“น้องดูไม่ใช่คนช่างพูดนะ แต่พูดมาแล้วพี่รู้สึกเลยว่าเป็นคนมีความมั่นใจดี พี่คิดว่าพี่อยากจะเชิญน้องมาร่วมทีม”
สุนิสายกมือขึ้นขอบคุณ ยิ้มรับกับข้อเสนอที่องค์กรยื่นให้กับเธอ เธอค่อนข้างมั่นใจว่าเธอจะได้งานในตำแหน่งนี้แน่นอน เพราะคุณสมบัติของเธอนั้นสอดคล้องกับสิ่งที่องค์กรต้องการทุกอย่าง
แม้โดยนิสัยแล้วเธอจะเป็นคนที่ดูเหมือนชอบเก็บตัว พูดค่อนข้างน้อย และไม่ได้พูดเสียงดังเท่าไหร่ เธอเลยดูเหมือนคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองตามนิยามของคนทั่วไป แต่ถ้าใครได้พูดคุยกับเธอแล้วจะพบว่าในคำพูดน้อย ๆ ที่เธอใช้นั้น มีความมั่นใจ และมุ่งมั่นอยู่เต็มเปี่ยม
ความมั่นใจในตนเองไม่ได้อยู่ในรูปแบบของการกล้าแสดงออก หรือพูดเก่งอย่างที่เราเข้าใจกันเท่านั้น แต่คนที่เรียบร้อยพูดน้อยก็มีความมั่นใจในตนเองได้ เพราะความมั่นใจในตนเองคือการสลัดความกังวล ความกลัว และความไม่แน่ใจทิ้งไป แล้วสามารถแสดงออก ควบคุมสถานการณ์ หรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างเป็นตัวของตัวเอง คนที่มั่นใจในตัวเองจะสามารถดึงตัวเองจากภาวะกดดันต่าง ๆ กลับไปสู่ตัวตนที่แท้จริง ซึ่งความมั่นใจในตัวเองนี้ก็เป็นสิ่งที่ฝึกฝน เรียนรู้กันได้จากการลองปฏิบัติตนตามนิสัยของผู้ที่มีความมั่นใจซึ่งมีนิสัย 6 อย่าง ซึ่ง JobThai แนะนำ ดังนี้
ความมั่นใจเป็นเรื่องที่ฝึกฝนได้ โดยคนที่มั่นใจในตัวเองนั้นจะสามารถรับมือกับทุกๆ สถานการณ์ได้อย่างเป็นตัวของตัวเอง จึงมักฝึกให้ตัวเองเจอสถานการณ์แปลกใหม่ พวกเขาจึงชอบออกจาก Comfort Zone เสมอ
คนที่มั่นใจไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่เคยผิดพลาด แต่เขาเรียนรู้จากสิ่งที่เคยผิดพลาดเพื่อปรับปรุงมันให้ดีขึ้น ให้กำลังใจตัวเองและไม่จมอยู่กับความผิดพลาดนั้นและพร้อมที่จะหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ลองผิดลองถูก แล้วก้าวไปข้างหน้าเสมอ
ชอบออกจาก COMFORT ZONE
ความมั่นใจฝึกกันได้ซึ่งการฝึกที่ดีที่สุดก็คือการกระทำ โดยเฉพาะการทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคยและมีโอกาสล้มเหลว คนที่มั่นใจคือคนที่รู้จักตัวเองอย่างถ่องแท้ ดังนั้นพวกเขาจะประเมินตนเองว่าขอบเขตความสามารถของพวกเขาอยู่ที่ใด การออกจาก Comfort Zone จะทำให้เขาเห็นขอบเขตนั้นชัดเจนขึ้น แต่ไม่ใช่เพียงแค่ให้รู้จักตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
คนที่มีความมั่นใจจะพยายามพัฒนาความสามารถโดยเริ่มจากสิ่งที่มีโอกาสพลาดต่ำ แต่ทำบ่อย ๆ จนคุ้นเคย และเพิ่มความยากมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเคยชินกับการกระทำนั้น ซึ่งไม่ใช่ว่าคนที่มั่นใจในตนเองจะไม่ตื่นเต้นกับการออกนอก Comfort Zone ความตื่นเต้นก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์แต่คนที่มั่นใจในตัวเองนั้นจะทำทุกอย่างด้วยความทะเยอทะยาน และความปรารถนาจะเป็นคนที่ดีขึ้น โดยไม่ปล่อยให้การกลัวความล้มเหลวมาหยุดพวกเขาได้
เรียนรู้จากความผิดพลาด
ความตื่นเต้นเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ความผิดพลาดก็เช่นเดียวกัน คนที่มั่นใจในตัวเองไม่ใช่ว่าจะไม่เคยผิดพลาด ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกและทำได้ดีทุกครั้ง ดีไม่ดีพวกเขาอาจจะผิดพลาดได้บ่อย หรืออาจจะมากกว่าคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองเสียอีก
เพราะคนไม่มั่นใจเมื่อทำผิดก็จะหลีกเลี่ยงหรือเลิกทำไปเลย แต่คนที่มั่นใจนั้นแทนที่จะปล่อยให้ความล้มเหลวมาทำให้พวกเขาล้มเลิก แต่จะมองมันเป็นบทเรียน เป็นข้อมูล นำมาพิจารณา และศึกษาเพื่อหาทางลดข้อผิดพลาดในการทำสิ่งต่าง ๆ ในครั้งต่อไป หรือแม้กระทั้งแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
คิดและพูดกับตัวเองในแง่มุมที่ดี
คนที่มีความมั่นใจในตัวเองจะไม่พูดหรือคิดอะไรแย่ ๆ เกี่ยวกับตัวเอง ถ้าเกิดมีเรื่องที่กังวล หรือไม่มั่นใจ แทนที่จะปักใจเชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้ ไม่ดีพอ แต่จะตระหนักได้ว่าความรู้สึกนี้จะช่วยให้เขาพบสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตได้ โดยจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทำให้สิ่งที่เขากังวล หรือไม่มั่นใจนี้พัฒนาขึ้นได้อย่างไร
