ที่นอน โฟม กับ ที่นอน ลม อัน ไหนดีกว่า กัน

โดยปกติทั่วไปแล้ว ที่นอนที่เราใช้กันอยู่นั้นจะมีอยู่หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นที่นอนสปริงหรือที่นอนยางพารา โดยจะมีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 3.5 ฟุต, 5 ฟุต และ 6 ฟุต โดยราคาก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดและคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำตัวที่นอนนั้นๆ แต่นอกจากที่นอนทั่วไปแล้ว ในปัจจุบัน ผู้คนก็หันมาสนใจที่นอนแบบเป่าลมกันมากขึ้น เนื่องจากความสะดวกสบายในการใช้งาน และราคาที่ย่อมเยาจับต้องได้ง่ายกว่า แต่หลายๆคนก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า แล้วที่นอนทั่วไปกับที่นอนเป่าลม ที่นอนแบบไหนดี และควรเลือกซื้อที่นอนแบบไหนถึงจะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากกว่า โดยบทความนี้ จะมาช่วยเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของที่นอนในแต่ละแบบ รวมถึงราคาและช่องทางการสั่งซื้อกันด้วย ไปดูกันเลย

ข้อดีและข้อเสีย ที่นอนทั่วไป VS ที่นอนเป่าลม

ที่นอนทั่วไป

ข้อดี
– แข็งแรงทนทาน
– สวยงาม มีรูปแบบหลากหลาย
– นอนไม่ปวดหลัง
– อายุการใช้งาน 5 – 8 ปี

ข้อเสีย
– ทำความสะอาดยาก
– เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น
– ต้องการพื้นที่มากกว่า
– น้ำหนักมาก ขนย้ายลำบาก
– ราคาค่อนข้างสูง

ที่นอนเป่าลม

ข้อดี
– ทำความสะอาดได้ง่าย
– นอนสบายไม่ปวดหลัง ประหยัดพื้นที่
– น้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก
– ใช้งาน Ourdoor เช่น กิจกรรม Camping ได้
– อายุการใช้งาน 1 – 3 ปี

ข้อเสีย
– หลักๆเลยคือ ปัญหาเรื่อง รั่วซึม
– ไม่เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ที่มีเล็บแหลมคม หรือสัตว์ฟันแทะ เพราะอาจทำให้เกิดการรั่วซึมได้

5 อันดับ ที่นอนทั่วไป ยี่ห้อไหนดีที่สุด !!

1. Lotus รุ่น Royal California

ที่นอนโฟมวิทยาศาสตร์อัดแน่นพิเศษ พร้อมค่าแรงดันสะท้อนที่สูง (High push-back support) 7 นิ้ว มี 3 ขนาดคือ 3.5, 5 และ 6 ฟุต ที่นอนหนา 10 นิ้ว ราคาที่นอน 28,890 – 35,990 บาท หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น โลตัส โฮมโปร และสำหรับใครที่อยากได้ราคาโรงงาน สามาราถหาซื้อได้ตามงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ต่างๆ

สั่งซื้อออนไลน์

2. Dunlopillo รุ่น Toronto

ที่นอนสปริง+โฟมวิทยาศาสตร์ แน่นปานกลาง หนา 8.5 นิ้ว มีความยืดหยุ่น และลดแรงกดทับได้อย่างมีประสิทธิภาพ มี 3 ขนาดคือ 3.5, 5 และ 6 ฟุต ราคาที่นอน เริ่มต้นที่ 22,590 – 30,590 บาท หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น โลตัส โฮมโปร และสำหรับใครที่อยากได้ราคาโรงงาน สามาราถหาซื้อได้ตามงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ต่างๆ

สั่งซื้อออนไลน์

3. Slumberland รุ่น Delight

เป็นที่นอนโฟม โครงสร้างทำจาก Bonell Spring สปริงบอนแนลล์ ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงและแข็งแรง ช่วยป้องกันการปวดหลังด้วยโครงสร้างรอบรับแผ่นหลัง Lumbar Support มี 3 ขนาดคือ 3.5, 5 และ 6 ฟุต ราคาที่นอน เริ่มต้นที่ 16,790 – 21,590 บาท หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น โลตัส โฮมโปร และสำหรับใครที่อยากได้ราคาโรงงาน สามาราถหาซื้อได้ตามงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ต่างๆ

สั่งซื้อออนไลน์

4. Satin ที่นอน Dream Tree รุ่น DAHLIA

ที่นอนฟองน้ำ density สูงผสานกับแผ่นใยฝ้ายหนาพิเศษ เพื่อการรองรับแบบนุ่มนวล ที่นอนไร้ขอบที่ออกแบบมาอย่างหรูหราเพื่อให้สัมผัสที่นุ่มแน่น สร้างสมดุลของการนอนตามหลักสรีระศาสตร์อย่างดีเยี่ยม ด้วยระบบรองรับน้ำหนัก Bone ell Hi-Carbon spring ที่ให้คุณสมบัติสามารถรองรับและกระจายน้ำหนักได้อย่างทั่วถึงพร้อมการยืดหยุ่นและคืนตัวได้อย่างรวดเร็ว นุ่มแน่น และสัมผัสที่สบายยามพักผ่อน

หาซื้อไจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น โลตัส โฮมโปร และสำหรับใครที่อยากได้ราคาโรงงาน สามาราถหาซื้อได้ตามงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ต่างๆ

สั่งซื้อออนไลน์

5. Omazz รุ่น Organika

ที่นอนสปริง Super Bonnel Coil หุ้มขอบโฟมทั้งสี่ด้านเพื่อป้องกันการล้มตัวของลูกสปริง และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น สริมOmazz Organique Topperสกัดจากน้ำมันพืชธรรมชาติพร้อมโครงสร้างเนื้อโฟมแบบรวงผึ้ง และเซลล์แบบเปิดสร้างรับทุกสัดส่วนอย่างนิ่มนวลเป็นธรรมชาติ มีขนาด 3.5 ฟุต, 5 ฟุต และ 6 ฟุต ราคาที่นอนอยู่ที่ 27,900 – 28,900 บาท

หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น โลตัส โฮมโปร และสำหรับใครที่อยากได้ราคาโรงงาน สามาราถหาซื้อได้ตามงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ต่างๆ

สั่งซื้อออนไลน์

3 อันดับ ที่นอนเป่าลม ยี่ห้อไหนดีที่สุด !!

1. Intex รุ่น Classic Downy AIRBED

ที่นอนรุ่นนี้จะเป็นรุ่นมาตรฐานของ Intex โดยจะมีทั้งหมด 4 ขนาด คือ 3.5 ฟุต, 4.5 ฟุต, 5 ฟุต และ 6 ฟุต วัสดุจะประกอบไปด้วย PVC ตรงผิวสัมผัสด้านบนทำมาจากกำมะหยี่สีน้ำเงิน สามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดได้ค่ะ ราคาที่นอน เริ่มต้นที่ 790 – 1,090 บาท

สั่งซื้อออนไลน์

2. Intex รุ่น Comfort Plush

ที่นอนระบบไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่นิยมมากที่สุดเลยค่ะ ด้วยความนุ่มและความสูงของที่นอนที่ลงตัวรวมถึงความนุ่มของที่นอนก็ดีเยี่ยม รุ่นนี้จะมีด้วยกัน 2 ขนาดคือ 4.5 ฟุต และ 5 ฟุต โดยความสูงของที่นอนจะอยู่ที่ 33 ซม. น้ำหนักในการขนย้ายเพียง 8 กิโลกรัม ความเร็วในการเติมลมเพียง 5 นาที ราคาที่นอน เริ่มต้นที่ 2,190 – 2,550 บาท

สั่งซื้อออนไลน์

3. Intex รุ่น Ultra Plush Headboard (NEW Model 2021)

ที่นอนเป่าลมไฟฟ้ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นพรีเมี่ยมค่ะ เป็นรุ่นมีหัวเตียง มีที่สูบลมในตัว พื้นผิวกำมะหยี่นุ่มสบาย นอนไม่ปวดหลัง ดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ รุ่นนี้แนะนำเลยค่ะ ความสูงของที่นอนรุ่นนี้อยู่ที่ 46 ซม. สามารถใช้งานแทนเตียงนอนได้เลย รุ่นนี้มีขนาดเดียวคือ ขนาด 5 ฟุตค่ะ

สั่งซื้อออนไลน์

ต้องขอบอกว่าการที่จะตอบคำถามที่ว่า ที่นอนแบบไหนดี นั้น คนที่สามารถตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คือตัวผู้ใช้เองครับ โดยอาจจะใช้หลักพิจารณาข้างต้นที่เราได้ให้ข้อสังเกตุไว้ให้ก็ใช้แล้วแล้วครับผม

ที่นอนแบบไหนเหมาะกับผู้ป่วยติดเตียง

ที่นอนยางพารา ด้วยเนื้อยางพาราเป็นเนื้อที่มีความนุ่มแน่น พร้อมทั้งมีรูระบายอากาศทั่วทั้งแผ่น นอกจากจะไม่แข็งจนทำให้เกิดแรงกดทับที่มากเกินไปแล้ว ยังช่วยระบายความร้อน และยืดหยุ่นรองรับน้ำหนักของผู้ป่วยได้ดีที่สุด ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตลอดทั้งวัน ที่นอนยางพาราเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ช่วยลดการกดทับของ ...

ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับดีไหม

ที่นอนที่ทำจากเนื้อโฟม Polyurethane Form เป็นอีกหนึ่งนวัฒกรรมใหม่ที่ช่วยกระจายน้ำหนัก ทำให้ลดแรงกดทับได้ดี ป้องกันการเกิดแผลกดทับ งั้นเรามาดูเหตุผลต่างๆกันดีกว่าว่าทำไมผู้ใช้งานถึงควรเลือกที่นอนโฟม ? 1. กระจายแรงกดทับได้ดีกว่า นอนสบาย 2. ป้องกันของเหลวซึมลงบนตัวที่นอนได้ในระดับหนึ่ง

ที่นอนลม เหมาะกับใคร

ที่นอนลมเหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยที่เป็นแผลกดทับอยู่แล้ว (แผลกดทับระดับ 1-4) ข้อจำกัดของที่นอนกันแผลกดทับแบบลม

ที่นอนลม ดียังไง

ข้อดีของที่นอนเป่าลม ?.
แรงลมจะปรับไปตามสรีระของผู้นอนทำให้กระจายแรงกดทับได้เป็นอย่างดีไม่ปวดคอ หรือหลัง.
น้ำหนักเบาไม่เปลืองพื้นที่เวลาขนย้าย.
ไม่ต้องใช้ผ้าปูที่นอนอีกต่อไป ทำความสะอาดง่ายไม่มีไรฝุ่น.
มีให้เลือกหลายไซส์ หลายแบบ.
แข็งแรงทนทานรองรับน้ำหนักได้ดี.

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก