ยกตัวอย่างผู้ให้บริการ cloud storage และเนื้อที่เบื้องต้นที่ให้สมาชิก

บริการคลาวด์สตอเรจนั้นเหมาะอย่างยิ่งในการใช้แชร์ไฟล์กับเพื่อนๆ หรือครอบครัว รวมทั้งทำให้เอกสารต่างๆ ซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ของคุณด้วย เป็นต้น ยิ่งเป็นบริการฟรีก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ซึ่งเรามีบริการสตอเรจออนไลน์ที่ฟรีอย่างแท้จริง อย่างไม่มีข้อผูกมัดให้เลือกมากมาย

แม้บริการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมีทางเลือกในการซื้อบริการระดับพรีเมียมขึ้นเพื่อใช้เนื้อที่มากกว่าเดิม แต่ออพชั่นแบบใช้งานฟรีก็ถือว่ามากเกินพอแล้วสำหรับคนทั่วไป นอกจากนี้บริการส่วนใหญ่ยังเปิดให้ชวนเพื่อนมาใช้เพิ่มหรือทำอะไรบางอย่างแลกกับเนื้อที่ฟรีเพิ่มขึ้นด้วย

1. MEGA
ให้เนื้อที่สตอเรจฟรีบนคลาวด์มากถึง 50GB พร้อมทั้งมีการเข้ารหัสข้อมูลอย่างปลอดภัยที่ครอบคลุมแบบ End-to-End ที่ช่วยต่อกรกับภัยทางไซเบอร์ที่จ้องรุกล้ำความเป็นส่วนตัวด้วย สามารถเรียกดู อัพเดทไฟล์ได้ทั้งบนบราวเซอร์ บนตัวไคลเอนต์ที่ซิงค์บนเดสก์ท็อป หรือแอพบนอุปกรณ์พกพาได้

2. pCloud
ให้เนื้อที่สตอเรจอยู่ที่ 10GB แต่ถ้าเชิญเพื่อนมาใช้พร้อมทำกิจกรรมอื่นเพิ่มเติมก็สามารถได้โบนัสรวมจนถีบสตอเรจขึ้นไปถึง 20GB ได้ ตัวไคลเอนต์บนเดสก์ท็อปสามารถติดตั้งได้ทั้งบนวินโดวส์ เครื่องแมค และลีนุกซ์ พร้อมแอพที่ใช้งานได้ง่าย

3. MediaFire
ให้บริการโฮสไฟล์ออนไลน์ฟรีทันที 10GB และสามารถเพิ่มขึ้นได้ฟรีสูงสุดถึง 50GB หรือมากกว่าด้วยการเชิญเพื่อนมาใช้และการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่กำหนดด้วย บริการนี้มีทางเลือกการแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์มากมาย อีกทั้งอัพโหลดไฟล์หรือทั้งโฟลเดอร์ได้ง่ายผ่านเว็บไซต์

4. Dropbox
ผู้ใช้ Dropbox จะเริ่มต้นที่ 2GB สำหรับเนื้อที่ให้ใช้ฟรี แต่ก็มีกิจกรรมอื่นให้ทำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มสตอเรจฟรีให้ได้มากถึงประมาณ 18 GB คุณสามารถเรียกดูและอัพโหลดไฟล์จากเดสก์ท็อปหรือแอพบนอุปกรณ์พกพา รวมทั้งแชร์ให้คนอื่นได้แม้เค้าไม่มีบัญชี Dropbox

5. Box
Box (ชื่อก่อนหน้านี้คือ Box.net) ให้เนื้อที่สตอเรจออนไลน์ฟรี 10 GB มีแอพบนอุปกรณ์พกพาเกือบทุกประเภทให้คุณอัพโหลด ดาวน์โหลด หรือแชร์คอนเทนต์ นอกจากนี้ยังมีตัวไคลเอนต์สำหรับซิงค์ข้อมูลบนเดสก์ท็อปด้วย

6. Degoo
ให้สตอเรจฟรีมากถึง 100 GB นอกจากนี้ถ้าคุณมีเพื่อนจำนวนมากที่สามารถเชิญมาเปิดบัญชีใช้งานด้วยกันแล้ว ก็สามารถได้เนื้อที่ฟรีเพิ่มขึ้นจนเป็น 500 GB ได้ด้วย รวมทั้งยังสามารถดูโฆษณาเพื่อแลกกับเนื้อที่เพิ่มเติมได้อีก

7. Google Drive
เป็นบริการสตอเรจบนคลาวด์จาก Google ที่ให้เนื้อที่ฟรีสำหรับผู้ใช้รายใหม่คนละ 15 GB และเนื้อที่สตอเรจนี้จะถูกแบ่งการใช้งานระหว่างบริการของกูเกิ้ลด้วยกันอย่างเช่น Gmail และ Google Photo มีทั้งแอพโมบายล์และไคลเอนต์สำหรับซิงค์บนเดสก์ท็อป

8. OneDrive
OneDrive (ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า SkyDrive) เป็นบริการสตอเรจออนไลน์จากไมโครซอฟท์ ที่ให้เนื้อที่สตอเรจฟรีเริ่มต้นที่ 5 GB