คนทั่วไปเมื่อเจอเรื่องที่ไม่มั่นใจ อาจจะทำให้เกิดความคิดในเชิงลบขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงจะเกิดได้มากกว่าผู้ชาย แค่ทำพลาดในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ความคิดเชิงลบเหล่านี้จะทำให้เราคิดแต่สิ่งที่ผิดพลาดวนไปวนมาอยู่ในหัวเป็นชั่วโมง และบั่นทอนความมั่นใจของเราลง เมื่อเริ่มมีความคิดในแง่ลบเกิดขึ้น การกำจัดความคิดเชิงลบเหล่านี้ทำได้โดยให้เราคิดถึงสิ่งที่เราทำได้ดี หรือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา 3 อย่าง วิธีนี้จะทำให้เราเลิกสนใจความคิดในแง่ลบได้
ความมั่นใจในตนเอง เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของความเป็นมนุษย์ที่มาจากความรู้สึกนึกคิดภายใน เป็นผลที่มีจากการภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและการประสบความสำเร็จของคนได้ เพราะความมั่นใจก็คล้ายกับความเชื่อ ถ้าหากเราเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ เราก็จะมีกำลังใจและแรงบรรดาลใจที่จะบรรลุเป้าหมายได้ แต่หากเราไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ก็จะไม่มีแรงที่จะเดินทางไปยังเป้าหมายนั้นๆ ได้ เราจึงมีเทคนิคทางจิตวิทยา ที่จะช่วยให้คุณเสริมสร้างความมั่นใจได้ มาฝากกันค่ะ
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เปรียบเสมือนความจริงใจและความซื่อสัตย์ของคนๆ นั้น หากคุณหลีกเลี่ยงการสบสายตากับผู้อื่นนั่นแสดงถึงความไม่มั่นใจในตนเอง ดังนั้นการสบสายตากับผู้อื่นเวลาสนทนาจะทำให้คุณได้รับการไว้วางใจและยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองด้วย
อย่าพยายามที่จะสมบูรณ์แบบจนเกินไป
การตั้งเป้าหมายและสามารถทำได้สำเร็จเป็นเรื่องที่ดีและน่าภาคภูมิใจ แต่อย่าลืมว่าคนที่ประสบความสำเร็จก็สามารถทำผิดพลาดหรือเสียใจกับการตัดสินใจบางอย่างได้ คุณอาจจะรู้สึกผิดหวังแต่จงใช้ความผิดพลาดนั้นเป็นบทเรียนและทำอนาคตให้ดีขึ้น จะช่วยสร้างความมั่นใจในการกระทำต่อๆ ไปในอนาคตของคุณ
ปรับเปลี่ยนวิธีการเดิน ให้หลังตรง หน้าเชิด
การเดินหลังงอและก้มหน้านั้นแสดงถึงความกลัวและความไม่มั่นใจในตัวเอง หากปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพในการเดินให้สง่าผ่าเผย(หลังตรงหน้าเชิด) จะช่วยให้คุณเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากขึ้น คนรอบข้างสามารถสัมผัสได้ว่าคุณแตกต่างและโดดเด่นกว่าผู้อื่น
แต่ละคนมีการตอบสนองต่อคำชมที่แตกต่างกัน บางคนเลือกที่จะยอมรับแต่บางคนเลือกที่จะปฏิเสธ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะแสดงถึงความไม่มั่นใจและไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เห็นคุณค่าในคำชมหรือความคิดเห็นของผู้อื่นอีกด้วย
วิธีที่ดีที่สุดในการตอบสนองต่อคำชมคือการยิ้มอย่างจริงใจพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณ” และภูมิใจในตัวเองให้มากขึ้น
การพูดคุยสนทนาเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน คุณควรแสดงความคิดเห็นของตนเองในวงสนทนา เพราะเป็นการแสดงถึงความมั่นใจในตนเองทางอ้อม หากคุณยังไม่กล้าให้คุณค่อยๆ ฝึกแสดงความคิดเห็นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองทีละนิด
การควบคุมความคิดภายในของตัวเองเป็นสิ่งที่ยากแต่ก็สามารถฝึกฝนได้ ลองบันทึกความคิดทั้งหมดของคุณใน 1 สัปดาห์ เชื่อมโยงความคิดและวิเคราะห์ว่าทำไมถึงคิดเช่นนั้น เป็นความคิดเชิงลบหรือเชิงบวกมากกว่ากัน
ฝึกเสนอความช่วยเหลือให้กับผู้อื่น
คนส่วนใหญชอบให้ตัวเองมีคุณค่าและรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ การเสนอความช่วยเหลือกับผู้อื่น จะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ มีคุณค่าและมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น
เชื่อว่าหลายคนไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า อาจจะเพราะไม่กล้าหรือเขินเมื่อถูกรายล้อมไปด้วคนที่ไม่คุ้นเคย การฝึกพูดคุยกับคนแปลกหน้าเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ แต่วิธีนี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน หากไม่สบายใจจริงๆ ในการคุยกับคนแปลกหน้าคุณอาจจะเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นได้