คอน โด ข้าง เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์

แผนที่จากทางโครงการครับ Notting Hill Skyscraper ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศน์ฝั่งขาเข้า 400 เมตร ก่อนถึงแยกถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เวลามาจากในเมืองวิ่งเส้นงามวงศ์วานขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย เลยต่อมาอีกอันนึงเจอสะพานยูเทิร์นเกือกม้าที่กลับมาเซ็นทรัล แต่เราจะเลยมาอีกหน่อยจะมีจุดกลับรถก่อนตัดแยกถนนสนามบินน้ำ ยูเทิร์นแล้ววนกลับมา 850 เมตร โครงการอยู่ทางซ้ายมือ | อีกอย่างคือการเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT สถานีแยกนนทบุรี 1  ที่อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 250 เมตรเท่านั้น

จุดเด่นของโครงการด้านทำเล คืออยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศน์ ไม่ต้องเข้าซอยใดๆ ห่างสถานีรถไฟฟ้า 250 เมตร เป็นระยะที่เดินได้สบาย ข้างทางไม่เปลี่ยว เดินผ่านร้านค้า แกรนด์โฮมมาร์ท แล้วก็ขึ้นรถไฟฟ้าเลย ตัวโครงการตั้งอยู่ในช่วงแยกรัตนาธิเบศน์ตัดสนามบินน้ำ และแยกรัตนาธิเบศน์ตัดเลี่ยงเมืองนนทบุรี แปลว่ามีทางเลือกในการเดินทาง (เมื่อเราเช็ค Google Maps ว่าทางแยกแครายรถติดหนักมาก) เราสามารถใช้ทางเลี่ยงเมืองนนทบุรี จะพาเราไปตัดออกสนามบินน้ำออกปากเกร็ด แจ้งวัฒนะโน่นเลย หรืออีกด้านก็ไปออกติวานนท์ หรือท่าน้ำนนท์ มุ่งหน้าไปบางซื่อ เลี่ยงเข้าเมืองได้อีกทาง… ส่วนเวลากลับมาที่โครงการ โดยไม่ต้องผ่านแคราย ก็วิ่งเกาะเส้นสนามบินน้ำ ยูเทิร์นใต้สะพานข้ามแม่น้ำ ตรงกลับมาที่โครงการได้อีกที…

ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการในระยะเดินได้ นี่น้อยครับ แทบไม่ค่อยจะมีร้านอาหาร ร้านค้าใกล้ๆเลย โชคดีที่ก่อนถึงโครงการนิดเดียวหน้าโชว์รูมนิสสันมีสะพานลอยครับ และตรงเชิงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหารพอพึ่งได้ครับ… แต่ถ้าไม่เดินและใช้รถ หรือพี่ Taxi นี่กลายเป็นคนละเรื่องละ เพราะระยะขับรถสบายๆ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มไปหมด เช่น Central รัตนาธิเบศน์ +Index ที่ระยะ 650 เมตร Big C ฝั่งตรงข้าม, โรงหนัง Esplanad ตรงก่อนถึงแยกแคราย ด้านหลังมี Tesco Lotus, พันธุ์ทิพย์ 2 ตรงเลยแครายไปหน่อย The Mall งามวงศ์วาน และถ้าเลี้ยวขวาเลียบคลองประปาตรง The Mall มี Home Pro กะ Lotus  ใกล้ๆก็มีโรงพยาบาลนนทเวช ติด The Mall, แถมฝั่งตรงข้าม The Mall เป็นศูนย์ติวเตอร์นะครับ เด็กมาเรียนพิเศษ อยู่ที่นี่ก็ไปมาง่ายสะดวกอยู่ด้วยรถเมล์ครับ

การเดินทางไปโครงการวันนี้มาจาก ถนนงามวงศ์วาน อาจจะวิ่งข้ามมาจากเกษตรก็ได้, ลงทางด่วนขั้นที่ 2 มาก็ได้ หรือมาจากถนนวิภาวดีรังสิตก็ได้ วิ่งตรงๆข้ามแยกแคราย เข้ามา ถนนรัตนาธิเบศร์ ชิดซ้ายมาเรื่อยๆและกลับรถใต้สะพานกลับรถก่อนถึงสะพานพระนั่งเกล้ามาที่ถนนอีกฝั่ง ขับมาประมาณ 850 เมตรก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วครับ

การเดินทางในวันนี้เริ่มจากบริเวณสี่แยกแคราย ตรงไปตามถนนรัตนาธิเบศร์  พอเริ่มเข้าถนนเส้นนี้มาทางด้านซ้ายจะผ่านเอเวอรี่มอลล์ มอลล์ (Hobby Lobby เก่า) ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นเอสพลานาด งามวงศ์วาน – แคราย และ Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์

ขับตรงมาซักระยะจะเจอกับ สถานีแรกบนถนนรัตนาธิเบศร์ คือ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ทางฝั่งซ้ายเป็นบริษัท ไทยคม จำกัด มหาชน ส่วนทางด้านขวาเป็น อุทยานมกุฏรมยสราญ และ ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี

ขับตรงมาอีกหน่อยจะเห็นป้ายบอกทางไปยังถนนสนามบินน้ำ (กระทรวงพาณิชย์) โดยให้เริ่มเบี่ยงซ้ายออกทางขนาน

เราจะเบี่ยงซ้ายออกทางขนานครับ ตรงจุดนี้ต้องระวังนิดนึงเพราะถ้าเลยตรงนี้ไปจะถูกบังคับให้ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเลย

จากนั้นก่อนที่จะถึงแยกกลับรถส่วนของสนามบินน้ำ ซึ่งเราไม่ต้องตรงไปนะ มันจะมีทางกลับรถให้ก่อนตรงนี้เลย มีป้ายบอกให้เห็นชัดเจนครับ

พอกลับรถมาแล้ว จับระยะสวยๆได้เลยมุ่งหน้าต่อไปอีก 850 เมตร (ให้ชิดๆซ้ายไว้นะ)

นี่ละครับก่อนถึง จะมีสะพานเกือกม้ากลับรถอีกอันนึง(กลับไปสะพานพระนั่งเกล้า) ถ้าใครไม่ชิดซ้ายก็เผลอวนกันอีกรอบ

พอเลยมาหน่อยทางซ้ายมือจะเจอกับหมู่บ้าน The City ถัดไปเป็นคอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเราเลยไปทั้งคู่เลย

จากนั้นเราจะเจอกับโชว์รูมของ MG ก่อนและติดกับเป็นโชว์รูม Nissan ซึ่งมีสะพานลอยอันนี้อยู่ใกล้กับโครงการละ ประมาณ 90 เมตร เท่านั้น

ถัดจากสะพานลอยจะเป็นกลุ่มตึกแถวร้านค้าทั่วไป และก็เป็นที่ตั้งโครงการแล้ว

ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ

ด้านหน้าพื้นที่ไซท์โครงการ มีการกั้นพื้นที่จอดรถส่วน Visitor เอาไว้ให้ ส่วนของไซท์ก่อสร้างมีการล้อมรั้วปิดเอาไว้

มองออกไปที่ด้านนอกติดถนนใหญ่ เราจะเห็น “รถไฟฟ้าสายสีม่วง” ที่กำลังจะเตรียมจอดที่สถานีข้างหน้าอีก 250 เมตร คือสถานี “แยกนนทบุรี 1” นั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก //www.bangkokmetro.co.th

ให้ดูแผนที่รอบๆสถานีประกอบกันสักหน่อยครับ ย้ำอีกทีของเราอยู่ประตูทางออกที่ 3 จ้า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ห้าง Grand Home Mart  (~ 200 m.)
  • MRT แยกนนทบุรี 1 (~ 250 m.)
  • Central รัตนาธิเบศร์ (~ 650 m.)
  • ตลาดสนามบินน้ำ Market Park (~ 2.2 km.)
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ นนทบุรี (~2.2 km.)
  • โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี (~2.5 km.)
  • Big C รัตนาธิเบศร์ (~ 2.7 km.)
  • อุทยานมกุ ฏรมยสราญ (~ 2.9 km.)
  • กระทรวงพาณิชย์ (~ 2.9 km.)
  • เอสพลานาด แคราย (~ 3.2 km.)
  • Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์ (~ 3.3 km.)
  • เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (~ 8.7 km.)
  • โรงพยาบาลนนทเวช (~ 6 km.)
  • Central West Gate (~ 9.5 km.)


เจาะลึกตัวโครงการ

อาคาร 2 ชั้นที่อยู่ติดถนนด้านนี้นี้คือ Sale Office Gallery ซึ่งอนาคตก็จะเป็นอาคารพื้นที่ส่วนกลาง เป็น Shop 2 ยูนิตนะครับ จะไม่มีการทุบรื้อใดๆหน้าตาก็จะเป็นแบบนี้เลยจ้า ส่วนของร้านค้าซึ่งตอนนี้ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะดิวร้านค้าอะไรมานะ

ภายในดูกว้างขวางเพราะเป็นผนังกระจกรอบด้าน มีตัวโมเดลวางอยู่ใจกลางพื้นที่ พร้อมจอแสดงรายละเอียดโครงการ และพื้นที่รับแขกรอบๆ

พื้นที่นั่งรองรับสำหรับ Visitor ที่มาเยี่ยมชมโครงการอยู่ติดกับผนังกระจกมองออกไปเป็นสวน ที่ชั้นนี้มีห้องตัวอย่างอยู่ด้วยด้านหลัง 1 ห้อง

ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเป็นส่วนของ Mock Up  Room ห้องตัวอย่างอยู่ 2 ห้อง

ย้อนกลับมาดูที่โมเดล พูดถึงรายละเอียดโครงการสักหน่อย Notting Hill Skyscraper @Central Rattanathibet มีที่ดินประมาณ 3-3-00 ไร่, เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาส 4 ปี 2560, คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 3 ปี 2563 | เป็นคอนโด High Rise สูง 48 ชั้น 1 อาคาร 1,097 ยูนิต และร้านค้า 5 ยูนิต แยกอาคารสูง 2 ชั้น 1 อาคาร (อยู่ด้านหน้าติดถนน) | เป็นส่วนของร้านค้า สามารถจอดรถได้ตั้งแต่ที่ชั้น 1-7 ที่จอดรถประมาณ 410 คันคิดเป็น 37% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) | ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิตที่ชั้น 34-35 | ส่วนแบบห้องมีหลักๆ 3 แบบได้แก่

  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 25 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.49 – 2.2 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 1 Bathroom ขนาด 31.5 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.2 – 2.7 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 34.9 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.3 – 3.09 ล้านบาท

ส่วนไอเดียการออกแบบอาคารแนวคิดใหม่รูปทรง Y-Shapeโดยผลงานการออกแบบชั้นนำของ ATOM Design ขยายมุมมองให้กว้างถึง 120 องศา 3 ด้าน ทำให้แต่ละห้องสามารถมองเห็นวิวได้โดยไม่บดบังทัศนียภาพกันเอง และตัวอาคารยังทำได้แตกต่างจากเพื่อนบ้านในละแวกนี้ทั้งหมดด้วยโทนสีเบอร์กันดี เพื่อให้ดูโดดเด่นและเป็นไอคอนบนถนนรัตนาธิเบศร์

ทางเข้าด้านหน้าติดถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนเข้าไปโครงการ เราจะเห็นอาคารแยกออกมา 2 ชั้นด้านหน้าที่เขียนว่า Shop นั่นก็คือ Sale Gallery นั่นเอง ส่วนของรูปทรงอาคาร Y-Shpae เราจะเดินทางรถเป็นวันเวย์(ไปทางซ้ายมือ)

ส่วนของ Retail Shop 2 Unit ที่อยู่ติดถนน (ซึ่งตอนนี้เป็น Sale Office) ถ้ามีการดึงร้านค้ามินิมาร์ทมาได้สำเร็จ จะเป็นการช่วยลูกบ้านได้สูงมากเพราะแอเรียแบบเดินเท้าใกล้ๆละแวกนี้ไม่ค่อยมีอาหารการกินง่ายสักเท่าไร

เดินทางมาตามทางซ้ายมือจะเจอกับจุด Drop Off Area (ที่กลางส่วนเว้าตัว Y) ครับ ซึ่งภายในชั้น 1 นี้ก็จะประกอบไปด้วย Grand Lobby, Co-Working Space, Meeting Room, Outdoor Terrace และ Shop ร้านค้าอีก 3 ยูนิต (ถ้ารวมอาคารด้านนอกด้วยก็เป็น 5 Shop) และพื้นที่ที่เหลือก็จะเป็นส่วนจอดรถใต้อาคาร จากมุมนี้เราจะเห็นด้วยว่าตั้งแต่ชั้น 2 ก็เริ่มมีส่วนห้องพักอาศัยมารวมกันกับชั้นพื้นที่จอดรถด้วยแล้วนะครับ

อ้อมมาที่ด้านหลังอาคารเราจะเห็นส่วนที่จอดรถสุดอยู่ที่ชั้น 7 ที่ด้านบนชั้น 8 คือส่วนของ Facility Outdoor ขนาดใหญ่เป็นสระว่ายน้ำทรงกลมที่ไม่เหมือนใคร และมีพื้นที่ Green Area รอบๆ

โฟกัสให้เห็นโทนสีตัวอาคารจากโมเดล ซึ่งต้องรอดูของจริงๆอีกที ส่วนของตามมุมปลายอาคารที่ได้หน้าต่างเข้ามุมสองด้าน จะเป็นห้อง Type พิเศษขนาดใหญ่สุด 34.9 ตร.ม. ซึ่งจะมีแค่ 6 ห้องต่อชั้นเท่านั้น

พื้นที่ส่วนกลางที่ถูกยกมาไว้ที่ชั้นบนเพื่อให้ชมวิวได้หลากหลาย ชั้น 46-48 เป็น Roof Garden, พื้นที่สีเขียวและนั่งเล่น, BBQ-Area, Sky Lounge รับวิวได้ 270 องศา ซึ่งใครอยากชมวิวยามเย็นสวยๆรอบด้านก็ที่นี่เลยครับ เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและก็ City View สวยๆ

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกอาคาร ICONIC ARCHITECTURE ด้วยไอเดียการออกแบบอาคารแนวคิดใหม่รูปทรง Y-Shape ขยายมุมมองให้กว้างถึง 120 องศา 3 ด้าน แตกต่างด้วยโทนสีเบอร์กันดีโดยผลงานการออกแบบชั้นนำของ ATOM Design

สิ่งอำนวยความสะดวกตามคอนเซ็ปท์ Super Facilities ที่ให้มากกว่าใครๆ ตามแนวคิด Another Home ที่เพิ่มพื้นที่พิเศษให้ลูกบ้านอย่างสะดวกสบายเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง ให้ผู้บริโภคสามารถไปใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางของอาคารได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในห้องของตัวเอง โดยมีพื้นที่ส่วนกลางถึง 4 ชั้น ที่ชั้น 1, 8, 9 และชั้นดาดฟ้า ซึ่งประกอบด้วย

  • สระว่ายน้ำระบบเกลือแนวคิดใหม่ที่ออกแบบเป็นทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เมตร สะดวกทั้งว่ายเพื่อออกกำลังกายและผ่อนคลายด้วยระบบ Bubble และ Jacuzzi
  • ห้องอาบน้ำ และห้อง Locker Room ส่วนกลาง พร้อมอุปกรณ์ครบครันที่ลูกค้าสามารถมาใช้บริการได้
  • ห้องสตีม เพื่อคนรักสุขภาพและการผ่อนคลาย
  • Fitness Centre พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำ, พื้นที่เล่นโยคะ พิลาทิส และ Fitness Trainer ประจำห้องออกกำลังกาย ให้ลูกค้าได้ใช้บริการคุณภาพโดยไม่ต้องไปสมัคร Fitness Member ที่ไหน
  • Co-Working Space และ Meeting Room พร้อมอุปกรณ์สำนักงานครบครัน
  • Kids Space พื้นที่เล่นและเรียนรู้สำหรับเด็ก ซึ่งมีทั้งโซน Indoor และ Outdoor พร้อมอุปกรณ์และ เครื่องเล่นครบครัน
  • Entertainment Room ห้องนั่งเล่นส่วนกลางที่มีอุปกรณ์ครบครัน
  • Co-Kitchen บริเวณจัดเตรียมอาหารและรับประทานอาหารส่วนกลางพร้อมอุปกรณ์ครบครัน
  • Barbecue Terrace ระเบียงสังสรรค์ลอยฟ้า พร้อมบาร์บีคิวสเตชั่น ที่เปิดรับวิวเมืองในมุมกว้าง
  • Sky Lounge พร้อมมุมจัดเตรียมอาหารให้บรรยากาศการสังสรรค์ของคุณโดดเด่นไม่เหมือนใคร

ภาพจำลองภายในส่วนของ  Lobby ที่ออกแบบใช้ลวดลายเส้นแนวตังกับไฟส่องที่ผนัง ดูสวยงานหรูหรา อ้อ…ที่นี่เค้ามี Boutique Sevices ให้ด้วยนะครับ เป็นบริการหลังการขาย ที่ดูแลโดยบริษัมพรีโม นั่นก็คือ มีการมาทำความสะอาดห้องพักให้เดือนละ 2 ครั้ง ฟรี..! ในระยะเวลา 1 ปี และบริการ Door Man Service บริเวณล็อบบี้

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของของ Living Area ที่ชั้น 8 โดยมีพื้นที่เป็น Double Volume ด้วยทำให้ดูโปร่งโล่งมองออกไปด้านนอกเป็นวิวสระว่ายน้ำ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของของ Co-Working Space พื้นที่ทำงานพร้อมอุปกรณืสำนักงาน สำหรับคนที่ทำงานอิสระได้หลากหลายที่

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของของ Kid Space ทำออกมาได้ดูน่าใช้งาน สีสันสดใส

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนกลางที่ชั้น 8 Outdoor ด้านนอก สระว่ายน้ำระบบเกลือ ทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เมตร มีแยกส่วนสระว่ายน้ำเด็ก และพื้นที่สวน (Green Area) สระว่ายน้ำทรงกลมแบบนี้ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยๆนะครับ ผมเองยังไม่เคยลองว่ายแบบนี้เลยไม่รู้ว่าจะว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ไหม แต่ว่าถ้าสำหรับพื้นที่ครอบครัว มีเด็กมาด้วยน่าจะเหมาะมาก แถมสวยดีนะครับ ถือเป็นของแปลกนานๆจะเห็นที

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนกลางที่ชั้น 9 เป็นห้องออกกำลังายพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำ (ยังไม่ระบุจำนวนเครื่อง) มองออกไปวิวสระว่ายน้ำและสวน

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกอาคาร พื้นที่ส่วนกลางที่ถูกยกมาไว้ที่ชั้นบนเพื่อให้ชมวิวได้หลากหลาย ชั้น 46-48

ภาพจำลองบรรยากาศ พื้นที่ส่วนกลางที่ถูกยกมาไว้ที่ชั้นบนเพื่อให้ชมวิวได้หลากหลาย ชั้น 46-48 เป็น Roof Garden พื้นที่สีเขียวและนั่งเล่น

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 48 ส่วนของ SKY LOUNGE รับวิวได้ 270 องศา

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 48 ส่วนของ SKY LOUNGE รับวิวได้ 270 องศา ซึ่งใครอยากชมวิวยามเย็นสวยๆรอบด้านก็ที่นี่เลยครับ เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและก็ City View สวยๆ

Master Plan โครงการ ทางเข้าด้านหน้าติดถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนเข้าไปโครงการ เราจะเห็นอาคารแยกออกมา 2 ชั้นด้านหน้าที่เขียนว่า Shop นั่นก็คือ Sale Gallery นั่นเอง ส่วนของรูปทรงอาคาร Y-Shpae เราจะเดินทางรถเป็นวันเวย์(ไปทางซ้ายมือ) จะเจอกับจุด Drop Off Area (ที่กลางส่วนเว้าตัว Y) ครับ ซึ่งภายในชั้น 1 นี้ก็จะประกอบไปด้วย Grand Lobby, Co-Working Space, Meeting Room, Outdoor Terrace และ Shop ร้านค้าอีก 3 ยูนิต (ถ้ารวมอาคารด้านนอกด้วยก็เป็น 5 Shop) และพื้นที่ที่เหลือก็จะเป็นส่วนจอดรถใต้อาคารครับ

ชั้น 2 จะเป็ฯพื้นที่จอดรถล้วนๆ ที่จอดรถประมาณ 410 คันคิดเป็น 37% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

ชั้น 3 จะมีพื้นที่จอดเพิ่มมาอีกหน่อยที่ปีกอาคารตัว Y อีกด้าน

ตั้งแต่ชั้น 4 – 7 จะเริ่มมีห้องพักอาศัยให้เห็นกันแล้วครับ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับทางฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์นั่นเอง ให้ดูส่วนของลิฟท์กันหน่อย ที่นี่ให้ลิฟท์มา 6 ตัวซึ่งมีการแยกใช้งาน Low Zone และ High Zone กันชัดเจน แต่รวมๆแล้วอัตราส่วนจะอยู่ที่ 182 : 1 ก็ถือว่าเยอะอยู่นะครับ (มีแยกลิฟท์เซอร์วิสอีก 1 ตัว)

ที่ชั้น 8 ส่วนของ ห้องพักอาศัย จะเพิ่มมาที่ปีกอาคารอีกฝั่ง ทำให้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 14 ยูนิต/ชั้น และที่เหลือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งหมด โดยเอาในตัวอาคารก่อนจะมี Living Area, Kid Space, Laundry, Entertainment Room, Co-Kitchen, Locker Room แยกชายหญิง และที่ด้านนอกอาคารบนหลังคาโพเดียมจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เมตร มีแยกส่วนสระว่ายน้ำเด็ก และพื้นที่สีเขียวนั่งเล่นจัดเอาไว้รอบๆ

ชั้น 9 ยังมีการต่อเนื่องของส่วนกลางขึ้นมาอีก โดยเดินขึ้นมาจากทาง Living Area ชั้น 8 จะมาเจอกับห้องออกกำลังายพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำ (ยังไม่ระบุจำนวนเครื่อง) และห้องโยคะ (Yoga Room)

ชั้น 10 – 33 เป็น Typical Plan ที่มีรูปแบบห้องเหมือนกันมากที่สุด รูปแบบห้องพักอาศัยจัดเต็มมาตามรูปทรงอาคาร มีจำนวน 28 ยูนิต/ชั้น ด้วยรูปทางตัว Y ของอาคารทำให้ที่นี่ได้วิวที่แตกต่างและหลากหลายกันมาก (ในเรื่องวิวเดี๋ยวเลื่อนลงไปดูล่างๆจะมีภาพจากโดรนให้ดูประกอบ) ส่วนของ Type Room  ที่นี่จะมีหลักๆ 3 แบบโดยเริ่มจากห้องเล็กสุด(สีครีม)เป็น 1 Bed 25 ตร.ม. จะอยู่ตามกลางๆโถงทางเดินหน่อย ขยับขึ้นมาเป็นห้อง 1 Bed Plus 31.50 ตร.ม. (สีน้ำตาล) และสุดท้ายห้องพิเศษที่โครงการเรียกว่า 2 Bed 2 Bath(จริงๆต้องเรียกว่า 1 Bed Plus 2 Bath นาาา) ขนาด 34.9 ตร.ม.ที่เป็นห้องแบบหน้ากว้างพิเศษอยู่ตามปีกอาคารตัว Y ห้องนี้จะได้วิวพิเศษหน่อย แต่ก็แพงสุดเช่นกัน มีแค่ 6 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น

ชั้น 34 – 35 ด้ยพื้นที่ของลิฟท์ส่วน Low Zone หายไปแล้วทำให้ได้พื้นที่ห้องเพิ่มมาอีก 1 ห้อง

ชั้น 46 ส่วนของปีกอาคารทางขวาจะกลายเป็น Roof Garden พื้นที่สีเขียวให้แก่ลูกบ้านขึ้นมาชมวิว / ห้องพักลดเหลือแค่ 16 ห้อง

ชั้น 47 ส่วนของปีกอาคารทางซ้ายบนจะกลายเป็น BBQ-Terrace พื้นที่ส่วนกลางให้แก่ลูกบ้านขึ้นมาทำกิจกรรมและชมวิว / ห้องพักลดเหลือแค่ 7 ห้อง

ชั้น 48 ไฮไลท์ของส่วนกลางที่นี่อีกอย่างนั่นคือ Sky Lounge อันนี้ดีมากๆคือทุกคนสามารถมาแชร์วิวที่สวยที่สุดของตึกนี้ร่วมกันได้ที่นี่แบบ 270 องศา และยังมีพื้นที่กลางแจ้งด้านนอกเป็นสวนหย่อมอีกหน่อยนึง

ภาพประกอบมุมสูงจากโดรนแสดงให้เห็นถึงพื้นที่รอบๆโครงการ อย่างง่ายๆ ซึ่งดูกันได้เลยนะครับว่าเป็นยังไง ส่วนของ “อาคารสูง” ที่อยู่ในรัศมีใกล้ๆโครงการเราจะมีแค่ 2 อาคารเท่านั้นคือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเป็นคอนโด Aspire สูง 24 ชั้น และทิศใต้คือคอนโด Skyline รัตนาธิเบศร์ สูง 38 ชั้น (เดี๋ยวด้านล่างจะมีวิวให้ดูอีกที)

รูปนี้แสดงให้เห็นถึงการวางผังของตัวอาคารที่เป็นรูปทรงตัว Y-Shape ทำให้เปิดรับมุมมองวิวได้กว้างรอบทิศทาง ขยายมุมอับ เปิดมุมมอง กว้างถึง 120 องศา ซึ่งถ้าดูจากในรูปรอบๆ อย่างวิวไปทางทิศตะวันออกก็คือมองไปทางแยกเลี่ยงเมืองนนทบุรี หรือเห็นทางตัวชานชาลาสถานีรถไฟฟ้า ส่วนที่มีอาคารสูงจะอยู่ทางทิศใต้อย่างคอนโด Skyline 38 ชั้น (ของเรา 49 ชั้น) จะเห็นเป็นแนวขวางของตัวอาคารเท่านั้น (ดูรูปประกอบถัดไป)

อย่างที่บอกว่าฝั่งทิศใต้จะเห็นคอนโด Skyline 38 ชั้น แต่.. จะเห็นเพียงแค่แนวขวางของอาคารแบบนี้ครับ ที่เหลือทางฝั่งทิศใต้นี้จะไม่มีอาคารสูงมาบังวิวสวยๆเลย เห็นทั้งพื้นที่สรเขียว บ้านเรือน สถานที่ราชการ และโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาระยะกลางๆ

สุดท้ายไปทางฝั่งทิศตะวันตกที่จะไปทางสะพานพระนั่งเกล้า มีห่างจากคอนโด Aspire 24 ชั้น ระยะ ราว 150 เมตร แนวเฉียงๆหน่อย ที่เหลือก็รับวิวสะพานพระนั่งเกล้า เห็นแม่น้ำแบบเส้นตรงครับ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

  • แกรนด์ ล็อบบี้ (Grand Lobby)
  • Co-Working Space, ห้องอ่านหนังสือส่วนตัว
  • Outdoor Living Area, มีที่จอดรถจักรยาน

ชั้น 8

  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เมตร มีแยกส่วนสระว่ายน้ำเด็ก
  • ห้องเอนเตอร์เทนเมนต์ (Entertainment Room)
  • ห้องครัวส่วนกลาง (Co-Kitchen)
  • ห้องพื้นที่สำหรับเด็ก (Kid-Space)
  • บริการเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า (Laundry)
  • ล็อกเกอร์รูม, ห้องอาบน้ำส่วนกลาง
  • ห้องอบไอน้ำ (Steam Room)
  • พื้นที่สวน (Green Area)

ชั้น 9

  • ห้องออกกำลังายพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำ (ยังไม่ระบุจำนวนเครื่อง)
  • ห้องโยคะ (Yoga Room)

ชั้น 46, 47

  • Roof Garden, Green Area

ชั้น 48

  • Roof Garden, BBQ-Terrace, Sky Lounge

อื่นๆ

  • ลิฟท์โดยสาร 6 ตัว แยกส่วน High Zone, Low Zone
  • Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 182 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 410 คันคิดเป็น 37% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบ CCTV / Access Card / รปภ.24 ชม.

 


Product Walkthrough

 

แปลนห้องตัวอย่างแรกที่พาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom แบบ B1-01 ขนาด 25 ตร.ม. ซึ่งแปลนห้องค่อนข้างเห็นกันบ่อยๆ จุดเด่นที่สำคัญคือโครงการขายแบบ Fully Furnish ทุกอย่างงง!!..ยกเว้นเครื่องซักผ้าอย่างเดียว ทำให้การวางตำแหน่งทุกพื้นที่มีประโยชน์คุ้มค่าพื้นที่ใช้สอยตามที่คิดออกแบบมาแล้ว  โดยเปิดมาในห้องเจอกับครัว ชั้นเก็บของ พื้นที่ทานอาหาร เชื่อมไปกับห้องนั่งเล่น และออกไปด้านนอกเป็นระเบียง ตัวห้องถูกแบ่งครึ่งอีกด้านเป็นห้องนอน แต่มีการเจาะผนังระหว่างกันเป็นกระจกเงาให้แสงส่องผ่านถึงกันได้ บวกกับเพดานสูง 3 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งไปอีก ห้องนอนกว้างขวางเดินไปมาสะดวกมีห้องน้ำในตัว

โดยเปิดมาในห้องเจอกับครัว ชั้นเก็บของ พื้นที่ทานอาหาร เชื่อมไปกับห้องนั่งเล่น และออกไปด้านนอกเป็นระเบียง พื้นมนห้องภายในเป็นลามิเนต 8 mm.

มาดูทางขวามือด้านหลังประตูกันก่อนจะเจอกับ ตู้เย็น(ได้นะครับ) ชิดกำแพงและติดกันเป็นตู้เก็บรองเท้า Built-In การใช้เปิดออกแบบนี้

ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นส่วนของชุดครัว ซึ่งห้องมีความสูงขนาดนี้สามารถบิวท์ตู้ชั้นเก็บของแบบมีหน้าบ้านเพิ่มก็ได้ ทำให้เสมือนเราได้พื้นที่ใช้สอย “แนวตั้ง” เพิ่มขึ้นไปอีก

ครัวได้เช่นนี้เลย Hob&Hood แม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว ของ HAFELE มีไมโครเวฟด้านบน, Top ครัวเป็นลามิเนตลายหินอ่อน

ถัดจากครัวจะเป็นโต๊ะสำหรับทานอาหาร หรือนั่งทำงานได้ ที่ด้านหลังผนังมีการติดตั้งชั้นวางเอาไว้เป็นที่โชว์ของสะสมก็เก๋ๆดี

ส่วนของโซฟาที่ได้มาเป็นแบบ 2 ที่นั่ง มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2 เมตรครับ ซึ่งโครงการจัดทีวีมาให้ไซส์ที่เหมาะกับขนาดของสายตามาแล้ว

ชุดผ้าม่าน 2 ชั้นก็ได้มาเช่นกัน ประตูทางออกไปยังระเบียงเป็นแบบกระจกบานเลื่อนวงกบอลูมิเนียมสีดำมีน้ำหนักการเปิดปิดอยู่ปานกลาง ส่วนของพื้นที่ระเบียงจะลดระดับลงเล็กน้อย พื้นถูกเปลี่ยนเป็นกระเบื้องผิวหยาบไซส์ 30 ซม. โดยทางซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งของที่วางเครื่องซักผ้าได้(เป็นชิ้นเดียวที่ไม่ได้ในห้องนี้) แต่จะมองจากภายนอกไม่เห็นเครื่องครับ

ส่วนของแอร์ก็เช่นกัน ห้อง Type นี้ได้ 2 ตัว ถูกแขวนจัดเก็บบังสายตาจากภายนอกเอาไว้อย่างดี ขาดแต่ต้องไปหาติด กริลล์บังคับทิศทางลมเอาเอง ไม่กี่บาทน่าจะพันต้นๆ(2 ตัว)

ทีเด็ดของห้องนี้คือการเจาะผนังที่ด้านหลังชั้นวางทีวี กั้นด้วยกระจกเงาใส ทำให้แสงธรรมชาติส่งผ่านกันถึงทั้งสองห้องได้ ดูโปร่งโล่งสบายตา ไม่ดูเหมือนห้องขนาดไซส์ 25 ตร.ม. (ถ้าใครอยู่กันสองคนต้องการแยกความเป็นส่วนตัวบางเวลาก็ติดม่านเพิ่มเอาครับ)

ภายในห้องนอนอันดับแรกดูพวกหน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก่อนทั้งหมดในรูป เตียง(มีที่เก็บของด้านล่างด้วย),​ ฟูก, ผ้าม่าน, โต๊ะข้างหัวเตียง, ตู้เสื้อผ้า จัดเต็มมาเลยย ส่วนของช่องแสงในห้องนอนก็ไม่เล็กนะครับ เพราะว่าเพดานห้องสูงมากนั่นเอง สามารถเปิดเป็นบานกระทุ้งออกได้

ถัดไปเป็นส่วนในห้องน้ำที่กั้นด้วยธรณีก่อขึ้นมากันส่วนน้ำกระเด็นเปียกเข้าห้องนอน ในห้องน้ำพื้นที่ระยะต่างๆก็อยู่ในระยะที่พอใช้งาน มีฟังก์ชั่นใช้งานทั่วไปครับ พวกชุดอ่างกับสุขภัณฑ์จะเป็นของ American Standard ครับ

ส่วนของพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกเอาไว้ มีก่อธรณีขึ้นมาพร้อมติดตั้ง Shower Box แบบนี้ พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.90 x 0.90 เมตร

หน้าตาของชุดฝักบัว พร้อมติดตั้งที่วางของเล็กๆมาให้จุดนึง

เข้ามาในห้องจะเป็น Living Area แต่จะมองเห็นห้องอเนกประสงค์ (ประตูของห้องนี้ใช้เป็นกระจกใสบานเลื่อน 3 ตอน) ทำให้แสงจากระเบียงส่องผ่านเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้ ส่วนของห้องนอนหลักจะอยู่ทางซ้ายมือ

ทางขวามือของประตูจะเป็นพื้นที่วางโซฟากว้างกว่าเดิมหน่อย 2-3 ที่นั่ง ซึ่งติดกันมีพื้นที่เป็นมุมโต๊ะทำงานหรือรับประทานอาหารแต่คาดว่าจะนั่งทาน 2 คนไม่ได้ ถ้าไม่ดึงออกมากลางๆห้องหน่อย

ฟีลลิ่งเวลานั่งดูทีวีจะเห็นประมาณนี้ครับ ระยะดูทีประมาณ 2.30 เมตร ซึ่งเราจะได้ทีวีและก็ชั้นวางข้างล่าง ด้านบนที่ผนังมีการติดแอร์ส่วนของห้องนั่งเล่นไว้ที่จุดนี้ (**ส่วนของผนังของจริงจะมีการติดวอลเปเปอร์ให้รอบห้องนะครับ ไม่ใช้ผนังตกแต่งแบบห้องตัวอย่าง)

ขวามือเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการเลือก “ประตูกระจกใสบานเลื่อนแบบ 3 ตอน” เอามาใส่ไว้เพราะนอกจากให้แสงส่องผ่านได้ดีแล้ว ยังสามารถเพิ่มพื้นที่ในการเข้าออกได้มากกว่าแบบ 2 ตอนครับ

พื้นที่ภายในด้วยความที่จำกัดมาก ก็เลยถูกวางเฟอร์นิเจอร์เอาไว้ให้แบบ “พอดี” น่าจะขยับอะไรไม่ได้แล้ว ถามว่าเดินขึ้นเตียง แต่งตัวได้อยู่นะ จะติดอยู่ตรงข้ามไประเบียงเท่านั้น

นี่แหละครับ การข้ามมาระเบียงต้องข้ามผ่านเตียงแบบนี้ ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าคือเค้าให้เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด แต่ถ้าใครตัดสินใจว่าจะอยู่คนเดียวแน่ๆ ห้องนี้อยากทำเป็นห้องทำงาน ดูหนัง อื่นๆ เราไม่เอาเตียงได้ไหม ต้องสอบถามเซลล์เพิ่มนะครับ

ส่วนของแอร์ที่ห้องนี้จะได้ 3 ตัวเลยทีเดียว โดยตำแหน่งของแอร์จะอยู่แบบนี้ หันลมร้อนออกนอกอาคาร และมีส่วนของแนวระแนงเหล็กบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ให้ดูเรียบร้อย

ออกมาจากห้องอเนกประสงค์แล้วหันไปทางขวามือจะเริ่มเห็นพื้นที่ครัว แต่เดี๋ยวเราเข้าไปดูห้องนอนหลักทางขวามือที่ติดกันก่อน

ภายในห้องนอนก็เอาเตียงไซส์ 5 ฟุต วางชิดผนังช่องแสงไว้ให้ และติดกันหัวเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-In โดยจะมีระยะเหลือด้านข้างและปลายเตียงที่สะดวกหน่อย เดินมาปิดเปิดผ้าม่าน เปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สบายๆ

ให้ดูระยะความกว้างของห้องซึ่งก็จะมาใช้ได้พอดีๆ

ออกมาจากห้องนอน มองออกไปจะเจอกับตู้เย็นก่อน และขวามือเป็นมุมครัว มีทางไปห้องน้ำก็ต้องผ่านตรงนี้

ลองเปิดชุดตู้ติดผนังด้านบนที่ได้ให้ดู ระบบการปิดยังเป็นแบบ Softing Close ให้ด้วยนะ

รูปแบบครัวก็จะเหมือนกันกับห้องแรกที่พาไปดูนะ สามารถประกอบอาหารแบบจริงจังได้เลยพร้อม

ที่ด้านล่างจะมีชุดตู้ใต้อ่าง ตู้ลิ้นชักเลื่อนสำหรับเก็บของทรงสูง และขวามือเป็นช่องสำหรับเก็บเครื่องซักผ้า(ที่ไม่ได้ชิ้นเดียวภายในห้อง)

ถัดไปดูส่วนของห้องน้ำกันบ้างครับ การเดินเข้าออกต้องผ่านเจ้าธรณีซึ่งผมว่ามันดีมากๆเวลาขัดทำความสะอาดห้องน้ำ ไม่ต้องกังวลเจ้าพื้นลามิเนตในห้องจะโดนน้ำเลย ส่วนของระยะการเดินใช้งานต่างๆก็มาตรฐานนะ

ชุดตู้แบบซ่อนพื้นที่เก็บของเหมือนกัน

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกมาอยู่ทางขวามือ

ห้องตัวอย่างสุดท้ายแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom แต่ถ้าเรียกตามกฎหมายมันคือ 1 Bedroom 1 Plus 2 Bath นะครับ 😀  ส่วนขนาดของห้องนี้อยู่ที่ 34.90 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะอยู่ตามปลายปีกอาคาร Y-Shape ซึ่งจะมีจำนวน 6 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น จะเป็นห้องที่อยู่ริม รับวิวได้พิเศษที่ควบคู่ไปกับการออกห้อง”หน้ากว้าง”นั่นเองครับ เริ่มจากเข้ามาในห้องซ้ายมือเป็นส่วนของห้องน้ำ ขวามือเป็นครัวร่วมกับพื้นที่ทานอาหารเล็กๆ แต่จะเชื่อมต่อกับ Living Area (แต่จะไม่มีระเบียงนะครับ) ซึ่งฝั่งซ้ายมีการแจกเป็นห้องอเนกประสงค์ (ที่ทำเป็นห้องนอนเล็กได้)มีระเบียงในตัว ส่วนฝั่งขวามือเป็นห้องนอนใหญ่รับวิวพิเศษหน้าต่างช่องแสงอย่างกว้าง 2 มุม มีพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำในตัว

เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้ว ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ มองตรงกลางเป็นตู้ Built-In สำหรับเก็บรองเท้า และขวามือเป็นโซนครัว

หน้าตาตู้เก็บรองเท้าเหมือนเดิม ยังวางเพิ่มได้อีกหน่อยที่พื้น และวางของใช้ทั่วไปอย่างพวกกุญแจ กระเป๋าเงิน ที่ต้องหยิบก่อนออกจากบ้าน

ในส่วนของห้องน้ำห้องนี้ที่ต้องใช้ร่วมกับห้องนั่งเล่นและห้องนอนเล็ก

ถึงแม้จะมีระยะการใช้งานที่เล็กกว่าห้องน้ำอื่นที่ผ่านมา แต่ก็ยังดีที่มีฟังก์ชั่นสำหรับอาบน้ำเอาไว้ให้ด้วย

โดยลักษณะการเปิดของ Shower Box ห้องนี้จะเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน เปิดออกจากตัว เวลาเข้าไปใช้งานก็เข้าไปบริเวณมุมแบบนี้ครับ พื้นที่อาบน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 0.75 x 0.80 เมตร

ออกมาจากห้องน้ำแล้ว เรามองไปจะเห็นฟังก์ชั่นการใช้งานสามส่วนที่เชื่อมต่อกันเริ่มจากทางขวามือไล่ไปคือ ครัว, รับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ที่ได้รับช่องแสงธรรมชาติร่วมกัน

วัสดุโซนครัวจะเหมือนก่อนๆ แต่ถูกจัดวางไว้ชิดกับประตูทางเข้าแบบนี้ พร้อมมีตำแหน่งมุมวางตู้เย็นพอดี

ส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารที่อยู่ใกล้กันเลยเป็นแบบ 2 ที่นั่ง ชุดนี้เราก็ได้เช่นกันนะครับ หน้าตาดูดีทีเดียว

มาดู Living Area กันบ้างห้องนี้ได้โซฟาแบบ 3 ที่นั่งอยู่ใกล้ช่องแสง แต่จะไม่มีระเบียงนะครับ เพราะถูกเอาไปวางที่ห้องนอนเล็ก(หรือห้องอเนกประสงค์) แต่ก็ได้ช่องแสงมาใหญ่พอสมควร

ระยะดูทีวีที่กว้างที่สุดในทุกห้องที่ผ่านมาคือ 2.40 เมตร ทำให้วางโต๊ะกลางแบบนี้แล้วเดินไปมาสะดวก

การเปิดออกของหน้าต่างที่มุมนี้จะเป็นแบบบานกระทุ้งออกได้ประมาณ 40 องศา

ด้านหลังชั้นวางทีวีจะมีประตูทางเข้าห้องนอนเล็ก(หรือห้องอเนกประสงค์) ตำแหน่งของแอร์ห้องนั่งเล่นอยู่เหนือประตูนี้พอดี

ภายในห้องอเนกประสงค์ที่จัดเอาไว้ให้ดูเป็นห้องนอน ซึ่งเหมือนห้องตัวอย่างจะหันตำแหน่งหัวเตียงผิดนะครับ ถ้าจะวางเหมือนในแปลน(ลองย้อนขึ้นไปดู) จะได้ตำแหน่งการใช้งานที่เหมาะสมกว่า

ส่วนของระเบียงความกว้างประมาณ 60 ซม. ยาวประมาณ 1.50 เมตร พอใช้งานได้นิดหน่อย

พื้นที่จัดเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ หันลมร้อนออกด้านนอกอาคาร

เราไปดูห้องนอนหลักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันบ้างครับ

พื้นที่ทางเดินต่างค่อนข้างพอดีจากตำแหน่งของเฟอร์ต่างๆที่โครงการให้มา ทางขวามือเป็นประตูห้องน้ำ

ไฮไลท์ของห้องนี้คือ ช่องแสงขนาดใหญ่รับวิวสองด้านแบบนี้ครับ ซึ่งห้องตำแหน่งนี้จะอยู่ที่ตามมุมอาคารด้วย

ให้ดูพื้นที่ทางเดินรอบๆ ก็ไม่แย่นะครับ เหลือได้ประมาณฝั่งละ 70 ซม.กว่า

ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ และแอร์ด้านบนประตู

พื้นที่ระยะการใช้งานต่างๆจะดีกว่าห้องน้ำด้านนอกพอสมควร

ส่วนของพื้นที่อาบน้ำห้องนี้ได้มาแบกว้างๆเลย 0.90 x 1.50 เมตร อาบแบบสบายๆชิลๆไป

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 June 2017

  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 25 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.49 – 2.2 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 1 Bathroom ขนาด 31.5 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.2 – 2.7 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 34.9 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.3 – 3.09 ล้านบาท

  • Fully Furnished (All Furniture Built-In)
  • แอร์ตามขนาดห้อง 2-3 ตัว, ผ้าม่าน, ผนังติดวอลเปเปอร์
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างตามห้องตัวอย่าง ยกเว้นเครื่องซักผ้า
  • ฝ้าเพดานสูง 3.0 เมตร
  • Kitchen & Sink | Hob & Hood by Hafele
  • จอง n/a บาท และ ทำสัญญา n/a บาท (สอบถามเซลล์หน้างาน)
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด (สอบถามเซลล์หน้างาน)
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล Notting Hill Skyscraper ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศน์ฝั่งขาเข้า 400 เมตร ก่อนถึงแยกถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เวลามาจากในเมืองวิ่งเส้นงามวงศ์วานขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย เลยต่อมาอีกอันนึงเจอสะพานยูเทิร์นเกือกม้าที่กลับมาเซ็นทรัล แต่เราจะเลยมาอีกหน่อยจะมีจุดกลับรถก่อนตัดแยกถนนสนามบินน้ำ ยูเทิร์นแล้ววนกลับมา 850 เมตร โครงการอยู่ทางซ้ายมือ

ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการในระยะเดินได้ นี่น้อยครับ แทบไม่ค่อยจะมีร้านอาหาร ร้านค้าใกล้ๆเลย โชคดีที่ก่อนถึงโครงการนิดเดียวหน้าโชว์รูมนิสสันมีสะพานลอยครับ และตรงเชิงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหารพอพึ่งได้ครับ… แต่ถ้าไม่เดินและใช้รถ หรือพี่ Taxi นี่กลายเป็นคนละเรื่องละ เพราะระยะขับรถสบายๆ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มไปหมด เช่น Central รัตนาธิเบศน์ +Index ที่ระยะ 650 เมตร Big C ฝั่งตรงข้าม, โรงหนัง Esplanad ตรงก่อนถึงแยกแคราย ด้านหลังมี Tesco Lotus, พันธุ์ทิพย์ 2 ตรงเลยแครายไปหน่อย The Mall งามวงศ์วาน และถ้าเลี้ยวขวาเลียบคลองประปาตรง The Mall มี Home Pro กะ Lotus  ใกล้ๆก็มีโรงพยาบาลนนทเวช ติด The Mall, แถมฝั่งตรงข้าม The Mall เป็นศูนย์ติวเตอร์นะครับ เด็กมาเรียนพิเศษ อยู่ที่นี่ก็ไปมาง่ายสะดวกอยู่ด้วยรถเมล์ครับ

การเดินทางด้วยรถ จุดเด่นคืออยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศน์ ไม่ต้องเข้าซอยใดๆ ตัวโครงการตั้งอยู่ในช่วงแยกรัตนาธิเบศน์ตัดสนามบินน้ำ และแยกรัตนาธิเบศน์ตัดเลี่ยงเมืองนนทบุรี แปลว่ามีทางเลือกในการเดินทาง (เมื่อเราเช็ค Google Maps ว่าทางแยกแครายรถติดหนักมาก) เราสามารถใช้ทางเลี่ยงเมืองนนทบุรี จะพาเราไปตัดออกสนามบินน้ำออกปากเกร็ด แจ้งวัฒนะโน่นเลย หรืออีกด้านก็ไปออกติวานนท์ หรือท่าน้ำนนท์ มุ่งหน้าไปบางซื่อ เลี่ยงเข้าเมืองได้อีกทาง… ส่วนเวลากลับมาที่โครงการ โดยไม่ต้องผ่านแคราย ก็วิ่งเกาะเส้นสนามบินน้ำ ยูเทิร์นใต้สะพานข้ามแม่น้ำ ตรงกลับมาที่โครงการได้อีก | ข้อเสียของทำเลนี้ ก็มีเหมือนกันครับ คือเดินทางเข้าเมืองไกลหน่อย และถ้าใช้รถ ก็ค่อนข้างติดตอนช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นที่แยกแครายครับ และด่านเก็บเงินขาเข้าเมืองตรงประชาชื่นนี่ บางวันติดมากกกก

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เลย รถเมล์มีผ่านนะครับ แต่ว่าไม่ได้บ่อยนัก ต้องรถนานเหมือนกัน / Taxi มีผ่านมาเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นฝั่งขาเข้าเมือง และอยู่ก่อนจะถึง Central พี่ Taxi เค้าต้องผ่านเพื่อหวังเก็บคนที่หน้า Central อยู่แล้ว / จุดเด่นของที่นี่คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะไปเชื่อมกับ MRT ใต้ดิน ตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า แยกนนทบุรี1 อยู่ราวๆ 250 เมตร ทางขึ้นอยู่ตรงแกรด์โฮมมาร์ทด้วยไม่เปลี่ยวเลย วันไหนเบื่อๆชิวๆเซ็นทรัลรัตนาฯก็นั่งไป Central Westgate เปลี่ยนบรรยากาศได้อนาคตจะมี IKEA มาเปิดด้วยอยู่ระหว่างก่อสร้าง

วัสดุ โครงการนี้เรียกให้มาคุ้ม กับราคาที่ต้องจ่ายแน่นอน ถึงแม้จะไม่ได้เป็นของพรีเมียมแต่มันครบจริงเอาตัวเปล่าๆเข้ามาอยู่ได้เลย เริ่มจากความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3.0 เมตร ที่ไม่มีใครแถวนี้ให้แน่นอน พื้นลามิเนตกับกระเบื้องทั่วไป แต่ว่าขายแบบ Fully Furnish (All Furniture Built-In), แอร์ตามขนาดห้อง 2-3 ตัว, ผ้าม่าน, ผนังติดวอลเปเปอร์,เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างตามห้องตัวอย่าง ยกเว้นเครื่องซักผ้า ห้องน้ำได้ฉากกั้นของในห้องน้ำ American Stantdard ชุดครัว Hob&Hood by Hafele โอ้ยยย… เยอะได้อีก 😀

การออกแบบ เริ่มจากแนวคิดรูปทรงอาคาร Y-Shape ที่ต้องการเปิดมุมและวิวกว่า 120 องศา ได้ถึง 3 ด้าน การเลือกโทนสีอาคารที่ดูโดดเด่นฉีกออกไปจากเพื่อนบ้านทั้งหมดทำให้ดูเด่นสะดุดตาแน่นอน

สาธารณูปโภค ที่โครงการนี้เรียกว่าจัดเต็มมากกับคอนเซ็ปท์ใหม่ของออริจิ้นคือ Another Home ที่มากไปด้วยส่วนกลางโดยเสมือนว่าส่วนกลางทั้งหมดเป็นเสมือนพื้นที่อยู่อาศัยพิเศษที่ไม่ต้องอยู่แต่ในห้องตัวเอง มีให้เลือกหลากหลายและจัดวางเอาไว้ถึง 4 ชั้นหลักๆได้แก่ ชั้น 1 : แกรนด์ ล็อบบี้ (Grand Lobby), Co-Working Space, ห้องอ่านหนังสือส่วนตัว, Outdoor Living Area, มีที่จอดรถจักรยาน / ชั้น 8 : สระว่ายน้ำระบบเกลือ ทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เมตร มีแยกส่วนสระว่ายน้ำเด็ก, ห้องเอนเตอร์เทนเมนต์ (Entertainment Room), ห้องครัวส่วนกลาง (Co-Kitchen), ห้องพื้นที่สำหรับเด็ก (Kid-Space), บริการเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า (Laundry), ล็อกเกอร์รูม, ห้องอาบน้ำส่วนกลาง, ห้องอบไอน้ำ (Steam Room), พื้นที่สวน (Green Area) / ชั้น 9 : ห้องออกกำลังายพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำ (ยังไม่ระบุจำนวนเครื่อง), ห้องโยคะ (Yoga Room) / ชั้น 46-48 : สวน, BBQ-Terrace, Sky Lounge | เรียกว่าให้มาเหมาะสมกับยูนิตที่สูงตามกันเยอะดี

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 78,000 บาท/ตร.ม., 2 June 2017

  • ทำเล 7.75/10 – ทำเลดีใช้ได้ติดถนนรัตนาธิเบศร์  ใกล้เซ็นทรัล น่าเสียดายที่ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการน้อยไปนิด
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวกในบริเวณนนทบุรี ข้ามสะพานง่าย รถติด(มีทางอ้อมที่เลี่ยงนนฯ) ที่จอดรถมีน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ติดถนนใหญ่สะดวกและมีทางเลือกเยอะ เดินไปรถไฟฟ้า 250 เมตร และไม่เปลี่ยว
  • วัสดุ 9/10 – วัสดุที่ได้อยู่ระดับมาตรฐานค่อนข้างดี, Fully Furnished, พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า, เพดานสูง 3 เมตร
  • แบบ 8.25/10 – ออกแบบมาได้ค่อนข้างดี สวยเกินราคา ฟังค์ชั่นการใช้งานในห้องดีใช้ได้เลย เหมาะกับคนชอบความเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีจำนวนลูกบ้านเยอะ แต่ก็ให้มาเยอะตามและหลากหลายน่าใช้มาก มีส่วนกลางที่ชั้นบนเป็นอะไรที่ดี

  • MAIN CLASS
  • 8.1 / 10.00

BOTTOM LINE

Notting Hill Skyscraper @ เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซน นนทบุรี-รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน มองหาบ้านที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง หวังพึ่งพาความสะดวกของรถไฟฟ้าเส้นใหม่ในการเดินทางในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกัน ก็อยากจะได้ความสะดวกสบายจากห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียง ในระยะที่ขับรถไปได้ไม่ไกล ชอบส่วนกลางหลากหลาย และมีงบเยอะหน่อยก็เอาใจคนรักวิวได้ด้วย ในงบประมาณ 1.5 – 3.2 ล้านบาท หรือกำลังผ่นชำระต่อเดือนประมาณ 10,500 – 22,500 บาท/เดือน

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก