Apple CarPlay ใช้กับ Android ได้ ไหม

อย่างที่ทราบกันว่าปัจจุบันนี้โทรศัพท์มือถือเป็นส่วนนึงในชีวิตประจำวันของเรา ทั้งการโทรเข้าออก การส่งข้อความ และทำอย่างอื่นอีกมากมายด้วยฟังชั่นต่างๆในมือถือ เมื่อมีสายเข้า หรือข้อความ เรามักจะละมือและสายตาจากการขับขี่ มาจับโทรศัพท์มือถือ ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทั้งเล็กและใหญ่มามากมายอย่างปฏิเสธไม่ได้

Apple CarPlay / Android Auto จะมาช่วยลดการละมือของเราออกจากพวงมาลัย และ ลดการละสายตาจากการขับขี่ ด้วยการควบคุมฟังก์ชั่นผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงโดยSiri.. หน้าจอTouch screen.. และ ปุ่มควบคุม Center Commander ทำให้ไม่ต้องยุ่งยากในการรับสายเข้า ตอบข้อความ เปิดแผนที่ใน Google Map / Apple Map หรือการหา Application อื่นในการฟังเพลง รวมถึงการฟัง Podcast

เพียงติดตั้งอุปกรณ์ CarPlay แล้วเชื่อมต่อผ่านสาย USB กับมือถือ Smartphone ของเรา แค่นี้ก็สามาถใช้งานได้ทันที เพียงเท่านี้เราก็จะได้ “สุดยอดผู้ช่วยตอนขับรถ” มาไว้ข้างกาย และพร้อมออกเดินทางสู่โลกกว้าง ฟิ้ววว!!

เพิ่มเติมว่า อุปกรณ์ CarPlay สามารถติดตั้งได้กับทุกรุ่นรถมาสด้าที่มีจอ MZD โดยจะใช้เวลาในการติดตั้งประมาณ 2 ชั่วโมง ครับ เมื่อติดตั้งแล้วจะใช้ได้กับมือถือทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ ทั้ง iPhone iOS และ Android ครับ 🙂

ต่อให้ตอนนี้เรากำลังขับรถเดินทางอยู่ก็สามารถโทรออก โทรกลับสายที่ไม่ได้รับ และฟังวอยซ์เมลได้ เพราะ Siri จะช่วยทำทุกอย่างที่ว่ามาให้เอง

Siri สามารถอ่าน ตอบและส่งข้อความให้เราได้ เราจึงไม่ต้องละสายตาเพื่อมองมือถือในขณะที่กำลังขับรถ แค่พูดบอก Siri เท่านั้น นอกจากนี้ CarPlay ยังสามารถเล่นข้อความเสียงผ่านลำโพงของรถได้อีกด้วย

แอพแผนที่ของ Apple หรือ Google Map จะมาอยู่บนหน้าปัดของรถ ทำให้เราสามารถหาทางไปกลับบ้าน ไปที่ทำงาน หรือ ค้นหาสถานที่อื่นๆเพิ่มเติมได้ในระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือสถานที่อื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง

เราสามารถเข้าถึงรายการ playlist ทั้งหมดของเราจาก iTune หรือ Podcast และใช้บริการ Apple Music ที่เราเป็นสมาชิก เราสามารถใช้งานแอพได้เหมือนปกติด้วยการใช้ส่วนควบคุมที่ติดตั้งมาพร้อมกับรถ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาจากศิลปิน อัลบั้ม หรือเพลง ดูเพลงที่กำลังเล่นอยู่ และเพลงที่จะเล่นต่อไป อ้อ สำหรับแฟน JOOX ก็สามารถใช้แอพผ่าน Carplay นี้ได้ด้วยเช่นกัน!!

แอนดรอยออโต้ (Android Auto) เป็นฟังก์ชั่นของเครื่องเสียงรถยนต์ที่พัฒนามาให้รองรับการใช้งานในยุคที่ผู้ใช้ทั่วโลกเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่ เพื่อความสะดวกทั้งการนำทางไปในสถานที่ที่ตัวเองไม่ถนัดหรือไม่เคยไปมาก่อน ซึ่งถ้าใครเดินทางบ่อยๆ แล้วพึ่งพา Google Maps เป็นประจำก็สามารถดูแผนที่ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูให้ละสายตาจากถนนให้เสี่ยงอันตราย หรือจะใช้โทรออกรับสายกับผู้อื่นรวมทั้งด้านความบันเทิงทั้งการดูหนังฟังเพลงเวลาเดินทางไกลหรือรถติดไฟแดงอยู่กลางเมืองแล้วรถเคลื่อนตัวได้ช้าจนน่าเบื่อหน่าย ก็เรียกว่าเป็นอุปกรณ์เสริมอัพเกรดรถยนต์ที่น่าเลือกซื้อมาอัพเกรดแทนเครื่องเสียงชุดเก่าที่เป็นแบบ 1DIN หรือแบบ 2DIN ติดรถให้มีฟังก์ชั่นเยอะกว่าเดิม

ในฐานะที่อุปกรณ์เหล่านี้เป็น Android Auto แล้ว ผู้ผลิตหลายแบรนด์ก็จะทำให้รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android รวมไปถึง Apple CarPlay ได้ด้วย เผื่อในกรณีรถยนต์คันนั้นแชร์กันภายในครอบครัวแล้วสมาชิกในบ้านแต่ละคนใช้สมาร์ทโฟนคนละระบบปฏิบัติการกันก็สามารถใช้งานได้สะดวกไม่ติดขัด และปัจจุบันนี้เครื่องเสียงติดรถดังกล่าวก็รองรับการใช้งานทั้งแบบต่อสาย USB หรือใช้แบบไร้สายเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ก็ได้ทั้งคู่อีกด้วย

6 แอนดรอยออโต้น่าซื้อมาอัพเกรดรถยนต์ ติดแล้วเดินทางสะดวกขึ้นหลายเท่า!

ผู้ใช้ที่มีแผนอัพเกรดระบบเครื่องเสียงให้เป็นแอนดรอยออโต้อยู่แล้ว ในปัจจุบันนี้เราสามารถหาซื้อแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศหรือแบรนด์คุณภาพของผู้ผลิตในประเทศไทยมาใช้งานได้ทั้งคู่ และคาดหวังประสบการณ์การใช้งานที่ดีได้อย่างแน่นอน โดยทั้ง 6 รุ่นที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้จะมีดังนี้

  1. Pioneer​ AVH-G225BT (4,450 บาท)
  2. BLAUPUNKT BPA799PLAY Denver (6,488 บาท)
  3. Worldtech WT-DDN9AND-3GB-CARPLAY (5,240 บาท)
  4. PIONEER DMH-Z5350BT (12,900 บาท)
  5. PIONEER AVH-Z9250BT (15,900 บาท)
  6. SONY XAV-AX8100 (18,900 บาท)
1. Pioneer​ AVH-G225BT (4,450 บาท)

Pioneer​ AVH-G225BT เป็นแอนดรอยออโต้รุ่นแรกที่ราคาไม่แพงมาก สามารถหาซื้อมาเปลี่ยนกับชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์ของเราได้เลย โดยตัวเครื่องเสียงนี้มีขนาดหน้าจอทัชสกรีน 6.2 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบสาย USB สมาร์ทโฟน Android ได้ รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ทั้ง iOS, Android และบันทึกเอาไว้ในเครื่องได้ 3 อุปกรณ์ มีไมโครโฟนติดตั้งมาให้ในตัวเพื่อโทรออกรับสายได้สะดวกและรองรับการต่อกล้องถอยหลัง ช่วยให้ถอยจอดเข้าซองได้สะดวก นอกจากนี้ยังเล่นไฟล์เพลงหรือวิดีโอจาก CD, DVD หรือไดรฟ์ USB ก็ได้และปรับ EQ ได้ 7 แบนด์อีกด้วย เรียกว่าเป็นเครื่องเสียง Android Auto รุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพงมาก เหมาะกับการอัพเกรดจากเครื่องเสียงเก่าติดรถให้ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

สเปคของ Pioneer​ AVH-G225BT
  • หน้าจอทัชสกรีน 6.2 นิ้ว ติดตั้งไมโครโฟนให้ใช้งานได้ รองรับการต่อกล้องมองหลัง
  • เล่นไฟล์เพลงหรือวิดีโอจาก CD, DVD หรือไดรฟ์ USB ปรับ EQ ได้ 7 แบนด์
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB, Bluetooth เซฟได้ 3 อุปกรณ์
  • รองรับ Android ผ่าน USB/Bluetooth ส่วน iPhone ใช้ Bluetooth
  • ราคา 4,450 บาท (Rungfasound Lazada)
2. BLAUPUNKT BPA799PLAY Denver (6,488 บาท)

BLAUPUNKT BPA799PLAY Denver รุ่นนี้จะรองรับทั้ง Android Auto, Apple CarPlay ทั้งคู่ ทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั้ง iPhone 6s, Android 5.0 ขึ้นไปสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องนี้ได้เลย ตัวเครื่องเป็นหน้าจอทัชขนาด 6.8 นิ้ว รองรับไมโครโฟนแยกให้วางตำแหน่งในตัวรถได้ตามต้องการ เชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 ได้และแสดงชื่อผู้ติดต่อบนหน้าจอเมื่อมีสายเข้า รองรับ USB, MicroSD Card ความจุสูงสุด 32GB สำหรับดูหนังฟังเพลงได้และมีระบบค้นหาวิทยุ FM อัตโนมัติ พร้อมพอร์ต AUX และคุมการทำงานด้วยแอพฯ ของ BLAUPUNKT ได้ด้วย รองรับลำโพงในรถกำลังขับ 50 วัตต์ RMS ได้สูงสุด 4 ตัว ซึ่งถ้าใครอยากได้แอนดรอยออโต้ดีๆ ราคาไม่แพงและคิดจะติดลำโพงชุดใหม่ก็เริ่มจากตัวนี้ได้เลย

สเปคของ BLAUPUNKT BPA799PLAY Denver
  • หน้าจอทัชสกรีน 6.8 นิ้ว ติดตั้งไมโครโฟนเพิ่มได้
  • เล่นไฟล์เพลงหรือวิดีโอจาก USB, MicroSD Card ความจุสูงสุด 32GB
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.2 คุมการทำงานผ่านแอพฯ ได้
  • รองรับ Android Auto, Apple CarPlay
  • ราคา 6,488 บาท (purple medal Lazada)
3. Worldtech WT-DDN9AND-3GB-CARPLAY (5,240 บาท)

Worldtech WT-DDN9AND-3GB-CARPLAY แบรนด์คนไทยที่คุณภาพดีน่าใช้อีกแบรนด์หนึ่ง ซึ่งตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอทัชขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto ทั้งคู่ มีแรม 3GB, ROM 32GB โหลดแอพฯ มาติดตั้งได้และรองรับเซนเซอร์ OBD-2 สำหรับดูค่าไฟฟ้า, รอบเครื่องและอื่นๆ ได้สำหรับคนที่ต้องการดูสถานะตัวรถ เชื่อมต่อด้วย Bluetooth, Wi-Fi, USB, FM และมี GPS ในตัวและใส่ MicroSD Card เพิ่มได้และทำ Screen MirrorLink หรือฉายภาพหน้าจอมือถือขึ้นหน้าจอของตัว Worldtech นี้ได้ด้วย เรียกว่าเป็นแบรนด์ไทยคุณภาพอีกรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำถ้าต้องการอัพเกรดเครื่องเสียงตัวรถให้ดีขึ้นแต่ไม่ต้องจ่ายแพงมาก

สเปคของ Worldtech WT-DDN9AND-3GB-CARPLAY
  • หน้าจอทัชสกรีน 9 นิ้ว RAM 3GB, ROM 32GB ติดตั้งแอพฯ ได้ 
  • เล่นไฟล์เพลงหรือวิดีโอจาก Bluetooth, Wi-Fi, USB, FM
  • มีฟีเจอร์ Screen MirrorLink รองรับ OBD-2
  • รองรับ Android Auto, Apple CarPlay
  • ราคา 5,240 บาท (Worldtech Thailand Shopee Mall)
4. PIONEER DMH-Z5350BT (12,900 บาท)

PIONEER DMH-Z5350BT เป็นแอนดรอยออโต้จากแบรนด์ชั้นนำของโลกอีกรุ่นที่น่าใช้งาน หน้าจอทัชมีขนาด 6.8 นิ้ว WVGA มีฟีเจอร์ WebLink เปิดเว็บไซต์ที่หน้าจอเครื่องนี้ได้ทันที รองรับ Apple CarPlay สำหรับ iPhone ที่ใช้ iOS 7.1.2 ขึ้นไป หรือ Android Auto เมื่อเป็น Android 5.0 ขึ้นไป เชื่อมต่อกับตัวฟร้อนท์ได้โดย Bluetooth หรือถ้าต่อ USB จะเล่นไฟล์วิดีโอ Full HD ได้ด้วย มีระบบ GPS ติดตั้งมาในตัวพร้อม Spotify สำหรับฟังเพลงได้และมีระบบ Auto EQ ในตัว ควบคุมเครื่องเสียงจาก iPhone ได้ด้วย ซึ่งถ้าใครจะลงทุนกับชุดแอนดรอยออโต้ดีๆ สักเครื่องก็ดูรุ่นนี้ได้เลย 

สเปคของ PIONEER DMH-Z5350BT
  • หน้าจอทัชสกรีน 6.8 นิ้ว WVGA มีฟีเจอร์ WebLink และ GPS ในตัว
  • เล่นไฟล์เพลงหรือวิดีโอจาก USB ความละเอียด Full HD ได้
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, USB คุมเครื่องผ่าน iPhone ได้
  • รองรับ Android Auto, Apple CarPlay
  • ราคา 12,900 บาท (Gorilla CarPlay)
5. PIONEER AVH-Z9250BT (15,900 บาท)

PIONEER AVH-Z9250BT เป็นอีกรุ่นทีหน้าจอใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเป็นหน้าจอทัช 7 นิ้ว อัพเกรดจากรุ่นในข้อที่แล้ว รองรับ Android Auto, Apple CarPlay เช่นกัน โดยฟีเจอร์ที่อัพเกรดเพิ่มขึ้นมาเป็นการรองรับไฟล์เสียงแบบ FLAC ให้ขับเสียงได้ดีขึ้น, มีพอร์ต USB ติดตั้งเพิ่มเป็น 2 ช่อง, รองรับ Wireless Mirroring นำภาพบนหน้าจอมือถือขึ้นโชว์บนหน้าจอของฟร้อนท์ตัวนี้ได้, รองรับการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi, DVD, CD, SD Card ได้ และปรับ EQ ได้ 13 แบบอีกด้วย เรียกว่าเพิ่มเงินอีกเล็กน้อยก็ได้ฟีเจอร์ติดตั้งเพิ่มมาให้อีกมากมายทีเดียว

สเปคของ PIONEER AVH-Z9250BT
  • หน้าจอทัชสกรีน 7 นิ้ว รองรับ WebLink, GPS, Wireless Mirroring, ปรับ EQ ได้ 13 แบบ
  • เล่นไฟล์เพลงหรือวิดีโอจาก USB ความละเอียด Full HD ได้ รองรับไฟล์เสียง FLAC
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, USB, Wi-Fi, DVD, CD, SD Card คุมเครื่องผ่าน iPhone ได้
  • รองรับ Android Auto, Apple CarPlay
  • ราคา 15,900 บาท (Signature Sound Shopee)
6. SONY XAV-AX8100 (18,900 บาท)

SONY XAV-AX8100 เป็นแอนดรอยออโต้แบบประหยัดพื้นที่ที่ใช้ช่องติดตั้ง 1DIN แต่ได้หน้าจอใหญ่ 8.95 นิ้ว เท่ากับคอนโซลขนาด 2DIN และสามารถสไลด์หน้าจอขึ้นลง, ก้มเงยหรือดันเข้าเลื่อนออกก็ได้ สามารถขับลำโพง 55 วัตต์ 4 ตัวได้สบายๆ ปรับ EQ ได้ 10 แบบ มีฟีเจอร์ EXTRA BASS ให้เสียงเบสแน่นขึ้น รองรับ Apple CarPlay, Android Auto ทั้งคู่และ UI ใช้งานได้สะดวก รองรับ WebLink เปิดดูเว็บไซต์ที่ต้องการได้และรองรับการ Cast หน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นหน้าจอของฟร้อนท์ได้อีกด้วย รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, USB, HDMI รับ FM ได้ด้วยและติดตั้งไมโครโฟนเสริมสำหรับโทรศัพท์ได้ ซึ่งถ้ารถยนต์ของใครมีฟร้อนท์เพียง 1DIN แต่ต้องการใช้แอนดรอยออโต้หน้าจอใหญ่ๆ แนะนำให้ซื้อหน้าจอนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคของ SONY XAV-AX8100
  • หน้าจอทัชสกรีน 8.95 นิ้ว รองรับ WebLink, GPS, Wireless Mirroring, ปรับ EQ ได้ 10 แบบ ขับลำโพง 55 วัตต์ได้ 4 ตัว มี EXTRA BASS
  • เล่นไฟล์เพลงหรือวิดีโอด้วย USB, Bluetooth HDMI รองรับไฟล์เสียง FLAC
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, USB, HDMI รับ FM ได้
  • รองรับ Android Auto, Apple CarPlay
  • ราคา 18,900 บาท (KB SOUND HIGH PRODUCT Lazada)

สรุปสเปคแอนดรอยออโต้ 6 รุ่นน่าซื้อมาติดรถยนต์ ใช้งานสะดวกเดินทางสบาย

สำหรับคนอยากอัพเกรดเครื่องเสียงรถยนต์ให้รองรับแอนดรอยออโต้หรือ Apple CarPlay จะมีตัวเลือกให้เลือกหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมีสเปคดังนี้

สเปคแอนดรอยออโต้หน้าจอการเล่นไฟล์เสียงการเชื่อมต่อระบบปฏิบัติการที่รองรับราคาPioneer​ AVH-G225BT6.2 นิ้ว

ติดไมค์กับกล้องมองหลังเพิ่มได้CD, DVD, USB

ปรับ EQ ได้ 7 แบนด์USB

Bluetooth รองรับ 3 อุปกรณ์Android ด้วย USB หรือ Bluetooth

iPhone ผ่าน Bluetooth เท่านั้น4,450 บาทBLAUPUNKT BPA799PLAY Denver6.8 นิ้วUSB หรือ MicroSD Card รองรับสูงสุด 32GBUSB

Bluetooth 4.2Android Auto

Apple CarPlay6,488 บาทWorldtech WT-DDN9AND-3GB-CARPLAY9 นิ้ว

RAM 3GB

ROM 32GB

ติดตั้งแอพฯ เพิ่มเติมได้

รองรับ OBD-2

Screen MirrorLinkUSB

Wi-Fi

Bluetooth

FMUSB

BluetoothAndroid Auto

Apple CarPlay5,240 บาทPIONEER DMH-Z5350BT6.8 นิ้ว WVGA

WebLink

GPSต่อ USB เข้าจอเล่นวิดีโอ Full HD ได้

BluetoothUSB

BluetoothAndroid Auto

Apple CarPlay12,900 บาทPIONEER AVH-Z9250BT7 นิ้ว

WebLink

GPS

Wireless Mirroringต่อ USB เข้าจอเล่นวิดีโอ Full HD ได้

รองรับไฟล์เสียง FLAC

ปรับ EQ ได้ 13 แบนด์Bluetooth

USB

Wi-Fi

DVD

CD

SD CardAndroid Auto

Apple CarPlay15,900 บาทSONY XAV-AX81008.95 นิ้ว

รองรับ WebLink

GPS

Wireless MirroringBluetooth

USB

HDMI

รองรับไฟล์เสียง FLACBluetooth

USB

HDMIAndroid Auto

Apple CarPlay18,900 บาท

จะเห็นว่าตอนนี้แอนดรอยออโต้ดีๆ เราสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ราคาหลักพันต้นๆ มาอัพเกรดรถยนต์คันเก่าของเราให้เล่นเพลงและดูแผนที่ได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนอกจาก 6 รุ่นที่เลือกมาแนะนำก็จะมีฟร้อนท์รุ่นใหม่ๆ ให้เลือกอีกมากมาย และจะซื้อจากออนไลน์มาติดตั้งเองก็ได้หรือจะเอาไปร้านประดับยนต์ให้ทางร้านติดตั้งให้พร้อมเปลี่ยนลำโพงไปพร้อมๆ กันเลยก็เป็นวิธีที่ดีทั้งคู่

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • 5 หูฟังตัดเสียงรบกวนตัวเด็ด ฟังเพลงเพลินไม่มีใครขัด อัพเดทปี 2022

  • ฮาวทูล้างเครื่อง MacBook รุ่นเก่าหรือ Apple M1 ให้สะอาดวับก่อนขายหรือส่งต่อให้ลูกหลาน อัพเดท 2022

  • รีวิว Infinix INBOOK X2 พอร์ตครบ สเปคดี จอสวย กล้องหน้าไฟคู่ Dual-Star light ราคา 12,990 บาท ได้ Intel Core i3!

In this article:android, Android Auto, Apple, Apple CarPlay, blaupunkt, pioneer, sony, Worldtech

Click to comment

 

Advertisement

Trending Post

Buyer's Guide

แนะนำตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม ที่น่าซื้อมาใช้งาน อัปเดต 2022

PC Buyer's Guide

ลำโพงคอม เสียงดี 9 รุ่น งบ 2000 บาท ไร้สาย ต่อมือถือได้ เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ของขวัญปีใหม่

PR-News

เวสเทิร์น ดิจิตอล คว้ารางวัล “Product of The Year” สุดยอดโซลูชันจัดเก็บข้อมูลแบบพกพา 2 ปีซ้อน

PC Review

MSI PRO AP242 All-in-One PC ฟังก์ชั่นครบ แต่งภาพ เทรดหุ้น จบได้ทุกงาน สำนักงานยุคใหม่

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เปรียบเทียบ Apple Watch Series 7 vs 8 ใหม่กว่าคุ้มกว่าไหม อัปเดต 2022

เปรียบเทียบ Apple Watch Series 7 vs 8 ใหม่กว่าคุ้มกว่าไหม ซื้อรุ่นไหนดี อัปเดต 2022 Apple Watch เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับใครที่ใช้งานผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากทาง Apple อยู่ ไม่ว่าจะเป็น iPhone, MacBook, iPad ฯลฯ...

morphNovember 28, 2022

Buyer's Guide

แนะนำคีย์บอร์ด iPad เชื่อมต่อง่าย พกพาสะดวก อัปเดต 2022

แนะนำคีย์บอร์ด iPad เชื่อมต่อง่าย คุณภาพดี พกพาสะดวก อัปเดต 2022 iPad หรือ Tablets อื่นๆ เป็นอุปกรณ์ในยุคปัจจุบันที่เข้ามาตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการเรียนออนไลน์ การทำงาน รวมไปถึงความบันเทิงอีกมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของการทำงานนั้น iPad ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ พิมพ์เอกสาร งานกราฟฟิก วิดีโอ ฯลฯ ทีมงาน NotebookSPEC...

morphNovember 14, 2022

Buyer's Guide

เปรียบเทียบ iPad Gen 10 VS iPad Gen 9 รุ่นใหม่ ราคาใหม่ ดีกว่ายังไง อัปเดต 2022

เปรียบเทียบ iPad Gen 10 กับ iPad Gen 9 รุ่นใหม่ ราคาใหม่ ต่างกับรุ่นเดิมอย่างไร อัปเดต 2022 เปิดตัวกันไปที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ iPad รุ่นราคาประหยัด ที่ตอนนี้เดินทางมาเป็น iPad Gen10th หรือรุ่นที่ 10 กันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ก็ได้รับการดีไซน์ออกแบบขึ้นมาใหม่ให้กลายเป็นรุ่นที่ไร้ปุ่ม Home...

morphNovember 11, 2022

Mac Corner

72 คีย์ลัด macOS กดถนัดมือประหยัดเวลาทำงานแน่นอน อัพเดทปี 2022

คีย์ลัด macOS มีวิธีกดเยอะมาก! ใช้เป็นบอกเลยว่าประหยัดเวลาสุดๆ นอกจากคีย์ลัด Windows ที่แนะนำไปเมื่อก่อนหน้านี้ ผู้อ่านหลายท่านที่ใช้ Apple MacBook เป็นพีซีประจำตัวก็คงอยากทราบวิธีกดคีย์ลัด macOS อย่างแน่นอน ซึ่งคีย์ลัดของฝั่ง macOS ก็จะใช้ปุ่ม Command, Option, Control, Shift ซึ่งไม่ต่างกับ Windows ที่ต้องการ Ctrl,...

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก