ซินพาวเวอร์ น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน อัลตร้า ฟูลลี่ ซินเธติค สังเคราะห์ 100% เทคโนโลยีขั้นสูง ผสมสาร POLY ALPHA OLEFINS (PAO) เพื่อการหล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด เหนือกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไป เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์แก๊ส (NGV,LPG) ทุกชนิด
มาตรฐาน
SAE 5W-30 : API SN, ILSAC GF-5
SAE
5W-40 : API SN
- ป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งที่อุณหภูมิสูงและต่ำ
- น้ำมันไหลเวียนได้ดีแม้ในขณะที่สตาร์ทในสภาพอากาศที่หนาวเย็น
- ปกป้องการสึกหรอของเครื่องยนต์ และป้องกันการเกิดคราบสกปรก อายุการใช้งานยาวนาน กว่าน้ำมันหล่อลื่นทั่วไป และรักษาชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ให้สะอาดอยู่เสมอ
- เป็นน้ำมันเครื่อง Official Oil ในสนามแข่ง IndyCar, Nascar ในสหรัฐอเมริกา
Valvoline เลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับเครื่องยนต์ที่คุณรัก
เกี่ยวกับ Valvoline
ด้วยความสำเร็จกว่า 150 ปี แบรนด์วาโวลีนได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำทั้งด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ด้วยจำนวนลูกค้านับล้านคนทั่วโลก คุณภาพที่ยังคงอยู่ตลอดไป ดร. จอห์น เอลลิสได้แนะนำแบรนด์ที่แสดงถึงนวัตกรรมและคุณภาพ แม้ว่าอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นได้มีการเปลี่ยนไปอย่างมากมายนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ความศรัทธาและความตั้งใจจริงที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นที่ก้าวล้ำ ยังคงมีอยู่ในผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของวาโวลีน โดย Valvoline มีผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่ครอบคลุมตั้งแต่น้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์ จาระบี น้ำมันไฮดรอลิก น้ำมันเกียร์สำหรับฟลีท รถบรรทุก เหมืองแร่ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมงานหนักอื่นๆ ผลิตภัณฑ์วาโวลีนสำหรับการพาณิชย์และอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ได้ผ่านการทดสอบกับเครื่องยนต์ Cummins และมีผลพิสูจน์แล้วว่าช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันให้ยาวนานขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ได้สูงสุด
Valvoline กับปัจจัยในการเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะกับเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่อง หรือ Engine Oil เป็นสารเคมีประเภทหนึ่งที่ใช้หล่อลื่นภายในเครื่องยนต์ให้ระบบต่าง ๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน และช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ น้ำมันเครื่องต้องได้รับการเปลี่ยนถ่ายใหม่อย่างสม่ำเสมอตามระยะการใช้งาน เพราะหากใช้ไปสักพัก น้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพ ส่งผลให้การทำงานของเครื่องยนต์ไม่ไหลลื่นและดีเท่าที่ควร การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองนั้นควรพิจารณาดังต่อไปนี้
ประเภทน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องมีหลายประเภท แยกตามการใช้งาน สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ได้แก่ น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียมเท่านั้น ใช้งานได้ประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร, น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดาผสมกับน้ำมันสังเคราะห์ ใช้งานได้ประมาณ 5,000-7,000 กิโลเมตร และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์มาจากน้ำมันปิโตรเลียม สามารถใช้งานได้ประมาณ 7,000-10,000 กิโลเมตร
ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง
ความหนืดของน้ำมันเครื่องมีส่วนสำคัญในการป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องกำหนดโดยองค์กรวิศวกรรมยานยนต์ หรือ SAE จากสหรัฐอเมริกา โดยค่าความหนืดจะระบุเป็นตัวเลขติดกับค่าการทนความเย็น (W) ตามหลังตัวอักษร SAE อาทิเช่น SAE 10W-30 เป็นน้ำมันที่สามารถคงความข้นใสได้ดีจนถึงอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข, SAE 15W-50 น้ำมันที่สามารถคงความข้นใสได้ดีจนถึงอุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข เป็นต้น ส่วนชุดตัวเลขด้านหลังบ่งบอกถึงความหนืดของน้ำมันเครื่อง ซึ่งมีตั้งแต่เลข 60, 50, 40, 30, 20, 10 และ 5 ยิ่งตัวเลขจำนวนมากก็ยิ่งมีความหนืดมาก ถ้าตัวเลขน้อยก็จะมีความหนืดน้อยตามไปด้วย ซึ่งความหนืดของน้ำมันเครื่องจะมีผลต่อการหล่อลื่นและช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
เลือกน้ำมันเครื่องสูตรพิเศษ
นอกจากน้ำมันเครื่องทั่ว ๆ ไป ในปัจจุบันยังมีมีน้ำมันเครื่องสูตรพิเศษที่ผลิตขึ้นมาเพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งานของรถ อาทิเช่น GV, LPG & Gasoline เหมาะสำหรับรถที่ติดแก๊ส NGV และแก๊ส LPG ส่วน Heavy Duty เหมาะกับรถที่บรรทุกของหนักหรือใช้งานหนัก เป็นต้น
ราคาคุ้มค่า
การเลือกน้ำมันเครื่องที่คุ้มค่า คุ้มราคา ต้องดูส่วนประกอบหลายอย่างด้วยกัน ทั้งประเภทของน้ำมันเครื่องที่เหมาะสำหรับใช้งานกับประเภทรถยนต์ อย่างเช่น น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีราคาสูงกว่าน้ำมันเครื่องปกติ แต่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าเช่นกัน เลือกเปรียบเทียบน้ำมันเครื่องจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เพราะบางครั้งน้ำมันเครื่องที่มีราคาถูกก็อาจมีคุณภาพไม่ดีและทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
Valvoline กับวิธีการดูเกรดน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ประเภทต่าง ๆ
การแบ่งเกรดของน้ำมันเครื่องที่ใช้งานกับเครื่องยนต์แต่ละประเภทถูกกำหนดมาตรฐานจากสถาบัน American Petroleum Institute หรือ API) โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
เกรดน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
เกรดน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ใช้ตัวอักษร S ตามหลังชุดตัวอักษร API และมีตัวอักษรด้านหลังตัว S ซึ่งแสดงการเรียงลำดับจากน้ำมันเกรดที่ต่ำสุดไปหาเกรดที่สูงสุด โดยแทนค่าด้วยตัวอักษร A-N เช่น น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซินนี้ระบุเกรด L ตัวอักษรข้างกระป๋องก็เขียนแทนค่าว่า API SL เป็นต้น
เกรดน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
เกรดน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ใช้ตัวอักษร C ตามหลัง API และสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งแสดงการเรียงลำดับจากน้ำมันเกรดที่ต่ำสุดไปหาเกรดที่สูงสุด โดยแทนค่าด้วยตัวอักษร A-N เช่นเดียวกัน อย่างเช่น น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซินนี้ระบุเกรด I ตัวอักษรข้างกระป๋องก็จะเขียนว่า API CI-6 ซึ่งตัวเลข 6 ที่ตามหลังนั้นจะบอกว่าน้ำมันเครื่องชนิดนี้เหมาะกับเครื่องยนต์ 6 สูบนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีน้ำมันเครื่องบางชนิดที่สามารถใช้งานได้กับทั้งเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล โดยข้างขวดมักระบุไว้ว่า API Cx-x / Sx หรือ API Sx / Cx-x ซึ่งหมายถึงน้ำมันเครื่องที่สามารถใช้ร่วมกันทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพในการใช้งานแตกต่างกัน สามารถสังเกตได้จากตัวอักษร S และ C ด้านหลัง API เช่น API SL/CI-6 ตัว S มาก่อน / C แปลว่าน้ำมันเครื่องนี้ใช้ได้ดีสำหรับเครื่องยนต์เบนซินมากกว่าเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ส่วน API CI-6/SL ตัว C มาก่อน / S แปลว่าน้ำมันเครื่องประเภทนี้เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ มากกว่าเครื่องยนต์แบบเบนซิน
อย่ารอช้า Valvoline เลือกน้ำมันเครื่องและผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์คุณภาพดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเครื่องยนต์ที่คุณรักให้เต็มที่มากที่สุด ตัวช่วยในการดูแลและเพิ่มพลังให้กับเครื่องยนต์ของคุณ เชิญค้นหา Valvoline ราคา เช็คและเปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุดได้ที่ iPrice Thailand พร้อมรับส่วนลดและโปรโมชั่นดี ๆ สุดพิเศษที่นี่ที่เดียวเท่านั้น