เรซูเม่ ต้องมีบุคคลอ้างอิงไหม

วิธีเขียนเรซูเม่สมัครงานให้น่าสนใจพร้อมตัวอย่าง

ซึ่งใช้ในการสมัครงาน วัตถุประสงค์ของ RESUME ที่สำคัญ คือ การแนะนำตัวกับผู้ว่าจ้างดังนั้น RESUME จึงเป็นเอกสารสำคัญใน การนำเสนอตัวเองเพื่อการสมัครตำแหน่งงานที่ต้องการ

องค์ประกอบของ RESUME อาจแบ่งได้เป็น 7 ส่วน ดังนี้

  1. ประวัติส่วนตัว (Personal Information)
    1. ข้อมูลส่วนตัว ยศ/ตำแหน่ง ชื่อ-นามสกุล
    2. น้ำหนัก ส่วนสูง (จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่บางตำแหน่งต้องใช้)
    3. ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ e-mail address
    4. รูปถ่ายสุภาพ (ไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบ แต่ต้องแต่งกายและมีท่าทางสุภาพ)
  2. ประวัติการศึกษา (Education) (เรียงลำดับจากสูงสุด)
    1. ปริญญาเอก
    2. ปริญญาโท
    3. ปริญญาตรี (ถ้ามีเกียรตินิยม ใส่ด้วย)
    4. ประกาศนียบัตรทีผ่านหลักสูตรอบรม
    5. ทุนการศึกษา ที่ได้รับ หรือทุนวิจัยในระดับอุดมศึกษา
    6. ระดับมัธยมศึกษา
    7. ระดับประถมศึกษา
    หมายเหตุ ระดับมัธยมศึกษา และประถมศึกษา ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้
  3. จุดมุ่งหมายในการทำงาน (Career Objective) กล่าวถึงความน่าสนใจของงานตำแหน่งงาน หรือเป้าหมายในการทำงานของผู้สมัคร ส่วนนี้อาจมีผลต่อการพิจารณาเงินเดือนและตำแหน่งงาน
  4. ประสบการณ์การทำงาน (Work Experience)
    1. ช่วงเวลา ตำแหน่งและบริษัทที่เคยร่วมงาน
  5. ช่วงเวลา ตำแหน่งและบริษัทที่เคยฝึกงาน
  6. ช่วงเวลา รายละเอียดงานที่เคยทำ
  7. ช่วงเวลา กิจกรรมสำคัญต่าง ๆ ที่เคยทำตอนเรียน เช่น งานอาสา งานออกค่าย โครงการประกวดไอเดียต่าง ๆ เป็นต้น
หมายเหตุ ควรลำดับช่วงเวลาจากปัจจุบัน ไปถึงอดีต
  • ทักษะและความสามารถพิเศษ (Skills)
    1. การใช้ภาษา (ควรบอกระดับว่า ดี ปานกลาง หรือพอใช้ได้)
    2. การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ
    3. การขับรถ
    4. ทักษะอื่น ๆ เช่น ดนตรี กีฬา งานอดิเรก เป็นต้น
    หมายเหตุ พิจารณาการระบุรายละเอียดตามตำแหน่งงานที่สมัคร
  • รางวัลแห่งความสำเร็จต่างๆ (Honors/ Awards)
    1. การประกวดแบบ
    2. การร่วมโครงการต่าง ๆ
    หมายเหตุ ควรลำดับช่วงเวลาจากปัจจุบัน ไปถึงอดีต
  • ระบุชื่อบุคคลที่สามารถรับรองหรือให้ข้อมูลให้กับบริษัทที่สมัครงาน
    โดยต้องระบุ ชื่อ-นามสกุล และช่องทางการติดต่อต่าง ๆ
    ส่วนใหญ่นักศึกษาจบใหม่ จะอ้างอิงถึงอาจารย์ หรือผู้ที่เคยทำงานแล้วสามารถอ้างอิงถึงผู้บังคับบัญชาในอดีตได้ แต่ไม่ควรอ้างอิงถึงบุคคลในครอบครัว
  • TRICK
    RESUME ที่ดี ควรกระชับและจบใน 1 หน้า หรือถ้ายาวมากก็ไม่ควรเกิน 2 หน้า
    ไม่จำเป็นต้องมีองค์ประกอบทั้งหมด 7 ส่วน ตัดออกได้
    RESUME คือ เครื่องมือในนำเสนอตัวเอง ดังนั้นจึงควรใส่ใจ และสร้างความน่าประทับใจใน RESUME

    ขอบคุณข้อมูลจาก //www.aecjoblisting.com/
    เรียบเรียงโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รุ่งรัตน์ เต็งเก้าประเสริฐ

