อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ อาการจุกเสียด แน่นท้องบริเวณลิ้นปี่ คล้ายอาหารไม่ย่อย มีลมในท้องบ่อย โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารประเภทผัด หรือ ทอดด้วยน้ำมัน หรือ หลังรับประทานเนย และ ชีส อาการปวดมักเป็นอยู่นาน ประมาณ 1-3 ชั่วโมง จากนั้นอาการจะค่อยๆ ทุเลาลง
เมื่อมีนิ่วในถุงน้ำดี หรือ มีนิ่วอุดตัดในท่อน้ำดี หรือ เกิดตับอ่อนอักเสบแทรกซ้อน จะทำให้มีอาการปวดท้องรุนแรง มีไข้สูง และ อาจมีตัวเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม และมีอาการช็อค ได้ภายใน 2-3 วัน
ตรวจอย่างไร จึงจะทราบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
วิธีการตรวจหานิ่วในถุงน้ำดี สามารถทำได้ง่าย โดยการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัลตราซาวด์) หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT-128 Slices) ทั้งนี้ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจต้องงดอาหารอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจ
การรักษานิ่วในถุงน้ำดี
การรักษานิ่วในถุงน้ำดีให้หายขาด จำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดีและก้อนนิ่วออก ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการส่องกล้องโดยเจาะผ่านทางหน้าท้อง และใช้เครื่องมือขนาดเล็กทำการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไวกว่า การผ่ารตัดแบบธรรมดามาก แผลมีขนาดเล็กลง จาก 10 เซนติเมตร เหลือเพียง 2 เซนติเมตร หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวและเดินได้ไว และสามารถเริ่มรับประทานอาหารได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบปกติช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดใหญ่ทางหน้าท้องแบบทั่วไป รวมทั้งช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการอยู่โรงพยาบาล
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
ราคา HDmall
242,500 บาท
250,000 บาท
ประหยัด 3%
จ่ายเพื่อจองโปรฯ นี้
299 บาท
จ่ายทีหลัง (ประมาณ)
242,201 บาท*
จองเลย สอบถามข้อมูล
ผ่อน 40,416.67 บ./เดือน ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
ขยาย
รายละเอียดราคา
ราคาปกติ
250,000 บาท
ประหยัด
- 7,600 บาท
ค่าบริการ
+ 100 บาท
ราคาจองกับ HDmall
242,500 บาท
รายละเอียดผ่อนชำระ 0%
3 เดือน
80,833.33 บาท/เดือน
4 เดือน
60,625.00 บาท/เดือน
6 เดือน
40,416.67 บาท/เดือน
รายละเอียด
รายละเอียดราคา
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้อง (Laparoscopic Cholecystectomy)
- ค่านอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2 คืน
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด เช่น ยา เวชภัณฑ์ ค่าห้องผ่าตัด
- ค่าแพทย์ผ่าตัด
- ค่าบริการโรงพยาบาล
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าปรึกษาแพทย์ก่อนผ่าตัดประมาณ 1000 บาท (รวมค่าบริการโรงพยาบาล และค่าแพทย์)
หมายเหตุ
ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกรณี
- แพทย์ให้ตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด
- มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคประจำตัวของคนไข้ ต้องมีการรักษาเพิ่มเติม
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าเตียงญาติ ค่าอาหารญาติ ค่าอาหารคนไข้ที่นอกเหนือที่ รพ. กำหนด
จองคิวปรึกษาคุณหมอก่อนทำได้ ยังไม่ต้องจ่ายราคาเต็ม
ถ้าตัดสินใจยังไม่ทำ จ่ายเฉพาะค่าปรึกษา
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้
- ระยะเวลาผ่าตัดประมาณ 40 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าเพื่อพบแพทย์และตรวจวินิจฉัยก่อนผ่าตัด
- แพทย์จะเจาะรูขนาดประมาณ 0.5 ซม. 3 จุด และขนาด 1 ซม. ที่หน้าท้องบริเวณสะดืออีก 1 จุด เพื่อใส่กล้องและเครื่องมือ
- หลังจากนั้นจะเลาะถุงน้ำดีออกจากตับ นำไปใส่ถุงที่ออกแบบพิเศษ และนำออกมาตรงรูที่เจาะไว้บริเวณสะดือ โดยแพทย์จะใช้คลิปหนีบห้ามเลือดแทนไหมเย็บแผล
- หลังจากตรวจดูความเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว แพทย์จะนำเครื่องมือทุกอย่างออก และเย็บปิดแผล
- กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันหรือมากเกินไป จะไม่สามารถผ่าตัดด้วยวิธีนี้ได้ โดยจะใช้วิธีผ่าตัดทางหน้าท้องตามปรกติแทน
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดเครื่องดื่มและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2-4 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
- งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนรับบริการ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ที่เป็นคนจ่ายยาก่อน ไม่ควรหยุดยาด้วยตัวเอง
- ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงก่อนถึงวันรับบริการ เพราะหากมีอาการป่วยตอนใกล้ถึงวันผ่าตัด อาจต้องเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อน
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังผ่าตัดจะไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก โดยจะใช้เวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
- หลังจากกลับบ้านแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และไม่มีรอยแผลเป็นให้รำคาญใจ
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะมีสีแดง แผลผ่าตัดมีอาการอักเสบ บวมแดง มีไข้ หรือปัสสาวะออกน้อย สามารถมาพบแพทย์ก่อนวันนัดหมายได้
- ควรดื่มน้ำประมาณ 3 ลิตรต่อวัน เพื่อขับนิ่วที่แตกออกมากับปัสสาวะ และป้องกันการเกิดนิ่วใหม่
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- เป็นหวัดเมื่อใกล้ถึงวันผ่าตัด
- มีผื่นคันตามผิวหนัง
- โรคประจำตัว
- ประวัติแพ้ยา หรือแพ้อาหาร
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชา หรือยาสลบที่ใช้
- อาจเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะข้างเคียงได้ระหว่างการผ่าตัด
- มีอาการคลื่นไส้หลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก อาจมีอาการท้องเสียตามมา
ข้อมูลทั่วไป
การผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดี⠀เป็นการแก้ปัญหานิ่วในถุงน้ำดีแบบถาวร โดยในปัจจุบันมี 2 วิธี คือการผ่าตัดแบบเดิมด้วยการผ่าหน้าท้อง และการผ่าตัดภายใต้กล้อง
- การผ่าตัดด้วยวิธีเปิดท้อง (Open Cholecystectomy) เป็นการผ่าตัดแบบเดิม จะเลือกใช้ในกรณีที่นิ่วในถุงน้ำดีมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถผ่าตัดแบบส่องกล้องได้ นอกจากนี้ยังใช้ในรายที่มีการอักเสบมาก หรือถุงน้ำดีแตกทะลุในช่องท้อง ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาล 3-5 วัน และพักฟื้นประมาณ 1 เดือน
- การผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Cholecystectomy) เป็นวิธีการผ่าตัดถุงน้ำดีตามมาตรฐานปัจจุบัน เนื่องจากแผลมีขนาดเล็กและเจ็บน้อย จะทำโดยการเจาะรูเล็กๆ ที่หน้าท้อง แล้วสอดกล้องเข้าไปผ่าตัดเอานิ่วออก วิธีนี้ใช้เวลาฟื้นตัวน้อย โดยอยู่ในโรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน และพักฟื้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์
วิธีผ่าตัดแบบส่องกล้องเป็นวิธีมาตรฐานในปัจจุบัน สามารถทำได้สำเร็จถึงร้อยละ 95 หากผู้ป่วยไม่มีถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน แต่ถ้าถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันเกิน 3 วัน โอกาสผ่าตัดด้วยวิธีนี้สำเร็จจะน้อยลง
เมื่อไรที่ควรเข้ารับการผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดี?
- ผู้ที่ตรวจพบนิ่วถุงน้ำดีแต่ไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่หากผู้ป่วยพร้อมที่จะผ่าตัด ก็แนะนำให้ผ่าตัดเอานิ่วออก เพื่อป้องกันการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้
- ผู้ที่ตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดีและมีอาการ การผ่าตัดถุงน้ำดีออกเป็นวิธีการที่ดีต่อผู้ป่วยที่สุด
- ผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด ควรผ่าตัดเอานิ่วออก เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้มีอาการถุงน้ำดีอักเสบและต้องผ่าตัดฉุกเฉิน ที่เสี่ยงต่ออันตรายมากขึ้น
- ผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบในช่องท้องรุนแรง
- ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของโลหิต
- ผู้ป่วยที่มีอาการตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน
- ผู้ป่วยที่มีอาการโรคทางหัวใจหรือปอดรุนแรง
รับประทานยาสลายนิ่วแทนการผ่าตัดได้หรือไม่?
ขณะเป็นในระยะเริ่มแรก แพทย์อาจให้ยาสลายนิ่ว แต่มักไม่ค่อยได้ผล เพราะนิ่วส่วนใหญ่ที่พบในคนไทยเกิดจากก้อนคอเลสเตอรอล และการรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน เมื่อหยุดยาอาจทำให้เกิดนิ่วซ้ำได้อีก
หมายเหตุ
- วิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมขึ้นกับความรุนแรงและความเสี่ยง โดยประเมินจากสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย
- หากมีความกังวลหรือข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการตรวจวินิจฉัยก่อนตัดสินใจ
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แจ้งชื่อและข้อมูลของคุณสำหรับจองแพ็กเกจกับแอดมิน
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- ส่งหลักฐานการชำระเงิน
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 24 ชั่วโมงหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
จองผ่าน HDmall.co.th แล้วไปจ่ายเงินที่โรงพยาบาล รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- แจ้งชื่อและข้อมูลสำหรับจองแพ็กเกจกับแอดมิน
- รับคูปองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ และชำระค่าแพ็กเกจราคาเต็ม
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของโรงพยาบาล
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หมายเหตุ สำหรับแพ็กเกจที่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำ หลังจากแพทย์ตรวจประเมินแล้วว่ารับบริการได้ คุณสามารถจ่ายเงินโดยตรง ณ สถานที่ให้บริการ แล้วรับแคชแบ็กภายหลัง หรือจ่ายกับ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลดได้ทันทีพร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
HDmall.co.th และ โรงพยาบาลพญาไท 2 ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด เงื่อนไขการให้บริการ และราคา โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านเพิ่ม
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
1
โรงพยาบาลพญาไท 2 ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ
943 ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ อาคาร A ชั้น 4 โรงพยาบาลพญาไท 2 ถ. พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 08.00-17.00 น.
BTS สถานีสนามเป้า (ทางออก 1) เดินไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 200 เมตร ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับอยู่ที่อาคาร A ชั้น 4
มีที่จอดรถ
จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม
จองสาขานี้ วิธีเดินทาง
รู้โปรฯ ใหม่ก่อนใคร! แค่ทิ้งเมลไว้ เดี๋ยวเราเตือนคุณเอง
ยืนยันอีเมล
รีวิวของแพ็กเกจ
รีวิวสถานที่ให้บริการ 🏥
บริการดีมากประทับใจ บ้านอยู่อ่างทองยังยอมขับรถ120โล ไปเพื่อใช้บริการทั้งบ้าน ติดใจในความใส่ใจ การบริการ