พระเอกผู้ล่วงลับที่ยึดมั่นแนวทางการดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการกลับจ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด เพื่อสร้าง "ไร่นาป่าสงวน" ทำนา ปลูกข้าว ปลูกมะนาว แม้ในวันนี้เขาจะจากไปแล้ว แต่อุดมการณ์ดังกล่าวก็ได้ถ่ายทอดมายังครอบครัว "สหวงษ์" ให้ได้สานต่อ
แชมเปญ เอ็กซ์
อดีตนางแบบสาวสวยผันตัวจากงานในวงการบันเทิงไปเป็นเกษตรกร ขอดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพระราชดำริ ด้วยการกลับไปทำการเกษตรสวนยาง นาข้าว ในเนื้อที่กว่า 200 ไร่ ที่จ.ฉะเชิงเทรา
แพนเค้ก เขมนิจ
ด้วยความสนใจโครงการตามรอยพระบาทตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงซื้อที่และทำนาร่วมกับ บอย พิษณุ ที่จ.สุรินทร์ เพื่อทำการเกษตร ยึดหลักป่าสามอย่างให้ประโยชน์สี่อย่าง ด้วยการปลูกข้าวทำนา ปลูกกล้วยซึ่งเป็นพืชระยะสั้น รวมถึงปลูกไม้ระยะยาวอย่างมะฮอกกานี ต้นยางนา สะเดา อีกด้วย
น้ำผึ้ง ณัฐริกา
เป็นดาราสาวนักอนุรักษ์ที่มีความสนใจด้านการเกษตรและสมุนไพรอย่างมาก จึงมีโครงการดำเนินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงทำเกษตรกรรมที่ จ.เชียงใหม่ วิจัยพันธุ์พืช แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์เย็นสมุนไพร และชักชวนชาวบ้านมามีส่วนร่วมด้วย
ตุ๊ก ชนกวนันท์
ซิงเกิลมัมหัวใจพอเพียง ตุ๊ก ชนกวนันท์ สร้าง "สุธาทิพย์ฟาร์ม" ปลูกข้าววิถีเกษตรอินทรีย์บนนาข้าวของตนเอง มีโรงสีเอง และเมื่อมีมากพอเกินกว่าที่กินเองจึงมีส่วนที่จำหน่ายได้ ถือเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ดำเนินตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อีกทาง
ณเดชน์ คูกิมิยะ
แม้จะเป็นนักแสดงวัยรุ่นแต่ได้ดำเนินชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการซื้อที่ดิน 3 ไร่ ที่บ้านเกิด จ.ขอนแก่น ขุดบ่อปลา ปลูกผักผลไม้ไว้กินเองและแบ่งปัน นอกจากนี้เตรียมที่จะปลูกบ้านสวนหลังเล็กๆ ด้วย เรียกว่าเป็นการวางรากฐานชีวิตแบบเรียบง่ายเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ปัญญา นิรันดร์กุล
เป็นบุคคลที่ติดอันดับมหาเศรษฐีของประเทศไทย แต่ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อ กลับใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนความเรียบง่าย ใช้พื้นที่หลังบ้านเลี้ยงไก่ ปลูกผักสวนครัวกินเอง เป็นเกษตรผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล
หันหลังให้วงการเพลง ไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านป่า อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ทำนาปลูกข้าวหอมนิล ข้าวไรช์เบอรี่ ทำสวนมะพร้าว มะม่วง มะกรูด ชีวิตเรียบง่ายแสนสบายยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มานานนับสิบปี ซึ่งเขาเผยว่าเป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุด
อนันต์ บุนนาค
ย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ดูแลสวนกล้วยไม้และศึกษาการเพาะเลี้ยงอย่างจริงจังโดยมีอุดมการณ์ที่จะคืนกล้วยไม้เข้าสู่ป่า เรียกว่ามีชีวิตที่เรียบง่ายอยู่ท่ามกลางป่าเขา แต่ก็ยังสร้างคุณประโยชน์ให้กับธรรมชาติอย่างมากมาย
ทำความรู้จักชุมชนออนใต้ เชียงใหม่ หมู่บ้านตัวอย่างที่ปรับเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อมาใช้ในชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็นหมู่บ้านแห่งความสมดุลกับธรรมชาติ
“ชุมชนออนใต้” คือหนึ่งในชุมชนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยเสด็จมาอยู่หลายต่อหลายครั้ง เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาจากพื้นที่กันดาร ให้กลายเป็นชุมชนที่มีความเจริญและสวยงามดั่งเช่นปัจจุบัน
ที่หมู่บ้านแห่งนี้ชาวบ้านได้นำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานไว้ให้คนไทยทุกคน มาเป็นแนวทางหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน จนกลายเป็น หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) หมู่บ้านแห่งความสมดุล ที่นำทุนเดิมที่มีอยู่ทั้ง วัฒนธรรม วิถีชีวิต ธรรมชาติ มาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ และการออกแบบของคนในชุมชน ออกมาเป็นสินค้า ที่ระลึก และการท่องเที่ยวที่เกื้อกูลกับธรรมชาติ
เมื่อมาถึงชุมชนออนใต้เราได้พบกับ “พี่โย” และ “ลุงอนันต์” ชาวชุมชนออนใต้ โดยทั้งสองคนได้เป็นตัวแทนของชุมชน บอกเล่าถึงเรื่องราวความประทับใจของคนในชุมชนออนใต้ที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้เป็นที่รักยิ่งของชาวชุมชนออนใต้
ลุงอนันต์ได้เล่าให้เราฟังว่า ก่อนที่หมู่บ้านนี้จะมีความเจริญสวยงามได้อย่างทุกวันนี้ พระองค์ได้ทรงเสด็จฯมาที่นี่มากถึง 9 ครั้ง ( 9 ครั้งเป็นการจดบันทึกโดยชาวบ้านเอง แต่หากดูตามบันทึกของวังหลวงจะพบว่า พระองค์ท่านทรงเสด็จมาที่นี่มาถึง 11 ครั้งเลยทีเดียว) ในหลาย ๆ ครั้งพระองค์ท่านทรงรถมาด้วยพระองค์เอง โดยไม่มีข้าราชการ-ทหารติดตามมาแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ล้วนเป็นความประทับใจของชาวชุมชนออนใต้ทุกคน
หนึ่งในเรื่องที่ชาวออนใต้ประทับใจที่สุดก็คือ เรื่องที่ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเสด็จฯมาในตอนกลางคืนโดยที่ไม่มีใครทราบ แต่ในจังหวะที่ท่านกำลังกำลังตรวจงานอ่างเก็บน้ำในพระราชดำริฯด้วยตัวท่านเองอยู่นั้น ก็มีชาวบ้านที่ออกไปหาปลาพบเข้า ถึงได้รู้ว่าพระองค์ท่านทรงเสด็จฯมาทรงงานด้วยตัวท่านเองอยู่บ่อยครั้ง