หากคุณมีสินค้าและบริการอยู่ในมือแต่ไม่มีแผนการตลาด ถามว่าแล้วสินค้าและบริการจะกระจายสู่ผู้บริโภคได้ยังไง
หลาย ๆ ธุรกิจจึงให้ความสำคัญกับแผนการตลาด เพราะการมีแผนการตลาดจะช่วยให้คุณมีหลักปฏิบัติและดำเนินไปตามแผนไม่สะเปะสะปะ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้
วันนี้ผมมี 5 ขั้นในการปั้นแผนการตลาดอย่างง่าย ๆ มานำเสนอครับ
1.รู้เขารู้เรา
ก่อนอื่นเลยคุณต้องรู้ก่อนว่าสินค้าและบริการของคุณคืออะไร เหนือกว่าคู่แข่งตรงไหน เพื่อจะนำจุดต่างนี้ มาทำแผนการตลาดได้ เช่น ถ้าคุณจะนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ คุณต้องรู้ก่อนว่าจุดเด่นของแฟรนไชส์ของคุณคืออะไร มีอะไรบ้างที่คู่แข่งของคุณไม่มี คุณเป็นเจ้าแรกใช่หรือไม่ เมื่อคุณรู้อย่างเด่นชัดคุณก็จะนำเสนอได้อย่างมั่นใจ
2.รู้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย.
ขั้นตอนนี้คุณต้องรู้ให้แน่ชัดว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร เป็นนักศึกษา หรือคนทำงาน หรือกลุ่มผู้สูงอายุ หรือคุณแม่ เป็นต้น การรู้กลุ่มเป้าหมายจะทำให้คุณไม่ทำแผนการตลาดแบบหว่านในวงกว้าง ซึ่งจะทำให้เสียเวลาและงบประมาณ
การเฉพาะเจาะจงในกลุ่มเป้าหมายและมีความชัดเจนจะทำให้คุณจัดทำแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพและประหยัดงบประมาณ
3.สร้างแบรนด์
แผนการตลาด ไม่ใช่แค่คิดระยะสั้น ขายๆๆๆ เอาเงิน แล้วก็จบไป แบบนั้น ไม่ยั่งยืนแน่ครับ คุณต้องคิดวิเคราะห์ว่าจะทำยังไงให้แบรนด์ติดตลาดด้วยแน่นอนว่า สินค้าของคุณจะต้องมีคุณภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ก่อนครับ
เมื่อสินค้าซึ่งเป็นแก่นหลัก ดีแล้วคุณค่อยต่อยอดว่าจะสร้างแบรนด์ยังไงทั้งการรับรู้ การจดจำ บุคลิก ภาพลักษณ์ เอกลักษณ์ ทุกอย่างที่เป็นตัวตนธุรกิจของคุณหาวิธีสื่อสารแบรนด์ออกไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้
คุณอาจต้องปั้นแผนการตลาดเพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักเช่น มีการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เป็นต้น โดยคุณต้องมีโปรโมชั่นที่ให้ข้อเสนอที่ดีกว่าคู่แข่ง แต่อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงถึงต้นทุนและผลกำไร ว่าคุ้มค่าหรือไม่ด้วย
4.สามารถวัดผลได้
แผนการตลาดที่ดีต้องสามารถวัดและประเมินผลได้ว่าเมื่อคุณดำเนินการไปตามแผนในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาวก็ดีได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ เช่น มียอดขายที่เพิ่มขึ้นหรือผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการปรับแผนการตลาดในครั้งหน้าต่อไป
5.แผนการดำเนินงาน
เป็นขั้นตอนในการนำแผนการตลาดที่คุณได้คิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง มาดำเนินการโดยคุณสามารถอธิบายกระบวนการในการลงมือทำงานจริง ๆ ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของธุรกิจ
และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
การปั้นแผนการตลาดจะต้องสามารถนำไปใช้ได้จริงคุณต้องทำความเข้าใจในธุรกิจของคุณเป็นอย่างดี
โดยคุณต้องปั้นแผนการตลาดที่สอดคล้องกับขั้นตอนการดำเนินงาน
อย่าลืมว่าแผนการตลาดเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความสำเร็จในธุรกิจคุณต้องนำไปปฏิบัติตามแผนให้ได้ด้วย
และควรทบทวนแผนการตลาดตามวงรอบของระยะเวลาเช่น ทุก ๆ สามเดือน หรือทุก ๆ เดือน
การทบทวนแผนการตลาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณทราบว่าผลการดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
จะได้มีการปรับแผนให้สอดคล้องและเหมาะสมเพื่อบรรลุเป้าหมายต่อไป
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
จากที่ทำการตลาดให้กับหลายๆ ธุรกิจ สิ่งที่มักจะเจอ คือ หลายธุรกิจมียอดขายที่ดี บางธุรกิจมียอดขายที่ไม่ดี พอถามเรื่องแผนธุรกิจว่ามีการแผนการตลาดอย่างไร กลับให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้เพราะไม่มีการวางแผนไว้อย่างเป็นรูปร่างที่ชัดเจน แล้วพอถามอีกว่าแล้วจะมีแผนทำอะไรต่อไป หรือว่ามีเป้าหมายอะไรต่อไป ก็ให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้อีก ประมาณว่าถ้ายังมียอดขายที่ดีอยู่ก็คงทำแบบเดิมหรือถ้าไม่ก็คงเลิกทำ การตลาด
ธุรกิจที่ทำ การตลาด โดยที่ไม่มีแผน “มักจะไม่รอด”
เป็นเรื่องที่มักเจออยู่บ่อยๆ กับธุรกิจใหม่ที่บังเอิญทำการตลาดแล้วโชคดีขายดิบขายดี ประหนึ่งว่าประสบความสำเร็จ ทำให้ได้ใจ คิดว่าตัวเองจะต้องลงทุนให้มากกว่าเดิมเพื่อที่จะได้ทำยอดขายให้มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อถึงจุดอิ่มตัวก็จะเริ่มรู้สึกว่า “ตัน” ไม่รู้ตัวเองว่าควรจะทำอะไรต่อไป เพราะไม่มีการวางแผนอะไรไว้เป็นรูปร่างชัดเจน เลยทำให้การจะไปต่อนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นี่แหละที่เป็นจุดทำให้หลายๆ ธุรกิจต้อง “ติดชะงัก” เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการต่อได้ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เปลี่ยนความยุ่งยากในการวางแผน การตลาด ให้เป็นเรื่องง่ายๆ
การวางแผนจะทำให้รู้ขั้นตอนและกระบวนการที่ชัดเจน
หลายธุรกิจที่พูดว่าเคยทำแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อถามกลับไปว่าอะไรที่ทำให้คุณไม่สำเร็จ กลับให้คำตอบไม่ได้ สาเหตุที่คุณตอบกันไม่ได้เป็นเพราะคุณไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าสิ่งที่คุณทำนั้นคุณทำนั้น คุณสามารถบอกได้อย่างเต็มปากว่ามันทำให้คุณสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ถ้าหากคุณมีการวางแผนหรือมีกระบวนการขั้นตอนที่ชัดเจน คุณจะสามารถตอบได้และว่ามันดีหรือไม่ดี ทำให้คุณรู้ว่าสิ่งที่คุณกำลังทุ่มเทลงแรงไปนั้น มันให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร คุณเดินมาถูกทางหรือเปล่า? ถ้ามันดีแล้วมันมีวิธีไหนอีกมั้ย? ที่มันจะทำให้ดีกว่า หรือถ้ามันไม่ดีมันพอจะมีวิธีอื่นอีกมั้ยที่เอามาแก้แทน
ช่วยทำให้วัดความสำเร็จได้ง่าย
มักจะพากันตกม้าตาย กับคำถามที่ว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นมานั้น มาจากช่องทางไหน? หลายธุรกิจไม่รู้ รู้แค่ว่าฉันลงทุนไปเท่านี้ควรได้ผลตอบแทนที่มากกว่าที่ลงทุนไปก็เพียงพอแล้ว แต่คุณไม่รู้เลยว่าขั้นตอนที่จะนำพาผลลัพธ์ที่ได้มานั้น ว่าขั้นตอนไหนที่ทำให้คุณทำให้สำเร็จหรือไม่ กระบวนการไหนที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีให้กับคุณ เพราะคุณไม่ขั้นตอนที่ชัดเจนเลยไม่สามารถวัดความสำเร็จของแต่ละขั้นตอนได้ว่าสิ่งที่ทำให้ผลยังไง ลูกค้าเป็นใคร เขาเข้ามาจากขั้นไหน เพื่อที่คุณจะได้คิดแผนที่จะเข้าไปช่วยส่งเสริมตรงจุดนั้นให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เช่น ถ้าคุณบอกว่าคุณลงทุนไป 10 ช่องทาง และภาพรวมที่ออกมามันก็ทำให้คุณไปถึงยอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้ แต่คุณไม่รู้ว่า ช่องทางไหนส่งผลให้คุณได้ดีสุด มันอาจจะเป็นเพียง 1 ใน 10 ที่ทำให้คุณไปถึงเป้าที่ตั้งไว้ก็เป็นไปได้ แต่นั่นก็แสดงว่าอีก 9 ช่องทางที่คุณลงทุนไปนั้นเปล่าประโยชน์ เห็นแล้วใช่มั้ยว่าการวางแผนถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะทำให้คุณเห็นชัดว่า คุณมีจุดไหนที่กำลังบกพร่องและจุดไหนที่ effective ดี
"91% ที่ทำการตลาดล้มเหลว เพราะขาดแผนการตลาดที่ดี"สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Aphikiat Techajarupun X Ourgreenfish