    • รายละเอียดใน Resume ควรจะมีความยาวไม่เกิน 1-2 หน้ากระดาษ และเขียนในรูปแบบของการลิสต์ลงมาเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ HR เข้าใจและอ่านง่าย
    • ภาษาที่ใช้เขียนบน Resume จะต้องเป็นภาษาที่สุภาพ เป็นทางการ และต้องทำให้เหมาะสม เพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของเรา
    • บุคคลอ้างอิงควรจะเป็นหัวหน้าจากที่ทำงานเดิม หรือถ้าเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ไม่เคยทำงาน อาจขอให้คนที่เคยดูแลตอนฝึกงาน หรืออาจารย์มาเป็นบุคคลอ้างอิงให้
    • กรณีที่ต้องระบุเงินเดือน ควรเขียนเงินเดือนในลักษณะที่ยืดหยุ่นได้ เช่น xx,000 – xx,000 บาท 
    • รูปถ่ายที่แนบไปกับ Resume ควรจะเป็นรูปถ่ายที่เห็นใบหน้าชัดเจน แต่งกายสุภาพ และพื้นหลังสีพื้น

    มีหลายบริการให้เราได้ใช้เพื่อออกแบบ Resume  เป็น Template บ้าง หรือช่องว่างให้กรอกเลยก็มี มันก็จริงที่การใช้สีสันหรือดีไซน์สวยงามเป็นการทำให้ HR สนใจเรซูเม่เรา แต่สุดท้ายการจะเรียกคนมาสัมภาษณ์สักคนหนึ่ง ก็คงต้องวัดกันที่เนื้อหา และประสบการณ์ที่มีอยู่ดี

    เมื่อรู้ดีว่า Resume จะเป็นสิ่งที่ทำให้ฝ่ายบุคคลตัดสินใจว่าจะเรียกมาสัมภาษณ์งานหรือไม่ เพื่อเป็นการช่วยนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบได้เข้าใจถึงสิ่งที่ควรทำในการเขียน Resume มากขึ้น JobThai เลยเอาเทคนิคดี ๆ มาฝากกัน

    เขียน: กระชับ ตรงประเด็น เข้าใจง่าย

    สิ่งสำคัญในการเขียน Resume เม่คือเนื้อหาต้องไม่ยาวจนเกินไป กระชับ และเข้าใจง่าย ตัวอย่างเช่นการลิสต์เป็นข้อ ๆ ในแต่ละเนื้อหาสำคัญ แทนการเขียนพรรณนายืดยาวจนเกือบเป็นบทความ จะทำให้ HR ตัดทิ้งได้ง่าย ๆ เพราะในแต่ละวันจะมี Resume ส่งเข้ามาที่บริษัทเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถอ่าน Resume ของแต่ละคนได้อย่างละเอียด แต่จะใช้วิธีอ่านผ่าน ๆ และมองหาคีย์เวิร์ดที่สำคัญเท่านั้น และมีความยาวไม่เกิน 1-2 หน้ากระดาษ

    สมัครงานผ่านวิธี Easy Form  ใน JobThai Mobile Application สรุปประวัติให้ กระชับ ตรงประเด็น เข้าใจง่าย สมัครงานได้เลยโดยไม่ต้องสมัครสมาชิกกับ JobThai 

    ใช้ภาษา: สุภาพ เรียบร้อย และเป็นทางการ

    ภาษาวัยรุ่น ภาษาพูด ภาษา Chat กับเพื่อนทั้งหลาย เก็บไว้ค่อยใช้งานอื่น ภาษาที่ใช้เขียนบน Resume จะต้องเป็นภาษาที่สุภาพ เป็นทางการ และต้องทำให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมของแต่ละบริษัทนั้น ๆ และอย่าใช้ตัวอักษรย่อต่าง ๆ มาเขียนลงในเรซูเม่เด็ดขาด เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจคำย่อเหล่านั้นและจะทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพด้วย  

    เลือกบุคคลอ้างอิง: ให้เหมาะสม

    ควรจะขอให้หัวหน้าที่บริษัทเก่า หรือสำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่เคยผ่านการฝึกงาน ก็ให้ขออนุญาตหัวหน้างานที่เคยไปฝึกงาน หรืออาจารย์ที่ปรึกษามาเป็นบุคคลอ้างอิงให้ และต้องแน่ใจว่าบุคคลที่เราจะนำมาอ้างอิงนั้นรู้จักเราเป็นอย่างดี และพูดถึงเราในเชิงบวกได้ การเลือกบุคคลอ้างอิงที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเราเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นการยืนยันว่าเราเคยผ่านการทำงานมา รวมถึงมีความสามารถในการทำงานจริง ๆ

    สิ่งที่สำคัญคือต้องขออนุญาตบุคคลอ้างอิงก่อนที่จะให้ข้อมูลติดต่อของพวกเขา และเมื่อบุคคลอ้างอิงอนุญาตแล้ว เราควรเตรียมรายละเอียดงานที่เราจะสมัครและเรซูเม่ให้เขาด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าควรจะแนะนำหรือพูดถึงความสามารถของเราในทางไหน และอย่าลืมขอบคุณทุกครั้งไม่ว่าเราจะได้หรือไม่ได้งานก็ตาม

    ระบุเงินเดือน: ในกรณีที่บริษัทแจ้งให้ระบุเท่านั้น

    โดยทั่วไปบริษัทจะแจ้งเรื่องเงินเดือนในประกาศรับสมัครงานไว้ 2 แบบ คือ แบบตามโครงสร้างองค์กร และ แบบต่อรองได้ หากเป็นตามโครงสร้างองค์กร เราก็ไม่ต้องระบุเงินเดือนลงไป เพราะบริษัทมีการกำหนดอัตราเงินเดือนไว้แล้ว แต่หากเป็นแบบต่อรองได้ และมีการระบุว่าให้แจ้งเงินเดือนที่ต้องการด้วย เราก็ควรจะใส่เงินเดือนที่เหมาะสมกับตำแหน่งและความสามารถหรือประสบการณ์ของเรา โดยอาจจะใส่แบบยืดหยุ่น เช่น xx,000 – xx,000 บาท เป็นต้น และไม่ควรกำหนดให้กว้างเกินไป

    รูปถ่าย: เหมาะสม

    Resume ต้องมีรูปถ่าย แต่ ไม่ได้หมายความว่าจะใช้รูปอะไรก็ได้ เช่น Weekend ที่ทะเลกับชุด Bikini สุดเร่าร้อน หรือรูปคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่ควรใช้รูปชุดนักศึกษาหรือชุดครุยรูปที่เหมาะสมสำหรับการสมัครงานคือ รูปถ่ายหน้าตรง เห็นใบหน้าชัดเจน แต่งกายด้วยชุดสุภาพ ฉากหลังเป็นสีพื้น ถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน และหากบริษัทกำหนดขนาดของรูป ก็ควรจะใช้รูปตามที่เขากำหนดด้วย 

     
    JobThai Official Group
    Public group · 200,000 members
     

    เรซูเม่ต้องใส่บุคคลอ้างอิงไหม

    ถ้าคุณใส่รายชื่อบุคคลอ้างอิงในเรซูเม่ ก็จะทำให้เรซูเม่ดูน่าเชื่อถือขึ้นมา เพราะอย่างน้อยคนที่เห็นเรซูเม่ก็สามารถเชื่อใจได้ว่าข้อมูลที่เขียนมานั้นสามารถสอบถามได้จากคนเหล่านี้ ซึ่งหากมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน ก็จะดี แต่หากไม่มี ก็ให้ใส่ชื่อของอาจารย์ที่ปรึกษาหรืออาจารย์ที่รู้จักคุณเป็นอย่างดีกล้าแนะนำคนอื่นต่อได้ว่าคุณ ...

    บุคคลอ้างอิงในเรซูเม่ ควรเป็นใคร

    เลือกบุคคลอ้างอิงที่มีตำแหน่งระดับสูง เช่น supervisors, ผู้จัดการหรือผู้บริหาร เป็นต้น หากเป็นนักศึกษาจบใหม่หรือฝึกงาน สามารถเขียนชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ที่ปรึกษากลุ่ม หรือ ซุปเปอร์ไวเซอร์ที่ฝึกงานด้วย เป็นต้น บุคคลอ้างอิงที่เลือกมานั้น ไม่ควรเกิน 3 คน

    Reference ในเรซูเม่คืออะไร

    2.8 References (บุคคลอ้างอิง) : บุคคลที่นายจ้างสามารถสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเราได้ ต้องไม่ใช่ญาติพี่น้อง โดยระบุชื่อ-นามสกุล ตำแหน่งงาน บริษัท และ เบอร์โทรศัพท์ แต่อาจยังไม่ต้องอ้าง reference ก็ได้แต่ให้เขียนว่า “References will be sent on request.” (หมายความว่า เอกสารอ้างอิงจะส่งให้กรณีที่ทางบริษัทร้องขอมา)

    บุคคลอ้างอิง ต้องใส่ไหม

    ข้อมูลของบุคคลอ้างอิงที่ต้องใช้กรอกในใบสมัครงาน ประกอบด้วย ชื่อและนามสกุลของบุคคลอ้างอิง ตำแหน่ง (ถ้ามี) ช่องทางการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว หรือเบอร์โทรศัพท์ในที่ทำงาน (ขึ้นอยู่กับความสะดวกของบุคคลอ้างอิง)

    กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

    Toplist

    โพสต์ล่าสุด

    แท็ก