หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง
(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2563)
หลักสูตรสหวิทยาการ
1. ชื่อหลักสูตร
ภาษาไทย :หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาและการ บริหารงานก่อสร้าง
ภาษาอังกฤษ :Master of Engineering Program in Civil Engineering and Construction Management
2. ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
ชื่อเต็ม (ไทย) : วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง)
ชื่อย่อ (ไทย) : วศ. ม. (วิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง)
ชื่อเต็ม (อังกฤษ) : Master of Engineering (Civil Engineering and Construction Management)
ชื่อย่อ (อังกฤษ) : M. Eng. (Civil Engineering and Construction Management)
3. หน่วยงานที่รับผิดชอบสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
4. ปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
4.1) ปรัชญาหลักสูตร
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นการศึกษาต่อยอดพื้นฐานความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมจากระดับปริญญาบัณฑิต โดยจัดให้มีการเรียนแบบสหวิทยาการที่รวมเอาศาสตร์ของวิศวกรรมโยธาเพื่อการบริหารจัดการงานก่อสร้างและสาธารณูปโภคประเภทต่าง ๆ ได้แก่ งานโครงสร้าง งานดิน งานชลประทาน งานจราจรขนส่ง งานสุขาภิบาล งานสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีการก่อสร้าง นักศึกษาได้ศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อให้เข้าใจกระบวนการของงานโครงการก่อสร้างทุกขั้นตอน ตั้งแต่การริเริ่มโครงการ การศึกษาความเป็นไปได้ ความคุ้มค่า การวิเคราะห์ทางวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารงานก่อสร้าง การวางแผนและควบคุม จัดโครงสร้างทีมงาน บริหารทรัพยากร การส่งมอบ จนถึงการใช้งานและ บำรุงรักษาสิ่งก่อสร้าง และเข้าใจเป้าหมายและหน้าที่ของทีมงานในมุมมองที่หลากหลาย รวมทั้งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้บริหารพัฒนาโครงการก่อสร้าง หรือบริหารงานก่อสร้างและสาธารณูปโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านคุณภาพ เวลาและต้นทุน ดังมีปรัชญาของหลักสูตรในระดับต่างๆ ดังนี้
มุ่งเน้นให้นักศึกษามีองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง มีจริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพ รวมทั้งมีความสามารถในทำงานวิจัยและพัฒนาเพื่อให้บัณฑิตมีความสามารถควบคุมงาน บริหารโครงการ และแก้ไขปัญหาในโครงการด้านวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ต้นทุน คน วัสดุ และเครื่องจักร) และมีคุณธรรม นอกจากนี้ มีความรู้พื้นฐานทางวิชาการเข้มแข็งและความสามารถด้านงานวิจัยที่สามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก
การจัดการศึกษาของหลักสูตรดำเนินการให้สอดคล้องกับที่กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดกรอบแนวคิดเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ การปฏิรูปการศึกษาไปสู่ผลลัพธ์ Thailand 4.0 โดยจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนให้เป็นพลเมืองไทย 4.0 ผลิตบุคลากรที่มีความพร้อมด้านทักษะและองค์ความรู้ อันได้แก่ ทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะเทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะอ่านเข้าใจสามารถนำไปวิเคราะห์ได้ การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ การเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถนำความรู้ประยุกต์ใช้ได้ ทักษะ การคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สิ่งสำคัญต้องมีจิตสาธารณะ มีคุณธรรม จริยธรรม
4.2) วัตถุประสงค์หลักสูตร
หลักสูตรนี้ออกแบบเพื่อให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษา มีคุณสมบัติดังนี้
เป็นวิศวกรมืออาชีพ
มีความก้าวหน้าและความเติบโตทางวิชาชีพ
ใช้ความรู้ความสามารถในการบริการสังคมได้อย่างดีเยี่ยม
4.3) ผลลัพธ์การเรียนรู้ (Expected Learning Outcomes)
ผลการเรียนรู้ของหลักสูตร
-
มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการจัดการวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านคุณภาพ ต้นทุน และเวลา
เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีพที่สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในงานวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีทักษะในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานในยุค ประเทศไทย 4.0
มีบุคลิกผู้บริหารที่น่าเชื่อถือและมีทักษะในการติดต่อสื่อสาร การประสานงาน และการนำเสนอ
มีจรรยาบรรณแห่งผู้บริหารและมีผู้รับผิดชอบต่อสังคม
ผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน
1. คุณธรรม จริยธรรม (Ethics and Morals)
(1) สามารถจัดการเกี่ยวกับปัญหาทางคุณธรรม จริยธรรมที่ซับซ้อนในบริบททางวิชาการหรือวิชาชีพ
(2) สามารถใช้ดุลยพินิจอย่างผู้รู้ ด้วยความยุติธรรม ด้วยหลักฐาน ด้วยหลักการที่มีเหตุผลและค่านิยมอันดีงาม จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้
(3) มีภาวะความเป็นผู้นำในการส่งเสริมให้มีการประพฤติปฏิบัติตามหลักคุณธรรม จริยธรรมในที่ทำงานและชุมชน
(4) สนับสนุนอย่างจริงจังต่อการใช้ดุลยพินิจทางด้านคุณธรรม จริยธรรมในการจัดการกับความขัดแย้งและปัญหาที่มีผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
(5) แสดงออกหรือสื่อสารข้อสรุปของปัญหาโดยคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบ
2. ด้านความรู้ (Knowledge)
มีความรู้และความเข้าใจทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ในระดับที่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้กับงานวิจัยและการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
มีความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง ทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติในเนื้อหาเฉพาะของสาขาวิชา
มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการวิจัยและการพัฒนาข้อสรุปจากผลการวิจัยซึ่งเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชาวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง
สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการที่เหมาะสม รวมถึงการประยุกต์ใช้เครื่องมือวิจัยที่เหมาะสม
มีความรู้ที่เป็นปัจจุบันของสาขาวิชาและสามารถนำความรู้นั้นมาใช้ในการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นองค์รวม
3.ด้านทักษะทางปัญญา (Cognitive Skills)
(1) สามารถใช้ความเข้าใจอันถ่องแท้ในทฤษฎีและเทคนิคการแสวงหาความรู้ในการวิเคราะห์ประเด็นและปัญหาสำคัญได้อย่างสร้างสรรค์
(2) สามารถสืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ
(3) สามารถคิด วิเคราะห์ และพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านวิศวกรรมการบริหารงานก่อสร้างและสาธารณูปโภคได้อย่างมีระบบ รวมถึงการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(4) สามารถสังเคราะห์ผลการวิจัยและทฤษฎีเพื่อใช้ในการพัฒนานวัตกรรมหรือต่อยอดองค์ความรู้จากเดิมได้อย่างสร้างสรรค์
(5) สามารถออกแบบและดำเนินการโครงการวิจัยที่สำคัญในเรื่องที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ
4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (Interpersonal Skills and Responsibility)
(1) สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลายด้วยภาษาไทยและภาษาต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ความรู้ในสาขาวิชาชีพมาสื่อสารต่อสังคมได้ในประเด็นที่เหมาะสม
(2) สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์เชิงสร้างสรรค์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ
(3) สามารถแสดงความเห็นทางวิชาการและวิชาชีพได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและชัดเจน
(4) รู้จักบทบาท หน้าที่ และมีความรับผิดชอบในการทำงานทั้งงานของตนเองและงานกลุ่ม สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตาม วางตัวได้เหมาะสมกับความรับผิดชอบ
(5) มีจิตสำนึกความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการทำงานและการรักษาสภาพแวดล้อม
5.ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Numerical, Communication and Information Technology Skills)
(1) สามารถคัดกรองข้อมูลทางคณิตศาสตร์และสถิติเพื่อนำมาใช้ในการศึกษาค้นคว้าในประเด็นปัญหาที่สำคัญและซับซ้อน
(2) สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
(3) สามารถนำเสนอรายงานทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านสิ่งตีพิมพ์ทางวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งวิทยานิพนธ์หรือโครงการค้นคว้าที่สำคัญได้
(4) มีทักษะในการสื่อสารข้อมูลทั้งการพูด การเขียน และการสื่อความหมายโดยใช้สัญลักษณ์
(5) สามารถใช้เครื่องมือในการคำนวณและเครื่องมือทางการวิจัย
ความคาดหวังของผลการเรียนรู้เมื่อสิ้นปีการศึกษา
ปีที่ | รายละเอียด |
ชั้นปีที่ 1 | 1. มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการจัดการวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูงสุดในด้านคุณภาพ ต้นทุนและเวลา 2. เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีพที่สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในงานวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. มีจรรยาบรรณแห่งผู้บริหารและมีผู้รับผิดชอบต่อสังคม |
ชั้นปีที่ 2 | 1. มีทักษะในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานในยุค ประเทศไทย 4.0 2. มีบุคลิกผู้บริหารที่น่าเชื่อถือ และมีทักษะในการติดต่อสื่อสาร การประสานงาน และการนำเสนอ |
5. กำหนดการเปิดสอน ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2563
6. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2563)
ลำดับ | ชื่อ - นามสกุล | คุณวุฒิ สาขาวิชา |
1 | ศ. ดร.สุขสันติ์ หอพิบูลสุข | - Ph.D. (Geotechnical Engineering), Saga University, Japan, พ.ศ.2544 - M.Eng. (Soil Engineering), Asian Institute of Technology, พ.ศ.2541 - วศ.บ. (วิศวกรรมโยธา), มหาวิทยาลัยขอนแก่น, พ.ศ.2539 |
2 | ผศ. ดร.มงคล จิรวัชรเดช | - Ph.D. (Civil Engineering), The University of Tokyo, Japan, 2539 - M.Eng. (Civil Engineering), The University of Tokyo, Japan, 2536 - วศ.บ. (วิศวกรรมโยธา), จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, พ.ศ. 2533 |
3 | ผศ. ดร.สัจจากาจ จอมโนนเขวา | - วศ. ด. (วิศวกรรมขนส่ง), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, พ.ศ. 2558 - วศ. ม. (วิศวกรรมขนส่ง), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, พ.ศ. 2552 - วศ. บ. (วิศวกรรมโยธา), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, พ.ศ. 2555 - วศ. บ. (วิศวกรรมขนส่ง), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, พ.ศ. 2549 |
7. จำนวนนักศึกษา
7.1) หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
ปีการศึกษา | แผนการรับนักศึกษาในระยะเวลา 5 ปี | |||||
หลักสูตรปริญญาโท | ||||||
จำนวนที่รับ | จำนวนที่จบ | |||||
แผน ก1 | แผน ก2 | แผน ข | แผน ก1 | แผน ก2 | แผน ข | |
2563 | 2 | 5 | 40 | - | - | - |
2564 | 2 | 5 | 40 | 2 | 5 | 40 |
2565 | 2 | 5 | 40 | 2 | 5 | 40 |
2566 | 2 | 5 | 40 | 2 | 5 | 40 |
2567 | 2 | 5 | 40 | 2 | 5 | 40 |
รวม | 10 | 25 5 | 200 | 8 | 20 | 160 |
8. หลักสูตร
8.1) จำนวนหน่วยกิต หน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร
แผน กแบบก1การวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์ ไม่น้อยกว่า48 หน่วยกิต
แผน กแบบก2การศึกษารายวิชาและการวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า48หน่วยกิต
แผน ขการศึกษารายวิชาโดยไม่ต้องทำวิทยานิพนธ์ ไม่น้อยกว่า48หน่วยกิต
8.2) โครงสร้างหลักสูตร
แผน ก แบบ ก 1 การวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์
ผู้เข้าศึกษาจะทำงานวิจัยและนำเสนอในรูปของวิทยานิพนธ์โดยไม่ต้องศึกษารายวิชา โดยมีจำนวนหน่วยกิตวิทยานิพนธ์รวมไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต อย่างไรก็ตาม อาจารย์ที่ปรึกษาหรือคณะกรรมการของสาขาวิชาฯ อาจกำหนดให้ผู้เข้าศึกษาต้องศึกษารายวิชาบางวิชาที่อาจจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ของผู้เข้าศึกษาและสามารถเชื่อมโยงเพื่อเป็นประโยชน์ต่องานวิจัย
แผน ก แบบ ก 2 การศึกษารายวิชาและการวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์
ผู้เข้าศึกษาจะศึกษารายวิชาไม่น้อยกว่า 28 หน่วยกิต และทำงานวิจัยและนำเสนอในรูปของวิทยานิพนธ์ โดยมีจำนวนหน่วยกิตวิทยานิพนธ์รวมไม่น้อยกว่า 20 หน่วยกิต รวมเป็นหน่วยกิตรวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต ดังนี้
วิชาแกน16หน่วยกิต
วิชาเลือก12หน่วยกิต
วิทยานิพนธ์20หน่วยกิต
แผน ข การศึกษารายวิชาโดยไม่มีการทำวิทยานิพนธ์
ผู้เข้าศึกษาจะศึกษารายวิชาไม่น้อยกว่า 43 หน่วยกิต และทำงานค้นคว้าอิสระและนำเสนอในรูปของรายงาน โดยมีจำนวนหน่วยกิตโครงงานมหาบัณฑิตไม่น้อยกว่า 5 หน่วยกิต รวมเป็นหน่วยกิตรวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต ดังนี้
วิชาแกน19หน่วยกิต
วิชาเลือก24หน่วยกิต
โครงงาน 5หน่วยกิต
8.3) แผนการศึกษา
แผน ก แบบ ก 1 การวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์
ชั้นปี | ภาคการศึกษาที่ 1 | หน่วย กิต | ภาคการศึกษาที่ 2 | หน่วย กิต | ภาคการศึกษาที่ 3 | หน่วย กิต |
1 | 554701 วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต แบบ ก1 | 3 | 554701 วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต แบบ ก1 | 9 | 554701 วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตแบบ ก1 | 9 |
รวม | 3 | รวม | 9 | รวม | 9 | |
2 | 554701 วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต แบบ ก1 | 9 | 554701 วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต แบบ ก1 | 9 | 554701 วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต แบบ ก1 | 9 |
รวม | 9 | รวม | 9 | รวม | 9 |
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 48 หน่วยกิต
แผน ก แบบ ก 2 การศึกษารายวิชาและทำวิทยานิพนธ์
ชั้นปี | ภาคการศึกษาที่ 1 | หน่วย กิต | ภาคการศึกษาที่ 2 | หน่วย กิต | ภาคการศึกษาที่ 3 | หน่วย กิต |
1 | 554603 การบริหารงานโครงการก่อสร้างขั้นสูง วิชาเลือก (1) | 4 4 | 554604 การบริหารการเงินของงานก่อสร้าง วิชาเลือก (2) | 4 4 | วิชาเลือก (3) 554702 วิทยานิพนธ์ มหาบัณฑิต แบบ ก2 | 4 3 |
รวม | 8 | รวม | 8 | รวม | 7 | |
2 | 554601 ระเบียบวิธีวิจัยทางวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง 554702 วิทยานิพนธ์ มหาบัณฑิต แบบ ก2 | 4 3 | 554602 สัมมนาและการนำ 554702 วิทยานิพนธ์ มหาบัณฑิต แบบ ก2 | 4 4 | 554702 วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต แบบ ก2 | 10 |
รวม | 7 | รวม | 8 | รวม | 10 |
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 48 หน่วยกิต
แผน ข การศึกษารายวิชาโดยไม่มีการทำวิทยานิพนธ์
ชั้นปี | ภาคการศึกษาที่ 1 | หน่วย กิต | ภาคการศึกษาที่ 2 | หน่วย กิต | ภาคการศึกษาที่ 3 | หน่วย กิต |
1 | 554603 การบริหารงานโครงการก่อสร้างขั้นสูง วิชาเลือก (1) | 4 4 | 554604 การบริหารการเงินของงานก่อสร้าง วิชาเลือก (2) | 4 4 | วิชาเลือก (3) วิชาเลือก (4) | 4 4 |
รวม | 8 | รวม | 8 | รวม | 8 | |
2 | 554601 ระเบียบวิธีวิจัยทางวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง วิชาเลือก (5) | 4 4 | 554602 สัมมนาและการนำเสนอรายงานทางวิศวกรรม วิชาเลือก (6) | 4 4 | 554605 การนำเสนอโครงงานมหาบัณฑิต 554670 โครงงานมหาบัณฑิต | 3 5 |
รวม | 8 | รวม | 8 | รวม | 8 |
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 48 หน่วยกิต
9. คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
9.1) คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยการศึกษาขั้นบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2560 หมวด 1 ข้อ 8.3
(1) ปริญญาโท จะต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
10. การพัฒนาหลักสูตร
พัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
ส่งเสริมให้มีความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพกับองค์กรภายนอกทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำรวจความพึงพอใจของหลักสูตรจากผู้สำเร็จการศึกษา
สำรวจความพึงพอใจจากผู้ใช้บัณฑิต
สนับสนุนบุคลากรด้านการเรียนการสอนให้ทำงานวิจัยในเชิงลึกและ/หรือ โดยใช้โจทย์ปัญหาจากอุตสาหกรรม
สนับสนุนบุคลากรด้านการเรียนการสอนให้ทำงานบริการวิชาการแก่องค์กรภายนอก
สนับสนุนบุคลากรด้านการเรียนการสอนให้เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ
11. ความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
การพัฒนาหลักสูตรสอดคลองกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่เน้นการเป็นมหาวิทยาลัยวิจัย เพื่อการสร้างความเป็นเลิศในการประยุกต์เทคโนโลยี รวมไปถึงพัฒนานวัตกรรมใหม่ให้สามารถปรับเปลี่ยนและถ่ายทอดไปยังภาคอื่นของประเทศได้ ซึ่งเป็นภาระหนึ่งของพันธกิจด้านการผลิตบัณฑิตของมหาวิทยาลัย
12. คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร
รายนามคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาและการบริหารงานก่อสร้าง (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2563) ดังนี้
1.รองศาสตราจารย์ เรืออากาศเอก ดร.กนต์ธร ชำนิประศาสน์เป็นที่ปรึกษา
2.ศาสตราจารย์ ดร.สุขสันติ์ หอพิบูลสุข เป็นประธาน
3. รองศาสตราจารย์ ดร.วชรภูมิ เบญจโอฬาร เป็นกรรมการ
4.นายสุวิชา เศวตศิลา *เป็นกรรมการ
5.ดร.อิทธิกร ภูมิพันธ์ * เป็นกรรมการ
6.ดร.อภิชาติ สุดดีพงษ์ *เป็นกรรมการ
7.รองศาสตราจารย์ ดร.พรศิริ จงกล เป็น กรรมการ
8.รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญกมล ดอนขวา เป็นกรรมการ
9.รองศาสตราจารย์ ดร.เนตรนภิส ตันเต็มทรัพย์ เป็นกรรมการ
10.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มงคล จิรวัชรเดช เป็นกรรมการ
11.อาจารย์ ดร.รัตนาภรณ์ เกษมศรี เป็นกรรมการ
12.อาจารย์ ดร.Menglim Hoy เป็น กรรมการ
13.อาจารย์ แพทย์หญิงจิตรวดี หอพิบูลสุข เป็นกรรมการ
14.องศาสตราจารย์ ดร.อวิรุทธิ์ ชินกุลกิจนิวัฒน์เป็นกรรมการและเลขานุการ
หมายเหตุ * หมายถึง กรรมการภายนอก