9. Yandex Disk
เป็นบริษัทจากรัสเซียที่มีชื่อเสียงมากจาก Yandex Search และ Yandex Email ที่ล่าสุดมีบริการ Yandex.Disk ที่ให้เนื้อที่สตอเรจบนคลาวด์ฟรี 10 GB

10. Sync
ให้เนื้อที่สตอเรจฟรีบนคลาวด์ 5 GB มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Vault ที่ให้คุณใส่ไฟล์ที่ไม่ต้องการให้ซิงค์ไปอุปกรณ์อื่นได้

11. Blomp
เป็นสตอเรจเก็บไฟล์ฟรีเนื้อที่ 20 GB มีเว็บไซต์และโปรแกรมที่ใช้งานขนาดเล็กและคล่องตัว แม้จะมีฟีเจอร์มาด้วยเพียงเล็กน้อย

12. Letsupload
ให้เนื้อที่แบ๊กอัพชนิด “ไร้ขีดจำกัด” ไม่ว่าจะเป็น 10 GB, 1 TB, หรือมากถึง 100 TB แถมด้วยฟีเจอร์พิเศษอย่างการตั้งรหัสผ่านแต่ละไฟล์หรือโฟลเดอร์

13. Internxt
ให้เนื้อที่ฟรี 10 GB ค่อนข้างมีความปลอดภัยมากกว่าบริการเจ้าอื่นด้วยการเข้ารหัสแบบ Zero-Knowledge ที่มีแค่ตัวคุณเองที่ดูไฟล์ได้ แต่คนอื่นไม่มีสิทธิ์แม้แต่เจ้าของบริการหรือพนักงาน

14. Icedrive
ให้สตอเรจฟรีบนคลาวด์ 10 GB มาพร้อมกับโปรแกรมบนเดสก์ท็อป แอพบนอุปกรณ์ และเว็บไซต์ที่ออกแบบเรียบง่ายสวยงาม แถมยังสตรีมเพลงและวิดีโอจากบัญชีได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดซ้ำ

15. Jumpshare
สามารถอัพโหลดไฟล์ได้มากกว่าหลายร้อยประเภท ให้สตอเรจฟรี 2GB ที่สามารถเพิ่มได้ถึง 18GB ถ้าเชิญเพื่อนมาสมัครเพิ่ม สามารถบันทึกภาพหน้าจอได้ยาวถึง 30 วินาทีเก็บบนคลาวด์ได้

16. Amazon Drive
เป็นบริการพิเศษสำหรับสมาชิกระดับ Prime ที่เก็บภาพได้ไม่จำกัด และแถมอีก 5GB สำหรับเก็บวิดีโอและไฟล์อื่นเพิ่มเติม

อ่านทั้งหมดที่นี่ Lifewire

    ก่อน Admin จะเล่าถึงความหมายของเจ้า Cloud Storage ให้เพื่อนๆฟัง Admin ขอย้อนไปเล่าถึงเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบเดิมหรือที่เราเรียกว่า Physical Storage ก่อนละกันครับ ซึ่งการเก็บข้อมูลแบบนี้นั้นจะเป็นลักษณะของพื้นที่เก็บข้อมูลที่จับต้องได้ เช่นอุปกรณ์จำพวก Flashdrive หรือ Harddisk เป็นต้น ที่ผู้ใช้งานต้องพกพาไปใช้งานตามที่ต่างๆ ซึ่งมีข้อเสียในเรื่องการใช้งานนอกสถานที่ กรณีหากเราลืมพกไปด้วยก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยสิ้นเชิง ซึ่งด้วยข้อจำกัดในการใช้งานด้านสถานที่นี่เองจึงทำให้ถือกำเนิดเทคโนโลยีที่เราเรียกว่า Cloud Storage นั่นเองครับ

  Cloud Storage คือ การเก็บข้อมูลโดยใช้พื้นที่แบบออนไลน์โดยจะมีผู้ให้บริการเป็น Server ขนาดใหญ่หรือที่เราเรียกว่า Clound ให้กับผู้ใช้บริการสามารถเก็บข้อมูลประเภทต่างๆ ผ่านบัญชีที่ลงทะเบียนไว้ได้อย่างง่ายๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีผู้ให้บริการ Clound Storage ฟรีอยู่หลายเจ้าเหมือนกันครับ อย่างเช่น Google Drive, 4Shared, skydrive เป็นต้น

ข้อดีของ Cloud Storage

1.ไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหาย หรือแฟรชไดร์ฟเสีย อีกต่อไปแล้ว

2. สามารถกำหนดให้เป็นแบบส่วนตัวหรือสาธารณะหรือให้ผู้อื่นใช้งานร่วมกับเราก็ได้

3. เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาทุกอุปกรณ์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

4. มีพื้นที่ใช้สอยมาก มีให้เลือกหลากกลาย

5. ประหยัดค่าใช้จ่ายเนื่องจากเราไม่ต้องเสียเงินซื้อ FlashDrive หรือ Memory Card ฯลฯ

6. สำคัญปลอดภัยจากไวรัสกว่าการใช้ Physical Storage

บทความที่เกี่ยวข้อง (Related Posts)

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก