ลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่เริ่มดู Youtube ใช้อินเตอร์เน็ต ใช้ไอแพดกันหรือยังคะ . ถ้าคำตอบคือใช่ ไม่ว่าเด็กๆ จะอายุกี่ขวบ เมื่อเด็กๆ เริ่มใช้อุปกรณ์ดิจิทัลก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เด็กๆ ควรจะได้เรียนรู้เรื่อง Digital Literacy (การรู้เท่าทันดิจิทัล) เลยค่ะ . เพราะบนโลกดิจิทัลมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี และเด็กๆ
ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลตั้งแต่เล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต ไอแพด คอมพิวเตอร์ บางครั้งเราเองก็อาจจะไม่รู้ว่าเด็กๆ ไปพบเจออะไรบนอินเตอร์เน็ตบ้าง โพสต์อะไรบนโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่ในเวลาที่เด็กๆ ไม่ได้ใช้ ในชีวิตประจำวันรอบตัวเขาก็มีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลอยู่เต็มไปหมด เช่น สื่อรอบตัว ระบบสแกนใบหน้า เทคโนโลยี AI ฯลฯ แล้วเราจะทำอย่างไรให้เด็กๆ อยู่กับเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย . ในเมื่อเด็กๆ ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว
สิ่งที่จะมาคู่กันคือ Digital Literacy (การรู้เท่าทันดิจิทัล) ซึ่งไม่ใช่แค่การเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเท่านั้น แต่เป็น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย ใช้ให้เกิดประโยชน์
ป้องกันอันตรายจากเทคโนโลยีดิจิทัลที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเองได้
และไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
.
เด็กๆ จะรู้เท่าทันดิจิทัลได้ ต้องมีทั้งความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล มีทักษะในการใช้และเลือกรับเทคโนโลยีอย่างปลอดภัย และป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ยิ่งเด็กๆ ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีค่ะ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เด็กๆ จะเจอกับอันตรายในโลกดิจิทัล เช่น cyberbullying, fake news หรือเจอกับคนที่ไม่หวังดีเมื่อไหร่
.
รวมทั้งเด็กๆ จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและคนอื่น ไม่เผลอไปสร้างความเดือดร้อนโดยไม่ตั้งใจ Digital Literacy จะเป็นสิ่งที่สร้างเครื่องมือการรู้เท่าทันดิจิทัลให้กับเด็กๆ ค่ะ แล้วเด็กๆ จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและรู้เท่าทัน
.
และเมื่อพวกเขาโตขึ้น ไปโรงเรียน เรียนมหาวิทยาลัย ทำงาน ที่ตอนนี้และในอนาคตอาชีพต่างๆ ต้องการคนที่มีความรู้และทักษะด้านดิจิทัลมาทำงานมากขึ้น Digital Literacy ก็ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน
.
เพราะฉะนั้น มาเริ่มสร้าง Digital Literacy ให้เด็กๆ กันตั้งแต่วันนี้กันเลยค่ะ!
แหล่งข้อมูล
//www.unicef.org/globalinsight/documents/digital-literacy-children-10-things-know#:~:text=Digital%20literacy%20goes%20beyond%20technical,and%20learning%20through%20digital%20technologies
//www.britishcouncil.in/blog/guide-digital-literacy-kids
//teachyourkidscode.com/why-is-digital-literacy-important
ในวันที่โลกเปลี่ยนผ่านจากยุค Analog เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว โลก Metaverse ที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และการพึ่งพาเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องพัฒนาทักษะทางด้านเทคโนโลยี Digital skill ยิ่งในที่ทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และการทำงานที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ต ยิ่งทำให้เทคโนโลยีจำเป็นต่อชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดคำว่า Digital Literacy คำศัพท์ใหม่แห่งยุคซึ่งเป็นทักษะจำเป็นของคนยุคใหม่ แล้ว Digital Literacy จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างไรในที่ทำงาน เราลองมาค้นหาคำตอบกัน
Digital Literacy หมายถึง ทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จัดเป็นทักษะพื้นฐานด้านดิจิทัลที่จำเป็นต่อการนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถงานดิจิทัลในด้านอื่น ๆ เป็นทักษะสำคัญที่ใช้ในการปฏิบัติงาน สื่อสาร และทำงานร่วมกับคนอื่น ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ทำน้อย ได้มาก” หรือ “Work less but get more” ผ่านการใช้งานเครื่องมือทางด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอแพด โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมและแพลตฟอร์มออนไลน์ เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Cloud computing ในการทำงาน ซึ่งสามารถแบ่ง ทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ได้ออกเป็น 4 มิติ คือ
- ใช้ (Use) หมายถึง ความคล่องแคล่วทางเทคนิคที่จำเป็นในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
- เข้าใจ (Understand) คือ ชุดของทักษะที่จะช่วยให้เข้าใจบริบทและประเมินสื่อดิจิทัล เพื่อให้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับอะไรที่ทำและพบบนโลกออนไลน์ เพราะเทคโนโลยีและโลกอินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว และส่งผลต้องพฤติกรรมและมุมมองของผู้ใช้อย่างมาก ทำให้ความเข้าใจมีความจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลมีวิจารณญาณในการใช้งาน
- สร้าง (Create) คือ ความสามารถในการผลิตเนื้อหาและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเครื่องมือสื่อดิจิทัลและเทคโนโลยีที่หลากหลาย
- เข้าถึง (Access) คือ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การค้นหาข้อมูลผ่าน Search engine รู้จักช่องทางการค้นหา ซึ่งนี่เป็นฐานรากในการพัฒนาของผู้ใช้งาน
ทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในองค์กร
องค์กรส่วนใหญ่ในตอนนี้มักมีการเปลี่ยนผ่านการทำงานแบบเดิมเข้าสู่การทำงานที่ใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มมากขึ้น เราจะเห็นได้จากหลายองค์กรที่มีแผนก Digital Transformation เพื่อช่วยให้องค์กรและพนักงานสามารถเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีได้ ซึ่งทักษะความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในแต่ละแผนกหรือแต่ละบุคคลมักมีความแตกต่าง แต่ก็มีประเด็นที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ สื่อสารและทำความเข้าใจกับพนักงาน และอาจต้องการการเทรนนิ่งหรือฝึกฝนเพื่อให้พนักงานมีทักษะทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จากทักษะนี้ในการทำงานได้อย่างเต็มที่
- สามารถใช้เครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลได้
พนักงานจำเป็นจะต้องรู้จักและเข้าใจการใช้งานเบื้องต้นของเครื่องมือ อุปกรณ์ และโปรแกรมพื้นฐานต่าง ๆ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ การใช้ Search engine การใช้อีเมล Calendar โปรแกรม video conference อย่าง Zoom หรือ MS team ซึ่งทักษะเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญและช่วยให้พนักงานสามารถปรับตัวกับโปรแกรมหรือแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่บริษัทจะเอามาใช้ในการทำงานในอนาคตได้
- เข้าใจความสำคัญของดิจิทัลและเทคโนโลยีในการทำงาน
เพราะเทคโนโลยีและดิจิทัลมีมาเพื่อทำให้การทำงานง่ายขึ้นและทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็ต้องมีการเรียนรู้ที่จะใช้งานเทคโนโลยีเหล่านั้นเพิ่มเติม ทำให้องค์กรต้องสื่อสารและทำความเข้าใจกับพนักงานให้ดีว่าทำไมต้องเอาเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาใช้ และสิ่งเหล่านี้จะช่วยในการทำงานได้อย่างไร เพื่อให้พนักงานเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และหมั่นปรับตัวอยู่เสมอ
- ความสามารถและความเข้าใจในการใช้โซเชียลมีเดีย (Social media literacy)
บทบาทของโซเชียลมีเดียในตอนนี้แทบจะทำหน้าที่เป็นสื่อหลักในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว ทำให้แทบทุกบริษัทต้องมี official account เป็นของตัวเองเพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้าง branding และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสินค้า บริการ และตัวบริษัทเอง จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่พนักงงานจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอย่างดี ต้องรู้ถึงประโยชน์และโทษ มีวิจารณญาณในการใช้ เพื่อให้สามารถเอาโซเชียลมีเดียมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับงานมากที่สุด
- Cloud-based software และ การใช้อุปกรณ์อื่น ๆ (multi-device)
หลายบริษัทใช้การเชื่อมโยงการทำงานของพนักงานทุกคนผ่านโปรแกรมในลักษณะของ Cloud-based ที่ไม่จำเป็นต้องทำงานที่คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่ออฟฟิศเท่านั้น แต่สามารถเข้าถึงโปรแกรมการทำงานได้ผ่านโน้ตบุ๊กที่สามารถทำให้พนักงานทำงานที่ไหนก็ได้ สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเฉพาะของบริษัท รวมไปถึงทำงานประสานกับพนักงานคนอื่น ๆ ผ่านทางโปรแกรมและแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้การใช้อุปกรณ์อื่น ๆ นอกจากคอมพิวเตอร์ (multi-device) เช่น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็มีความจำเป็นเช่นกัน
ประเด็นที่กล่าวไปด้านบนเป็นเพียงประเด็นเบื้องต้น บริษัทควรตรวจสอบว่าพนักงานในองค์กรมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ดีพอหรือยัง หรือมีส่วนไหนขาดไป ก็ต้องพร้อมให้ความช่วยเหลือ แนะนำ จัดเทรนนิ่งให้พนักงานเพื่อให้พนักงานในองค์กรมีทักษะ Digital Literacy เป็นอย่างดี เมื่อความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและดิจิทัลพร้อมแล้ว องค์กรก็สามารถสรรหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้กับการทำงาน เพื่อให้บริษัทก้าวหน้าก้าวไกลไปพร้อม ๆ กับโลกยุคใหม่ที่หมุนเร็วขึ้นในทุก ๆ วัน
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
Social media age restrictions อายุของผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ปัจจัยสำคัญที่คนทำงานดิจิทัลควรใส่ใจ
Cryptocurrency สกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์นักลงทุนควรรู้
เปิดโลก MarTech พลิกกลยุทธ์การตลาดในยุคดิจิทัล
FinTech สายงานสุดฟินมาแรง แห่งยุคดิจิทัล
Negotiation skill: soft skill ที่ควรมีในงานยุคดิจิทัล
NFT Arts สินทรัพย์ดิจิทัล เทรนด์ใหม่ของคนวงการศิลปะ