ตรวจ สอบ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ นํา เที่ยว บุคคลธรรมดา

  • Company registration

  • Registered Partnership

  • Change Information

  • Faculty Registration

  • Commercial Registration

  • Visa and work Permit

  • Business Licenses

ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวนิติบุคคล

รายละเอียดและเอกสารประกอบการยื่นแบบคำขอต่างๆ

ธุรกิจนำเที่ยว - แก้ไขเพิ่มเติม:
สำหรับผู้ที่ยื่นจดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวทั้งขอจดใหม่และต่ออายุ จะต้องยื่นหนังสือรับรองบริษัท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่เกิน 1 เดือน

 

นิติบุคคล

  • เอกสารประกอบการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวนิติบุคคล
  • เอกสารประกอบการขอชำระค่าธรรมนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายสองปี นิติบุคคล
  • เอกสารประกอบการขอชำระค่าธรรมนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวนิติบุคคล เพิ่มเติม
  • เอกสารประกอบการขอเปลี่ยนแปลงรายการใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวนิติบุคคล
  • เอกสารประกอบการขอเปลี่ยนเเปลงรายการใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว (หลักประกัน)
  • เอกสารประกอบการขอใบแทนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทนิติบุคคล

บุคคลธรรมดา

  • เอกสารประกอบการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวบุคคลธรรมดา
  • เอกสารประกอบการขอชำระค่าธรรมนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายสองปี บุคคลธรรมดา
  • เอกสารประกอบการขอชำระค่าธรรมนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวบุคคลธรรมดา เพิ่มเติม
  • เอกสารประกอบการขอเปลี่ยนเเปลงรายการใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว (หลักประกัน)
  • เอกสารประกอบการขอใบแทนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว

เอกสารเพิ่มเติมสำหรับภาคใต้เขต 2

  • รายการเอกสารที่ต้องยื่นเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการดำน้ำแบบสคูบ้า
  • แบบคำขอเปิดเว็บไซต์
  • รายงานการประชุมรวม

  • จดทะเบียนบริษัท | จดห้างหุ้นส่วนจำกัด | จดทะเบียนพาณิชย์  | จดทะเบียนคณะบุคคล | จดแก้ไขเปลี่ยนแปลง

  • จัดทำบัญชี | วางระบบบัญชี | ปิดงบการเงิน | ตรวจสอบบัญชี | วางแผนชำระภาษี

  • งานขออนุญาตธุรกิจ | หนังสือรับรองคนต่างด้าว | ขอวีซ่า | ตรวจสอบบัญชี | วางแผนชำระภาษี

ใครที่กำลังค้นหา บริษัททัวร์ เพื่อที่จะซื้อทัวร์ต่างประเทศ หรือทัวร์ในประเทศ แต่ไม่แน่ใจว่าควรไปกับบริษัทไหนดี ทีมงาน gooview ได้มีโอกาสใช้บริการ บริษัท เลิฟลี่ สไมล์ ทัวร์ จำกัด (Lovely Smile Tour) หลายครั้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่บริการดี เชื่อถือได้ จึงอยากแชร์ประสบการณ์ในการเลือกบริษัททัวร์ให้รู้กัน โดยสิ่งที่จะต้องพิจารณา มี 4 ข้อ ดังนี้

1. บริษัททัวร์ ต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว

ทุกบริษัท จะต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่กรมการท่องเที่ยว ซึ่งใบอนุญาตจะมีอายุ 2 ปี สามารถตรวจสอบสถานะของใบอนุญาตได้ที่ปุ่มด้านล่าง และไปที่หัวข้อ “ตรวจสอบใบอนุญาตก่อนเลือกซื้อทัวร์” และกรอกเลขที่ใบอนุญาตของบริษัทนั้นๆ และตรวจสอบสถานะการจดทะเบียนว่า “ปกติ” หรือไม่ พร้อมทั้งดูที่อยู่บริษัทและกรรมการบริษัท ดังรูป

เข้าเว็บตรวจสอบใบอนุญาต

กรอกเลขใบอนุญาตนำเที่ยวของบริษัทนั้นๆ

คลิกที่ชื่อบริษัท และเช็คสถานะการจดทะเบียน

ตรวจสอบสถานะการจดทะเบียนของบริษัท (หมายเหตุ เป็นข้อมูลสถานะปี 2564)

2. เลขบัญชี ควรเป็นในนาม “บริษัททัวร์”

การชำระเงินค่าแพคเกจทัวร์ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน หรือการชำระผ่านบัตรเครดิต บัญชีที่รับชำระควรเป็นบัญชีในนามบริษัท เพราะการที่จะเปิดบัญชีในนามบริษัทได้ จะต้องได้รับการอนุมัติเอกสารต่างๆ จากทางธนาคาร เช่น หนังสือรับรองบริษัท ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เอกสารต่างๆ ของผู้ประกอบการ จึงจะสามารถเปิดบัญชีได้ ตัวอย่างดังรูป

บัญชีบริษัท เลิฟลี่ สไมล์ ทัวร์

3. ดูรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ บริษัททัวร์

เมื่อดูว่าบริษัทมีตัวตนชัดเจนแล้ว สิ่งสำคัญที่จะบอกเราได้ว่า บริษัทนั้นๆ บริการดีหรือไม่ คือ รีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ บริษัทที่มีฐานลูกค้าใช้บริการเป็นประจำ จะมีการแชร์รีวิวจากลูกค้าผ่านช่องทาง Social Network ต่างๆ เช่น เว็บ Facebook, Instagram, เว็บไซต์ของทางบริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้เรามากขึ้นว่า บริษัทที่เราเลือกซื้อแพคเกจทัวร์ จะมีคุณภาพจริง เชื่อถือได้

รีวิวจากใน Facebook (ดูเพิ่มเติม คลิกที่รูป)

ตัวอย่างรีวิวความประทับใจจากลูกค้าของ บริษัท เลิฟลี่ สไมล์ ทัวร์ (ดูเพิ่มเติม คลิกที่รูป)

4. โปรแกรมทัวร์ ระบุรายละเอียดครบถ้วน ไม่หมกเม็ด

รายละเอียดของโปรแกรมทัวร์ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน แนะนำเลยว่า การจะซื้อแพคเกจทัวร์ทุกครั้ง ต้องอ่านโปรแกรมทัวร์ให้ดี จุดสังเกตสำคัญที่อยากให้เน้นมี 5 ข้อ ดังนี้

4.1) เที่ยวกี่วัน กี่คืน

ตัวอย่างเช่น ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ 5 วัน 3 คืน หมายความว่า การเดินทางขาไป บินตอนกลางคืน แล้วไปถึงเช้าที่ญี่ปุ่น ทางทัวร์จะนับวันที่ลูกค้าไปเช็คอินวันแรก เป็นวันที่ 1 ของการเดินทางแล้ว หรือขาไปอาจบินไฟลท์เช้า แต่ขากลับ กลับวันที่ 4 ของการเดินทาง แล้วมาถึงไทยเช้าวันที่ 5 ก็ได้

4.2) สายการบินอะไร สนามบินอะไร และเวลานัดหมายกี่โมง

บินสายการบินอะไร มีผลต่อการเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินต่างกัน เช่น ไทยแอร์เอเชีย ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง แต่ถ้าเป็นการบินไทย ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สำคัญ ดูเวลานัดหมายในโปรแกรมทัวร์ให้ดี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บริษัทจะส่งใบนัดหมายเพื่อยืนยันเวลานัดหมายให้ลูกค้าอีกครั้ง

4.3) เที่ยวที่ไหนบ้าง

แนะนำให้ศึกษารายละเอียดสถานที่เที่ยวในแต่ละวัน ว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้าง โปรแกรมทัวร์แน่นไปหรือเปล่าในแต่ละวัน จะเป็นชะโงกทัวร์รึเปล่า ลองดูเส้นทางง่ายๆ จาก Google Map ว่าเดินทางไปเที่ยวแต่ละที่ไกลมั้ย ในวันนั้นๆ จะเที่ยวทันมั้ย อีกสั่งที่สำคัญ คือ “มีอิสระให้เที่ยวเองหรือไม่” หลายๆ แพคเกจทัวร์ที่ขายถูก มักจะมีให้อิสระเที่ยวเอง แต่ลูกค้าหลายๆ คนก็ชอบ ศึกษาให้ดี

4.4) มื้ออาหาร

มีมื้ออาหารกี่มื้อ หรือดูว่ามีอาหารให้ทุกมื้อหรือไม่ อาหารบนเครื่องมีบริการมั้ย หรือเป็นแค่ของว่าง มีอิสระให้ทานเองระหว่างท่องเที่ยวกี่มื้อ ดูให้ครบ จะได้เตรียมเงินค่าอาหารไปถูกต้อง

4.5) เงื่อนไขท้ายโปรแกรมทัวร์

อ่านหมายเหตุท้ายโปรแกรมทัวร์ให้ดี โดยเฉพาะอัตราค่าทัวร์นี้รวมอะไร และยังไม่รวมอะไร โดยทั่วไปที่ยังไม่รวม คือ ค่าทิปไกด์ ค่าทิปคนขับรถ

การจะวางแผนไปเที่ยวทัวร์ต่างประเทศ หรือทัวร์ในประเทศสักครั้งหนึ่ง ต้องเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ และมีคุณภาพการให้บริการ ซึ่งแนวทางที่ทีมงาน gooview แนะนำให้เบื้องต้น น่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกบริษัทที่จะสามารถดูเราให้คุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราจ่ายไป

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก