จังหวัด กรุงเทพมหานคร (เขตจตุจักร)
อัตราค่าจ้าง 15,000.00 ขึ้นไป
รูปแบบงาน งานประจำ (Full Time)
อัตรา 2 อัตรา
รายละเอียดงาน
- ทำขนมเบเกอรี่ได้หลากหลาย
- ควบคุมสต๊อก ต้นทุน ในการขาย
- งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
คุณสมบัติผู้สมัคร
- 1. เพศชาย,หญิง - อายุ 25 ปีขึ้นไป
- 2.จบวุฒิการศึกษา - ตั้งแต่ ปวช.- ปริญญาตรี
- 3.มีประสบการณ์อย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป
สวัสดิการ
- ประกันสุขภาพ กรณีเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล
- ประกันอุบัติเหตุ (PA)
- เบี้ยขยันเพิ่มเติมจากเงินเดือน
- ฟรีชุดยูนิฟอร์ม
- เงินช่วยเหลือพิธีมงคลสมรส
- เงินช่วยเหลืองานศพ
- เงินช่วยเหลืองานบวช
- โบนัสประจำปี
- ปรับเงินเดือนประจำปี ฯลฯ
สถานที่ปฏิบัติงาน
บริษัท เจ.เจ.มอลล์ จำกัด
วิธีการรับสมัครงาน
สนใจสามารถส่งหลักฐานการสมัครงานพร้อมประวัติการทำงานและเงินเดือนที่ต้องการ ที่อยู่และเบอร์โทรติดต่อกลับมาได้ที่ E-mail จดหมาย หรือยื่นหลักฐานการสมัครงานได้ด้วยตนเองที่ :
บริษัท เจ.เจ. มอลล์ จำกัด
588 ชั้น 6 ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์ : แผนกบุคคล 0-2265-9999 ต่อ 402,403,404
E-mail :
บริษัท เจ.เจ.มอลล์ จำกัด
เลขที่ 588 ชั้น 6 ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
ติดต่อ แผนกกฎหมายและทรัพยากรมนุษย์
โทรศัพท์ : 0-2265-9999 ต่อ 402,403,404
แฟกซ์ : 0-2265-9669
×
รายละเอียดบริษัท
บริษัท เจ.เจ. มอลล์ จำกัด
ศูนย์การค้า เจ.เจ. มอลล์ ตลาดนัดติดแอร์ แหล่งรวมสินค้า แบบครบวงจร มีคุณภาพและราคาถูกจากแหล่งต่างๆ เช่น ใบหยก โบ้เบ้ สินค้าพื้นเมือง สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สินค้านำเข้า เปิดบริการทุกวันภายใต้ความทันสมัย ศูนย์การค้า เจ.เจ. มอลล์ ถือได้ว่าเป็นแหล่งการค้าที่รองรับลูกค้าทุกระดับพร้อมที่จอดรถยนต์ ทางโครงการเองได้จัดแบ่งโซนประเภทสินค้าในแต่ละโซน อาทิ
ชั้นใต้ดิน (G) สินค้าแฟชั่น (เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
เครื่องประดับทั้งในและต่างประเทศ) สินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ของ Handmade เครื่องหอม ดอกไม้แห้ง coffee shop ปลาสวยงาม อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ตลาดผลไม้ ตลาดสด
ชั้น 1 (F) สินค้านำเข้า- ส่งออก จำหน่ายสินค้าปลีกและส่ง เครื่องแต่งกายบุรุษ สตรี และเด็ก กระเป๋า รองเท้า เครื่องหนัง แว่นตาแฟชั่น ร้านจิวเวอรี่ ร้านทอง กิ๊ฟชอป ธนาคาร ร้านอาหาร Brand Inter
ชั้น 2 (S) สินค้าของตกแต่งบ้าน Antique งานศิลป์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ศูนย์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์มือถือ ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ ร้านเทปและซีดี ร้านเสริมสวย สปา คลินิก ร้านหนังสือ ร้านขายยา ไปรษณีย์ ร้านอาหาร Brand Name และศูนย์อาหารนานาชาติ
ซึ่งพื้นที่โซนการค้าในแต่ละโซนจะมีจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นตัวช่วยดึงดูดลูกค้าในการเดินจับจ่ายซื้อสินค้าที่ศูนย์การค้า เจ.เจ. มอลล์ อย่างทั่วถึง
ปัจจุบัน บริษัทมีความต้องการบุคคลากรมาร่วมงานในตำแหน่งดังนี้
ที่มาจาก JobTH.com วันที่ : 11 ตุลาคม 2565
ดูทั้งหมด > ตำแหน่งงานว่าง บริษัท เจ.เจ.มอลล์ จำกัด
แคชเชียร์
แคชเชียร์
กรุงเทพมหานคร (เขตจตุจักร )
อัตรา: 2 ตำแหน่ง
อัตราค่าจ้าง: ตามตกลง + ค่านั่งเครื่อง + เบี้ยขยัน
Copyright 2008-2022, All Rights Reserved.
หน้าที่รับผิดชอบของเชฟเบเกอรี่เหมือนกับเป็นนักวิทยาศาสตร์และนักศิลปะในคนๆ เดียวกัน เพราะเราต้องรับผิดชอบผลงานซึ่งก็คือ ขนมเบเกอรี่ของเรา ด้วยการเตรียมส่วนผสมให้ถูกต้องครบถ้วนเพราะถ้าผิดเพี้ยนเพียงนิดหน่อยขนมของเราจะเปลี่ยนไปทันที และต้องใส่จินตนาการ ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในขนมของเราว่าหน้าตาควรจะออกมาเป็นอย่างไรให้น่ารับประทาน
หัวใจสำคัญของอาชีพจึงอยู่ที่ความสร้างสรรค์ที่เราจะต้องสรรหาขนมเบเกอรี่ใหม่ๆ มาให้ลูกค้า และต้องมีความรับผิดชอบให้ขนมของเรามีคุณภาพและมีประโชน์กับลูกค้า
ขั้นตอนการทำงานของอาชีพนี้ เริ่มต้นจากการระบุว่ามีขนมอะไรบ้างที่เราจะต้องทำหรือต้องรับผิดชอบ โดยถ้าเป็นร้านเบเกอรี่ของตนเองก็อาจจะดูจากว่าเราต้องการเพิ่มเติมขนมประเภทใดลงในตู้หน้าร้านของเรา จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำขนมประเภทนั้นๆ
ในขั้นตอนของการลงมือทำก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทขนม ก็จะมีทั้งผสมวัตถุดิบ นวด คน อบ พัก ฯลฯ โดยในขั้นตอนนี้เราก็จะต้องใช้ทักษะการบริหารจัดการ เช่น ในช่วงพักขนมก็ล้างอุปกรณ์ ในระหว่างอบขนมอย่างหนึ่งก็เตรียมผสมส่วนผสมของขนมอีกอย่างหนึ่ง เป็นต้น ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะเรามีเวลาจำกัดในการทำขนม เราจะต้องนำออกมาวางก่อนร้านเปิดหรือขนส่งออกไปให้ร้านต่างๆ ก่อนที่ร้านจะเปิด
ขั้นตอนสุดท้ายของการทำงานก็จะเป็นการรักษาความสะอาดของครัวทำขนมและจักเตรียมอุปกรณ์สำหรับพร้อมใช้ในวันต่อๆ ไป
นอกจากกการลงมือทำขนมแล้ว หน้าที่ของเชฟเบเกอรี่ก็ยังรวมถึงการค้นคว้าเรียนรู้สูตรขนมใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
เชฟเบเกอรี่จะต้องทำงานร่วมกับฝ่ายอื่นๆ ในร้าน เช่น ทำงานร่วมกับพนักงานขายเพื่อรับรู้ว่าเราขายขนมอะไรไปบ้างและต้องทำขนมอะไรเพิ่มเติม ลูกค้าเป็นอย่างไรชอบแบบไหน, ทำงานร่วมกับฝ่ายจัดซื้อเพื่อแจ้งว่าต้องการวัตถุดิบอะไรบ้างในการทำขนม ต้องการปริมาณเท่าใด ต้องการเมื่อไหร่ หรืออาจจะต้องคุยกับเจ้าของร้านหรือที่ปรึกษาร้านอาหาร (หรืออาจจะแค่ครีเอทีฟของร้าน) อีกว่าต้องปรับขนมให้เข้ากับช่วงเวลาเทศกาลหรือไม่ อย่างไร
อาชีพเชฟเบเกอรี่อยู่ในหลายประเภทธุรกิจ ทั้ง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ โรงแรม เป็นต้น
อาชีพเชฟเบเกอรี่เป็นอาชีพที่ไม่มีเวลาตายตัวขึ้นอยู่กับประเภทขนมที่เราต้องทำ ขนมแต่ละประเภทก็จะใช้เวลาเตรียมไม่เท่ากัน บางอย่างเตรียมหนึ่งชั่วโมง บางอย่างใช้เวลาเตรียมมากกว่านั้น หรือขนมแต่ละอย่างก็ใช้เวลาอบไม่เท่ากัน หรือบางทีเราก็ต้องทำขนมหลายประเภท เราก็ต้องทำงานตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเวลาเลิกงาน
ถ้าให้ระบุเป็นเวลาทำงานถ้าเป็นเชฟเบเกอรี่ที่เป็นพนักงานก็จะทำงานเป็นกะ กะละ 7 ชั่วโมงและเมื่อครบกะเราก็จะส่งมอบหน้าที่งานให้กับเชฟอีกคนที่มารับหน้าที่ต่อจากเรา แต่ถ้าเป็นเชฟเบเกอรี่ที่เป็นผู้ประกอบการก็อาจจะต้องเริ่มตั้งแต่ก่อนร้านเปิดไปจนถึงหลังร้านปิด (เช่น แปดโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม)
นิสัยหรือบุคลิกของคนที่น่าจะเหมาะกับอาชีพเชฟเบเกอรี่น่าจะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความละเอียดรอบคอบ สะอาด และต้องรักการเรียนรู้อยู่ตลอด ที่ต้องมีคุณสมบัติอย่างสุดท้ายก็เพราะเดี่ยวนี้แวดวงขนมมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
อาชีพนี้มีส่วนในทุกๆ ช่วงเวลาความสุขของคน ทั้งวันเกิด วันแต่งงาน ฯลฯ เมื่อเราเห็นลูกค้าทานขนมของเราแล้วมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย
ส่วนสิ่งที่ต้องแลกในอาชีพนี้ก็อาจจะมีส่วนคล้ายๆ กับหลายอาชีพในเรื่องการเสียสละเวลาส่วนตัว เพราะช่วงที่ลูกค้าจะต้องการขนมหวานก็จะเป็นช่วงเวลาพักผ่อนเช่นวันหยุด ช่วงเทศกาล ซึ่งเราก็ต้องแลกเวลาของเราในส่วนนี้เพื่อทำขนมให้กับลูกค้า หรือในส่วนของสุขภาพก็อาจจะมีข้อเสียที่เกิดขึ้นกับสุขภาพของเราเพราะงานในครัวเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก การทำซ้ำๆ ประจำๆ ก็จะส่งผลต่อกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อที่แขน มือ ได้ แต่ทั้งนี้ถ้าเราสามารถจัดการตัวเอง เช่นออกกำลังกายหรือแบ่งเวลาได้เราก็จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากผลเสียเหล่านี้
เส้นทางอาชีพของเชฟเบเกอรี่ก็จะคล้ายๆ กับอาชีพเชฟ ที่สามารถขยับไปเป็นได้ทั้ง Food stylist, ที่ปรึกษา, นักคิดค้นสูตร, ผู้ประกอบการ ฯลฯ
อาชีพนี้ไม่จำเป็นต้องเรียนสายตรงมาก็ได้ แต่นั่นหมายความว่าเราจะต้องพยายามและต้องอดทนนกับความเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เพราะเราต้องขวนขวายเรียนรู้พื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นด้วยตนเอง เราต้องเหมือนนักวิทยาศาสตร์ที่คอยทดลองและเรียนรู้ว่าใส่อันนี้ ใส่อันนั้นแล้วรสชาติจะเปลี่ยนไปอย่างไร
สำหรับแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่จะสามารถศึกษาด้วยตัวเองได้ก็สามารถดูได้ตาม Youtube หรืออ่านวิธีการทำที่มีคนเอามาแชร์ลงในอินเทอเน็ตก็ได้เหมือนกัน
*ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ พี่ต้นแบบอาชีพ ในงาน “มหกรรมเปิดโลกการเรียนรู้สู่อาชีพ จังหวัดสุรินทร์” ปี พ.ศ.2560