ดูสเป็กกันดีๆ ก่อนใช้งานนะครับ
และเมื่อชาร์จไฟเสร็จแล้วอยากให้เก็บหัวชาร์จให้เรียบร้อย อย่าเสียบค้างไว้ เพราะไฟฟ้าจะยังคงไหลเวียนอยู่และเกิดความร้อนสะสม ทำให้วัสดุห่อหุ้มสายชาร์จ มีการเสื่อมอย่างรวดเร็ว การเสียบชาร์จก็ขอแนะนำให้เสียบปลั๊กไฟให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อนแล้วจึงนำสายชาร์จมาต่อเข้ากับช่องชาร์จของหูฟังเพื่อป้องไม่ให้เกิดไฟกระชากไปทำอันตรายกับวงจรของหูฟัง
แล้ววงจรการชาร์จไวของหูฟังมีผลกับเวลารวมของการชาร์จไหม หูฟังรุ่นใหม่มักมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว เช่น Skullcandy Hesh 3 Wireless ที่มี Rapid Charge ชาร์จไวเพียง 5 นาทีก็ฟังเพลงได้ต่อเนื่องอีก 90 นาที หรือชาร์จเพิ่มอีกสักนิด ประมาณ 10 นาที ก็สนุกต่อได้ยาวขึ้น 3 – 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่หากชาร์จแบบเต็ม Max ก็ใช้งานได้เต็มที่ 22 ชั่วโมง โดยใช้เวลาชาร์จราว 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่ //shop.mentagram.com/product-detail3.php?brand=9012&cate=1003&group=9050&goodid=54012
แล้วแบตเตอรี่ใช้งานได้นานแค่ไหน ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ยุคปัจจุบัน เมื่อเราซื้ออุปกรณ์หูฟังมา ไม่มีความจำเป็นต้องชาร์จเพื่อกระตุ้นประจุแบตเตอรี่กันอีกแล้ว แถมอายุของแบตเตอรี่ก็ใช้ได้ยาวนานกว่าเดิมมากโดยส่วนมากจะนับเป็นรอบการชาร์จ หมายความว่าเมื่อเราใช้แบตจนหมดและทำการชาร์จใหม่จะนับเป็นหนึ่งครั้ง และมีอายุเฉลี่ยราว 300 – 500 รอบการชาร์จ หรือเรียกเป็น Cycle แล้วด้วยปริมาณความจุที่เราสามารถใช้หูฟังได้นาน 20 ชั่วโมง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อยๆ อาจจะ 2 – 3 วัน ถึงจะชาร์จสักหนึ่งครั้ง อีกทั้งเมื่อชาร์จครบ cycle ของอายุแบตเตอรี่ แบตก็แค่ลดปริมาณการเก็บประจุลง โดยค่อยๆ ลดลง จาก 100% เมื่อชาร์จเต็ม เหลือ 80% > 70% >60% เรื่อยไปจนกว่าเซลล์แบตจะเสื่อมตามลำดับ เท่ากับว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะมากกว่า 1 ปีอย่างแน่นอน
ทีนี้เรามาทบทวนกันสักหน่อย
- เลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานในการชาร์จ
- output ของไฟฟ้าไม่เกินกว่าอุปกรณ์จะรับได้(มาตรฐานอยู่ที่ 5V)
- เสียบปลั๊กก่อน เสียบสายชาร์จที่หลัง
- ชาร์จเสร็จเก็บปลั๊กเก็บสายไม่ชาร์จทิ้ง
สำหรับครั้งต่อไปเมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่หูฟัง หรือเลือกอุปกรณ์สำหรับการชาร์จ สังเกตุทุกครั้งและเลือกใช้เฉพาะอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสีย หรืออันตรายจากการใช้งาน
ติ ชม ส่งความคิดเห็นหาเราได้ที่
Inbox FB Skullcandy Thailand
Instagram @SkullcandyTH
Youtube : Skullcandy Thailand
#SkullcandyTH #FeelSkullcandy #Mentagram #MentagramThailand
Published by Skullcandy Thailand
Skullcandy Thailland Next Episode by Mentagram www.mentagram.com www.facebook.com/skullcandythailand View all posts by Skullcandy Thailand